และแล้ว another journey begin again...
ตามแผนเราต้องอยู่ Pokhara อีก 1 คืน แต่ยัยพลอยเปลี่ยนใจ ขอกลับ Katmandu วันนี้เลย
แล้วเจอกันคืนนี้ KTM
แผนที่วางไว้ก็ถูก ruin โดยยัยพลอยอีกเช่นเคย จะกลับไงอะ tourist bus ก็ออกไปหมดแล้ว แต่ละคนบอกไม่มีรถไป ยัยพลอยว่ามันต้องมีสิหน่าาา สรุปเราได้รถตู้ เดินทางกลับ Katmandu โดยสวัสดิภาพ เร็วกว่าBus อีก ออกเดินทางประมาณ 10 โมง มาถึง KTM 6 โมงเย็น เร็วกว่า จริงๆควรมาถึงก่อนนั้น แต่โดนปิดถนนอยู่เป็นชั่วโมง และจอดทานอาหารบ้าง เลยมาถึงช้า กลับไปเช็คอินที่โรงแรม แล้วออกไปเดินเล่น Thamel ทานอาหารเย็น และนอน
วิวระหว่างทางกลับ
วิวที่ร้านอาหารกลางวัน กินไปมองไป
สุขาระหว่างทาง จะประมาณนี้
เมืองทางผ่าน
เมื่อถึงที่ KTM ก็เรียกแทกซี่กลับโรงแรม
ตื่นมากะวันใหม่
ทีนี้ explore เองคนเดียว จะไปเดินเล่นที่ตลาด และ เมืองเก่า ที่อยู่ไม่ไกลจาก Thamal
ขายสี
Need a Ride??
ระหว่างเดินไม่ว่าจุดไหน ทางแยก ในตลาด หรือทางเท้าก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะ
ตัวอย่างบางส่วนนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นพระพิฆเนตร พระศิวะ พระแม่สุรัสวดี และเทพองค์อื่นๆที่พลอยไม่ทราบค่ะ
ชาวบ้านเดินผ่านไปผ่านมาก็แวะสักการะได้เลย มีทั่วๆไป
ร้านทำฟันปลอม
โชห่วย
ย่านนี้ขายเครื่องใช้ไม้สอยทองเหลือง ทองแดง
ย่านขายทอง ที่เรียกว่าย่านเพราะจะมีร้านประเภทเดียวกันอยู่ติดๆกันเป็นพรืด
ย่านขายกำยาน ของสักการะ และชา
วัด
ด้านข้างมีวัด สวยงามดีค่ะ
ที่ด้านใน
เดินเข้าเขต
ท่านวิษณุ
หลังจากแผ่นดินไหวครั้งนั้น ก็เหลือเป็นซากแบบนี้มาโดยตลอด
Monastery นี้ยังสมบูรณ์อยู่ อาจเป็นเพราะอาคารสร้างไม่สูง
และแล้ว Monastery นี้ก็กลายเป็นที่จอดวินสามล้อ เมื่อก่อนตรงนี้สวยยิ่งใหญ่อลังการมากค่ะ
ยังคงมีอาคารหลงเหลือที่ไม่ถล่มอยู่บ้าง สวยงามวิจิตร บนขื่อคานทั้งหลายเป็นงานแกะสลัก กามาสุตรา
