พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
14 พฤษภาคม 2555

ยิ่งทำ ยิ่งจน

เช้าวันนี้ก่อนวันหยุดยาวสงกรานต์ ขณะที่ผมกำลังยืนรถไฟฟ้าตามปกติ ภาพที่เห็นชินตาอยู่ทุกวัน คือภาพผู้คนจำนวนมากมายที่พร้อมที่จะยัดเยียดเบียดเสียดกันเข้าไปในรถไฟฟ้าที่กำลังที่นำพาพวกเขาไปสู่สถานที่ทำงานต่างๆที่ตั้งอยู่เรียงรายตามสถานีของรถไฟฟ้า หลายคนใส่สูทผูกไทด์ ถือกระเป๋าโน๊ตบุคสุดหรู บางคนก็หิ้วอาหารเช้าพร้อมที่นำไปรับประทาน หรือบางคนก็กำลังแพลนงานของตัวเองผ่านแทปเลต สุดหรู แล้วคำถามคือสิ่งที่พวกเขากำลังดำเนินชีวิตอยู่ในลักษณะนี้ทุกวัน พวกเขาต้องการหลักประกันอะไรในอนาคต หรือพวกเขาต้องการบ้านซักหลังที่จะคอยเป็นที่อยู่อาศัยในบั้นปลาย รถซักคนที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่พวกเขา หรือจะเป็นวัตถุนิยมต่างๆในสังคมที่สามารถตอบสนองความสุขให้แก่เขาได้ ราวกับว่าทุกคนกำลังใช้ชีวิตในแบบเดียวกัน เมื่อเรียนจบมีงานทำทุกคนก็มุ่งที่จะแสวงหา "เงิน" เพื่อมาจุนเจือสิ่งที่พวกเขาต้องการ และดำเนินชีวิตตาม Pathway ข้างต้นเสมอๆ ไม่แปลกที่คนไทยเกือบ 99% ยิ่งทำมากเท่าไหร่ ยิ่งจนลงเท่านั้น เป็นหนี้บัตรเครดิตบ้าง ติดหนี้เงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ซึ่งถ้าเรายังคงยึดถือความคิดจากคนทุกรุ่นที่กำลังเดินทาง Pathway เดิมๆ การเดินทางแสวงหาอิสรภาพทางการเงิน หรือการแสวงหาการหลุดพ้นจริงๆคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่ๆ

หากจะขอเปรียบเทียบวัฏจักรการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ได้กับวัฏจักรของน้ำ เริ่มต้นจากน้ำในแม่น้ำได้รับแสงแดดเพื่อระเหยกลายเป็นไอ รวมเป็นเมฆเพื่อกลั่นตัวออกมาเป็นฝนแล้วตกลงสู้พื้นป่าจากนั้นน้ำก็กลับเข้าสู่แม่น้ำเหมือนเดิม เปรียบได้การดำเนินชีวิตของพวกเราที่ถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เกิดจนโต ถึงการดำเนินชีวิตตั้งแต่การเข้าโรงเรียนที่ดีมีชื่อเสียง ทำไมคนมีฐานะต้องส่งลูกไปเรียนโรงเรียนราคาแพงตั้งแต่เด็ก เพราะเขาเขื่อว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือสิ่งที่แพงที่สุด นั่นก็คือโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุด แต่มันก็ไม่จริงเสมอไปถ้าเด็กคนนั้นไม่เข้าใจลึกซึ้งกับสิ่งที่พ่อแม่ของเขากำลังมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่เขา ถ้าเด็กเลือกทางที่ผิดโดยที่เขาไม่เข้าใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลังจากนั้นเราจะได้รับการบอกเล่าถึงการแข่งขันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดี เราจะได้ถูกบริษัทดีๆเข้ารับทำงาน เพื่อที่สุดท้ายเราก็จะได้ผลตอบแทนดีๆ ที่สามารถจะนำไปซื้อหลักประกันความร่ำรวย เช่น บ้าน รถ  แทปเลต  โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ผ่อนไปอีก 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี มาถึงจุดนี้ผมคิดว่าใครหลายๆคนน่าจะรู้ตัวแล้วว่าทำไมเรายิ่งทำ เรายิ่งจน


