I can do everything But, I will do only I want

<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 พฤศจิกายน 2554
 

We are X! Live in THAILAND 2011

(ตอน X LIVE วันนี้ที่ถึงตายก็ตายตาหลับแล้ว)

We are X นั่นคือเสียงที่ดังกึกก้องกระหึ่มทั่วฮอล์ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี เมื่อคืนวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา ภายในโสตประสาทการรับรู้ทั้งหมดของร่างกายยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ความรู้สึกและเสียงเรียกร้องจากหัวใจของเหล่าสาวกเอ็กซ์เจแปนและผู้เสพติดดนตรีทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น เวลานั้น และวันนั้น เชื่อว่าหลายคนต้องแอบเครียดเหมือนกับข้าพเจ้าเช่นกันเมื่อเห็นในบอร์ดและเว็บไซท์ รวมถึงเฟซบุคต่างๆ มีแต่คนมาประกาศขายบัตรเพราะไปไม่ได้ด้วยสภาวะเหตุการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน แต่สุดท้ายในท้ายที่สุดแล้ว พอเรามาถึงหน้างานคอนเสิร์ตทุกอย่างมันกลับดีเกินคาดจนจากที่ไมเกรนจะขึ้นกลายเป็นปวดหัวเพราะอาดีนาลีนหลั่งสารแห่งความสุขล้นพ้นมากเกินไปจริงๆ

บ้างก็ขาสั้นลุยน้ำมาแล้วมาเปลี่ยนชุดกันที่อิมแพค บ้างก็ขอให้ข้างบ้านพายเรือมาส่ง บ้างมาจาก ต่างจังหวัด และอีกหลายๆ ความลำบากที่ไม่อาจจะบรรยายได้ แต่สุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจมากันด้วยเพราะมันเป็นสิ่งที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยกันมาตลอด คนอื่นอาจเห็นว่าพวกเราบ้า และเอ่ยประณามเรื่องของน้ำท่วมทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่เราอยากบอกไม่มีอะไรนอกจากเออใช่เราบ้า! แต่บ้าเฉพาะวันนี้เท่านั้น เพราะพวกเราหลายคนก็ไปทำจิตอาสากันมาตั้งหลายที่และตั้งมากมายไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าพวกคุณเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อความสุขของเราคือ 15 ปีที่เรารอคอยมาตลอด เราขอแค่เพียงวันเดียวเท่านั้น มันจะผิดด้วยหรือ?

เที่ยงกว่าโดยประมาณข้าพเจ้าและสหายรักกลุ่มแรกไปนั่งกินข้าวกันในฟู๊ดคอสของทางอิมแพคโดยได้ไปป๊ะเข้ากับน้องชายคนนึงที่จนจบคอนเราก็ลืมถามชื่อเขาไปสนิท คือเห็นหน้ากันบ่อยครั้งเมื่อสมัยหลายปีก่อนโน้นที่ร้านขายซีดีญี่ปุ่นในสยาม และไปเจออีกครั้งที่สนามบินตอนไปรับโยชิกิ ก็เลยชวนกันไปนั่งด้วยกันคุยกันไป รอซื้อของทัวร์ ต่อมาพอข้ำไปนั่งที่ร้านกาแฟดอยตุงก็เจอกับคนรู้จักอีกกลุ่มที่ไม่ได้เจอกันมานานมากจนกระทั่งว่าจำไม่ได้แล้วว่ามันนานแค่ไหนกัน เพราะต่างก็หน้าคุ้นแต่ไม่รู้ชื่อกันทั้งนั้นเพราะเดินชนกันบ่อยตามร้านซีดีญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน หลายคนในงานที่เดินผ่านหน้าสวนทางกันไปมาในลานคอนฯล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตแบบสวนกันไปกันมาด้วยกันทั้งนั้น เอ่ยทักทายแล้วจากกันไป มันเหมือนเป็นวันรวมญาติ ได้เจอเพื่อนเก่า แก๊งเก่า คนเก่าๆ และเหล่าผู้คนที่ชื่นชอบอะไรที่เหมือนกันๆ เดินต่อคิวซื้อของภายในแถวทั้งที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันก็ยังสะกิดถามและบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กันฟังเหมือนคนที่คุยกันมารู้จักกันมานานกว่า สิบยี่สิบปี นี่แหละคือนิสัยของพวกเด็กที่ชอบญี่ปุ่นพวกนี้

มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนเราได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ได้กลับไปถึงสมัยที่ญี่ปุ่นรุ่งโรจน์รุ่งเรืองไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เห็นแต่การแต่งกายที่เคยคุ้น เห็นแล้วก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว ด้วยความปลื้มปิติอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็เดินผ่านและมีรอยยิ้มให้กันเสมอตลอดทั้งงาน มันคือความสุขที่ไม่อาจบรรยายออกมาให้เห็นเป็นภาพได้ แม้จะถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องถ่ายรูปหรือด้วยกล้องวีดีโอก็ตาม ทุกๆ สิ่งมันจะฉายชัดอยู่ในความทรงจำ และหัวใจของพวกเราทุกคนอย่างตลอดไป

มีช่วงหนึ่งที่เสื้อฮู๊ดและแฟลชไดรฟ์ขายหมดแล้วจำเป็นต้องมาเขียนออเดอร์นอกแถวเพื่อส่งตรงถึงบ้านภายหลัง ดูเหมือนเค้าจะไม่ได้ประกาศทำให้คนที่ซื้อสองอย่างนี้เพียงเท่านั้นต้องไปยืนเก้อต่อคิวยาวๆ กับเขาด้วย เราเดินไปถามสต๊าฟว่าทำไมถึงไม่ประกาศล่ะ ติดป้ายก็ได้นะ เพราะหลายคนเขาไม่ได้ซื้ออย่างอื่น เขาจะต้องมาต่อแถวเสียเวลาด้วยทำไม สต๊าฟคนนั้นเงยหน้ามองเราปากหวองงๆ แล้วก็พูดขึ้นว่า “เออว่ะ จริงด้วย ขอบคุณครับพี่” เราแบบ....จ่ะ นี่สต๊าฟโซนี่หรือบีอีซีเนี่ย มั่วเหมือนโซนี่เลยจริงๆ จากนั้นก็เขียนออเดอร์จ่ายตังค์แล้วเดินสวยๆ ออกมา ฮ่าๆๆๆ

สองทุ่มกว่าทางที่จัดงานประกาศว่าจะเปิดประตูให้เข้าไปภายในฮอล์แล้ว เราจึงเดินไปเข้าแถวกัน เราได้เจอ Bee วง Futon ช่วงสั้นๆ ตะโกนเรียก บี! บีหันมายิ้มกริ่มและปรี่เข้าใส่ ว่าไม่ได้เจอกันนานเป็นไงมั่งสบายดีมั้ย มากันกี่คนแล้วอย่าลืมไปดูในเว็บไซท์นะ ฉันไปสัมภาษณ์มาบลาๆๆๆ คือบีจ๊ะ เราไม่ใช่หญิงยุอ่ะ อังกฤษเราไม่แข็งแรง รู้ว่าไม่เจอกันมานานชาติแต่ช่วยช้าๆ หน่อย ฉันฟังไม่ทันนนนนนนนนนน ดูสิมันเป็นงานรวมญาติจริงๆ นะ มันคือคอนฯที่ทุกคนรอคอยจริงๆ เมื่อเข้าไปถึงในตัวฮอล์ที่จัด ขนลุกมากเพราะหนาว...ไม่ใช่ ฮ่าๆๆ มันยิ่งใหญ่มากถึงมากที่สุด แต่สต๊าฟตรงหน้าประตูยังไม่ให้เข้าไปบอกว่าเค้าให้รอก่อนครับเลยบอกน้องว่า น้องคะ ปั๊มแขนก่อนเลยค่ะแล้วก็ช่วยเปิดประตูไว้หน่อยนะคะ แบบว่าร้อนอ่ะ ขอรับลม ป้าๆ ก็แก่แล้วจะเป็นลมเอา ก็สรวญเสเฮฮากันไปแต่จริงๆ คืออยากซึมซับตั้งแต่ที่เค้ายังไม่มีคนเข้าไปนั่งด้านในเลยต่างหาก อยากดูบรรยากาศนั้นอยากเก็บเอาไว้ในความทรงจำให้มันฝังแน่นๆ ไว้
พอได้เข้าไปด้านในจัดที่ทางกันเสร็จสรรพแล้วก็รอเวลากันต่อ เพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้นทุกคนต่างยืนสงบนิ่ง แต่ในใจมั่นใจว่าบ้าไปแล้วแน่นอน สิ้นสุดเพลงสรรเสริญเสียงตะโกนโห่ร้องก็ดังกึกก้องในทันที พร้อมชูแท่งไฟที่กำกันไว้ในมือทั้งสองข้างไขว้กันเป็นรูปตัว X มันเป็นภาพที่สวยงามและไม่คิดเลยว่าเราได้เห็นด้วยตาเราเองจริงๆ เหมือนภาพฝันที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ ตอนนั้นน้ำตาปริ่มไปแล้ว พอลงนั่งเพลงให้รอเวลาก็ดังขึ้นมาเพื่อรอโชว์ของวงที่พวกเรารอคอย เปิดหลายเพลงจนเกือบหลับแน่ะ น้องข้างกายบอกจะหลับๆ แล้วจู่ๆ มันก็กรี๊ดขึ้นมา ก็สะดุ้งกันหมดทั้งแถวหันหาว่ามันเป็นอะไร มันบอก “ตื่นเต้น!” =*= ไอ้ฉิมมมมมมมมมมมมม ก็หัวเราะกันไปพูดคุยกันไปว่า เฮ๊ยเราไม่ได้ฝันกันอยู่ใช่มั้ยวะ แล้วก็พากันดราม่าร้องไห้กันไปตั้งแต่คอนยังไม่เริ่มแสดง จนในที่สุดเมื่อไฟภายในฮอล์ดับแสงลง ทุกคนก็พร้อมใจกันยืนขึ้นและชู X เสียงดนตรีบรรเลง intro เริ่มต้น แสงไฟสปอร์ตไลท์สาดส่องลงบนกลองหนังชุดใหญ่บนแสตนด์กลางเวที ในนาทีนั้น ทั้งหัวใจมันเต้นจนแทบขาดใจ น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วเกิดไหลขึ้นมาอีกครั้ง เราไม่ได้กำลังฝัน มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว กับทุกสิ่งที่รอคอยมาตลอดชั่วระยะเวลา 15-16 ปี (เพราะถ้าครั้งนี้ไม่ได้ดูก็ไม่รู้หรอกว่าอีกเมื่อไหร่จะมีโอกาส ไม่เค้าก็เรานั่นแหละที่จะตายก่อนฮ่าๆๆ)

