สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 ตุลาคม 2551
 

BKK - CHONBURI :: วิหารเซียน

“ชลบุรี” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง “วิหารเซียน” ก็เป็นหนึ่งในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไปชลบุรีทีไรผ่านไปผ่านมาอยู่หลายครั้งแล้วยังไม่เคยมีโอกาสได้แวะเข้าไปชมสักที ครั้งนี้กลับจากเสม็ดมีเวลาเหลือก็เลยได้แวะล่ะ พวกเราใช้ระบบนำทางผ่านดาวเทียมเป็นเข็มทิศพาเราไปวิหารเซียน แต่ด้วยความทันสมัยก็เลยทำให้เราวนเข้าวนออกอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็ต้องเพิ่งระบบคาดเดาแทน จนในที่สุดก็มาถึงวิหารเซียนจนได้



ก่อนอื่นเรามารู้จักประวัติสถานที่แห่งนี้กันก่อนดีกว่า ที่นี่ถูกสร้างขึ้นโดย อาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ โดยได้รับพระราชทานที่ดินจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นจำนวน 8 ไร่ เพื่อใช้ในการก่อสร้าง และได้ทรงพระราชทานนามว่า “อเนกกุศลศาลา” ใช้เป็นที่จัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ โดยทำการตกแต่งด้วยการผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมระหว่างไทยจีน เพื่อจัดแสดงของมีค่าจำนวน 328 ชิ้นที่รัฐบาลจีนได้มอบให้แก่อาจารย์สง่า และศิลปวัตถุ งานศิลปกรรมไทยรวมทั้งหมดกว่าพันชิ้น




Anek Kusala Sala (Viharnra Sien) was originated from the inspiration in the gratitude perception that the Chinese Thai people who live in Thailand should recognize in the royal grace and should be loyal to the country and His Majesty the king.

Mr. Sanga Kulkobkiat, the founder of this pavilion, was granted a royal permission from His Majesty the King Bhumibol Adulyadej to construct this pavilion on the 7 rais of land that His Majesty the King granted to him in 1987. His Majesty the King also graciously named this place “Anek Kusala Sala” which means the multi-purpose pavilion. And the name “Viharnra Sien” means the abode of gods. The exhibitions and decorations in this building are intended to harmoniously mix Thai and Chinese arts and cultures. There are 328 valuable items that the Chinese government gave to Mr.Sanga to display in this pavilion. There are also many Thai fine arts displayed in Thai Art Exhibition Rooms. More than a thousand pieces of valuable items are displayed in this pavilion.



ก่อนที่จะเข้าไปชมวิหารเซียนแห่งนี้ ก็ต้องไปซื้อบัตรผ่านประตูก่อนราคา 50 บาทกันเสียก่อน จากนั้นก็นำไปยืนให้เจ้าหน้าที่ตรงทางเข้า ซึ่งสิ่งที่จะได้พบสิ่งแรกหลังผ่านประตูทางเข้ามาแล้วนั่นก็คือ รูปหล่อโลหะชุดแปดเซียนข้ามทะเล ขนาดใหญ่ซึ่งว่ากันว่าน่าจะเป็นรูปหล่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเลยล่ะ โดยมีความยาวถึง 11 เมตร สูง 4 เมตร จัดทำขึ้นในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยเซียนแปดองค์อยู่บนแพที่ทำขึ้นจากสิ่งวิเศษประจำตัวแต่ละองค์ โดยแปดเซียนกำลังล่องแพข้ามมหาสมุทรเพื่อไปคารวะพระแม่สวรรค์ตก แปดเซียนนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี เป็นศูนย์กลางแห่งตำนานลักธิเต๋า ตามประวัติแปดเซียนนี้ไม่ใช่เทพเจ้า แต่ได้บรรลุภาวะการเป็นอมตะจากการฝึกฝนตามแนวทางของลักธิเต๋า ซึ่งแปดเซียนนี้ถือเป็นตัวอย่างการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อให้บุคคลธรรมดาบรรลุความสำเร็จการเป็นอมตะ




The Statue of The Eight Immortals Crossing the Ocean

There is a huge brass statue of the Eight Immortals Crossing the Ocean which is probably the biggest one in the world. It is 11 meters in length and 4 meter in height. They are the famous immortals in Taoism which most Chinese people worship. This statue is composed of the eight immortals on the raft. They are crossing the ocean to see and worship the Queen Mother of the West. The Eight Immortals are symbols of good luck and important figures within the Taoist mythology of China. They are central of Taoist mythology. They are not gods. They are said to have achieved immortality through the practice of the Tao. There are a lot of legends about their supernatural power.

