ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ลูกเจี๊ยบได้โตขึ้นอีกก้าวหนึ่ง จากเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เล่นอยู่กับบ้านก็ก้าวสู่โลกภายนอกด้วยการเริ่มไปโรงเรียน ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากมายเลย
การไปโรงเรียน
เริ่มจากตอนซัมเมอร์ลูกเจี๊ยบก็คึกอยากไปมานาน เพราะแม่เริ่มบิ้วท์กันตั้งแต่ไปเรียนที่จิมโบรี และคึกอยากนั่งรถตู้เหมือนพี่ ๆ ที่อยู่ในซอยบ้านเดียวกัน ไปเรียนวันแรกก็ไม่ร้องไห้และไม่ร้องตลอดซัมเมอร์เลย แต่การเริ่มไปโรงเรียนก็ทำให้แม่เจอประสบการณ์ที่หลาย ๆ คนเจอกัน นั่นก็คือ ลูกเจี๊ยบไม่สบาย
ช่วงซัมเมอร์ไปเรียนไม่ถึง 10 วันก็ป่วย แล้วก็ลาหยุดจนไปเรียนอีกทีก็สองวันสุดท้ายเลย ช่วงเรียนซัมเมอร์แม่ก็โทรคุยกับครูทุกวันเลยถามความเป็นไป เพราะไม่ได้ไปรับส่งเอง ส่วนมากครูก็บอกว่าไม่มีอะไร
พอเปิดเทอม 1 ลูกเจี๊ยบก็ไปโรงเรียนแบบสบาย ๆ มีโยกโย้เรื่องการอาบน้ำกินข้าวตอนเช้าบ้างนิดหน่อย ส่วนที่โรงเรียนการกินข้าวกลางวันก็กินได้ค่อนข้างน้อย เพราะลูกเจี๊ยบกินอาหารไม่หลากหลาย ส่วนการนอนเปิดไปซักพักก็เข้าที่เข้าทางนอนหลับได้ เทอม 1 มีเวลาเรียนประมาณ 4 เดือนครึ่ง ก็เหมือนเคยคือป่วยเป็นช่วง ๆ รวมแล้วประมาณ 4 ครั้งได้ ก็ตกเดือนละครั้งกันเลย
ส่วนมากก็เป็นหวัด ไวรัสลงกระเพาะ คออักเสบ มีไข้สูงบ้างบางครั้ง ทำให้แม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับยา การเช็ดตัว ต่าง ๆ รวมทั้งจิตตกเวลาไข้ขึ้นตอนกลางคืน คอยวัดไข้ ไม่เป็นอันนอนกันเลย
ส่วนเรื่องการบ้านซึ่งจะมีวันละ 1 หน้า ให้ระบายสีบ้าง เขียนตามจุด โยงเส้น แรก ๆ มีปัญหา มาทำตอนกลางคืนซึ่งลูกเจี๊ยบก็เริ่มหมดแรงง่วงนอนแล้ว ก็เลยงอแงกว่าจะทำเสร็จ คราวนี้เลยเปลี่ยนมาให้ทำหลังจากกลับจากโรงเรียนซึ่งจะยังคึกและอยากทำมากกว่า ปัญหาเรื่องการทำการบ้านก็เลยลงตัว
สำหรับเทอม 2 ซึ่งระยะเวลาการเรียนจะสั้นกว่าเทอมแรกคือประมาณ 4 เดือน ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วสองเดือน ป่วยไป 1 รอบ แต่ป่วยคราวนี้ ไข้สูง กินยาลดไข้สูงก็ยังไม่ลง ลูกเจี๊ยบเลยโดยเจาะเลือดตรวจเป็นครั้งแรก แต่ยังดีเจอพยาบาลหลอกล่อเก่ง ก็ไม่ร้องไห้เลย สรุปก็คงแค่คออักเสบธรรมดา
เทอมนี้มีปัญหาเรื่องรถตู้มารับเช้า แล้วลูกเจี๊ยบก็เลยเครียด ร้องงอแงไม่อยากไปโรงเรียน สรุปเราเลยยกเลิกการนั่งรถตู้ เปลี่ยนมาให้คุณพ่อไปส่งตอนเช้าและคุณย่าไปรับตอนเย็น หลังจากนั้นลูกเจี๊ยบก็ไม่เครียด สนุกกับการลุ้นสีรถแท็กซี่ในแต่ละวัน และเทอมนี้เริ่มมีเพื่อนซี้ชื่อน้องแพร ก็เลยทำให้ยิ่งชอบการไปโรงเรียนด้วยส่วนหนึ่ง
พอไปโรงเรียน เวลากลับมาบ้าน ลูกเจี๊ยบก็จะชอบเล่นสมมติเป็นครูบ้าง การทำกิจกรรมที่โรงเรียน ร้องเพลงมาร์ช ร้องเพลงชาติ สมมติการขึ้นรถตู้ สมมติการไปรับไปส่ง แม่ก็ต้องเล่นด้วย สนุกกันไป
