|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
แอ่วเหนือดูคอนออกัส (1)
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเท่าไรเพราะมัวเล่นนั่นเล่นนี่ไปทั่วจนลืมไปแล้วว่าตัวเองมีบล็อกกับเขาด้วยเหมือนกัน ^^'' มาครั้งนี้ก็เลยต้องควานหาไม้ปัดฝุ่นกวาดควานฝุ่นผงและหยากไย่ทั้งหลายออกจากบล็อกเสียก่อนที่จะเริ่มบรรเลงบันทึกเรื่องราวความเป็นไปในชีวิตกันต่อไป
ณ คืนวันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2551 เรานัดเพื่อนพี่น้องกลุ่มหนึ่งเอาไว้ ณ เซ็นทรัลลาดพร้าวเพื่อจับกลุ่มออกเดินทางไปตามหาพี่แตงที่ขุนยวม เย้ย! ไม่ใช่รักแห่งสยาม ฮ่าๆๆ เปล่าหรอก พวกเราจะดูคอนเสิร์ตวงออกัสและไปแอ่วเมืองแห่งการท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดอีกเมืองหนึ่งของแดนสยามประเทศ "เชียงใหม่" นั่นเอง การเดินทางของพวกเราทั้งหมดสิริรวมก็ 3วัน 2 คืนพอดิบพอดี(ไม่นับวันเดินทางไปนะจ๊ะ) ซึ่งหลังจากกลับมาแล้วเราได้พบว่าการเดินทางครั้งนี้มันมีค่ามากมายและเป็นเรื่องที่น่าจดจำอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตกันเลยจริงๆ ^^ สิ่งที่ทำให้ช่วงเวลาทั้งหมดนั้นมีค่าหาได้ใช่คอนเสิร์ตของวงออกัสไม่ แต่มันคือมิตรภาพ ความประทับใจ ความวุ่นวาย และรอยยิ้มเสียงหัวเราะของเหล่าผู้ร่วมเดินทางไปด้วยกันกับเราต่างหาก....
วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2551 เรานั่งไม่ติดอยู่ไม่สุขกับโต๊ะที่ทำงาน หรืออาจเรียกได้ว่าไร้สติในการทำงานเลยก็ว่าได้ 4 โมงเย็นปั๊บก็ดิ่งออกจากโรงเรียนปุ๊บ แบกเป้สะพายกระเป๋าที่พะลุงพะลังออกจากที่พักด้วยความร้อนรน แต่ยังไม่ทันได้ย่างก้าวออกจากบ้านความกาลีส่วนตัวก็บังเกิดเสียแล้ว อันเนื่องด้วยรองเท้าแตะคู่ใหม่ของเราที่เพิ่งซื้อมาจากตลาดนัดแถวบ้านกับเพื่อนอ้อ มันแปลงกายเป็นรองเท้าคู่ขนานที่มีข้างขวาเหมือนกันสองข้างแทนที่จะเป็นคู่หูคู่ฮาซ้าย-ขวา เราแอบกรีดร้องอยู่คนเดียวด้วยความหงุดหงิดจากอากาศร้อนและจากเหตุการณ์ที่บังเกิดขึ้นกับตนพร้อมเดินเส้นเลือดข้างขมับเตนเดือดปุดๆ ออกจากบ้านไป