หากว่ามนุษย์ยังคงต้องแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า "เงิน" กันทุกวันแล้ว เราปฏิเสธไม่ได้ที่ยังต้องดำเนินชีวิตตาม Pathway นี้ต่อไปตราบชั่วอายุของมนุษย์ที่มี เมื่อเราทุกคนถูกกำหนดการดำเนินชีวิตโดยสังคมส่วนใหญ่ เรื่องเศรษฐกิจ สังคมเมือง ค่านิยม จึงเป็นผลกระทบที่ทำให้ทุกวันนี้เราจะต้องแข่งขันกันเรียน แข่งขันกันรวย แข่งขันกันทำงาน เพื่อแลกมาด้วยสิ่งเหล่านี้  มันคงเป็นไปไม่ได้ที่คนไทย 69 ล้านคนจะรวยพร้อมกันหมด ถ้ารวยพร้อมกันหมด เราใครละที่จะจน เพราะเงินไม่ได้ผลิตเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ทันที เงินแค่หมุนเวียนไปในระบบการใช้ชีวิตประจำวันของเราเท่านั้น ทำไมเศรษฐีในประเทศไทยอย่างคุณธนินท์ (CP)  คุณเจริญ (Thai Bev) คุณตัน (Ichiton) หรือในต่างประเทศอย่าง Warren Buffett ,Steve Job ,Bill Gates จึงมีเศรษฐีเหล่านี้เพียงหยิบมือ เพราะเขาคิดต่าง หรือพวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนกับ Pathway ของพวกเราหรือ  ผมไม่รู้และบอกไม่ได้ แม้จะลองศึกษาประวัติของพวกเขา สุดท้ายก็เข้าใจแค่ภาพรวม และความสำเร็จเพียงเปลือกนอกของพวกเขา สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สามารถเข้าใจให้ลึกซึ้งถึงกระบวนการปรับเปลี่ยนความคิด พวกเขาต้องลองถูกลองผิดมามากน้อยแค่ไหน เพราะคงไม่มีความสำเร็จใดแลกมาด้วยการนั่งอยู่เฉยๆ หรือใช้ชีวิตแค่ทำงานหาเงินและใช้หมดไปวันๆ











การมองและสังเกตให้ลึกซึ้งถึงความต้องการของมนุษย์ ความร่ำรวย อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถก้าวไปสู่เวทีแห่งความสำเร็จ และความสุข รวมทั้งอิสรภาพทางการเงินได้ แต่บางครั้งถ้าความร่ำรวยกำลังเดินสวนทางกับความสุข นั่นอาจจะไม่ใช่ Pathway ที่ดีแน่ Warren Buffett ,Steve Job ,Bill Gates เขาเริ่มต้นทำจากสิ่งที่เขารัก นั่นหมายถึง เมื่อความสุขก่อตัวขึ้นกับสิ่งที่เขาลงทำ ผลพลอยได้จากความสุขคือความสำเร็จ และความร่ำรวย แต่ในชีวิตจริงเราสามารถเป็นประชากรที่น้อยกว่า 1% ที่จะนำความสุขเป็นสารตั้งต้นเพื่อต่อยอดเป็นความร่ำรวย และความสำเร็จเป็นผลพลอยได้ไหม   คำถามนี้คงจะตอบได้ยาก ถ้าเรายังคงใช้ชีวิตเหมือนวัฏจักรของน้ำที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด และยังคงหมุนเวียนอย่างเดิมอยู่ทุกๆวัน  คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าคิดต่างไม่ได้แปลว่าความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แต่เป็นแค่ความคิดที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขา คิดต่างแล้วสำเร็จก็เป็นสิ่งที่ถูก แต่ถ้ามันไม่สำเร็จมันคือบทเรียนและประสบการณ์ งั้นก็ไม่แปลกถ้าคุณยังคิดเหมือนเดิมทุกอย่างผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิมอย่างที่คุณต้องการ มาถึงตรงจุดนี้คุณยังอยากเป็นมนุษย์อีก1% ที่ยิ่งทำ ยิ่งรวยไหม ก็ลองถามตัวเอง




Create Date : 14 พฤษภาคม 2555
Last Update : 14 พฤษภาคม 2555 21:16:41 น. 0 comments
Counter : 2857 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

theexplorerphoto
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add theexplorerphoto's blog to your web]