ที่ใกล้กันมี รูปปั้นพระแม่กาลี เหยียบพระศิวะอยู่ เป็นปางที่พระแม่อุมาอยู่ในปางพระแม่กาลีเพื่อปราบเหล่าอสูร และท่านดีใจกระทืบเท้า พระศิวะเกรงว่าแผ่นดินจะสูญสลายเพราะการกระทืบเท้าของพระองค์ ท่านจึงเอาตัวมารับเท้าของพระแม่ พอพระแม่ทราบว่ากระทืบโดนพระศิวะ ด้วยความตกใจ พระแม่จึงกลายร่างกลับมาเป็นพระแม่อุมาปกติ
สามารถจุดเทียนถวายท่านได้ค่ะ
ใกล้เวลานัด เดินกลับโรงแรม เดินหลงไปหลงมา ก็กลับมาโรงแรมได้ในที่สุด
นัดเพื่อนไว้จะไปช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้ากัน ชื่อ Bhatbhateni Supermarket ระหว่างทางแวะทานอาหารกลางวัน Indreni Foodland ยัยพลอยชอบร้านนี้มากกกเลย อร่อยดี แต่อย่าสั่ง Bekery นะคะ ทุกที่ทุกร้าน คุณจะพบกับความผิดหวัง
หลังจากอาหารกลางวัน เราไปแวะ Bouddhanath Heritage Area ก่อนแล้วค่อยไปช๊อป
ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกซะด้วย
ที่นี่เป็นแบบเมืองย่อมๆ ด้านใน เสียค่าเข้าเท่าไหร่จำไม่ได้ รูปภาพอธิบายความหมายของแต่ละส่วนของเจดีย์
ดูชัดๆ เทียบกัน กับความหมาย
ล้อมรอบด้วยวัดมากมายประมาณ 30 วัด
วัดนี้ให้ถ่ายภาพด้านในได้
หน้าวัก 1000 Buddha ปิดค่ะ ด้านใน
บรรยากาศโดยรอบ
ส่วนใหญ่ขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวและเครื่องราง
ไม่ได้มีเวลาเดินดูมากขนาดนั้น บางวัดก็ปิด และด้านในส่วนใหญ่ไม่ให้ถ่ายภาพค่ะ
ไปช๊อปปิ้งดีกว่า ... Bhatbhateni Supermarket
ซื้อไรดี จะบอกให้ว่า เครื่องแก้วที่นี่ราคาถูกมว๊าาากกก พวกแก้วคริสตัลจาก เชคโก เยอรมัน ญี่ปุ่น จาน Corel ที่ตกไม่แตกของฝรั่งเศส ที่นี่ถูกอย่างน่าใจหาย แต่ต้องเลือกเข้าชุดเอาเอง แต่ส่วนใหญ่ก็มีครบๆนะคะ เคื่องใช้ในครัวที่เป็นทองแดง มะเช้าเห็นที่ตลาดแต่ขี้เกียจรบกับคนขายเลยมาซื้อที่นี่ เพราะที่นี่ราคา fixed price เพราะเป็นห้างสรรพสินค้า มาเนปาลทุกครั้งต้องมาช๊อปที่นี่ ด้านล่างเป็น supermarket ชั้น 2 เป็นเสื้อผ้า ชั้น 3 เป็นเครื่องใช้ในครัว ชั้น 4 เปป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ช๊อปปสนุก รับบัตรเครดิตอีกต่างหาก แต่ที่นี่ไม่ให้ถุง ถ้าจะเอาถุงเค๊าขายเป็นถุงผ้า ราคา 35Npr สบายใจไทยแลนด์ กลับบ้านนอน
วันใหม่มาถึง....
วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะใช้ชีวิตแบบเต็มๆวันที่นี่
วันนี้เป็นวันเลือกตั้งของประเทศนี้ ทั้งประเทศห้ามใช้รถ ยกเว้นรถของรัฐบาลเท่านั้นที่สามารถออกมาขับบนถนนวันนี้ เราจะสังเกตได้จากป้ายทะเบียนที่เป็นสีแดงเท่านั้นที่อนุญาติให้ใช้ยานพาหนะ วันนี้จึงต้องเดินเท้าไปเที่ยวแทน
ปกติถนนนี้จราจรค่อยข้างคึกคัก เลยขอซะหน่อย ด้านหลังเป็น Palace
เราจะไป เดินระยะทางประมาณ 4 กม. ก็เดินไปบ่นไปตามประสา
ถึงที่หมาย ค่าเข้าเขต 2000Npr ถ้าจำไม่ผิด
ระหว่างทางเดินเข้าก่อนข้ามสะพาน ทางด้านขวามือจะมีที่สักการะเป็นศาลเล็กๆอยู่
มีผู้หญิงกำลังบูชาด้วยไฟอยู่ค่ะ
เดินเข้าไปด้านซ้าย มี Monastery อยู่
หลังจากนั้นเราก็เดินข้ามสะพานมาอีกฟากค่ะ
ที่นี่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำที่จะไหลไปคงคา แต่เอวัง ทำไมน้ำน้องจัง สงสัยมาก แต่คงคาที่อิฉันเห็นน้ำมันเยอะมากมายไหลแรงตลอดปีหนิ ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ไม่ได้ถามไกด์ ที่นี่จะมีแท่นไว้สำหรับเผาศพ ตอนมาถึงมะเช้าก็มีใช้งานอยู่ 1 แท่น แต่ควันใกล้จะดับ เอวาก็เป็นประการฉะนี้ ...ชีวิต
สังเกตุควันยังคลุกกรุ่นอยู่ค่ะ
เดินขึ้นไปด้านบน จะมีห้องน้ำสาธารณะ แต่วันนี้ปิด คืออัลไล
มีโยคีมากมาย ที่น่าถ่ายรูปแต่ยัยพลอยไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะฮีพูดว่า โฟโต้ โฟโต้?? ตลอดเวลา...
อินีรู้แล้ว ขี้เกียจมีเรื่อง ไม่เอาดีกว่า เดินสักพัก ได้ยินเสียงฝรั่งทะเลาะกับโยคีอีกกลุ่ม เพราะเค๊าจะเรียกเงินท่ีถ่ายรูปเค๊า 300 ฝรั่งไม่ให้ แต่ให้ 100 .. ในใจคิดว่าโชคดีที่มะกี๊ไม่ได้ถ่ายภาพ ไม่งั้นคงสภาพเดียวกัน พอมีโยคีมาถามอีก กลุ่มฝรั่งถามคำแรก How much? เหอๆๆ
สถูปศิวลึงค์ทั่วบริเวณ
สถูปด้านนี้จะสร้างเรียงประตูตรงกันเป็นแนว
ที่สถูปมีสัตว์หิมพานต์แกะสลักอยู่โดยรอบ สวยมากค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นวัดฮินดูที่ห้ามนักท่องเที่ยวเข้า
เดินต่อขึ้นไปด้านบน
แค่เห็นตรีศูยร์ เราก็ทราบแค่ว่า something เกี่ยวกับพระศิวะ
ระวังเจ้าลิงจ๋อดูน่ารักนี้นะคะ Aggresive พอสมควรนะคะ
มีคนนั่งดื่มน้ำหวาน ชิลล์อยู่ พี่แกรมาถึงกระโดดขโมยขวดน้ำอัดลมแล้วเทลงพื้นแล้วก็ไปเลยเอาอย่างที่เห็นในภาพ คือ ไม่ควรถือของกินนะคะ อาจโดนโจมตีได้นะคะ
ด้านบนมีกรงมี กวางและละมั่งอยู่ด้วยกัน
แต่เอวาช่างน่าสงสาร คนให้ขนมแล้วทิ้งขยะลงไป สัตว์ก็เลยมีชีวิตอยู่กะกองขยะเช่นนี้
ที่ด้านบนก็มีสถูปเยอะ บ้างพัง บ้างสมบูรณ์
