ลูกเจี๊ยบไม่สบาย เป็นไข้สูง
หลังจากงานวันลอยกระทงที่โรงเรียน วันรุ่งขึ้นลูกก็มีงอแงไม่อยากไปโรงเรียนอีก แต่ก็ไปจนได้ มีวันศุกร์ที่ดิ้นมากจนไม่ได้ไป และวันศุกร์ปากลูกเจี๊ยบก็มีแตก น่าจะเพราะอากาศหนาว ตอนแรกนึกว่าจะเป็นอย่างอื่นแต่ดูแล้วไม่ใช่ ก็เลยทายาสีม่วงไป และวันศุกร์ลูกเจี๊ยบก็เริ่มไอ ห่าง ๆ
เช้าวันเสาร์ สาย ๆ หน่อย ก็ยังมีไอ แล้วก็เริ่มมีไข้ยังไม่สูงมากก็ให้กินพาราไป สรุปวันนี้ทั้งวันก็ยังมีไข้ขึ้น ๆ ลง ๆ ทุก 4 ชม มีไข้สูงไม่มากประมาณ 38.2 และยังมีไอห่าง ๆ ก็กินพารา กับ เฟลมเม็กซ์แก้ไอ แต่พอคืนวันเสาร์ ไข้ขึ้นสูง ก็เลยให้กินยาลดไข้สูงด้วย แต่ไข้ลดลงไม่มาก เลยต้องปลุกเช็ดตัวกันไปหลายรอบ ก็ทุลักทุเล เพราะลูกเจี๊ยบไข้ขึ้นก็อยากจะนอน แต่แม่ก็ปลุกมาเช็ดตัว ร้องเจ็บ ๆ แต่แม่ก็ต้องเช็ด เพราะไข้สูงจริง ๆ คืนนั้นแม่ก็ไม่เป็นอันนอน ต้องปลุกให้ลูกเจี๊ยบกินยา กับคอยวัดไข้เพื่อปลุกมาเช็ดตัว ไข้ลงไม่มาก เหมือนไข้ลอย ๆ จะวิ่งอยู่ที่ 38 ซะส่วนใหญ่
เช้าวันอาทิตย์ตอนเช้าลูกเจี๊ยบยังกินข้าวต้มได้นิดหน่อย ให้กินยาพาราตามเวลา แล้วก็พาไปหาหมอกัน ตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเจอหมอคนไหน เพราะเคยเจอมาหลายคน ที่ชอบมากมีอยู่ 1 คนเป็นหมอผู้ชายแต่จำได้ว่าหมอบอกว่าไม่ได้ลงเวรวันเสาร์อาทิตย์ ไปถึงพยาบาลก็ชั่งน้ำหนักได้ 15.2 กก วัดไข้โดยใช้ปรอทหนีบใต้รักแร้ได้ 38.2 ก่อนออกจากห้องแม่ก็ชวนลูกเจี๊ยบวัดส่วนสูงซักหน่อย ก็วัดได้ประมาณ 104.5 ซม.
