กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
4 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
ร่ายยาวเรื่องหมอๆ ของมิวมิว เด็กจิ๋ว

อัพเดทเรื่องราวเกี่ยวกับหมอ ของ ด.ญ. มิวมิว ถึงจะไม่ป่วย แต่ก็เดินสายหาหมอ พอควรเลย ไม่มีหมอประจำ ไปหาที่เขาว่าดีๆๆ คุยกับหมอหลายๆ คน เผื่อจะได้ไอเดีย ได้แรงจูงใจ ได้ความเห็นต่างๆ กันไป

ตั้งแต่ตัวจิ๋วๆ ฉีดวัคซีน ก็ไปหาที่ รพ. กรมชลแถวบ้านบ้าง..(แน่นอน ใช้เส้นลัดคิว เพราะ ไม่มีปัญญาถ่อไปเอาบัตรแต่เช้าอะ) รพ. น บนถนนงามวงศ์วานบ้าง เอาสะดวก

รพ. รัฐ ข้อดีคือ ถูกกกกก..วัคซีนที่มันควรจะฟรี ก็ฟรี เสียค่าใช้จ่ายทีก็ 3-4 ร้อย มั้ง แต่ หมอไม่ให้คำปรึกษาดีเท่าที่ควร เพราะคนเยอะ เด็กเยอะ รอกันเยอะ ทำงานกันเป็นหุ่นยนต์ฉีดยาเลยว่ะคะ

รพ. น แพงหมดทุกสิ่งอัน แถมรอนานได้อีก..แถม เราไม่ได้เลือกหมอ ไม่มีหมอประจำ หมอคนที่เขาว่าดีๆ กันก็รอนาน เจอหมอตรวจแบบขอไปที ฉีดวัคซีน คำปรึกษาไร ก็ตอบแบบว่า เอ่อออ...เซริชหาในเน็ทเอายังรู้เยอะกว่าเลยหมอ

ต่อมา พอไม่สบายเป็นส่าไข้ หาคลินิกแถวบ้าน หา รพ. น. ดูท่าจะไม่หาย
ย่างเข้าวันที่ 5 เจ้ามิวนอนนิ่งไม่ไหวติง หมดแรงขนาดหนัก ซีดเกิ้น เลยเลือกไป รพ. B แถวสีลม โดนเจาะเลือด เจอหมอ หมอก็อธิบายโน่นนี่นั่น เกี่ยวกับธาลัสซีเมียและพาหะ ที่ต้อง follow up เพิ่มมา
เคยพาไปหาตอนกลางคืนฉุกเฉินเนื่องจากหกล้มปากเจ่อ ก็ได้หมอฉุกเฉินทั่วไป และก็คิดว่า ถ้าเกิดต้อง admit หรือไรขึ้นมา รพ. นี้คงไม่ใช่ทางเลือกของบ้านเราแน่ๆ กัวจะหมดเนื้อหมดตัว
ที่ผ่านมาพามิวมิวไปหาประจำคือ หมอฟันเด็ก ซึ่งก็โอเค แฮปปี้ หมอน่ารัก ใจดี แต่ ราคาเทียบกับข้างนอก ก็...เกือบจะ 2 เท่า หาครั้งละพันกว่า เพื่อเคลือบฟลูออไรด์ เอ็กเรย์ฟัน ก็รวมๆละเกือบสองพัน

จากนั้น..กลับมาเซริชหา เกี่ยวกับเรื่องธาลัสซีเมีย ว่ามีหมอที่ไหนโอเค มีแล็บพร้อม หรือสามารถเจาะเลือดส่งผลแล็บได้ แล้วดูโอเค ก็เลยได้ นวบุตรมา