แต่มีหรืออิฉันจะไม่พยายาม อิฉันให้เพื่อนเดินเข้าไปถ่ายรูปมาให้ดู ไปแบบไม่พูดอะไร สรุปปฮีสามารถเข้าไปได้ แต่ฮีบอกว่าด้านในเค๊าห้ามถ่ายภาพ แม้แต่ล้วงกระเป๋าก็ไม่ได้ มีคนเดินมาเตอนเลยว่าห้ามล้วงกระเป๋าเกรงว่าแอบถ่ายภาพอยู่ ... อะไรจะขนาดนั้น
ถ้ามีเอกสารใบฮินดูให้ตรวจคงตรวจอะค่ะ Strict มากๆค่ะ
ที่ประตูทางเข้า
ฮีเล่าว่าด้านใน มีรูปปั้นวัวใหญ่ๆ และมีศิวลึงค์ที่ใหญ่มากๆๆๆ อยู่ มีคนเข้าไปสักการะ ศิวลึงค์ มากมาย .. ได้ความมาเท่านี้
ฮีออกไปถ่ายภาพด้านนอก
ส่วนยัยพลอยนั่งรออยู่ด้านนอก หน้าตาไม่แขกพอ
เดินกลับกัน แวะร้านBekery ที่เก่าแก่ที่สุดในktm ไม่ได้ถ่ายภาพ ลืมมมม .. แต่ขอบอกว่า อย่าไปกินเลย 555 ขนมปังหรือกระดาษแยกไม่ค่อยจะออก แห้งแข็งมาก ไม่มีความอร่อยแม้แต่นิด ขอเล่าไว้อีกเรื่องถึงแม้ว่าคุณเห็นเค๊กที่หน้าตาดูสวย แต่อย่าหลงกลสั่งมานะคะ กินไม่ได้สักร้าน อิฉันทิ้งไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เชื่อเหอะ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน กลับมากินเมืองไทยเหอะค่ะ
เวลาผ่านไป ไวเหมือนก็หก ได้เวลากลับบ้านแล้ว เช้านี้ไป Swyambhunath แล้วกลับมาเอากระเป๋าแล้วไปสนามบิน
ที่ด้านล่าง ตรงทางเข้า ด้านขวามือ
ด้านซ้ายมือเป็นสถูปไม่ใหญ่มาก
เดินขึ้นไปข้างบน จะเจอร้านขายของก่อน
และใกล้ๆร้านขายของด้านมุมในๆ จะมีพระพุทธรูปองค์ยืนที่เก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 7 อยู่
ด้านหน้ามีเทพอยู่ ลิงจ๋อจอมซนไม่เกี่ยว
เดินเข้าไปอีกนิดจะเป็นสถูปใหญ่สีขาว
มีที่สวดมนต์ให้หมุนโดยรอบ
เมื่อเดินวนไปทางขวามือ มีสถูปเล็กๆ ด้านในมีการสักการะบางอย่างและมีพระทำพิธี
ที่ด้านนอกข้างๆ ก็มีทำพิธีอยู่
และอย่าลืมสิ่งที่ต้องระวังเป็นที่สุดคือเจ้าพวกลิงจ๋อที่เยอะมากๆ
วิวเมืองกาทมานดุ จากบนสยุมภูวนาท
ทางเดินขึ้นลงที่นี่
ที่ทางเดินขึ้นของชาวบ้าน ยัยพลอยเห็นตรงขาขึ้นไปมีชาวบ้านเต็มไปหมด ขากลับจึงขอแวะหน่อย
ทางเดินที่ชาวบ้านใช้เดินขึ้นไปสักการะเจดีย์สยุมภูวนาทค่ะ ภาพนี้ระหว่างทางขึ้นเจดีย์ค่ะ
โต๋แต๋ช่วงเช้าเสร็จก็ได้เวลากลับบ้านแล้วจร้าาาา .... ไปสนามบิน
บนเครื่องเห็นเขาเอเวอร์เรสที่ยอดแหลมๆนั่น สวยมากๆ เลยก็ภาพมาด้วย
เครื่องบินบินสักพัก ก็ใกล้ถงเมืองไทยแล้ว มองออกไป เห็น sunset สวยดี
ลาก่อน Nepal...
I gonna miss you.. see you again when my body and soul need you
จบทริปสวยๆ กับอาหารเนปาลเกือบทุกมื้อ... เราก็ผ่านมันมาได้แฮะ
"Ploy Journey Journal"