|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปู่ตาคร้าบ...ทายไข่ผมหน่อย !!!
แรกเริ่มเดือนสาม...
ไม่ใช่เดือนมีนาคมตามแบบสากล แต่เป็นการนับทางจันทรคติ แบบขึ้น-แรม ซึ่งหลายๆ คนอาจหลงลืม ไร้จินตภาพต่อเรื่องเหล่านี้ หรืออาจแค่รางๆ เลือนๆ เมื่อนึกถึงความรู้จากบรรทัดหนังสืออย่างสะเปะสะปะ
ณ มุมหนึ่งของชุมชนแถบอิสาน เราจะยังคงได้ยินพ่อแก่แม่เฒ่านับรอวันพระ ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำ รวมทั้งสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการปฏิบัติต่อรีตคลองประจำถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการทำกุ้มข้าวใหญ่ -บุญข้าวจี่ ประเพณีสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย การบูชาแถนหรือบุญบั้งไฟ ประเพณีสาร์ทเลี้ยงผีบรรพชน รวมทั้งการไหว้ปู่ตาที่เป็นรากวัฒนธรรมดั้งเดิม ก่อนที่ “พุทธ” ศาสนามหาชนจะแผ่กระจายไปตามซอกมุมต่างๆ ของประเทศนี้
หัวทะมวง ตำบลงิ้ว อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งยังคงถูกเบ้าวัฒนธรรมโบราณหล่อหลอมให้พวกเขาปฏิบัติชีวิตมากด้วยสีสัน สะท้อนผ่านพิธีกรรมความเชื่อรุ่นแล้วก็รุ่นเล่า
ดังเช่นการไหว้เสี่ยงทายไข่ที่ศาลปู่ตาประจำหมู่บ้านของผู้คนแถบนี้ก็เช่นกัน พวกเขาเหล่าชาวบ้านจะรู้กันโดยทั่วไปว่าพุธแรกของเดือน ๓ จะต้องเตรียมต้มไข่ครอบครัวละ 1 ฟอง เทินมาบนข้าวสวยร้อนๆ คนละจาน ส่วนหัวหมู เหล้า ยาซอง และเครื่องดื่มอื่นๆ มักจะเป็นงบส่วนกลางที่เรี่ยรายกันซื้อมาเพื่อให้ครบองค์ประกอบเครื่องเซ่นไหว้
“เดือน ๓ เลี้ยงไข่ พอเดือน ๖ ก็ต้มไก่มาเลี้ยงตาปู่ จัดใหญ่กว่านี้มีการจุดบั้งไฟ มีการสาดน้ำขึ้นบนหลังคาศาลสนุกๆ กว่านี้” แม่เฒ่าเล่าพลางหิ้วตะกร้าไข่เบียดขึ้นศาลไป
ควันธูปลอยคลุ้งออกมาจากศาล บนนั้นมีคนแก่คนหนึ่งนั่งทำหน้าที่จุดธูปเทียนปากบ่นพรำ เชื้อเชิญตาปู่มารับของไหว้ แกคือ “เฒ่าจ้ำ” ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างชาวบ้านกับตาปู่นั่นเอง
หลังจากที่รินเหล้าขาวครบ ๓ หน แกก็หยิบไข่เป็ดที่แกเตรียมมาออกมาปอกเสี่ยงทายทิศทางของดินฟ้าอากาศ ดูความอุดมสมบูรณ์ของพืชผล เพื่อจะบอกกล่าวแก่ชาวบ้าน
ไข่ที่ปอกผมมองเห็นว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แกพินิจพลิกดูครบทุกด้านแล้วบอกว่าไข่ตรงกลางมแหว่งเว้าเสียรูปนิดหน่อย นั่นแสดงว่าช่วงกลางปีฝนจะต้องแล้งอย่างแน่นอน
“บ่เป็นหยังดอก วันนี้ทายไข่ เดือนหกหาไก่มาเสี่ยงทายอีกที” พ่อเฒ่าจ้ำบอกให้กำลังใจขณะที่ชาวบ้านเริ่มมีเสียงบ่นซุบซิบพรึมพรำ
หลังจากเสี่ยงทายไข่เฒ่าจ้ำเสร็จทีนี้ล่ะก็จะเป็นการเสี่ยงทายรายหัว ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย ต่างก็อยากลุ้นอยากรู้ว่าไข่ที่ตนเองต้มมาจะหน้าตาสวยสดงดงามแค่ไหน
“พ่อใหญ่ไข่ข้อยเป็นจังได๋” “ของข่อยเดล่ะเป็นจังได๋” “ไข่ข้อยงามๆ พ่อใหญ่ทายให้แหน่”
“อ้าวทายให้ข้อยก่อนน๊า” พ่อบ้านกลางคนหยิบไข่ใหญ่ยื่นมือยาวๆ ไปต่อหน้าเฒ่าจ้ำ ท่ามกลางสายตาค้อนๆ ของพวกแม่บ้านที่ไม่ค่อยกล้าส่งเสียงดังเท่าใดนัก ดี ดี ดี ส่วนใหญ่แล้วแกจะทายให้กำลังใจ ซึ่งทุกคนก็ต่างหอบรอยยิ้มกลับบ้าน นึกถึงปีหน้าฟ้าใหม่ และฤดูการทำนาครั้งใหม่
ผมมองหน้าขึ้นบนฟ้า ฟ้าที่คลุมทุกผู้คนเท่าๆ กัน แต่คนนี่ซีคิดต่อฟ้าต่างกัน ชาวหัวทะมวงมองและคาดหวังต่อความอุดมสมบูรณ์ของฤดูทำนา อยากให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
คนเมืองที่มีชีวิตในโลกทุนนิยมเต็มรูปอาจคิดต่อฟ้าต่างไปจากนี้... แต่หากให้ผมมองผมรู้สึกเจ็บปวดเสมอเมื่อเห็นสังคมอุตสาหกรรมบดขยี้สังคมเกษตรกรรมอย่างไร้ทางสู้
ผมไม่อยากสต๊าฟพวกเขาไว้เพื่อเป็นสินค้าการท่องเที่ยวหรอกนะ แต่คิดห่วงถึงความเท่าเทียมกันทางการเมือง ในการบอกความต้องการตัวเอง สินค้าทางการเกษตรของพวกเขาจะยืนอยู่ในสถานะใดท่ามกลางสินค้าที่เบียดชิงสถานะบนชั้นวางซุปเปอร์มาเกตทุนข้ามชาติ
ความรู้และความคิดต่อโลก-ชีวิตของคนสองสังคมระหว่างเกษตรกรรมดั้งเดิม กับทุนนิยมต่างกันเหลือเกินครับ ขึ้นอยู่กับเราจะปฏิวัติดัดแปลงสังคมอย่างไร โดยไม่ทิ้งให้อีกฝ่ายเป็นผู้ช่วงชิงผลประโยชน์ก้อนโตไปครอง และอีกฝ่ายก็เป็นเหยื่อไปชั่วนาตาปี
ศานติ เพียงใจ / ๑๑ ค่ำ เดือน ๓ ขาลศก ๒๕๕๓
Create Date : 26 มกราคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 26 มกราคม 2553 17:52:36 น. |
Counter : 1339 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|