หลังจากนั้นก็นั่งรอกันหน่อยเป็นเรื่องปกติ รอประวัติ ส่วนคุณหมอแม่ถามพยาบาลบอกว่าคุณหมอมาแล้ว ระหว่างรอก็ประมาณ 10-15 นาที แม่ก็ไม่เห็นมีคนไข้ออกมาจากห้องตรวจ ซักพักเห็นมีคนเอาเอกสารซึ่งน่าจะเป็นประวัติของลูกเจี๊ยบมาส่ง แต่พยาบาลก็ยังไม่เรียกชื่อซักที อีกพักนึง ก็เห็นหมอผู้ชายคนที่ชอบเดินมา โอ้ แม่กับพ่อดีใจกันมาก ๆ เลย ลูกเจี๊ยบก็คงดีใจด้วย เพราะลูกเจี๊ยบก็ชอบหมอคนนี้เหมือนกัน เพราะหมอคนนี้ไม่เคยใช้ที่กดลิ้นกดเลย
พอเข้าไปเจอหมอ แม่กับพ่อก็ผลัดกันเล่าอาการ หมอก็วิเคราะห์ให้ฟัง ถามอาการต่าง ๆ เพิ่มเติม ตรวจดูคอ พยาบาลกำลังจะส่งไม้กดลิ้นให้หมอ แต่หมอไม่รับ หมอย่อตัวลง ส่องไฟไปที่ปากลูกเจี๊ยบ คอยบอกให้ลูกเจี๊ยบแลบลิ้นอีกนิด ๆ ลูกเจี๊ยบก็ให้ความร่วมมือดี หมอบอกคอเริ่มแดงเล็กน้อย ประเด็นหลัก ๆ ที่สงสัยคือไข้สูงลอย ซึ่งสรุปในตอนแรกว่า อาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หรืออีกโรคที่ไม่ค่อยพบมากนักคือคาวาซากิ เนื่องจากลูกเจี๊ยบมีอาการปากแห้งด้วย หมอเลยตัดสินใจขอตรวจเลือด ซึ่งหมอบอกว่า การตรวจในกรณีเป็นไข้แค่วันสองวัน อาจจะไม่ชี้ชัดนัด แต่อาจจะเห็นแนวโน้มบางอย่างได้ ก็เลยเจาะเลือดดูซักนิดดีกว่า
หลังจากนั้น พยาบาลก็ให้รอหน้าห้องฉีดยาซักพัก ก็พาลูกเจี๊ยบไปส่ง ตอนแรกนึกว่าจะให้คุณพ่อช่วยจับเหมือนตอนฉีดยา แต่พยาบาลเชิญคุณพ่อคุณแม่ออกนอกห้อง ก่อนออกพยาบาลอุ้มลูกเจี๊ยบให้นอนลงบนเตียง พูดหลอกล่อเด็กได้ดีเหมือนกัน และเอาสายรัดรัดต้นแขนไว้ เอาผ้ามาคลุมขาเหมือนจะห่อตัว ตอนแรกแม่นึกว่าลูกเจี๊ยบจะไม่ยอม จะดิ้น แต่พี่พยาบาลก็พูดหลอกล่อกันไป และดูลูกเจี๊ยบก็ทำตามอย่างว่าง่าย
จากนั้นแม่ก็ไม่เห็นอะไร ออกมายืนรอลุ้นอยู่หน้าห้อง เงี่ยหูฟังเสียงร้อง แต่ก็ไม่ได้ยิน แป็ปเดียวคุณพ่อก็เข้าไปอุ้มลูกเจี๊ยบออกมา ตาแดง ๆ หน่อยแต่ไม่ร้อง พยาบาลก็ชมกันใหญ่ พ่อกับแม่ถามลูกเจี๊ยบว่าเจ็บมั้ย ลูกเจี๊ยบบอกไม่เจ็บ (สงสัยตอนนั้นเห็นว่าพยาบาลก็อยู่ด้วย แอบมาบ่นทีหลังว่าเจ็บ 55) แค่นี้ก็เก่งมาก ๆ แล้ว หลังจากนั้นก็พาอุ้มเดินเล่นไปมา เพราะต้องรอผลประมาณ 30-45 นาที แต่เราก็รออยู่ประมาณ 20 นาทีเอง ผลก็มา แล้วเราก็เข้าไปพบคุณหมออีกครั้ง