หาที่นวบุตร ฉีดวัคซีนและอื่นๆๆ ราคา ไม่ถูก ไม่แพง ไม่ต้องรอนานมาก ถ้าไปวันธรรมดา (ถ้าเสาร์อาทิตย์ ก็นานตามระเบียบ) คนไม่พลุกพล่านมีแต่คนป่วยเหมือนที่ รพ. เพราะเป็นคลินิกเด็ก แยกออกมาเฉพาะ หมอใจดี น่ารัก ให้คำปรึกษาดีมากก ทั้งเรื่องตัวเล็ก ธาลัสซีเมีย และอื่นๆ
หมอให้รอ จนกว่า เจ้ามิว จะ นน.เพิ่มขึ้นหน่อยค่อยเจาะเลือด ซึ่งที่ผ่านมาก็เกาะเส้นล่างสุดมาตลอด หมอก็ยังโอเค ไม่เร่งรัด ไม่ push ให้เรานอยด์ ว่าต้องไปทำโน่นทำนี่เพิ่มเติม แค่บอกว่า ถ้าไม่สบายใจ ก็ไปตรวจเลือดเรื่องตัวเล็กก็ได้ แต่เท่าที่หมอดู ยังไม่จำเป็น เพราะ นน.ขึ้นตามเกณฑ์ของเด็กตัวเล็ก

แต่ก็ยังไม่วาย ด้วยความอยากรู้...มีเพื่อนแนะนำ เกี่ยวกับหมอเรื่องระบบต่อมไร้ท่อ และเมตาบอลิซึ่ม ของเด็ก เราก็ไปอีก ที่หมอรพ. พ2 พหลโยธิน
หมอเก่งมาก ตรวจละเอียด และให้คำปรึกษาดีมากก ในแง่มุมต่างๆ ของการเป็นเด็กตัวเล็ก ตามที่เคยอัพบล็อค อันนี้ แต่เราก็ยังไม่ได้พามิวไปเจาะเลือดตรวจสักที ทั้งไม่ว่างบ้าง แอบคิดในแง่ดี เข้าข้างตัวเองไปเรื่อยๆว่า รอดูอีกหน่อย(เผื่อจะไม่เสียตังค์) เขาว่าเด็กไป รร.แล้วจะกินเยอะ กินตามเพื่อน โน่นนี่นั่น ซึ่ง ที่ผ่านมา 3 เดือนจากการไป รร. มิวมิว น้ำหนักขึ้นมา เกือบ 1 กิโล ชั่งล่าสุดนี่ 10.8

ยัง..ยัง..เยอะได้อีก หาเรื่องเสียเงินหาหมอได้ตลอด

มิวมิวไปหาหมอเฉพาะทางโรคข้อและกระดูก เพราะ แม่สังเกต และมั่นใจ ว่ามันเดินผิดปรกติแน่ๆ เมื่อไม่นานมานี้ ที่ รพ. วิชัยยุทธ คุณตาหมอดิเรก ซึ่งใจดีม๊ากกกกกก แต่ก็รอคิวนานม๊ากกกกกกกกกก แต่ก็คุ้มค่าแก่การรอนั่นแหละนะ ข้อดี คือ จอดรถง่าย เดินทางสะดวกลงทางด่วนถึงเลย ที่สำคัญคือ ราคา สมเหตุสมผล ไม่แพงมาก เข้าขั้นถูกเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะค่ายา บุคลากร และบริการดีมาก (จนต้องขอเอ่ยชื่อ รพ. ปรกติ จะไม่ค่อยโฆษณาให้ใครฟรีๆ นะ 55555)
มิวมิวไปหาคุณตาหมอทีแรก เสียไป 500 บาท ค่าปรึกษาและอื่นๆ
ไปหาครั้งที่สอง เสียค่ารองเท้าให้ช่างทำรองเท้าไป 1000 บาทถ้วน เข้าพบหมอ ตรวจเท้า ลองรองเท้า เสียไป 78 บาท!!