ดวงไฟทุกดวงยิงพุ่งตรงลงไปบนร่างของผู้ชายที่เป็นจุดศูนย์กลางและเป็นทุกสิ่งของวงๆ นี้ ผู้คนในฮอล์กรี๊ดร้องกันสนั่นหวั่นไหว พร้อมชูแท่งไฟสีแดงเจิดจ้าในมือ บ้างก็ใช้มือยกขึ้นเหนือศีรษะแล้วไขว้กันให้เป็นรูปตัว X เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับว่า มันอลังการและน่าตกใจจริงๆ ที่ผุ้ชายเพียงคนเดียวทำให้คนเรือนหมื่นทำอะไรได้ขนาดนี้ ข้างๆ ข้างล่างก็น้ำตาปริ่มไปยกสัญลักษณ์ขึ้นชูไป แถวหน้าของเราเป็นกลุ่มเด็กผู้ชายที่ดูเหมือนจะเกรียนแต่ก็ปรากฏว่าน้องเค้าก็ชูสุดแขนตะโกนเรียก โยชิกิ ดังมากกกกกกกไปแล้ว จากนั้นสักครู่หนึ่งชายผู้เป็นที่รักของทุกคนในที่นี้ก็ถอดเสื้อคลุมออกและลงนั่งที่เบื้องหลังกลองชุดใหญ่สีเงินที่สะท้อนไฟเล่น มันสวยมากกกกกกกกกกกกก ก่อนที่จะได้ยินสียงไม้กระทบกันเป็นจังหวะเพื่อให้สัญญาณวงและฟาดลงบนหนังกลองนั้นไม่ยั้ง พร้อมด้วยฝีเท้าที่กระทืบเหยียบรัวแรงบนกระเดื่องทั้งสองข้าง เพลง [JADE] คือเพลงเปิดของคอนเสิร์ต X Live in THAILAND ประเทศสุดท้ายของเวิร์ลทัวร์นี้ โทชิ พาตะ ฮีท และสุงิโซออกมาเริงระบำกันบนเวทีกันอย่างสุดเหวี่ยงเรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าสาวกเอ็กซ์ได้อย่างชนิดที่เรียกว่าลืมตายกันไปเลย จากนั้นก็ต่อกันด้วยเพลง [Rusty nail] ที่ข้าพเจ้าแหกปากช่วยโทชิร้องจนสุดเสียงสุดแรงกำลังที่มี เพราะเพลงแรกร้องได้นิดๆ หน่อยๆ เนื่องจากเป็นเพลงใหม่ ฝั่งเพื่อนๆ พี่ๆ ก็ขยับมือโยกหัวกันสุดๆ ตัวอักษรเอ็กซ์มันดิ้นไปตามจังหวะของเพลงจนไม่รู้ว่าเราจะมองตรงไหนก่อนดี บรรยากาศมันสุดยอดมากๆ คนบนเวทีก็สุดๆ เช่นเดียวกันโดยไม่ต้องเอ่ยถึงก็ได้ จากนั้นเอ็กซ์ก็ไม่ยอมให้เราได้พักหายใจแม้แต่น้อยเมื่อขึ้นอินโทรที่คุ้นเคยและโปรดปรานที่สุดขึ้นมา [Silent Jealousy] don’t you leave me alone…… นาทีนี้เราไม่สนใจอะไรกรีดร้องให้ตายไปข้าง ให้มันสมกับที่รอคอยมายาวนาน และช่วยโทชิร้องอีกครั้ง ขอบอกว่า โทชิพลังเสียงสุดยอดมากๆ ยอมรับจริงๆ เพราะเราเองแค่ครึ่งเพลงของ silent jealousy ก็แทบไม่เหลือเสียงและแรงจะให้ตะโกนเปล่งออกไปแล้ว พอจบจาก ริษยาในความเงียบงัน คุณลุง PATA ผู้น่ารัก กีตาร์เทพของวงก็ออกมา Solo ให้เหล่าผู้เล่นกีต้าร์ทั้งหลายได้อึ้งและประทับไตกันไป มันสุดยอดมากๆ นี่ล่ะที่เขาเรียกว่าประสบการณ์ที่สั่งสม คิดถึงว่าถ้าฮิเดะยังมีชีวิตอยู่เราคงได้เห็นกีต้าร์ผัวเมียที่ลีดต่อกันเป็นช่วงๆ และรับส่งกันประหนึ่งว่ามือของพวกเขาเป็นมือของคนๆ เดียวกัน มันคงอลังการล้านแปดกว่านี้แน่ เมื่อพาตะโชว์การลีดกีต้าร์อันสุดยอดไปแล้ว ก็มาถึงเพลง [Drain] เพลงโปรดอีกหนึ่งเพลงในชุดดาร์เลีย อันนี้เบสของฮีทเอาใจไปเลย ฮีทเท่มากๆ ทำเอาคุณเพื่อนถึงขั้นนิ่งไปจนต้องสะกิดว่า ฮีทๆๆๆ มันบอก “กรูดูอยู่ ที่นิ่งเนี่ยกำลังซึมซับ” ฮ่าๆๆๆ

