Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
6 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
ลิปสติก คือ ?

ลิปสติก คือ เครื่องสำอางที่ใช้แต่งริมฝีปาก มักเป็นสีแดงหรือสีชมพู ทำให้ริมฝีปากสวยงาม และปกปิดความบกพร่องของริมฝีปาก
ลิปสติกเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทหนึ่ง ที่มีการใช้อย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะทาริมฝีปาก เพื่อช่วยให้ชุ่มชื้นไม่แห้ง ช่วยปกป้องผิวของริมฝีปากจากสิ่งกระทบภายนอก ช่วยแต่งเติมรูปปากให้สวยงามขึ้น แต่งสีให้เด่นสะดุดตาแลดูงดงาม ดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็น เป็นต้น แต่เนื่องจากลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่มักจะมีการกลืนกินเข้าไปในร่างกายได้ ดังนั้น จึงต้องเลือกซื้อและใช้ลิปสติกด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้าลิปสติกที่เลือกซื้อและใช้ไม่ได้มาตรฐานก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยส่วนประกอบต่างๆของลิปสติก จะมีสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวริมฝีปาก และช่วยให้ลิปสติกนั้นคงรูปอยู่ได้ สีที่ใช้ต้องเป็นสีที่กระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้ในลิปสติก ส่วนประกอบเสริมจะมีสารที่ทำให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ดีขึ้น หรือมีความคงตัวดีขึ้น เช่น น้ำหอม สารแต่งกลิ่นแต่งรส วัตถุที่ใช้กันเสียและสารป้องกันแสงแดด เป็นต้น


รูจ คือ ศัพท์ภาษาฝรั่งเศส
เป็นคำทับศัพท์คำภาษาฝรั่งเศสว่า rouge ออกเสียงว่า รู้จ แปลว่า สีแดง เป็นคำเรียกเครื่องสำอางที่ใช้แต่งแต้มริมฝีปากและแก้มให้มีสีงดงาม ในภาษาไทยใช้กริยาว่า ทารูจ ปัจจุบันใช้คำเรียกที่ต่างกันไป คือ รูจ ใช้เรียกเฉพาะสีที่ทาที่แก้มเท่านั้น แต่จะทาสีแดง สีชมพู สีส้ม หรือแม้สีเนื้อ สีน้ำตาลอ่อน ก็เรียกว่า ทารูจ ส่วนเครื่องสำอางที่ใช้ทาที่ริมฝีปาก ใช้คำภาษาอังกฤษว่า ลิปสติก lipstick ออกเสียงในภาษาไทยว่า ลิบ – สะ – ติก ปัจจุบันไทยเราสามารถผลิตเครื่องสำอางได้คุณภาพดีไม่แพ้ของต่างประเทศ ผู้หญิงไทยก็นิยมใช้เครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศ แต่ยังคงใช้คำภาษาฝรั่งเศสและคำภาษาอังกฤษเรียก รูจ และ ลิปสติก อยู่


ลิปสติกในอดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงความแตกต่าง ลิปสติกในยุคปัจจุบัน มีเนื้อเรียบเนียนลื่นขึ้นกว่ายุคก่อน ซึ่งนิยมใช้ส่วนผสมหรือน้ำมันจากสัตว์(แทนที่จะใช้น้ำมันสังเคราะห์) รวมทั้งสูตรที่ทำให้ลิปสติกติดทนนานแต่ไม่คงความชุ่มชื้น ลิปสติกรุ่นเก่าจึงขาดความนุ่มเนียนในการทา และต้องอาศัยแปรงทาปากเป็นตัวช่วย แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีและเนื้อสัมผัสแบบใหม่ทำให้ทาง่าย ให้ความรู้สึกบางเบาบนริมฝีปากและมักให้คุณค่าการบำรุง ใช้ง่ายทาสะดวกขนาดนี้แล้ว เราควรเลิกใช้แปรงทาปากและหันมาทาลิปสติกจากแท่งไปเลยดีไหม คำตอบ คือ “ ได้ เพราะว่าปัจจุบันลิปสติกมีสูตรที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก รวมทั้งการลงสีก็ง่ายกว่าแต่ก่อน และส่วนผสมที่เป็นแว็กซ์ในลิปสติกก็ถูกออกแบบมาให้ละลายเมื่อสัมผัสริมฝีปาก ลิปสติกจึงเกลี่ยได้ง่ายขึ้นและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งทำให้ริมฝีปากดูฉ่ำอย่างเป็นธรรมชาติ ”



ประเภทของลิปสติก

1. ลิปสติกแต่งสีริมฝีปาก แบ่งเป็น ลิปสติกชนิดสีติดทน ลิปสติกโปร่งใส ลิปสติกเหลว และลิปสติกครีม

2. ลิปกลอส (lip gloss) เป็นลิปสติกไม่มีสี หรือสีอ่อนมาก ใช้ป้องกันริมฝีปากแห้งแตก เพื่อให้เกิดความมัน นุ่มเนียน


ลักษณะลิปสติกที่ดี

1. ควรมีเนื้อเรียบ นุ่มนวล มีความชุ่มชื้น และความมันพอเหมาะ ไม่มีเหงื่อแตกร่วน หรือแข็งเป็นก้อน คงสภาพทั้งเมื่อเก็บไว้และขณะใช้ ทนต่อสภาวะต่างๆ ได้ดี