ล่าสุดแต่ยังไม่ที่สุด เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มือเท้าปาก กลับจากเพชรบูรณ์เย็นๆค่ำๆ สองทุ่มแล้ว ตัดสินใจว่า ไปหาหมอเลยดีกว่า จะได้รู้ว่าเป็นอะไร ควรจะไป รร. ไม๊ ได้ข่าวว่ามีหมอเด็กผลัดเวรประจำกัน 24 ชม. ดีจัง ไปถึงคุณหมอเด็กยังอยู่ รอไม่นาน ได้หาเลย คุณหมอใจดี น่ารัก ให้คำแนะนำที่ดี ถึงแม้จะไม่ใช่หมอประจำของเรา (แต่มารู้ที่หลังว่าเป็นหมอประจำของลูกเพื่อน หากันประจำ) แต่ สงสัยใกล้เลิกงานหมดเวร หมอเลยขี้เกียดพูดไรมาก ถามก็ตอบไปงั้นๆ เราเลยยังรู้สึกเฉยๆ คือ จะไม่ชอบหมอที่ตรวจๆๆ บอกว่าเป็นอะไร แล้วก้มหน้าเขียนๆๆ ปิดแฟ้ม เสร็จ เชิญออกจากห้องอะ(ที่ผ่านๆ มาก็เจอแบบนี้เยอะมากกกกก)...คือ ขอโอกาสซักถาม นึกคำถามตั้งตัว ชวนหมอคุยหน่อยก็ยังดี เบ็ดเสร็จเสียค่าหมอค่ายาไป 5 ร้อยมั้ง ได้ยาลดไข้ แก้อักเสบ แก้ไอมา ยาชาไว้กินเวลาเจ็บคอกินอาหารไม่ได้

1 อาทิตย์ผ่านไป จำเป็นต้องไปขอใบรับรองแพทย์เพื่อกลับไป รร.อีกครั้ง จะถ่อเข้าเมืองไปก็ใช่ที่ ถ้าพูดถึงคลินิกหมอเด็กแถวบ้านเรา มีหมอดังๆ นะ แต่รอคิวยาวมากกกกมหาโหด ชนิดที่เรียกว่า 2 ทุ่ม ร้านหมอปิดไฟ แต่ก็ยังมีคนไข้ตกค้างนั่งรอกันเป็นแพ หน้าตึกแถวอีกบานตะไท เราเคยพามิวไปหา 1 ครั้ง ตอนเย็น โทรไปนัดตั้งแต่บ่าย โอเปเรเต้อเริ่มรับสายนั่นแหละ ได้คิวแบบท้ายๆ อะ พอไปหาจริงๆ แล้วเฉยๆ หมอมีอายุ และคงวินิจฉัยโรคเก่งด้วยประสบการณ์ แต่ไม่มีปฎิสัมพันธ์ไรกะคนไข้เลย คงเพราะคนเยอะมากกก ราคาก็ไม่แพงมาก 3-5 ร้อย จำไม่ได้ แต่ประเด็นคือยาหมอค่ะ..ยาหมอ สำหรับเด็ก 1 ขวบตอนนั้น
กินขนานละ 5 cc ประมาณ 3 ขนาน T-T แม่เจ้าอยากจะร้องไห้ เด็กเล็กๆ จับกินยาก็ยากอยู่แล้ว นี่ ตั้ง 5 cc จบไปขนานเดียวก็แทบบ้า กินไปอ้วกไป กินได้ ไม่กี่วัน โยนทิ้งโลด ลำบากชีวิตเกิ๊น