จากท่อน้ำทิ้ง ก็มาถึงเวลาที่เหล่าสาวกลูนาซีรอคอย [Sugizo violin Solo] เล่นได้แรดสมเป็นหงิมากๆๆๆๆๆ สมใจจริงๆ หงิมาในชุดกรุยกรายสีขาววววที่มีไฟสะท้อนส่องให้เห็นบอดี้เป็นเงาร่างสวยพร้อมไวโอลินแก้วใสไฟฟ้าคู่กายกับท่วงท่าเยื้องย่างกรีดกรายที่พาให้พูดได้อย่างเดียวว่า “แรดมากกก” ฮ่าๆๆๆ นั่นคือคำชมไม่ใช่คำด่า เพราะบรรดาเมียหงิทุกคนก็บอกหมดว่า ถ้าไม่แรดคงไม่ชอบ! มีการควงไม้และไวโอลินเป็นระยะพร้อมเล่นเพลง “ค้างคาวกินกล้วย” นิดหน่อยทำเอาฮือฮากันหมดทั้งคอนปรบมือกันอย่างขาดใจ มันเท่มากๆๆ เท่โคตรๆๆๆ ก่อนจะเป็นป๋าโยที่มาในชุดเสื้อคลุมสีแดงสดตัดกับผิวผ่องของป๋ามาก และตัดกับชุดขาวพลิ้วไหวของหงิสุดๆ มันเป็นช่วงเวลาที่เหมือนได้มาดูคอนฯคลาสสิค ที่เสพกลิ่นอายของเปียโนและไวโอลินประสานกันอย่างลงตัวจนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว มันเพราะมากกกก ก่อนจะเข้าเพลง [Kurenai] และ [Born to be free] ตอนนี้จะบอกว่า กลุ่มเด็กชายข้างหน้าแม้จะดูเกรียนแต่มันร้องได้ทุกเพลงสู้ตายไม่ต่างจากเราจริงๆ ทั้งที่อายุยังดูแล้วไม่น่าจะเกิด 24-25 เท่านั้น วงอะไรกันที่แม้เกิดมาตั้งไม่รู้กี่สิบปีแล้ว แต่คนรุ่นหลังก็ยังรู้จักและเทิดทูนให้ว่าเป็นวงระดับตำนานที่สมควรฟัง ทั้งที่ไม่ใช่เพลงในยุคของพวกเขา แต่เอ็กซ์กลับทำให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นมาได้