คุณหมอดูผลเลือดอธิบายค่าเกล็ดเลือด ดูแนวโน้ม ก็ปรากฎว่าค่าอยู่ตรงกลาง ๆ พอดี เลยไม่มีแนวโน้มจะเป็นอะไรซักอย่าง มีแต่เม็ดเลือดขาวที่แสดงให้เห็นว่ามีเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้คอเริ่มแดงตอนตรวจตอนแรก หมอเลยคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรมาก ให้ยาแก้อักเสบมา ยาแก้ไข้สูง ยาระบาย ซึ่งหมอบอกว่าลูกเจี๊ยบไม่อึมา 3 วัน การกินน้ำน้อย ก็อาจเป็นสาเหตุที่ไข้ไม่ยอมลงได้ แม่มีขอเพิ่มยาทากันปากแตกของเด็ก หมอก็สั่งให้ด้วย แล้วเราก็กลับบ้านกัน รถติดเล็กน้อยเพราะมีรถมาตลาดนัดกันเยอะมาก
หลังจากกลับจากหาหมอลูกเจี๊ยบก็ไข้ขึ้น ก็เลยเริ่มให้กินยากัน แต่ไข้ก็ยังไม่ลงมากนัก มีจับเช็ดตัวเป็นบางครั้ง พอตอนบ่ายกินนม เลยให้กินยาฆ่าเชื้อไป หลังจากนั้นก็วัดไข้ มีต่ำกว่า 38 บ้างแล้ว แต่พอครบ 4 ชม แต่ลูกเจี๊ยบหลับก็เลยปล่อยให้พักบ้าง ไข้เลยสูงอีกต้องกินยาลดไข้สูงอีก แล้วก็หลับไป ส่วนใหญ่ลูกเจี๊ยบก็จะหมดแรงกินนมได้บ้าง แต่ขอกินน้ำแล้วก็หลับซะส่วนใหญ่ แม่ก็คอยวัดไข้ปลุกให้กินยาและเช็ดตัวเป็นพัก ๆ ลูกเจี๊ยบก็มีอ้วกไป 2 รอบ รอบแรกจะมีนมออกมาบ้าง รอบหลังมีแต่น้ำซะส่วนใหญ่เลย
ดูเหมือนหลังจากอ้วก ลูกเจี๊ยบก็ดีขึ้นนิดหน่อย ร้องขอกินข้าวต้ม ก็เลยให้นั่งป้อน ลูกเจี๊ยบก็กินไปได้ไม่ถึง 10 คำ ก็บอกพอ แม่ก็พอทันทีกลัวจะอ้วกออกมา แต่ลูกเจี๊ยบก็ไม่อ้วกแล้ว พอกินข้าวเสร็จซักพักก็พาขึ้นห้อง ไข้ลูกเจี๊ยบก็ยังมีลอย ๆ บ้าง การกินยาลดไข้สูงกับพาราไม่ค่อยเป็นไปตามเวลามากนัก เพราะลูกเจี๊ยบจะหลับเป็นส่วนใหญ่ คุณพ่อก็สงสารอยากให้งีบบ้าง เพราะเวลากินยา เวลาเช็ดตัวก็ร้องกันแบบหมดแรง แม่ดู ๆ ว่าไข้ไม่ค่อยลดมาก ก็เลยคิดว่าสงสัยยาฆ่าเชื้อออกไปกับอ้วกด้วยมั้ง ก็เลยตัดสินใจให้กินยาแก้อักเสบอีกครึ่งช้อน กะ ๆ เอา แล้วอีกซักพัก ก็กินพาราด้วย คืนนี้เราเปิดแอร์กันที่ 29 องศา จากที่ปกติจะเปิด 28 กะว่าให้ร้อนให้เหงื่อออกน่าจะดี กินยาลดไข้สูงไปตอน ทุ่มครึ่ง ยาแก้อักเสบตอน 2 ทุ่ม กินพาราตัวสุดท้ายไปตอน 3 ทุ่มครึ่ง
ก็ดูเวลาว่าต้องกินยาลดไข้สูงอีกครั้งตอน 5 ทุ่มครึ่ง แม่ก็งีบ ๆ ไปบ้าง วัดไข้ตลอด พอซัก 4 ทุ่มไข้ก็เริ่มลด ลูกเจี๊ยบมีเหงื่อออกชุ่มหมอนเลย วัดไข้ได้ต่ำกว่า 37 เลย แม่เลยลงไปปรึกษาคุณพ่อว่าต้องปลุกมากินยาลดไข้สูงตามเวลาอีกมั้ย คุณพ่อก็บอกว่าในเมื่อไข้ไม่สูงก็ไม่ต้องปลุกแล้ว ดูแนวโน้มแล้วไข้น่าจะไม่สูงแล้ว เดี๋ยวคุณพ่อจะดูให้อีกทีตอนเที่ยงคืน แม่ก็งีบ ๆไปได้นิด ๆ หน่อย ๆ พลิกตัวก็คอยลุกมาวัดไข้ทีนึง แล้วก็ดีใจ ไข้ลดลงจนปกติเลย คืนนั้นแม่ก็ลุกมาวัดเป็นระยะตามเวลาที่ยาพาราครบกำหนด ก็ไม่มีไข้ตัวเย็นเลย ก็เลยปล่อยเลย