เวลา 4 ทุ่ม ณ สถานีขนส่งของรถบัสบริษัทนครชัยแอร์ เรามีผู้ร่วมชะตากรรมอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 6 ชีวิตคือ เรา อ้อ น้องที น้องนัท น้องเจต และพี่ต๊อบ ที่ซึ่ง...กำลังเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ในสถานีด้วยเพราะบัตรคอนเสิร์ต และบัตรรถโดยสารมันอยู่ที่ได้เก๋ samdean ผู้ซึ่งชิวสุดแรงเกิดมาก รถออก 4 ทุ่ม 4 ทุ่มมันยังอยู่บนรถแท๊กซี่อยู่เลย เราเห็นสีหน้าของอ้อแล้วก็อดนึกในใจไม่ได้ว่า นี่ถ้าหากไอ้เก๋มันมาไม่ทันแล้วทำให้ทุกคนตกรถล่ะก็มีหวัง...มันได้เป็น supernatural ให้แซมดีนมาอันเชิญกลับขุมนรกแหงมๆ ^^'' แต่แล้วมันคงกลัวแรงอธิษฐานเหล่านั้นก็เลยมาถึงได้ทันเวลาแบบเจียรตายจริงๆ (ฟู่....) ขึ้นรถมาได้ขอบอกว่าเบาะที่นั่งหรูอลังอย่างเหลือล้นมันมีระบบนวดหลังที่โคตรสบายจริงๆ สมแล้วที่ในเน็ตจะเอ่ยปากชมกันเปราะเสียขนาดนั้น แถมของกินที่ให้มาในรถก็ดูจะแจกแหลกแจกไม่หยุดแจกกันลืมตายมาก อันประกอบไปด้วย น้ำผลไม้ดอยคำ น้ำดื่มหนึ่งขวดมาตรฐาน มันฝรั่งทอดกรอบเลย์ถุงเล็ก ขนมคล้ายขนมโอโจ้อีกหนึ่งถุงเล็ก นมถั่วเหลืองแล็กตาซอยและแซนวิชไส้แฮมกับไส้ทูน่าอีกหนึ่งกล่อง ไม่เคยขึ้นเชียงใหม่ด้วยรถบัสแบบนี้มาก่อน ตะลึงมากที่มันให้กันเยอะแยะลืมตายขนาดนี้ หลังจากนั้นเราและอ้อก็ลงนั่งอ่านการ์ตูนวายที่เพื่อนเก๋หยิบติดมือมาให้อ่านอย่างชื่นอุรา กับ "อินโนเซ้นท์ โรแมนติก้าเล่ม 9" ที่คาดว่ายังคงอุ่นๆ อยู่เลยฮ่าๆๆ น่ารัก! ขอบใจเพื่อนมากที่แบกมาให้เพราะถ้าหากแกไม่แบกมาแล้วแกยังมาสายอีก ชั้นกับอ้อคงขบหัวแกหลุดจากบ่าแน่นอน (ฮ่าๆ) เมื่ออ่อนเปลี้ยเพลียแรงกันจนหลับหมดคันรถ
6 โมงเช้าของวันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2551 เมื่อแสงอรุณของเช้าวันใหม่สาดส่องพอเห็นเป็นไรอ่อนๆ อยู่ข้างหน้าต่าง เราจึงลืมตาตื่นขึ้นมามองรายรอบทางพร้อมด้วยท้องที่ร้องเบาๆ อย่างรู้งาน ก่อนมือจะหยิบจ้วงของกินที่เหลือออกมากินและคุยเม้าท์กับอ้อถึงความฝันที่ฝันเมื่อคืน....(ชั้นฝันว่ามะเดี่ยวออกรายการตี 10 พร้อมพิชชี่ล่ะเธอ นั่งดูไปยิ้มไป โคตรหนุกเลยแต่จำไม่ได้ว่ามันมาด้วยเรื่องอะไรกัน) พี่ต๊อบบอกว่าอีพวกนี้เสียงดังเป็นหนักหนารบกวนการนอนของเขากันหมดทั้งคันรถ ก็ขำๆ ต่อไป พอมาถึงสถานีบขส.