[Yoshiki Drum and Piano Solo] อันนี้ถ้าใครที่ไม่เคยคิดและไม่เคยดูคอนเสิร์ตของเอ็กซ์มาก่อนจะออกแนวว่า พระเจ้า! นี่มันอะไรกัน!!! เพราะแฟนเอ็กซ์เองถึงแม้จะดูในดีวีดีหรือจากไลฟ์สดกี่ครั้งๆ ก็ยังว่ามันสุดยอดมากอยู่ดี คนอะไรเอาแรงมาจากไหน เอาพลังมาจากไหน เอาสมองมาจากไหน เคาถูกปั้นจากอะไร ในหัวเขาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้เก่งถึงเพียงนี้ เล่นเปียโนอย่างอ่อนช้อยและสวยงาม ไม่ว่าจะเมโลดี้หรือแม้กระทั่งท่วงท่า(แรดๆ)ของป๋า ไม่มีใครในโลกแล้วที่จะเล่นเปียโนท่ายากได้อย่างป๋าโยจริงๆ ยินยันมาก! เล่นคลาสสิคอยู่ดีๆ ป๋าก็เดินไปอยู่หลังกลองชุดใหญ่ถอดเสื้อคลุมออกแล้วลงกระหน่ำฟาดไม่เลี้ยงจนในอกดังตุ่บๆๆๆๆ ตามจังหวะกระเดื่องที่เท้าป๋าเหยียบลงไป มันเริ่มเร็วขึ้น ๆๆๆๆ แรงขึ้นและดังขึ้นทีละสเต็ปจนสุดท้ายแทบจะฟังไม่ทัน เคยมีคนพูดว่า “โยชิกิมันไม่เก่งจริงหรอก มันก็แค่ตีกลองเร็วแค่นั้น” คำพูดนี้ยังทำให้โมโหไม่หายจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีคำอธิบายใดๆ ให้คนพูด รู้อย่างเดียวและให้คำนิยามคำเดียวกับคนที่พูดนั้นว่า “โง่” คำเดียวจริงๆ หลังจากฟาดกลองและเหยียบกระเดื่องไปแล้ว ก็เดินลงมาเล่นเปียโนใหม่แล้วสักพักก็กลับไปตีกลองอีกแล้วก็เดินลงมาเล่นเปียโนใหม่ มันเป็นอะไรที่ ถ้าไม่บ้าจริงทำไม่ได้อ่ะ วงอะไรมีมือกลองกับมือเปียโนเป็นคนๆ เดียวกัน ที่สำคัญ โยชิกิเอาใจไปอีกครั้งเมื่อเล่นเพลง [เดือนเพ็ญ] ทำเอากรี๊ดกันสามบ้านแปดบ้านแล้วพยายามร้องแต่ ไม่บอกกันก่อนล่วงหน้าอ่ะ มันไป ร้องได้ท่อนเดียวนอกนั้นช่วยถั่วงาเอา แหะๆ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขมาก ก่อนจะเข้าสู่ [I.V] และกระโดด X jump กับเพลง [X] ที่ทำเอาแทบล้มสะดุดปากแตกเพราะกระโดดสูงไปลงมาไม่มั่นคงแต่มันสาดดดดดดด พวกเราได้ตะโกนคำว่า X พร้อมๆ กัน ทั้งที่โทชิพูด และที่โยชิกิ พูด

We are…..
You are….
We are…..
You are…..
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

พร้อมโยชิกิที่ตะโกน Screammmmmmmmmm ด้วยเสียงที่แหบแต่สุดเสียงทำให้เหล่าพวกเราพากันสครีมมมมมมมมตามที่โยชิกิสั่งไปด้วย มันโคตรทรงพลังโคตรๆ และปลื้มอย่างที่สุด ตอนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ร้องไห้ในคอนเสิร์ตแล้วก็ซับน้ำตากันไปเบาๆ ก่อนช่วยกันตะโกน X อีกครั้ง โยชิกิเดินไปตีค้องใหญ่บนเวที แล้วตะโกน we are…X ให้พวกเราช่วยกันทั้งฮอล์อีก เหนื่อย ไม่มีเสียงแต่แม้หลอดเสียงจะแตกก็จะตะโกนต่อไป จนสุดท้ายช่วงเวลาแห่งเพลง X ก็สิ้นสุดลง สุงิเอาขวดน้ำออกมาขว้างให้คนดูแรงดีมากกก โยนถึงชั้นสองลิบโลกเลยแล้วก็ไปถึงหลังหกพันแน่ะ โยชิกิก็ขว้างไม้กลองแต่ไม่ได้ไกลนักตกแถวสี่แถวห้าได้มั้ง แล้วให้หงิขว้างอีกไม้ให้ โคตรไกลลลลลลลลลลลล แรงเยอะโคตรฮ่าๆๆๆ พอทั้งสองเดินลับเข้าหลังเวทีไป ก็เล่นเอาเราถึงขั้นลงนั่งทิ้งตัวกันหอบเลย ต่างคนต่างมองหน้ากัน แต่ด้วยรอยยิ้มล้วนๆ พร้อมบ่นกันว่า โอยยยยจะตายมั้ยยยย โอยยยเสียงไม่มีแล้ววว คอนบ้าอะไรเนี่ย ทำให้ไม่มีแรงตั้งแต่เพลงแรก แล้วก็ไม่ให้หายใจหายคอให้พักเลยยยมันตลอดเลยเนี่ยโอยยยยยยย แล้วหัวเราะกัน