พอซักตีสองครึ่ง ลูกเจี๊ยบก็มีลุกเหมือนละเมอขึ้นนั่งแม่ก็ลุกมาดู เห็นหน้าตาสดใสขึ้นแล้ว แม่ขอเปลี่ยนเสื้อก็ยอมให้เปลี่ยนเพราะมันเปียกเหงื่อเยอะเลย แม่ก็จิตตกกันเหนียวไหน ๆ ตื่นมาแล้ว ลองชวนกินพารากันอีกซักที ลูกเจี๊ยบก็ยอมกินโดยดี คงสบายเนื้อสบายตัวแล้ว ลูกเจี๊ยบชวนแม่ลงมานอนข้าง ๆ แม่ก็ลงมานอนถึงแม้จะนอนไม่ค่อยสบายนักแต่ก็สบายใจไปเยอะแล้ว แต่นอนไปซักพักเกือบเช้าแม่ก็ลุกขึ้นไปนอนบนเตียงตามปกติ หลับเป็นงีบ ๆ ซะมากกว่า
เช้าวันจันทร์แม่กับพ่อก็ตัดสินใจว่าจะลางาน รอดูอาการกัน ลูกเจี๊ยบก็ตื่นมาคนแรกเลย คึกแต่เช้า เล่นโน่นเล่นนี่เหมือนปกติเลย แม่ก็ให้กินยาแก้อักเสบต่อ แล้วก็ยาแก้ไอ ต้องหามุขให้กิน ก็คือเทยาไว้แล้วเดินหายไปทำอะไรก็ได้ กลับมายาที่วางไว้ก็จะหมดถ้วย แล้วแม่ก็จะทำท่าตื่นเต้น ลูกเจี๊ยบก็บอกว่ามีแมวกินยาไปแล้ว สนุกกันไป
ตอนเช้าลูกเจี๊ยบมีน้ำมูกเล็กน้อยเลยให้กินยาลดน้ำมูกไปด้วย สายหน่อยคุณพ่อก็ชวนไปส่งของไปรษณีย์ ตอนแรกลูกเจี๊ยบร้องจะไปกินข้าวมันไก่ที่คาร์ฟู แต่พ่อก็ชวนไปลองร้านใหม่หน้าหมู่บ้านแทน ก็ขับเข้าไปจอด แล้วเดินลงไปสั่งกัน ลูกเจี๊ยบก็ดูชอบบรรยากาศร้าน มีมองไปรอบ ๆ เห็นมีบ้านติดจานแดง ซึ่งลูกเจี๊ยบกำลังเห่อ รีบชี้ให้แม่ดูใหญ่เลย
กลับมาก็ให้ลูกเจี๊ยบกินดู ลูกเจี๊ยบบอกอร่อยกว่าที่คาร์ฟูอีก แม่ก็รีบเสริม ๆ ไปว่าร้านนี้อยู่ใกล้สะดวกดีด้วย แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะลูกเจี๊ยบยังไออยู่ ไม่ควรกินของทอด ๆ แต่เห็นว่าเพิ่งหายไข้คงอยากกินของโปรดก็ยอม ๆ กันไป วันนี้ทั้งวันลูกเจี๊ยบก็มีไอห่าง ๆ เรื่องไอคงหายยากพอสมควร ตอนบ่ายวัดไข้เหมือนจะมีไข้เล็กน้อย 37.2 แม่ก็เลยให้กินน้ำเยอะ ๆ ดูก่อน วัดอีกทีก็ยัง 37.2 ก็เลยให้กินพาราไปอีกซักทีนึง กันไว้ก่อน หลังจากนั้นก็ไม่มีไข้แล้ว แต่มีอีกอาการที่เกิดจากยาแก้อักเสบคือถ่ายเหลว ลูกเจี๊ยบก็ถ่ายไป 3 ครั้ง ดู ๆ แล้วคาดว่าวันอังคารก็คงจะให้หยุดอีกซักวัน น่าจะดี ยิ่งตอนเย็นได้ยินว่าที่ห้องลูกเจี๊ยบไอกันทั้งห้องเลย
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2551 |
|
16 comments |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2551 8:33:25 น. |
Counter : 919 Pageviews. |
|
|
|
เราเจิมเผื่อเต่าด้วยนะ