ประวัติซะนิดน่ะครับพระครูบาทิพย์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลว เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2453
ความเล่าว่าท่านเห็นนิมิตในคืนหนึ่ง เป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสว่างไสวระยิบระยับสีเขียวบนดอยที่ตั้งขององค์พระธาตุ สักครู่ก็หายไปในพริบตา
เช้าวันรุ่งขึ้นพระครูบาทิพย์จึงชวนสามเณรขึ้นไปสำรวจตรวจตราดูบนดอยแห่งนี้
เห็นว่าเป็นสถานที่ที่สมแก่การสร้างพระธาตุเจดีย์เป็นอย่างยิ่ง
เพราะว่าดอยแห่งนี้มีคูล้อมรอบ โดยการขุดของคนโบราณ
ซึ่งไม่ติดกับดอยลูกใดเลยในบริเวณใกล้เคียงกัน จึงชักชวนญาติโยมสาธุชนทั้งหลายร่วมกันก่อสร้างเจดีย์
จากนั้นไปไหว้พระต่อที่วัดพระธาตุจอมกิตติกัน
ไปไหว้กันต่อกับพระธาตุอีกจอมครับ ประวัติซะนิดหนึ่งนะครับ
สมัยก่อนเล่าว่าพระเจ้าพังคราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง เมื่อ พ.ศ. 1483 สมัยเดียวกับการสร้างพระธาตุจอมทอง
เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้สิบสองสมัยเชียงแสน ต่อมาในปี พ.ศ. 2030
หมื่นเชียงสงเสนาบดีสมัยก่อนได้ก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่อยู่อีกองค์หนึ่ง คือ พระธาตุจอมแจ้ง
ทางขึ้นวัดมีบันไดนาค 339 ขั้น เป็นทางเดินขึ้นไปนมัสการหรือจะนำรถขึ้นไปจอดบนพระธาตุได้
สิ่งสำคัญภายในวัด ได้แก่ พระเจดีย์ทรงปราสาทยอดทรงระฆัง หลังคารูปบัวคว่ำ
พระเจ้าพังคราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1483 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ต่อมาเจ้าสุวรรณ คำล้าน เจ้าเมืองเชียงแสน ได้สร้างครอบเจดีย์องค์เดิมไว้ เมื่อปี พ.ศ.2030
มีการก่อสร้างตามรูปแบบสถาปัตยกรรมองค์เจดีย์ในปัจจุบัน
พระธาตุจอมกิตติเป็น1 ใน พระธาตุ 9 จอม พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.เชียงราย
ที่ตั้ง วัดพระธาตุจอมกิตติ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
เดินวนชมและกราบไหว้จนทั่ววัดเลยทีเดียวครับ
มีจุดชมวิวด้วยแวะชขมวิวและไปกันต่อครับที่วัด วัดพระธาตุดอยปูเข้า ที่ติดกับแม่น้ำโขงกันน่ะครับ
ไปชมวิวแม่น้ำโขงและเวียงเชียงแสนกันครับ
ก่อนอื่นมาทราบประวัติซะนิดซะหน่อยน่ะครับ
วัดนี้เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดดอยเดินขึ้นไปหน่อยพอสมควรครับ
ผมเห็นมีแต่ฝรั่งเดินขึ้นไปกันคนไทยแทบจะไม่เห็นเลย
วัดพระธาตุดอยปูเข้า หรือวัดพระธาตุภูเข้า บ้านสบรวก หมู่ที่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
(ตามเส้นทางเชียงแสน - สบรวก แยกซ้ายก่อนถึงสามเหลี่ยมทองคำเล็กน้อย )
สร้างขึ้นบนดอยเชียงเมี่ยง ริมปากน้ำรวก เมื่อ พ.ศ. 1302 ในสมัยพระยาลาวเก้าแก้วมาเมือง
กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งเวียงหิรัญนครเงินยาง
โบราณสถานประกอบด้วยพระวิหาร และกลุ่มเจดีย์ที่พังทลาย ก่อด้วยอิฐมีร่องรอยการตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น
นอกจากนี้บนดอยเชียงเมี่ยงยังเป็นจุดชมวิว สามารถมองเห็นสามเหลี่ยมทองคำได้ชัดเจน
การเดินทางขึ้นไปชม วัดดอยปูเข้าอยู่เยื้องกับพระพุทธนวล้านตื้อ ซึ่งเมื่อท่านเดินทางจากตัวอำเชียงแสน
สามารถแวะขึ้นไปชมวิวแม่น้ำโขง สามเหลี่ยมทอง ได้ตรงจุดนี้
เหนื่อยอยู่เหมือนกันน่ะครับเดินขึ้นไป หอบเลยครับ
ไหว้พระกันก่อนน่ะครับก่อนไปชมวิว
จากนั้นเดินดูสถาปัตยกรรมต่างๆของวัดแห่งนี้
