เอเน็ต ความสะเพร่าของเด็ก หรือ สกอ.
กลายเป็นเหตุการณ์วุ่นวายในสังคมไปแล้วสำหรับปัญหาการสมัครสอบเอเน็ตในเดือนที่ผ่านมา จากประสบการณ์ที่ผมเป็นเด็กแอดมิชชั่นรุ่นที่ 2 ตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บนความสะเพร่าของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งลองมามองฝ่ายเด็กก่อนเด็กที่เต็มไปด้วยความหวังย่อมติดตามข่าวการรับสมัครอยู่เสมอดูว่าเริ่มสมัครวันไหนปิดรับสมัครวันไหนซึ่งก็ประกาศแพร่หลายอยู่แล้วในเว็บไซต์ของสกอ.หรือแม้กระทั่งในสมัครที่ระบุอย่างชัดเจนและก็เป็นที่แน่นอนว่ากลุ่มเพื่อนต้องมีเรื่องนี้อยู่ในวงสนทนา มีการสอบถามกันว่า“เฮ้ยแกไปจ่ายตังค์เอเน็ตรึยังจ่ายได้ถึงวันที่ 14นะ”แต่เพราะเหตุใดเด็กที่สมัครไม่ทันถึงอ้างว่า“หนูไม่ทราบว่าชำระเงินได้ถึงวันไหน ใบสมัครไม่ได้แจ้ง”และยิ่งไปกว่านั้นเพราะเหตุใดจึงต้องชำระเงินวันสุดท้ายซึ่งก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันว่าระบบไม่ทำงานแล้วจึงมาชำระอีกวันต่อมาจึงทำให้หมดสิทธิ์ในการสอบนอกจากนี้ยังมีกรณีที่ว่าบาร์โค้ดในใบสมัครบกพร่อง ทำให้ชำระเงินไม่ได้จึงทำให้หมดสิทธิ์สอบแต่ก็มีเสียงสะท้อนกลับมาว่าชำระไม่ได้ก็สมัครใหม่ได้เพราะระบบไม่ได้จำกัดให้สมัครได้เพียงครั้งเดียงทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่มาจากตัวเด็กนำไปสู่การเรียกร้องสิทธิจากสังคม สำหรับฝ่าย สกอ.นั้นคงเป็นปัญหายืดเยื้อสำหรับระบบนี้ซึ่งมีปัญหาอยู่เพียงจุดเดียว คือ การทำความเข้าใจแก่เด็กให้ตรงกันเป็นไปได้หรือไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากสกอ.ประชาสัมพันธ์ไม่เพียงพอทำให้เด็กเกิดความไม่ชัดเจนในระบบการสมัคร เด็กจึงชำระเงินไม่ทัน อย่างไรก็ตามเสียงสะท้อนจากคนกลุ่มใหญ่กับปัญหานี้คงหนีไม่พ้นที่จะโทษตัวเด็ก ซึ่งจากที่กล่าวไปแล้วมีน้อยมากที่เป็นปัญหาจากระบบการสมัครดังนั้นความพร้อมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เยาวชนควรมีกับการสอบซึ่งจะตัดสินอนาคตของชีวิตมาถึงขนาดนี้แล้วหากยังขาดความใส่ใจแล้วอนาคตที่หวังไว้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น เพราะในความเป็นจริงมีข้อสังเกตหลายข้อจากปัญหานี้ เช่น ทำไมต้องชำระเงินวันสุดท้ายในเว็บไซต์ระบุวันสุดท้ายของการชำระเงินไว้อย่างชัดเจนแล้วเหตุใดถึงอ้างว่าไม่มีการแจ้งหรือบาร์โค้ดบกพร่องแล้วทำไมไม่สมัครใหม่ปัญหาทั้งหมดนี้จึงได้ข้อสรุปว่าสกอ.มีมติช่วยเหลือนักเรียนเพียง 12 คนที่มีปัญหาบาร์โค้ด แต่ที่เหลืออีก544คนที่ฟ้องร้องนั้นมาจากการขาดความเอาใจใส่ของเด็กที่ไม่ชำระเงินตามวันที่กำหนดไว้ ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองของข้าพเจ้าและคนส่วนใหญ่ที่แสดงทัศนะจากสื่อต่างๆและจากการพูดคุยกันจึงสะท้อนให้เห็นถึงความสะเพร่าของเด็กมาเป็นอันดับแรกเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจาก สกอ. โดยตรงนักเรียนที่จะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาควรที่จะใส่ใจถึงอนาคตตัวเองมากกว่า ดังปรัชญาพุทธในเรื่อง อรรถ 3 ที่อธิบายถึงประโยชน์ทั้ง 3 คือประโยชน์ในปัจจุบัน (ทิฏฐธัมมิกัตถะ)ประโยชน์เบื้องหน้า(สัมปรากัตถะ)และประโยชน์สูงสุด (ปรมัตถะ)เราต้องขยัน(อุฏฐานสัมปทา)และเอาใจใส่เพื่อประโยชน์ในปัจจุบันของเรา คือ การใส่ใจถึงผลประโยชน์ของเราที่จะนำไปสู่ความสำเร็จส่งผลให้เกิดประโยชน์เบื้องหน้า คือ ได้ในสิ่งที่เราหวังไว้และมันจะนำไปสู่ประโยชน์สูงสุด คือ การมีอนาคตที่ดีตามที่มุ่งหวัง และที่ขาดไม่ได้ คือ การมีเพื่อนที่ดี (กัลยาณมิตตตา) ที่เคยช่วยเหลือ และชี้เตือนเราอยู่เสมอ
Free TextEditor
Free TextEditor
Create Date : 04 มีนาคม 2552 |
|
18 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2552 13:15:49 น. |
Counter : 376 Pageviews. |
|
|
|
พลังชีวิตรายวัน มะซ้ำมุข อิๆๆๆ
สดใสใหม่ทุกวัน จันทร์ถึง อาทิตย์