จากรูปหล่อโลหะชุดแปดเซียนเดินมาทางขวาสุดก็จะพบกับ รูปหล่อพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ จำนวน 4 องค์โดยองค์ใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 3.50 เมตร จัดทำขึ้นในประเทศไทย พระศรีอาริยเมตไตรย มีนามในภาษาจีนว่า “พุไต” ซึ่งมีความหมายว่า ถุงย่าม กิจวัตรของท่านก็คือการท่องเที่ยวไปทั่วโดยมีถุงย่ามขอทานสะพายหลังไปตลอด พูไตบ้างก็รู้จักกันในนามของ “พระถุงย่าม” ว่ากันว่าท่านสามารถพยากรณ์อากาศได้ ชีวิตของท่านเต็มไปด้วยเหตุการณ์มหัศจรรย์ ท่านเดินทางไปทั่วด้วยความชื่นบานและเป็นเพื่อนกับเด็กๆ ทั่วไป เมื่อสิ้นชีวิตลง ท่านได้แสดงอภินิหารย์ให้เห็นว่าท่านเป็นการมาจุติของพระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตว์ คือการเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ชาวจีนมักรู้จักท่านในนาม “พระยิ้ม” เนื่องจากท่านมีลักษณะเป็นพระอ้วนมีรอยยิ้มกว้าง มือหนึ่งจะถือถุงย่าม และอีกมือถือลูกประคำ ผู้คนนิยมสักการะท่านเพื่อขอให้โชคดีและร่ำรวย




The Standing Statues of Maitreya.

These are four brass statues of Maitreya. The height of the highest one, from feet to head, is about 3.50 meters. These statues were sculpted in Thailand. He was a Coming Buddha named Maitreya (Pudai in Chinese). He is said to have earned his name, which means “Hemp Sack”, from his habit of wondering through towns with a beggar’s sack on his back. Pudai also known as the “Hempbag Monk”. He was believed to be able to predict the weather, and his life was filled with miraculous events. He went about the countryside spreading cheer and befriending Children. At his death, he revealed himself to be an incarnation of Maitreya, the future of Buddha. He is also known as “the Laughing Buddha”. In Chinese style, he is depicted with a fat belly and a wide grin. He has a sack in one hand and hold a rosary in another hand. People worship him for good luck and wealthy.








พอพูดถึงความร่ำรวยแล้วพวกเราก็ไม่รอช้า ต่างคนต่างลูบท้ององค์ท่านกันเป็นแถว เผื่อจะโชคดีและร่ำรวยกลับบ้าน นึกถึงตอนไปนมัสการเจ้าแม่กวนอินริมทะเลสาบที่ฮ่องกงเลยล่ะ ผู้คนไม่ว่าชาติไหนต่างก็ยืนต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อลูบองค์พระยิ้มหวังจะได้โชคได้ลาภกลับบ้านล่ะ กลับมาบ้านเรากันต่อดีกว่าจากรูปปั้นพระยิ้มก็เป็นเหล่ารูปปั้นเซียนต่างๆ และนักษัตย์ทั้งหลาย ที่ว่ากันว่ามาที่นี่ห้ามลืมถ่ายรูปกับนักษัตย์ของตัวเองล่ะ ซึ่งพวกเราก็ไม่พลาดเช่นกัน ต่างก็แยกย้ายเก็บรูปกับปีนักษัตย์ของตัวเอง และเมื่อเก็บภาพด้านนอกกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เข้าสู่ด้านในของวิหารเซียน





เหนือประตูทางเข้าด้านในของอาคาร ก็จะเห็นตัวอักษรภาษาจีนของอเนกกุศลศาลา อ่านว่า “ต้าน ฝู เอยี้ยน” มีความหมายว่า สถานที่ที่มีบรรยากาศดั่งสรวงสวรรค์หรือวิหารเซียน เป็นลายมือภู่กันของท่านฝูเจ่ พระอนุชาของจักรพรรดิฟูยี ท่านได้เขียนตัวหนังสือชุดนี้ให้อาจารย์สง่า เมื่อท่านอายุได้ 90 ปี ซึ่งลายมือที่งดงามแบบนี้ใช้เฉพาะในราชสำนักเท่านั้น สองข้างของแผ่นป้ายมีงานปูนปั้นอลังการรูปมังกรห้าเล็บปิดทองลอยตัวเต็มที่สองตัว หันหน้าเข้าหาแผ่นป้าย แต่ละตัวมีความยาม 14 เมตร มีชื่อว่า “มังกรคู่ถวายฑีฆายุกาพร” โดยงานปั้นรูปมังกรทั้งหมดในวิหารเซียนแห่งนี้มี 31ตัว เท่ากับเลขที่ของปีแรกที่เริ่มก่อสร้าง คือปี 2531