ดังนั้นแค่ใบรับรองแพทย์ เราเลยเลือกไปสมิติเวชคลินิกแถวบ้าน เพราะใกล้ เพราะพี่แจงบอกว่าดี ไม่แพงมาก ค่าหมอ 200 บาทเอง เทียบกับ รพ. น ประมาณ 350 บาท
หมอเด็กเข้า 5 โมงเย็น ไปถึง ก็โล่งๆ ไม่มีคนเลย รอทำบัตรแป๊บก่อนตรวจ บอกหมอว่า เป็นมือเท้าปากเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนค่ะ มาขอใบรับรองแพทย์ หมอตรวจๆ แบบสนุกๆ ขำๆ ล่อหลอกเด็ก แล้วบอกว่า โอ๊ยยยย มือเท้าปากอะ หายตั้งนานแล้ว ที่เป็นน่ะ เป็นหวัด ว่าแล้ว หมอก็เขียนใบรับรองแพทย์ว่า "เป็นหวัด ไม่ได้เป็นโรคมือเท้าปาก" อ่าวววว......ซะงั้น แล้ว ที่หยุด รร.มาเป็นอาทิตย์ เดี๋ยวเค้าก็หาว่าหนูเบี้ยวหรอกค่า
แล้วหมอก็บอกว่า ที่นี่มีวัคซีนครบนะ มาฉีดได้ ปรกติหาที่ไหนล่ะ บลาๆ
เราก็ชวนหมอคุยไปเรื่อย หมอก็คุยไปเรื่อย ไปๆมาๆ หมอก็เข้าที่วิชัยยุทธประจำเหมือนกัน ตรวจเด็กมา 30 ปีแล้ว โอววว เม้าส์กันยาว
เราถามเปรียบเทียบราคา ระหว่างที่นี่ กับ รพ.สมิติเวชใหญ่ หมอบอก แน่นอน คลินิกถูกกว่า ค่าตรวจ และค่ายา
เราถามว่า แล้วคลินิกนี้ กะวิชัยยุทธล่ะ หมอบอก ที่นี่ค่ายาจะแพงกว่า วิชัยยุทธ ถูกกว่าอีก เป็นรพ.ที่ค่ายาถูกมากกกก

ถามเรื่องมิวมิวตัวเล็ก..เราเล่าให้หมอฟังหมดเลย เรื่องที่เลือดจากตอนไม่สบาย เรื่องธาลัสซีเมีย หมอบอก โอ๊ย ปรกติ ดูดิ ฉลาดจะตายชัก ไม่ต้องห่วงเลยคุณแม่ ตรวจเด็กมา กว่า 30 ปี แบบนี้น่ะ ปรกติ กินน้อยแล้วไม่อ้วน ถ้ากินเยอะแล้วผอมนี่ดิ ผิดปรกติ ตัวก็ไม่ซีด ปรกติมากกกกกก ไม่ต้องกังวลเดี๋ยวอีกหน่อยก็กินเยอะเอง อาจจะเป็นเด็กโตช้าก็ได้ กิน ใช้ ขับถ่ายออกหมด ไม่เหลือเก็บ ส่วนเรื่องธาลัสซีเมีย หมอบอก ถ้าเป็นก็คงเป็นพาหะ ยังไม่ต้องตรวจก็ได้ ทั้งหมดที่เราอยากตรวจ รอไว้ถ้ามีกรณีไม่สบาย แอดมิท รพ.เมื่อไหร่ค่อยตรวจให้หมดแล้วให้ประกันจ่ายทีเดียว ไม่งั้น ก็อยู่ไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ โล่งไปอีก

ที่ถาม นี่เราก็ไม่ได้กังวลไรมากนะ แต่แบบอยากรู้ว่าหมอแต่ละคนจะมีแนวความคิดเหมือนหรือแตกต่างกันยังไงบ้าง
เราเห็นพ่อแม่แต่ละคนชอบมาตั้งกระทู้เรื่องลูกตัวเล็กๆๆๆ ซึ่งอันที่จริงแล้ว เทียบกับเจ้ามิวมิว...มันคนละเรื่องกันเลยอะ