สำหรับการไปโรงเรียนตอนนี้มีแค่ปัญหาเวลามีการจัดงานที่โรงเรียน แล้วให้พ่อกับแม่ไป จริง ๆ แม่ชอบมากที่โรงเรียนให้ผู้ปกครองเข้าไปร่วมกิจกรรมด้วย อยากรู้อยากเห็นเวลาลูกเจี๊ยบอยู่โรงเรียนแล้วก็ได้ถ่ายรูปด้วย แต่.....ลูกเจี๊ยบจะอ้อน ตาแดง ๆ กวักมือเรียก แล้วก็จะอ้อนขอกลับก่อนตลอด ไม่รู้โรคนี้จะหายเมื่อไหร่ ครูประจำชั้นบอกว่าปลายเทอมจะมีงานแสดงให้นักเรียนทุกคนได้รำ ก็คงต้องรอลุ้นกันว่าจะร้องไห้อีกหรือเปล่า
สำหรับงานกีฬาสี ลูกเจี๊ยบได้เป็นนักกีฬาขว้างไกล แต่แข่งไปล่วงหน้าแล้ว ลูกเจี๊ยบได้เหรียญทองแดง ส่วนงานปีใหม่ทางโรงเรียนให้ของที่ระลึกเป็นแก้วเซรามิคมา 1 ใบด้วย
เรื่องเที่ยว
ปีนี้เราไปเที่ยวกันหลายครั้งเลย ครั้งแรกก่อนเปิดซัมเมอร์ ไปหัวหินกันพักกันที่เมธาวลัย ลูกเจี๊ยบชอบสระเด็กของที่นี่มาก มีน้ำพุเป็นต้นเห็ดและไม้ลื่นอันเล็ก ๆ
ทริปที่สองก็ตอนปิดเทอม 1 คราวนี้แอบพักหรูที่ไฮแอทรีเจนซี่ ที่คุณแม่ซื้อเว้าเชอร์ไว้ตั้งแต่ต้นปี ที่พักก็สวยงามสมราคา มีที่เล่นน้ำหลายจุดหลายแบบ ลูกเจี๊ยบก็สนุกมาก และห้องพักของเราก็สามารถเปิดประตูด้านหลังลงสระน้ำได้เลย
ทริปที่สาม เป็นทริปของบริษัทคุณพ่อ พาพนักงานทั้งบริษัทไปมวกเหล็กกัน แต่เราขับรถกันไปเอง ทริปนี้สนุกมาก ได้ไปดูทุ่งทานตะวัน ได้นั่งรถชมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และที่ประทับใจสุด ๆ ก็คือฟาร์มโชคชัย ทัวร์ฟาร์มสนุกมาก แถมไอติมก็อร่อยมาก
2 ทริปสุดท้ายปลายปี เป็นทริปประจำคือไปแม่กลอง ไปไหว้หลวงพ่อบ้านแหลม และไปนครปฐม วัดพระปฐมเจดีย์ กับวัดไร่ขิง ลูกเจี๊ยบก็สนุกสนานดี แต่มีขอเลือกร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งลูกเจี๊ยบก็คึกคักได้ดูแม่น้ำ ได้ดูเรือ ลมพัดเย็น ๆ และพอได้แวะไปให้อาหารปลาก็ได้รู้ว่าช่วงปีใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการให้อาหารสัตว์ สัตว์ต่าง ๆ จะกินกันวันแรก ๆ แต่วันหลัง ๆ จะเริ่มเมินกันแล้ว ก็กร่อยกันนิดหน่อย
สัมภาษณ์ลงหนังสือ
เนื่องจากแม่เขียนไดอารี่และบล็อคมายาวนานมั้ง ทางทีมงานหนังสือบันทึกคุณแม่เลยพีเอ็มมาขอสัมภาษณ์เพื่อลงคอลัมน์ Mom on the blog ตอนเดือน ก.ค. เกี่ยวกับความเป็นมาในการเขียนบล็อค แม่ก็เขียนตอบกลับไปแล้วก็ได้ลงฉบับเดือนสิงหาคม ก็เหมือนจะดังในบล็อคกันไปพักนึง
กิจกรรมวันหยุด
เริ่มจากมีทติ้งบ้านราม หลังจากคุยกันในบ้านรักลูกมานาน บ้านรามก็ได้ฤกษ์นัดเจอกัน เนื่องจากพี่ติ๋มมีบัตรฟรีของคอร์สแบมบี้ ที่แอสคอท ก็เป็นการเจอตัวจริงกันครั้งแรกเลย เด็ก ๆ ก็ซนกันดี มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง มีของว่างให้กินด้วย แล้วหลังจากนั้นก็มีการนัดเจอกันเป็นระยะ ๆ เป็นกิจกรรมการให้อาหารปลาที่หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส เด็ก ๆ ก็ตื่นเต้นชอบกันมาก อาหารปลาหมดไปอย่างรวดเร็ว ให้อาหารปลากันจนท่าน้ำพัง 555 ก็หยุดให้เค้าปรับปรุงกันพักใหญ่