มันเป็นช่วงพักยกของคอนเสิร์ต เราตะโกน อังกอรุ อังกอรุ เพื่อเรียกให้เหล่าสมาชิกเอ็กซ์เดินออกมาเล่นใหม่อีกครั้ง แต่ได้ไม่เท่าไร ก็กลายเป็นเสียงกรีดร้องแทน จากเสียงกรีดร้องเปลี่ยนเป็น we are….X ใครใคร่พูด we are พูด ใครใคร่ช่วยตะโกน X ตะโกน อยู่อย่างนี้นานมากจนเริ่มเหนื่อยกันเอง แล้วก็กระทืบพื้นให้เสียงกระหึ่ม ก่อนเปลี่ยนเป็นเคาะไม้ให้ดังๆ ตามด้วยกรี๊ดดด แล้วข้างล่างก็ต้นเสียงเพลง endless rain มา เราถึงกันมองหน้ากันเองว่า เฮ๊ย! ไทยแลนด์โอนลี่อีกแล้วว่ะ ไม่มีเอ็กซ์อยู่กรูก็ฟินกันเองได้ มันยังไม่ร้อง กรูร้องก่อน ออกแนว ร้องได้เองไม่ต้องรอให้ป๋ามาเล่น เออก็เก๋ดีนะ แล้วก็หัวเราะกันก่อนช่วยเค้าร้องด้วย แต่สุดท้ายก็ล่มและเงียบกันไปอีกหน ก่อนจะกลายมาเป็นเล่นเวฟ จากซ้ายไปขวา จากล่างขึ้นบน จากซ้ายไปขวา มึนๆ งงๆ แต่มันแสดดดด ลุกๆ นั่งๆ มันมากกับการเล่นเวฟ แล้วกลับมา ร้อง we are….X ใหม่อีกครั้ง แล้วไปเล่นเวฟอีก แล้วก็กลับมา we are…x อีก ก่อนจะกลายเป็นเพลง [ลอยกระทง] ทำเอาฮากันครืนนนนนนนน แล้วก็ร้องกันจนจบ ประเทศไหนในทัวร์ทำได้งี้มั่งไม่มี๊ ไทยแลนด์โอนลี่จริงๆ เราคุยกันว่า อิป๋ามันไปอาบน้ำห่มสไบเฉียงอยู่หรือไงวะ แล้วก็หัวเราะกัน น้องข้างหน้าจู่ๆ ก็ตะโกนว่า ฮิเดะ~! ก็หัวเราะกัน แล้วก็ เริ่ม we are…X กันใหม่ กระทั่งสุดท้าย ผ่านไปร่วม 20 นาทีได้ ไฟที่บนเวทีก็เปิดอีกครั้งพร้อมโยชิกิในชุดเสื้อคลุมสีขาวเดินยิ้มเอียงอายออกมา มีโทชิเดินตามติดจะแกล้งเปิดเสท้อคลุมโยชิกิก็วิ่งหนีโทชิก็วิ่งตามไล่เปิด แฟนคลับก็กรีดร้องโมเอ้กันไป ก่อนจะกระชากออกมาเป็นชุดสไบเฉียงและไหว้อย่างสวยงามที่สุดของที่สุด เราก็เกรียนตะโกน สวยยยยยยย โยชิกิไอเลิฟยูๆๆๆๆๆๆๆ น่ารวั๊กอ่ะๆ โยชิกิคาวาอิ ฮากันมากกก

โยชิกิพูดเป็นอังกฤษ(เสียงอ่อนเสียงหวานจนต้องเงี่ยหูฟัง(ไม่เห็นเหมือนตอนตะโกนวะแมร่ง พูดซะสาวแต่ตะโกนทีแมนแสดดด) บอกเนี่ยเค้าบอกว่านี่เป็นชุดผู้หญิงนะ ฉันเลยตอบไปว่า That’s perfect แน่ล่ะก็โยชิกิพูดแล้วว่า ตำแหน่งในวงของเขาคือ Drum piano and cosplayer!!!! ท่าทางจะมันมากกับการได้แต่งกายชุดประจำชาติของทุกชาติเนี่ยฮ่าๆๆ