ของเมืองเชียงใหม่หรือที่คนแถวนี้เรียกว่า อาเขตต์ เราได้พบกับเพื่อนร่วมเดินทางหน้าคุ้นอีก 2ราย แม่นางฟ้าจำแลง "แซนด์"กับนางงามจักรวาล "โดนัท" สวยเลือกได้ทั้งสองคนนั่งทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อพร้อมกระเป๋าใบโตอีกคนละใบสองใบ เราปลีกตัวออกไปรับอิพี่กรูที่อยู่อีก "เทอมินัล" มารวมตัวกัน ณ ที่ตรงนี้เพื่อเป็นหนึ่งในผู้ร่วมชะตากรรมทหารผ่านเหวี่ยงร่วมกัน ก่อนจะชิงจองตั๋วรถกลับบ้านในคืนวันจันทร์ที่ 7 เมษายนอย่างเป็นทางการ เมื่อพร้อมพรั่งครบครันทั้งหมดแล้วเราจึงเหมารถแดงออกเดินทางไปยังที่พักกันทันที ที่พักของเราอยู่หลัง มช. มีชื่อว่า พวงสายคอร์ท ฟังครั้งแรกเราคุ้นกับชื่อนี้มาก แต่ไม่ได้เอะใจอะไรจนกระทั่งได้มาเจอกับน้องป๊อบ น้องในบอร์ดวินส์ถึงได้เข้าใจว่าอ้อ เราเคยได้ยินชื่อนี้มาจากป๊อบนั่นเอง
เมื่อถึงห้องพักที่น้องซิลเจ้าถิ่นเป็นผู้ให้ความอนุเคราะห์หาให้ก็ปรากฏว่าเกิดอาการเกรงใจกันขึ้นมาพี่ต๊อบกับเก๋จึงขอแยกตัวออกไปพักโรงแรมเชียงใหม่ภูคำกับน้องแซนด์และโดนัท เหลือเรา 3 สาวไว้ที่นี่ประหนึ่งความทรงจำที่ฮ่องกงหมุนย้อนคืนกลับมาอีกครั้ง เรานั่งดูดีวีดีรักแห่งสยามเวอร์ชั่น DC กันจนหนำใจแล้วอาบน้ำล้มตัวลงนอนผึ้งพุงแผ่หลาจนนัดรวมพลกันออกไปทานข้าวกลางวันตามกระแสเสียงของท้องและกระเพาะที่น่าสงสารโหยหา ซึ่งเดินกันจนเมื่อยเลยล่ะ น้องซิลจึงถึงพามาถึงร้าน Boat หลังมอ ร้านอาหารที่ขนมเค้กส้มอร่อยดี อิอิ กินกันเสร็จก็จากจรไปยังร้าน Iberry กันต่อ เราได้ถ่ายรูปคู่กับเหมาเจ๋อตุงด้วยท่าหาเสียงเดียวกับของเขาพร้อมโทรโข่งที่พี่ต๊อบไว้ใช้เล่นกันน้องหมาที่บ้าน สนุกสนานเฮฮากันมาก จนป๊อบเรียนเสร็จก็ขับมาหาที่นี่ด้วยเช่นกัน
เวลาประมาณบ่าย 3 เราออกเดินเท้าไปยัง มช. สถานที่แสดงคอนเสิร์ตที่พวกเรายกพลมาดูกัน ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวและแดดที่แรงกล้า มาถึงหอประชุมแล้วมันผิดคาดกว่าที่คิดเอาไว้ผู้คนบางตากว่าที่คิด ไอ้ที่เห็นก็หน้าตาคุ้นกันเกือบทั้งนั้น ผองเพื่อนสมาชิกใน "บอร์ดฟ้า" อยู่กันอุ่นหนาฝาคลั่ง เสียงหัวเราะเฮฮาแซวกันดังมาไม่ขาดระยะ ทั้งถ่ายรูปเล่นและจิกกัดกันเล่นพอเป็นกระสัย พอนึกถึงตรงนี้แล้วก็ขำตัวเอง แบบว่าไอ้เจ้านัทมันยืนอยู่ตรงหน้าพอดีมันใส่เสื้อแดง(ของจุฬา? รึเปล่าวะ???หรือเสื้อไรจำไม่ได้แล้ว) เห็นโลโก้บนเสื้อมันแล้วให้คิ้วขมวดติดกันตามนิสัยเมื่อเห็นอะไรแปลกๆ แล้วขี้เสือกเกิดอยากจะรู้ เผลออีกทีก็เอามือไปจิ้มเขี่ยที่โลโก้ตรงอกเสื้อมันแล้ว เล่นเอาน้องสะดุ้งเลยฮ่าๆๆๆๆๆๆ (นี่กรูทำอะไรลงไปกรูยังไม่เข้าใจตัวกรูเองเลย ฮ่าๆๆๆ)