2. หลอมละลายได้ทันทีเมื่อสัมผัสกับริมฝีปาก

3. ไม่มีอันตรายต่อผิวหนังให้สีติดทน แต่สามารถล้างออกได้ง่ายเมื่อต้องการ กลิ่นดี

ลิปสติกให้ความแวววาวบนริมฝีปาก (Shine-on Lipstick)

พบว่ามีการใช้สาร PPG-3 benzyl ether mysistate กับส่วนผสมสารอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น (emollients) เป็น silicone ซึ่งเป็นโครงสร้างเหมือน ester และมีคุณสมบัติให้ความมันเป็นประกายแวววาวมีการใช้ร่วมกับ Castor oil, Di-PPG-3 myristyl ether adipate และ wax หลายๆ ชนิด สีที่นิยมใช้ได้แก่ D&C Red 7 Ca Lake, D&C Red 6 Ba Lake, Cosmetic Russet Iron Oxide, Titanium Dioxide, FD&C Yellow 5 Lake, Mica, Iron Oxides และ antioxidant ที่ใช้คือ Ascorbyl Palmitate

การระคายเคืองและการแพ้ลิปสติก

การแพ้เครื่องสำอางนั้นส่วนใหญ่เป็นไปเฉพาะแต่ละบุคคล ฉะนั้นบางคนอาจแพ้ แต่บางคนไม่แพ้ สำหรับลิปสติกพบว่ามี 1 ใน 5 ล้านคน ที่มีอาการแพ้ลิปสติกโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการใช้ลิปสติกทาบนริมฝีปากซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อน วันละหลายครั้ง และสัมผัสริมฝีปากเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่ายกว่าผิวหนังบริเวณอื่น

สาเหตุของการแพ้ลิปสติกอาจมาจากสิ่งต่อไปนี้


1. น้ำหอมในลิปสติก อาจมีสารบางชนิดกระตุ้นให้เกิดการแพ้

2. สีในลิปสติกอาจมีสารปนเปื้อน ทำให้แพ้ได้ และสีบางชนิดทำให้ริมฝีปากไวต่อแสงแดด

3. ลิปสติกที่มีไขมันและน้ำมันน้อย อาจทำให้ริมฝีปากแห้งแตกทำให้แพ้ง่าย

4. สารตัวเติมอื่นๆ บางตัวมีฤทธิ์เป็นตัวเร่งการแพ้

พอสรุปได้ว่าการแพ้ลิปสติกนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากสารปนเปื้อนในน้ำหอมและสี แต่แนวโน้มการแพ้ลิปสติกได้ลดลงมาเป็นลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ผลิตใช้วัตถุดิบที่บริสุทธิ์ขึ้น มีสารปนเปื้อนน้อยในการผลิตลิปสติก นอกจากนี้การทาลิปสติกโดยใช้นิ้วมือ อาจทำให้เกิดติดเชื้อที่ริมฝีปากได้

อาการแพ้เนื่องจากลิปสติก


ผู้ใช้ลิปสติก ที่มีอาการแพ้ลิปสติก จะมีอาการแตกต่างกันแล้วแต่ว่าผู้นั้นแพ้มากหรือแพ้น้อย หากแพ้น้อยอาจจะมีอาการเพียงริมฝีปากแห้งคัน แต่หากแพ้มากอาจเกิดอาการริมฝีปากอักเสบ บวมหรือหายใจไม่ออก เมื่อมีอาการแพ้ต้องหยุดใช้ลิปสติกแท่งนั้นทันที แล้วเปลี่ยนไปใช้ลิปสติกชนิดอื่นแทน เช่น ใช้ลิปสติกชนิดที่ไม่มีน้ำหอม

เอกสารอ้างอิง

1. อรัญญา มโนสร้อย. เครื่องสำอางใช้แต่งปาก, เครื่องสำอาง เล่มที่ 2. 2529, หน้า 177-220

2. Balsam, M.S., and Sagarin E. Cosmetics Science and Technology vol. 1 2nd Ed., John Wiley & Sons, Inc. 1977 , 365-421.

3. Maison G. de NAVERRE. The Chemistry and Manufacture of Cosmetics vol. 4. 2nd Ed., The cosmetic, Toiletry and Fragance Assn., Inc. 1977 , 767-837.

4. Wilkinson, J.B., and Moore R.J. Harry's Cosmeticolgy. 7th Ed., Chemical Publishing Company. Inc. New York 1982 , 314-333.

5. ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 4 (2519) , 6, 8 (2520)

6. Code of Federal Regulations 1988, title 21 , part 70-82.

7. 86/179/EEC The Council Directive of The Council of The European Communities 1986.

8. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง : ลิปสติก, มอก. 234-2520

9. //www.cosmeticsandtoiletries.com/formulas/942476.htm/






Create Date : 06 กันยายน 2550
Last Update : 6 กันยายน 2550 20:42:43 น. 1 comments
Counter : 1193 Pageviews.

 
ได้ความรู้กลับออกไปด้วย ขอบคุณนะคะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:10:35:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

umasa_ib
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Friends' blogs
[Add umasa_ib's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.