โทชิถาม “สวยมั้ย” ทุกคนก็กรี๊ดดดดดด แล้วโทชิก็บอกว่า “I love her… she so beautiful” ขำกันกลิ้งว่ายังอุตส่าห์เล่นมุกวายนะฮ่าๆๆๆๆ จากนั้นโยชิกิก็เล่นถึงประวัติตัวเองว่าเล่นดนตรีมาตั้งแต่สี่ขวบได้มาทำเอ็กซ์มีไทจิ มีฮิเดะ ฮีท พาตะ สุงิโซ พวกเราสูญเสียไปมาก พร้อมเริ่มพาดราม่าน้ำตาร่วงนำเราไปก่อน บอกว่าเราสูญเสียฮิเดะ และเมื่อสี่เดือนก่อนเราเพิ่งสูญเสียไทจิ ไหนยังที่ญี่ปุ่นเรื่องสึนามิ แล้วก็ล่าสุดนี้ที่ไทย มันเป็นการสูญเสียมากมายเหลือเกิน แต่ x japan will be with you ถึงขั้นปรบมือและ I love you กันกลับ ไม่นาน โยชิกิก็ขอความร่วมมือให้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย 1 นาที เพื่อทุกคนและเพื่อเหตุการณ์ที่เกิด มันเป็นอะไรที่เงียบสนิทและทรงพลังมากๆ (ถ้าไม่มีอิบ้าข้างบนเสือกไม่ดูเหนือดูใต้กรี๊ดขึ้นมาทั้งที่เค้าบอกให้สงบนะ)

แล้วผู้ชายในชุดสไบเฉียงก็ลงนั่งหลังแท่นเปียโนพร้อมร่ายนิ้วลงไปบนคีย์ด้วยเพลง [Forever Love] ที่ไพเราะที่สุด มีเพียงเสียงเปียโนกับเสียงร้องของโทชิเท่านั้น พวกเราก็ร้องคลอกันไปเป็นเสียงสะท้อนก้อง มันเพราะมากและไม่คิดว่าจะได้ฟังมันเลยจริงๆ ไม่นึกมาก่อนว่าจะได้ฟังเพลงนี้สดๆ เพราะและสวยงามเหลือเกิน และต่อกันด้วย [Endless Rain] ที่น้ำตาไหลจากรักนิรันดร์ได้ไม่เท่าไรก็ต้องมาพาลเสียน้ำตากับเพลงนี้อีกเพลง มันเพราะจับจิตจับหัวใจแม้เสียงจะไม่มีเหลือแล้วก็ตาม.....

จาก [Endless Rain] สู่ [Art of life] โยชิกิไปเอาสไบออกแล้วและลงมาเล่นเปียโนในเพลงนี้ของ part two คือเพลงจริงยาวทั้งสิ้น 30 นาทีเต็ม โยชิกิตัดมาเล่นแค่ท่อน พาร์ทสองก็ 15 นาทีโดยประมาณ เคยเขียนถึงเพลงนี้ไปแล้วครั้งหนึ่งว่ามันเป็นเหมือนจังหวะชีวิตของคนเรามีทั้งดนตรีที่เร่งเร้าและท่วงทำนองที่อ่อนหวาน ก่อนรุมเร้าด้วยความเกรี้ยวกราดและกลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง เป็นเพลงที่ทรงพลังและขนลุกมากๆ จบจาก art of life เสียงดนตรีเพลง [tear] ก็ดังขึ้นเหล่าสมาชิกออกมาถ่ายรูปเล่นกันบนเวทีและถ่ายคนดูในฮอล์ มีบอกให้ทำมือเอ็กซ์พวกเค้าจะได้ถ่ายรูป วิ่งไปวิ่งมาโยชิกิได้ตุ๊กตาช้างชบาแก้วเอามาอุ้มถือเดินไปมาบนเวทีแล้วจับไปตั้งนั่งบนเวทีก่อนตัวเองเดินลงมาเล่นเซิร์ฟกับคนดู สุดยอด! และจบลงด้วยการโบกมืออำลาจากกลางเวทีก็เดินเอี้ยวตัวโบกๆๆๆ เดินถอยหลังเข้าแล้วโบกๆๆๆ จนไปยืนข้างเวทีก็ยังโบกๆๆๆ จนกระทั่งลับหายเข้าไป มันเป็นอะไรที่ โคตรประทับใจมากกกกกกก ใส่ใจและให้ความสำคัญกับแฟนๆ อย่างเต็มที่และมาเต็มสุดๆ คงไม่มีคอนเสิร์ตหรือโชว์ไหนๆ มาลบล้างคอนเสิร์ตนี้ได้แล้วในปีนี้ ช่างเป็นคอนปิดปีที่มีความสุขสนุกที่สุดประทับใจที่สุดของที่สุดจริงๆ ไม่เสียใจเลยที่มาดูไม่เสียใจเลยที่ได้ชอบ ได้รัก ได้ฟังและได้สนับสนุนและติดตามมาตลอดตั้งแต่เรียนจนถึงปัจจุบันนี้ X ยังคงเป็นวงร็อคระดับตำนานของเราและเป็นหนึ่งเดียวเป็นวงเดียวในหัวใจที่ยอมยกถวายหัวให้พร้อมทำทุกอย่างจริงๆ แม้คอนจะจบไปแล้วแต่เชื่อมั่นว่า X จะอยุ่ในหัวใจและในความทรงจำของทุกคนตลอดไป เราจะยังคงได้ยินเสียงร้องเพลง endless rain ที่ไม่มีวันจบก้องอยู่ในหู เรายังคงเห็นรอยยิ้มและคราบน้ำตาแห่งความสุขบนใบหน้าของทุกคน และเราจะได้ร่วมกันตะโกนคำว่า we are X อีกครั้งในสักแห่งของหัวใจเรา