สุดท้าย..แต่ยังไม่ท้ายสุด เราพามิวมิวไปหาคุณหมอเฉพาะทางพัฒนาการเด็กตามพี่หนึ่งแนะนำ รอคิวมาจะ 2 เดือน เพราะที่ได้ยินมาคุณหมอคิวยาวมากกกกกกกกกก คนไข้เยอะมากกก และใส่ใจกับคนไข้มากกกก ไปหาทีนึง แต่ละเคส ไม่ต่ำกว่า 1 ชม. เราก็ยังว่า นานจริงจัง เราจะมีอะไรให้ตรวจขนาดนั้นเลยหรอ

เปิดประสบการณ์ กับคุณหมอนิตยา ตะลึงตึ่งตึ่ง ตะลึงตึงตึง.....อิชั้นล่อไป 1 ชม. 40 นาที นานมาก นานจริงนานจัง..วันนั้น หมอตรวจคนไข้ 2 เคส แล้วกลับบ้าน เอิ๊กกกกกก เสียตังค์ไป 1500 ไม่รวมค่าวิตามิน

คุณหมอถามอาชีพ lifestyle พ่อแม่ เลี้ยงลูกเองไม๊ บลาๆๆ เปิดแฟ้มประวัติ จากนั้น ก็ดูลักษณะทางกายภาพมิวมิว สิ่งที่โฟกัสคือ อาการตัวอ่อน (ต่อเนื่องจากหมอดิเรก) อ่อนจริงอ่อนจัง...หลังจาก check point ทุกจุด เช่น ข้อต่อนิ้วเท้า นิ้วมือ แขน ขา สรุปได้ว่า เจ้ามิว ตัวอ่อนม๊ากกก (เพราะกรรมพันธ์แม่เป็นหลัก พ่อนิดหน่อย รวมๆ กันเลยได้ไปเยอะ หมอตรวจทั้งพ่อทั้งแม่ด้วย) ข้อต่อยืดหยุ่นเยอะม๊ากกก จนออกแนวหลวม ต้องระวังห้ามเล่นเหวี่ยง ดึงแรงๆ อาจจะหลุดได้ ผิวหนังยืดหยุ่นปานกลาง
หลังจากให้คะแนนทุกจุด ก็เข้าขั้นว่าเป็น Benigh Hypermobilty Syndrome ฟังดูเว่อๆ น่ากัวเนอะ เรียกให้ไฮโซไปงั้นแหละ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีผลอะไรมากมายกับชีวิตเท่าไหร่ เราๆ ท่านๆ ก็พบเจอคนแบบนี้ทั่วไป พวกที่พับนิ้วลงมาได้แบบชีลๆ คนที่ฉีกแข้งฉีกขา ทำท่าทางประหลาดๆ ได้


ประเด็นคือ คนประเภทนี้ กล้ามเนื้อจะต้องทำงานมากกว่าคนปรกติ เพื่อให้เคลื่อนไหวได้ในลักษณะเดียวกันกับคนปรกติ เขียนหนังสือก็จะจับปากกาผิดๆ เขียนแล้วเมื่อยไว เขียนไม่สวย เดินมากก็จะล้า เล่นกีฬาก็จะเมื่อยง่าย โดยที่เจ้าตัวเองอาจจะไม่รู้สาเหตุ ว่าทำไม ถึงทำได้ไม่เหมือนเพื่อนหรือคนทั่วไป เพราะมันเป็นความผิดปรกติที่น้อยมาก โอววมิน่า ที่ผ่านมา พละเกรด 2 ตลอดเลยกรู

แต่ ถ้าคนพวกนี้ ผ่านการฝึกฝน ในทางที่ถูกต้อง เช่น การสร้างกล้ามเนื้อในจุดที่สำคัญ หมอบอกว่า สามารถชนะคนปรกติได้โลดๆ เช่น นักกีฬายิมนาสติก และอื่นๆ

อีกอย่างนึงที่ป้าหมอบอกคือ เราไม่ได้ concern เกินเหตุ แต่เราหาและรู้สาเหตุและรู้ทางแก้ไว้ เพื่อที่จะได้เข้าใจจิตใจเค้า ในเวลาที่ อาจจะทำได้ไม่เหมือนคนอื่น ช่วยสนับสนุน และไม่ทำให้เสียความมั่นใจ /กำลังใจในภายภาคหน้า