6โมงกว่าประตูคอนฯก็เปิดให้เข้าได้ น้องป๊อบอยู่ด้วยกันกับเราจนเราเข้างานคอนฯไป เกรงใจน้องมากๆ แบบน้องอาจไม่ได้อยากอยู่แต่เกรงใจเราเลยอยู่เป็นเพื่อนง่ะ ต้องขอบคุณป๊อบมากจริงๆ คือพี่ล่ะเกรงใจน้องอิบอ๋ายที่ต้องมานั่งรออยู่ด้วยแบบนี้ m(_ _)m แล้วงานคอนก็เริ่มต้นขึ้น.... ที่ซึ่งไม่มีอะไรจะเอ่ยเนื่องจากไปเอ่ยทิ้งบอมไว้ในกระทู้เว็บฟ้าจนหมดแล้ว ทิ้งจนทำเอาเกิดเป็นเรื่องจนได้เอาเป็นว่า วันแรกไม่มีอะไรน่าใส่ใจเลยสักนิดก็แล้วกัน เพราะมันทั้งเละและไม่เวิร์คเอาเสียมากๆ นี่ไม่ได้ว่าออกัสนะ แต่ว่าคนจัดงานที่ทำออกมาได้ห่วยแตกสนิทจริงๆ ขอบคุณค่ะที่จัดงานมาให้ดิฉันลับฝีปากเสียตั้งขนาดนี้ ขอบคุณนะ....
เหนื่อยแระ ไว้เขียนต่อของวันพรุ่งนี้
Create Date : 11 เมษายน 2551 |
Last Update : 13 เมษายน 2551 22:01:22 น. |
|
5 comments
|
Counter : 584 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ออริกาโน วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:14:32:11 น. |
|
โดย: ต๊อบ IP: 124.120.155.211 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:14:42:17 น. |
|
โดย: เหม่เหม IP: 118.172.175.52 วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:1:31:43 น. |
|
โดย: frodo_slave IP: 124.121.159.186 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:2:23:46 น. |
|
โดย: เหม่เหม IP: 118.172.177.136 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:14:18:30 น. |
|
| |
|
meichan |
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
"ข้าพเจ้าไม่ขอข้องเกี่ยวกับผู้ใด"
ข้าพเจ้ารักอิสระเสรีภาพ ไม่ยึดติดอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นเสรีชนที่ไม่ใยดีหรือยินร้ายกับเรื่องของใคร
ข้าพเจ้ารักสงบ แต่ไม่เคยได้ความสงบจากคนทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ชอบความวุ่นวาย แต่จะถูกจุ้นจ้านจากคนอื่นอยู่ร่ำไป ข้าพเจ้าหวังความจริงใจ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ข้าพเจ้าเท่านั้นที่ให้ไปโดยไม่ได้สิ่งนั้นกลับมา
เตือนใจตัวเอง ความซวยของข้าพเจ้า คือการรักคนอื่นมากเกินไปทั้งที่เค้าไม่ได้อะไรกับตัวข้าพเจ้าเลย
|
|
|
|
|
ความรู้สึกคงแปลกพิลึกนะนี่
ชักอยากมาฟังต่อเสียแล้ว ว่าจะเป็นจะได
ยินดีเจ้า