“We are X!”

Play List
- Jade
- Rusty Nail
- Silent Jealousy
Pata Guitar Solo
- Drain
Sugizo Violin Solo
Yoshiki & Sugizo piano and violin Feat.
- Kurenai
- Born to be free
Yoshiki Drum& piano solo
- I.V.
- X

Encore 20 Mins.
- Forever Love [Piano version]
- Endless Rain
- Art of life

- TEAR
- Forever Love



- END -
วันไปรับกับแถลงข่าวค่อยเขียนอีกที



Create Date : 09 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2554 15:55:36 น. 4 comments
Counter : 1194 Pageviews.  
 
 
 
 
We are X!!!!!!!

มันคือความทรงจำที่สวยงามที่สุดในชีวิต ดีใจที่ได้ไปดู

ความทรงจำ 16 ปี บรรลุแล้วววววว

ป๋าโย น่ารักมากกกกกกกกกกกก หลงัรักสุงิโซ อย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้วววววววววววววว
 
 

โดย: leku IP: 210.213.57.192, 203.116.198.72 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:30:11 น.  

 
 
 

We are Xxxxxxxxxxxxxxx

มันเป็นความทรงจำที่สุดยอดมากจริงๆค่ะ ดีใจมากที่ไปดู จะรู้สึกเสียดายมากถ้าพลาดไป

ตอนเปิดคอนมา ขนลุกแล้ว ขนลุกอีก ป๋าโย สุดยอดมาก แค่ขึ้นมายืนก็สุดๆจริงๆ

ไม่รู้จะเม้นท์อะไร เพราะรู้สึกและสัมผัสได้เหมือนที่พี่เมย์เขียนเลย อ้อ แต่คุณสุงิ เล่นไวโอลินได้ท่ามากที่สุดในสามโลกจริงๆค่ะ แล้วยิ่งตอนป๋าโยขึ้นไปนั่งบนเปียโน จำได้ว่าสติหลุดไปทันที
 
 

โดย: kaewky IP: 124.122.25.85 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:48:44 น.  

 
 
 
เสียดายไม่ได้ไป คงสนุกน่าดู
 
 

โดย: devilmanb วันที่: 10 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:14:13 น.  

 
 
 
ดีใจและปลื้มใจแทนจริงๆ สำหรับคนที่ได้ไปดู ส่วนเราดูคลิปและเข้ากระทู้สารพัดในพันทิปเอา
 
 

โดย: อิมาอิซัง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:03:30 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

meichan
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




"ข้าพเจ้าไม่ขอข้องเกี่ยวกับผู้ใด"


ข้าพเจ้ารักอิสระเสรีภาพ ไม่ยึดติดอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นเสรีชนที่ไม่ใยดีหรือยินร้ายกับเรื่องของใคร

ข้าพเจ้ารักสงบ แต่ไม่เคยได้ความสงบจากคนทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ชอบความวุ่นวาย แต่จะถูกจุ้นจ้านจากคนอื่นอยู่ร่ำไป ข้าพเจ้าหวังความจริงใจ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ข้าพเจ้าเท่านั้นที่ให้ไปโดยไม่ได้สิ่งนั้นกลับมา

เตือนใจตัวเอง
ความซวยของข้าพเจ้า คือการรักคนอื่นมากเกินไปทั้งที่เค้าไม่ได้อะไรกับตัวข้าพเจ้าเลย




New Comments
[Add meichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com