หมอก็แนะนำวิธีการฝึก และสร้างกล้ามเนื้อ สำหรับเด็ก เพื่อเตรียมพร้อมให้เหมาะกับการเรียนรู้ เช่น ออกกำลังนิ้ว และมือ เพื่อจะได้จับและเขียนหนังสือได้อย่างถูกต้อง การออกกำลังกล้ามเนื้อขา เพื่อที่จะวิ่ง เล่นกีฬา และปั่นจักรยานได้ (ไว้ค่อยเขียนถึงทีเดียว) อย่างไม่เจ็บตัว

พัฒนาการอื่นๆ ปรกติ ไปถึงดีมาก มิวจับดินสอได้ แต่ไม่ถูกเพราะมือไม่มีแรง แต่วาด ลากเส้นได้ดี วงกลม และอื่นๆ จินตนาการก็โอเค ในห้องหมอนี่มันเล่นซนเว่อๆ สมมติว่าพื้นห้องหมอเป็นน้ำ บันไดเตียงคนไข้เป็นท่าน้ำ มีเรือแล่นผ่าน โน่นนี่ หมอยังงงๆ ขำๆ ช่างพูดช่างเจรจา ว่าง่าย เข้าใจเหตุผล ให้ทำไรทำ

เรื่องตัวจิ๋ว หมอให้เปลี่ยนสัดส่วนการกินอาหาร จากปรกติ คาร์โบ:โปรตีน 4/1 เป็น 3/1 เพิ่มโปรตีนเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
และ ให้กินพวกเนื้อสัตว์ส่วนที่มีคอลลาเจนเยอะๆ เช่น เอ็น เนื้อน่อง เป็นต้น

แล้วอีก 2 เดือนค่อยมาดูกันว่าเป็นยังไงบ้าง คุณหมอยอมมาเร็วให้ เพื่อที่ว่าจะได้ดูและถ้ามีอะไร จะได้ตามหมอต่อมไร้ท่อมาดูพร้อมกันทีเดียวเลย....

ชื่นชมๆ ความใส่ใจ และการเอาใจใส่คนไข้ และการ cooperate ของหมอและเจ้าหน้าที่ ในรพ. ดีอะ

สุดท้ายนี้...ง่วงแล้ว ไปนอนล่ะ ว่างๆ คลิ๊กผู้สนับสนุนค่าหมอมิวมิว มุมบนขวาด้วยนะจ๊ะ ฮิฮิฮิ มีอะไรหนุกๆ ให้อ่านเยอะดีเหมือนกัน ลองดู (โฆษณากันเยี่ยงนี้เลย 555)



Create Date : 04 กันยายน 2553
Last Update : 4 กันยายน 2553 11:00:29 น. 15 comments
Counter : 7564 Pageviews.

 
แกนี่จัดหนักเหมือนกันนะเนี่ย เอ้า คลิกๆ แล้วเข้ามาคลิกในบ๊อกลิงด้วยนะ (หาค่าหมอค่าของเล่นกันต่อไป กร๊ากกกก)


โดย: Jeban วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:3:04:24 น.  

 
เข้ามาลงชื่อไว้ก่อน...

เด๋วไปซื้อกับข้าวแร๊วเข้ามาอ่านแบบละเอียด


โดย: บ้านสามออ วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:7:22:02 น.  

 
ดีจังค่ะ เขียนเรื่องลูก ๆ ไว้อีกหน่อยก็กลายเป็นไดอารี่เล่มโต ๆ ให้แกอ่านได้เลยนะคะเจ๊หลีว่า


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:7:53:12 น.  

