ปลาแซลมอน เป็นปลาที่เกิดในแม่น้ำและโตในทะเล อเมซิ่งใช่ไหมหล๊าา
เรามาดูประวัติของเมืองคร่าวๆว่าอยู่ที่ไหน อะไรยังไงกันก่อน เมืองมุราคามิ ตั้งอยู่บริเวณเส้นแบ่งเขตจังหวัดยามางาตะ และจังหวัดนีงาตะ มีอาณาเขตเริ่มตั้งแต่ ต้นแม่น้ำมิโอโมเตงาวะบนภูเขานิชิอาซาฮิ ซึ่งตั้งอยู่ระดับสูงกว่าน้ำทะเล 1,800 เมตร โดยจะไปบรรจบกับแม่น้ำอาราคาวะ แม่น้ำโอคาวะ และอีกหลายสาย
เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองที่มีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับปลาแซลมอนสูงมาก ผู้คนในท้องถิ่นจะเรียกปลาแซลมอนว่า อิโยโบยะ เมื่อเริ่มฤดูใบไม้ร่วง ปลาแซลมอนจะว่ายทวนกระแสน้ำของแม่น้ำในเมือง แล้วจะว่ายตามแนวชายฝั่ง ชายทะเลอย่างยากลำบาก เพื่อเดินทางไปยัง ตอนเหนือสุดของชายฝั่งเซนามิ
ปลาแซลมอนซึ่งเกิดในน้ำจืด เป็นของขวัญจากธรรมชาติ และมีคุณค่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้คนจะบริโภค และลิ้มรสทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดหาง ปลาแซลมอนมีวิธีประกอบอาหารถึงกว่า 100 วิธี หากคุณได้ไปเยี่ยมเยือนมุราคามิในฤดูใบไม้ร่วง จะได้เห็นถนนหนทางเปล่งประกายสีเงิน เพราะชาวประมงจะตากปลาแซลมอนกว่าพันตัว บนหลังคาทาวน์เฮาส์ กลายเป็นทิวทัศน์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ไปเยือน สายลมหนาวเย็นของมุราคามิ ช่วยให้ปลาแซลมอนแห้งและอุดมไปด้วยรสชาติ
วิธีเดินทาง:
นั่งรถไฟเป็นเวลา 3 ช.ม. จากโตเกียว โดยนั่งรถด่วนชินคันเซนสาย JR Joetsu จากสถานีนีงาตะ ไปยังสถานีมุราคามิบนเส้น JR Uetsu
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า...
ก่อนอื่นไปแวะมิวเซี่ยมปลาแซลมอนของเมือง และเป็น outlet ขายปลาแห้งด้วย ร้านนี้สร้างเมือง 130 ปีก่อน มีแซลมอลประมาณ 1000 ตัวแขวนห้อยหัวลงมาจากเพดานของร้าน ร้านเปิดให้ลมโกรกตลอด คุณชิจิ คิกกะวะ ขณะนี้เป็นเจ้าของรุ่นที่ 15 ก็ยังเห็นง่วนทำงาน เลือสรรแซลมอนอยู่
ดูหน้าพี่แซลมอนใกล้ๆ
ปลาสดกำลังรอนำไปผ่านกรรมวิธี
เดินชมแซลมอนในร้าน ที่ตากแห้งบนเพดาน
ไปชิมสาเกสดท้องถิ่นที่ไม่มีแอลกอฮล์ เรียกว่า ชิเมะ ฮารุซึรุ
อร่อยดีคล้ายๆข้าวหมากที่ไม่มีเหล้า เสริฟอุ่นๆมาดีจัง
เมืองนี้ยังมีบ้านแบบมาจิยะหรือแบบประมาณทาวน์เฮาส์ ของตั้งแต่ยุคเอโดะยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไปที่นี่ ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ ยาวนานมากจนน่าประหลาดใจ
เริ่มเที่ยงแล้วเราเลยต้องลองชิม "มุราคามิเซลมอน" กันสักหน่อย เพราะถึงขนาดมีบันทึกเล่าว่า แซลมอนจากเมืองมุราคามิ ถูกส่งไปยังพระราชวังต่างๆ ในเกียวโต เป็นของบรรณาการตั้งแต่เมื่อกว่าหนึ่งพันปีก่อน
ไปชมคอร์สอาหาร ทุกสิ่งที่คุณชมต่อไปนี้คือ แซลมอนค่ะ
หนังปลา
ปกติอิฉันเป็นคนไม่กินเครื่องใน ที่เห็นด้านบนทั้งหมด มีทั้งปอด ตับ ม้าม ไต ทั้งใส้ทั้งพุง มีมาหมด แต่อย่าคิดมัน เพราะเรามาลองเปิดประสบการณ์ใหม่ สักครั้งคงไม่ถึงตาย 5555 มีอันนึงถ่ายวีดีโอไว้ มันต้องใช้กับเตาย่างเล็กๆ สยึมกึ๋ยดี แต่ก็อร่อยมากๆค่ะ และที่สำคัญกินกับข้าวนีตากะ ซึ่งเป็นข้าวที่ขึ้นชื่อว่าพันธุ์ดีและอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นแล้วหล่ะก้อ มีเหรอจะไม่ขอข้าวเพิ่ม..🍚🍚🍚
จบรีวิวเมืองนี้แล้ว เราจะไปพบประสบการณ์ใหม่ๆด้วยกันเรื่อยๆนะคะ
"Ploy Journey Journal"