The Chinese Handwriting of The younger Brother of The Last Emperor Above the entrance arch of the building, there is the Chinese handwriting of Mr.Fu Je, the younger brother of the Emperor of China, Emperor Fu Ye (Qing dynasty). He specially wrote these letters to Mr.Sanga When he was about 90 years old means the place that has an atmosphere like heaven, or abode of gods. This handwriting style was particular in use by the royal office at that time. Both sides of this handwriting, there are the sculptures of two five-clawed dragons. Each dragon is about 14 meters in length. There are 31 dragons sculptures in this building which represents the first year that Viharnra Sien was initially construted, in 1988.




ตามพวกเราเข้ามาด้านในกันดีกว่า เมื่อผ่านประตูทางเข้ามาแล้วก็จะพบกับรูปหล่อเทพเจ้าในตำนานจีนเป็นจำนวนมาก เดินเวียนทางขวาก็จะพบกับโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นรูปปั้นขุนศึกจีนที่ขุดพบ ณ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ เมืองซีอาน ที่รัฐบาลจีนมอบให้






จากนั้นเดินต่อไปก็จะพบกับกำแพงเมืองจีนหรือกำแพงหมื่นลี้ นับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก่อสร้างในช่วงศตวรรษที่ 5-6 ซึ่งในขณะนั้นจีนได้ถูกแบ่งการปกครองออกเป็นหลายอาณาจักรและมีการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความยิ่งใหญ่ โดยอาณาเขตของฉิน จ้าวและย่านได้เริ่มก่อสร้างกำแพงเพื่อป้องกันศัตรูขึ้นเป็นครั้งแรก ต่อมาจักรพรรดิจินซีได้เชื่อมต่อกำแพงที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเข้าด้วยกัน โดยมีความยาวทั้งสิ้น 6,700 กิโลเมตรจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก ปัจจุบันคงเหลือเพียง 2,950 กิโลเมตรจากฝั่งทะเลตะวันออกของจีนไปยังทะเลทรายโกบี



พวกเราเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับปฏิมากรรมภาพวาดของจีนมากมายซึ่งต้องบอกว่างดงามยิ่งนัก จากนั้นเราก็ได้เดินไปชมชุดเก้าอี้ประทับแกะสลักศิลปะจีนสำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทำขึ้นในสมัยราชวงค์เช็ง อายุราว 100 ปี โดยใช้เวลาแกะสลักถึง 7 ปีเลยทีเดียว โดยใช้ไม้ที่มีลายไม้ที่งดงามในตัวเองและเป็นไม้ที่หาได้ยากและที่มีราคาสูงที่ปัจจุบันจีนได้อนุรักษ์ไว้ แต่ที่น่าแปลกคือโดยปกติจะเป็นการแกะสลักลวดลายเป็นมังกร หรือสิงห์ แต่งานชุดนี้มีรูปช้างเป็นองค์ประกอบหลักของชุดเก้าอี ซึ่งเหมาะสมกับราชวงศ์ไทย




พอเดินออกมานอกห้องจัดแสดงก็จะพบกับจานหินฝนหมึกจีนขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักถึง 250 กิโลกรัม แกะสลักลวดลายเป็นรูปมังกร 5 เล็บ 9 ตัวแหวกว่ายไปมาในกลุ่มเมฆ ทำจากหินพิเศษซึ่งดีที่สุดในการทำหินฝนหมึกจีน มีคุณสมบัติพิเศษคือ ในหน้าร้อนน้ำหมึกจะไม่ระเหยและหน้าหนาวน้ำหมึกในจานหินนี้ก็ไม่แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง หินชนิดนี้ขุดพบได้เฉพาะที่ภูเขาในเมืองตวนโจว มณฑลกวางตุ้ง


เดินต่อไปอีกเราก็จะพบกับรูปจำหลักหินหยกขาวบริสุทธิ์เจ้าแม่กวนอิมซึ่งมีความสูง 80 เซนติเมตร แกะสลักจากหินหยกขาวที่ไม่มีตำหนิเป็นโบราณวัตถุของจีนที่ลูกศิษย์อาจารย์สง่าที่ประเทศจีนได้มอบให้อาจารย์สง่า และก็จะพบกับรูปหล่อโลหะเจ้าแม่กวนอิมที่งดงามอีกหลายปางจากประเทศจีนโดยมีความสูงที่สุดประทับยืนสูงถึง 3.2 เมตรเป็นศิลปะในราชวงศ์ถัง