 
ว่าจะพาลูกไปหาหมอเหมือนกันคะ ขอบคุณมากนะคะ ได้ความรู้มากมายเลย

ปล. เดี๋ยวตามไปคลิ๊กบล๊อกมี๊จีนต่อ กร๊ากกกกกก


โดย: som IP: 118.175.2.18 วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:8:41:32 น.  

 
เพิ่งได้เข้ามาอ่านบล๊อกนี้ครั้งแรก

โห..น้องเจอคุณหมอมาเยอะจริงๆ ค่ะ แต่คุณแม่เล่าได้สนุก อ่านเพลินเลย

น้องสาวก็เป็นโรคนี้เหมือนกันค่ะ แต่วินิจฉัยได้ตอนโตแล้ว เพราะข้อเข่าหลุดบ่อยมาก..เดินๆ ก็หลุด เอี้ยวตัวเร็วๆ ก็หลุด



โดย: แม่พิน - Coffeelover IP: 96.35.161.199 วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:11:28:02 น.  

 
พึ่งไปหาหมอพัฒนาการมา เลยถามหมอว่า เด็กสามขวบครึ่ง ทำไรได้บ้าง เดียวจะมีเรื่องกล้ามเนื้อตรงนิ้วโป้งแหละ ฝึกสนุกๆๆๆ เดียวหาภาพประกอบแล้วจะเอาไปลง blog น่ะ

วิชัยยุทธยาถูกกว่าคลีนิคอีกหรอ สุดยอด วันก่อนไปคลีนิค เอายาแก้แพ้มาอย่างเดียว ค่ายา 70 บาท ลดอีก 10%


โดย: kizz_j IP: 125.27.48.173 วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:12:27:01 น.  

 



โดย: หน่อยอิง วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:17:08:36 น.  

 
ไปหาหมอเยอะเหมือนกันเนาะ....
เป็นอีกคนที่กังวลเรื่องลูกไม่โต ก็เพราะว่าตอนคลอดออกมาฮาน่าตัวโตมาก 95 เปอร์เซนต์ไทล์ได้ แต่แล้วยิ่งเลี้ยงยิ่งลด เดือนถัดมาไปวันลดลงเหลือ 75 % 2 เดือนต่อมาไปหาหมอลงอีกเหลือ 50% และ 6เดือน เหลือ 30% ยิ่งเลี้ยงยิ่งลดลงจนหมอเริ่มสั่งวิตามินมาให้กินก็ไม่เวิร์คเท่าไหร่ ต้องเจาะเลือดตรวจว่าเป็น Anemia รึเปล่าด้วย ปรากฏว่าเลือดจาง ร่างกายขาดธาตุเหล็ก ต้องเสริมไป 2 วีค แล้วมาเจอโรคเกลียดนมอีก ไม่กินนมอะไรเลยไปเกือบๆอาทิตย์เครียดมากเพราะเหมือนเลี้ยงลูกไม่ดี ยิ่งเลี้ยงยิ่งหด ตอนนี้พยามยามคิดว่าคงเป็นกรรมพันธุ์ เพราะแม่ตัวเตี้ยมาก พยายามไม่เครียดเมื่อเค้าไม่กินแล้ว ตอนนี้คนที่ 2 ก็ดูๆอยู่ เพราะตอนแรกๆก็ฟูกลัวจะหดเหมือนคนพี่


โดย: แมว catcompany IP: 69.225.137.239 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:4:09:54 น.  

 
เข้ามาอ่านกันอย่างจิงจัง แระจิงใจ...

อ่านกันทุกตัวอักษร อืม ความรู้แน่นปึ๊ก...

ถ้าบ้านเราไปอยู่ในกทม. หาหมอที จนแน่ ๆ 555

หลานเรา เดือนก่อนไม่สบายเข้า ร.พ แถว บ้านมิวมิวเหมือนกันมั้ง...

รพ.น อยู่ รพ. 6 วัน ค่าเสียหาย ร่วมแสน กร๊ากกกกกกก จาเป็นลม


โดย: บ้านสามออ วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:14:07:10 น.  