มีเจดีย์เก่าแก่ให้ชมและอ่านประวัติของเจดีย์ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
จากนั้นเดินไปไหว้พระกันและที่สำคัญมาชมวิวกัน
เเช๊ะๆๆๆกับป้ายว่ามาถึงแล้วสามเหลี่ยมทองคำ
วิวที่มองจากตัววัด
เชียงแสนดินแดนแห่งสามประเทศ
จากนั้นไปชมพิพิธภัณฑ์บ้านฝิ่นกันนะครับใกล้ๆกับวัดนั่นเอง
ราคาค่าชมคนไทยกะฝรั่งคนละราคาน่ะครับเขาลดให้คนไทยจ้า
ข้อควรรู้ก่อนเข้าชมน่ะครับพิพิธภัณฑ์บ้านฝิ่น (House of Opium Museum) บ้านฝิ่นเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนเล็ก ๆ
แต่วัตถุสิ่งของที่จัดแสดงนั้นน่าสนใจมาก
เป็นสถานที่จัดแสดงเครื่องมือและเครื่องใช้ในการสูบฝิ่นของผู้คนในอดีต มีทั้งประวัติของสามเหลี่ยมทองคำ
แต่วัตถุสิ่งของที่จัดแสดงนั้นน่าสนใจมาก เป็นสถานที่จัดแสดงเครื่องมือและเครื่องใช้ในการสูบฝิ่นของผู้คนในอดีต มีทั้งประวัติของสามเหลี่ยมทองคำ สถานที่ ปลูกฝิ่นการปลูกและสูบฝิ่น
ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้สูบฝิ่นแสดงให้ชม
ส่วนชั้นล่างของบ้านฝิ่นเป็นสถานที่ขายของที่ระลึก ประวัติซะนิดซะหน่อยน่ะครับผู้ก่อตั้งคือคุณพัชรี ศรีมัธยกุล
ซึ่งเป็นคนเชียงแสนโดยกำเนิด จบการศึกษาจากคณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชีวิตเกี่ยวเนื่องกับสามเหลี่ยมทองคำ เริ่มต้นจากการเปิดร้านค้าขายของที่ระลึกและของเก่า ตำแหน่งของร้านอยู่ต่ำลงมาจากที่ตั้งบ้านฝิ่นในปัจจุบัน
ในช่วงปี 2533 คุณพัชรีเริ่มที่จะตระหนักว่า ของเก่าที่ขายอยู่ในร้านจะหมดไป จึงเริ่มความคิดที่จะทำพิพิธภัณฑ์
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ของเก่าที่ตนขาย โดย คุณรงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนและศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ตั้งชื่อของพิพิธภัณฑ์ให้
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 20 บาท ถูกมากๆครับ
ไปไหว้พระที่ด้านล่างต่อจ้า
พระเจ้าล้านตื้อ (พระเจ้าทองทิพย์) เป็นพระองค์ใหญ่ติดกับลำน้ำโขง
เป็นแลนด์มาร์คของสามเหลี่ยมทองคำเลยก็ว่าได้
สวยงามมากๆในยามเย็น
กราบพระท่านเรียบร้อยแล้วต้องรีบเข้าตัวเมืองเชียงรายแล้วน่ะจะกลับกทม แล้วหล่ะ
แต่ก่อนกลับแวะวัดกลางเวียงที่ตัวเมืองเชียงรายก่อน
ปะวัติสักกะนิดวัดกลางเวียง คือวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเวียงเชียงราย มีเสาหลักเมืองเชียงรายตั้งอยู่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1975
เดิมชาวบ้าน เรียกว่า วัดจั๋นตะโลก หรือ วัดจันทน์โลก
เพราะในวัดเคยมีต้นจันทน์แดงขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ ถือเป็นไม้มงคลใช้บูชาพระตามธรรมเนียมโบราณ จนกระทั่งเมื่อมีการรังวัดเมืองเชียงรายใหม่
พบว่าวัดแห่งนี้อยู่ใจกลางเมืองพอดี จึงได้สถาปนาสะดือเวียง หรือ เสาหลักเมืองขึ้น
นักท่องเที่ยวต่างมากราบไหว้พระวัดนี้มีบ้าง
วัดนี้มีเสาหลักเมืองเชียงรายตั้งอยู่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1975 เดิมชาวบ้าน เรียกว่า วัดจั๋น
มีสวนเล็กๆให้ชม
ชมวิถีชีวิตของชาวล้านนาในอดีตกัน
การเลี้ยงควายและความผูกพันธ์กับควาย
ชมสวนซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งของวัด เข้าชมได้ตลอดจัดสวนได้สวย
ต้องขอขอบคุณทุกข้อมูลจาก https://www.chiangraifocus.com/เที่ยวเชียงราย นะครับนำมาจากเวบนี้จ้า