The white jade sculpture and many sculptures of GUAN YIN

Guan Yin is about 80 centimeters height. It is an old one that Mr.Sanga Kulkobkiat's disciple in China gave to Mr.Songa. Guan Yin is the Goddess of Mercy in Buddhism. She is a very popular goddess that her image is often found in the temples and people's homes. She is believed to be capable of curing almost every sickness

สำหรับชั้นที่ 1 พวกเราใช้เวลาเดินเกือบหนึ่งชั่วโมงแบบว่าเดินไปอ่านไปเรื่อยๆ ต้องบอกก่อนว่าหากใครจะมาที่นี้เผื่อเวลาไว้สักครึ่งวันก็น่าจะเดินได้ทั่วพอดีล่ะ เพราะแต่ละห้องที่จัดแสดงล้วนแล้วแต่มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจล่ะ




จากชั้นหนึ่งเราขึ้นบันไดเพื่อมายังชั้นที่สอง ต้องบอกว่าขนาดกำแพงผนังยังงดงามตระการตาเสียขนาดนี้ สำหรับใครที่ชอบงานวิจิตรศิลป์แบบจีน มาที่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ



สำหรับชั้นสองสิ่งที่ดูเหมือนจะได้รับความสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนก็คงเป็นรูปปั้นเหล่าเทพต่างๆ ของชาวจีน และรูปปั้นกังฟูขนาดเท่าคนจริงๆ






จากรูปปั้น ณ ลานกลางแจ้งของวิหารเซียน ทางด้านขวาของวิหารจะเป็นห้องจัดแสดงศิลปกรรมไทย ซึ่งจัดแสดงบ้านจำลองแบบไทยๆ เรือสุพรรณหงห์ ภาพวาดศิลปกรรมอันวิจิตร และด้านในของห้องจัดแสดงมีรูปพระพุทธรูปปางต่างๆ จัดแสดง






และทางด้านซ้ายของวิหารเซียนก็เป็นห้องจัดแสดงศิลปกรรมไทย ภายในจัดแสดงหุ่นละครในแบบต่างๆ และรูปของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลต่างๆ เดินตรงไปเรื่อยๆ จนมาถึงห้องจัดแสดงห้องสุดท้ายก็จะพบกับงานแกะสลักไม้ที่ดูงดงามเป็นยิ่งนัก เรื่องงานแกะสลักต้องบอกว่าช่างฝีมือไทยไม่ได้เป็นรองใครเลยล่ะ





เมื่อออกจากห้องจัดแสดงพวกเราก็เดินเล่นถ่ายรูปบริเวณรอบๆ ซึ่งออกมาก็จะพบตากล้องจำนวนมากที่ต่างคนต่างเก็บภาพความวิจิตรและงดงามของวิหารแห่งนี้ผ่านเลนส์กล้องในมุมต่างๆ






ก็นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ๆ อยู่ด้วย เพราะฉะนั้นไทยเที่ยวไปไทย ลองไปกันดูนะคะ อีกอย่างห่างจากกรุงเทพฯ ไม่เท่าไหร่ด้วยล่ะ ..

Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2551
3 comments
Last Update : 17 สิงหาคม 2556 21:27:40 น.
Counter : 3155 Pageviews.

 
 
 
 
นำเที่ยวแบบที่เราอยากไปเยือนเลยล่ะคะ เสียดายโอกาสเลย
เราไปชลบุรีค่อนข้างบ่อยเมื่อปีก่อน แต่ว่าก็ไม่ได้เข้าไป
เยือนที่นี่เลยอ่ะค่ะ .. น่าไปมาก หนหน้าต้องตามรอย
ไปเที่ยวด้วยคนแล้วล่ะคะ สวยมาก
 
 

โดย: JewNid วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:9:39:17 น.  

 
 
 
น่าสนใจจริงๆเลยค่ะ
 
 

โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:13:14:48 น.  

 
 
 
น่าสนใจ อยากไปอ่ะ สิ้นเดือน มิถุนายนจะไป5555
 
 

โดย: หนุงหนิง IP: 110.77.150.12 วันที่: 23 พฤษภาคม 2555 เวลา:7:17:30 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com