 
จิงๆ เราหาหมอไม่เยอะนะ หาตามสมควร คือ ฉีดวัคซีน แต่แค่หาไม่ซ้ำที่เท่าไหร่

เจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไม่ค่อยจะหา เพิ่งจะมีไปรร.นี่แหละ มันป่วยบ่อยม๊ากกกก หาหมอบ่อยกว่าปรกติ

จิง รพ.แถวบ้านเราอะ โดยเฉพาะ รพ. น เอาเข้าจิงๆ แพงกว่าพญาไท และอีกหลายๆ ที่อีก จะบร้าตาย รอนานบริการ so so


โดย: กุ๊ดจัง วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:15:29:24 น.  

 
แวะมาอ่าน ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ


โดย: iamnerisa วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:22:32:28 น.  

 
อ่านแล้วก็มีบางอย่างที่คิดเหมือนกัน ตัวกิ่งเองถ้าไปหาหมอแล้วถามคำตอบคำ หรือบอกอาการลูกแล้วยิ้มๆ ประมาณว่าหมอรู้ (แต่เราไม่รู้) ก็จะไปครั้งเดียวเกินพอ เพราะคิดว่าหมอก็น่าจะเข้าใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ อธิบายให้ฟังหน่อยว่าลูกเป็นไรเนอะ
ส่วนเรื่องเท้าดีดี ก็ยังไม่ได้พาไปหาหมอเลยค่ะ นั่งวินิฉัยเองอยู่เนี้ย ว่าลูกเป็นป่าวน๊า แต่ภาพที่มี๊เกดให้ดูนี่ แม่กิ่งทำได้หมดเลยอะ จะไปถึงลูกไหมน๊า แต่ก็รู้อย่างนึงที่เราลายมือไม่สวยนี่เพราะอะไร
ขอบคุณมี๊เกดสำหรับข้อมูลดีดี นะคะ


โดย: OneDeeK วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:9:51:36 น.  

 
อ่านเพลินจิง ๆ (จนเม้นผิดเม้นถูกเลยเนี่ยย)

อืมม แต่ไม่ลืมไปจิ้มให้แล้วน่ะค่ะ

แกงค์แม่วัวเนี่ยย เค้ามีดีเยอะจิง ๆ จ้า ^^


โดย: แม่น้องพราว IP: 61.90.111.112 วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:20:50:09 น.  

 
กด Like ให้ได้ป่ะคะ blog นี้ ...


ไปจิ้มข้างบนให้แทนเนอะ


โดย: Thee-T'sMom วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:14:00:47 น.  

 
อ่านเรื่อง Benigh Hypermobilty Syndrome แล้วรู้สึกว่าเป็นเหมือนกัน ทำได้ทุกเบอร์ในรูปเลยค่ะ เบอร์ห้านี่นิ้วก้อยสามารถติดหลังแขนได้เลยอีกต่างหาก พละเลยพอผ่านเหมือนกัน เวลาจดเลคเชอร์ก็เมื่อยมาก จับปากกาไม่ถูกนี่ใช่เลยค่ะ เวลาเขียนนานๆ จะเจ็บมาก ลายมือก็ไม่สวยเลย เคยมีคนขอยืมเลคเชอร์ไปซีร็อก ไม่เคยหวงเลย แต่บอกเค้าก่อนว่าลองอ่านก่อนนะ สุดท้ายเผ่นทุกราย แหะแหะ เพิ่งรู้ว่าเป็นเพราะงี้เองก็อายุปูนนี้แหล่ว ขอบคุณนะคะที่เขียนบล็อคให้ความรู้เยอะเลย แต่ไม่เป็นไรนะคะคุณเกด ยุคมิวมิว เอาโน้ตบุ๊คไปจดเลคเชอร์แล้วเนอะ


โดย: ยุ้ยค่ะ IP: 35.11.56.90 วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:13:06:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.