สัญญาณเตือน...ลูกสื่อสารช้า

สัญญาณเตือน...ลูกสื่อสารช้า ในช่วงขวบแรกนี้เด็กๆ จะมีวิธีการสื่อสารของเขาเองเกิดขึ้นแล้ว โดยแต่ละเดือนที่ผ่านไปเด็กน้อยสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาและการสื่อสารในระดับที่ต่างกันตามวัย ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของทักษะการพูด อ่าน เขียน หรือแสดงความรู้สึกต่างๆ และสามารถใช้ภาษาสื่อสารกับผู้อื่นได้ต่อไป


แม้ปกติ เด็กๆ จะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาและการสื่อสารได้ในระดับที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามเกือบทุกคนจะมีพัฒนาการทางภาษาในระดับเฉลี่ยเท่าๆ กัน โดยอาจมีเหลื่อมล้ำกันไปบ้าง เช่น ช้าไปหรือเร็วไปจากค่าเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งอาจไม่ได้เป็นปัญหาเสมอไป แต่การที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตเห็นปัญหาแต่เนิ่นๆ และเข้าไปช่วยกระตุ้นหรือแก้ไขได้รวดเร็วอย่างเหมาะสม ก็ย่อมจะดีกว่าปล่อยไว้เฉยๆใช่ไหมคะ



แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู่สึกกังวลมากอาจจะใช้วิธีปรึกษากุมารแพทย์ประจำตัวลูกตอนที่พาลูกไปฉีดวัคซีน เพื่อให้แพทย์ช่วยให้คำแนะนำ และตรวจดูว่าลูกมีปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านภาษาและการสื่อสารช้าจริงอย่างที่เรากังวลหรือไม่ก็ได้ค่ะ



อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นพ่อแม่สามารถสังเกตลูกได้ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด โดยอาศัยตารางสัญญาณเตือนต่อไปนี้


ลูกมีพัฒนาการและการสื่อสารช้า..หรือเปล่า


4-6 เดือน
อายุ 4 เดือนแล้วยังไม่สนใจ ไม่หันหาเสียงที่พ่อแม่เล่นด้วยหรือทำขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ 6 เดือนยังไม่หัวเราะ หรือส่งเสียงออกมาจากลำคอ เมื่อมีคนเล่นด้วย


8-10 เดือน
อายุ 8 หรือ 9 เดือน แต่ยังไม่ส่งเสียงใดๆ หรือแสดงอาการ ท่าทางใดๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่อายุ 9 เดือนยังไม่ส่งเสียงพูดอ้อแอ้ หรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาใดๆ ออกมาเลย


อายุ 10 เดือน
หนูน้อยยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อมีคนเรียกชื่อในช่วงอายุ 9 หรือ 10 เดือน หนูน้อยยังไม่มีการแสดงอารมณ์ หรือแสดงอาการใดๆ เพื่อให้พ่อแม่รู้ว่าตอนนี้หนูกำลังมีความสุข หรือกำลังทุกข์ใจ


12 เดือน
ยังใช้ลักษณะท่าทางที่เป็นสัญญาณต่างๆ ไม่เป็น เช่น โบกมือหรือสั่นหัวยังไม่สามารถใช้คำที่เป็นพยัญชนะได้อย่างน้อยสองพยัญชนะ เช่น เด็กส่วนใหญ่จะพูดพยัญชนะ ม และ ป คือพูดคำว่ามามาและปาปาได้แล้ว
อายุ 12 เดือนแล้วแต่ยังไม่เคยสื่อสารให้พ่อแม่รู้เลยว่าต้องการความช่วยเหลือ เช่น ไม่แสดงอาการว่าอยากให้พ่อแม่เล่นด้วย ไม่แสดงอาการว่าอยากให้พ่อแม่เอื้อมหยิบของเล่นที่อยู่สูงๆ ให้



หมั่นสังเกตและคอยกระตุ้น



จากข้างต้น คุณพ่อคุณแม่ลองตรวจดูสิคะว่ามีช่วงไหนที่ลูกของเราช้ากว่าเกณฑ์บ้างหรือไม่ ถ้าช้าจริงต้องเข้าไปกระตุ้นอย่างเหมาะสมให้ทันท่วงทีค่ะ

สิ่งสำคัญในการตรวจสอบดูว่าลูกช้าจริงหรือไม่ พ่อแม่ควรจะสังเกตลูกอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาการไม่เท่ากัน การที่ลูกของเราอาจจะมีพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าเด็กข้างบ้าน ไม่ได้หมายความว่าลูกของเรามีพัฒนาการช้าเสมอไป (หากลูกเป็นเด็กปกติที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ความพิการทางร่างกาย หรือสติปัญญา) เด็กที่มีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตปกติ ถ้าได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม มีพ่อแม่ที่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงเวลาเขาจะมีพัฒนาการด้านการสื่อสารและภาษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามศักยภาพที่มีอยู่

บทบาทของพ่อแม่ก็คือเป็นผู้กระตุ้นพัฒนาการด้านนี้ให้กับลูกอย่างเหมาะสม ซึ่งหัวใจสำคัญก็คือ พ่อแม่ต้องมีการสื่อสารกับลูกอย่างสม่ำเสมอ สำหรับเด็กวัยขวบแรกนี้การสื่อสารที่ได้ผลดีที่สุดคือ การเล่นกับลูกนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นนานาชนิด การพูดคุย ร้องเพลง หัวเราะ ส่งเสียงในแบบต่างๆ กับลูก เล่านิทานให้ลูกฟัง อ่านหนังสือให้ลูกฟังล้วนเป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารให้กับลูกได้ทั้งสิ้น

แต่ถ้าค้นพบหรือสงสัยว่าลูกมีพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารช้าจากอาการผิดปกติทางร่างกายหรือสติปัญญา เช่น หูอาจจะไม่ได้ยิน สายตาที่มองเห็นไม่ชัด หรือระดับสติปัญญาต่ำกว่าปกติ ควรปรึกษากุมารแพทย์ประจำตัวของลูก เพื่อให้กุมารแพทย์ตรวจอย่างละเอียดว่าลูกมีปัญหาจริงหรือไม่ ถ้ามีจะได้แก้ไขที่ต้นเหตุนั้นๆ ไปพร้อมๆ กับการกระตุ้นพัฒนาการไปด้วย

สรุปก็คือถ้าอยากให้ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารที่ดี พ่อแม่ก็ต้องมีการสื่อสารกับลูกอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง และยิ่งเป็นการสื่อสารด้วยความรัก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูกด้วยความรัก ลูกก็จะสื่อสารตอบกลับมาด้วยความรักให้พ่อแม่ได้อิ่มเอิบใจเช่นเดียวกันค่ะ

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2553		0 comments
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2553 15:25:57 น.
Counter : 612 Pageviews.
Share Tweet