พอปรับปรุงเสร็จสวยงามก็กลับมานัดกันอีก เป็นมีทติ้งครั้งใหญ่เลย มากัน 8-9 ครอบครัว ทะเลสาบเกือบแตกเลย แต่หลัง ๆ เด็ก ๆ ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นกับการให้อาหารปลากันเท่าไหร่ ก็เลยมีการนัดกินข้าวที่ร้านอาหารกันแต่เราไม่สะดวกไปแจมก็เลยไม่ค่อยได้ไป
นอกจากมีทติ้งแล้ว ส่วนใหญ่วันหยุดเราก็หยุดกันจริง ๆ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน มีต้องไปซื้อของที่คาร์ฟู 1 วัน ซึ่งลูกเจี๊ยบก็จะติดใจเมนูข้าวมันไก่ทอดที่ศูนย์อาหาร ไปทีไรก็จะเมนูนี้ตลอด
วันที่หยุดอยู่บ้านกิจกรรมที่ลูกเจี๊ยบชอบทำอย่างแรกคือระบายสี แม่ก็ซื้อมาให้ทั้งตุ๊กตาปูน กับเฟรมภาพ ลูกเจี๊ยบก็ระบายสีสนุกกันไป ซึ่งผลงานระบายสีก็ถือว่าใช้ได้ แต่หลัง ๆ เริ่มเล่นหรือสร้างสรรค์งานแปลก ๆ ไปบ้างก็ศิลป์ไปอีกแบบ 55 นอกจากระบายสีก็จะมีพวกแบบฝึกหัดเสริมทักษะต่าง ๆ ยิ่งถ้าเล่มไหนมีสติ๊กเกอร์ให้ติดด้วย ก็จะชอบมาก เด็ก ๆ กับสติ๊กเกอร์เหมือนเป็นของคู่กัน
ของเล่น
จริง ๆ แล้วของเล่นที่ลูกเจี๊ยบเล่นบ่อยและชอบที่สุดน่าจะเป็นรถเหล็ก และรถทั้งหลาย เป็นเด็กผู้หญิงทำไมถึงชอบเล่นรถก็ไม่แน่ใจ อาจจะเนื่องมาจากหนังเรื่องคาร์ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเล่นได้ตลอดไม่มีเบื่อ ส่วนของเล่นใหม่ ๆ ที่ซื้อให้ปีนี้ ลองนั่งไล่ดูก็จะมี ชุดเตารีด ร้อยเชือก แป้งโดว์ จักรยาน คีย์บอร์ดของเล่น(แลกได้ฟรี) บัตรคำ หนังสือเขียนลบได้ ตกปลาเต่าทอง โดมิโนรูปสัตว์ ตุ๊กตาบาร์บี้ และท้ายสุดชุดแคชเชียร์
ไม่รู้ถือว่าเยอะหรือเปล่า แต่ส่วนมาก็จะทะยอยซื้อให้เป็นระยะ ๆ เพราะบางอย่างเล่นแป็ปเดียวก็หายเห่อ ต้องคอยชวนเอากลับมาเล่นเป็นพัก ๆ นอกจากของเล่นแล้วอีกอย่างที่แม่ซื้อให้ตลอดคือหนังสือนิทาน ซึ่งก็จะเอาไว้อ่านตอนกินนมตอนค่ำก่อนนอนเกือบทุกคืน
สรุป
ณ ตอนนี้ลูกเจี๊ยบก็โตขึ้นกว่าปีก่อนมาก ทั้งด้านร่างกาย ความคิด และการพูดจา เรื่องดื้อเรื่องซนก็มีบ้างเป็นเรื่องปกติของเด็ก ๆ แต่เวลาไม่ดื้อไม่ซน อธิบายอะไรก็เข้าใจได้รวดเร็ว ความจำก็ดีพอสมควร บางเรื่องพูดไปครั้งเดียวนึกว่าลืมไปแล้ว แต่ก็กลับจำได้ การปรับตัวที่โรงเรียนก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่เรื่องขี้อายไม่กล้าแสดงออกก็คงต้องค่อย ๆ สอนกันต่อไป
ปิดท้ายกับคำอวยพรจากแม่
ขอให้ลูกเจี๊ยบมีสุขภาพแข็งแรง มีพัฒนาการสมวัย เรียนหนังสือเก่ง ๆ กล้าแสดงออกเยอะ ๆ
แม่จะเป็นกำลังใจให้เสมอจ๊ะ
คำอวยพรจากพ่อ
ขอให้ลูกเจี๊ยบสุขภาพแข็งแรง เป็นเด็กดี และเรียนหนังสือเก่ง ๆ
มาเจิมให้จ้า