บวชเรียนนานกว่า 13 พรรษา ชีวิตผ่านมาฝ่าเหน็บหนาว วันนี้ฝนฟ้าพรายพร่างพราว อีกกี่สิบหนาวแสนยาวไกล ลาสิกขามาหลายฝน มาเป็นคนไม่ค่อยเอาไหน หนึ่งชีวิตไม่มีอะไร เก็บงำสิ่งที่ได้ไว้เตือนตน...
Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
แม่จ๋า...อย่าร้องไห้ ตอนที่ ๑๑ รักร้อย..รอยอาลัย


“หนาน ป้อจายฝั่งปู้นเปิ้นเสียแล้วเน้อ น้าบัวหลั่นเอิ้นบอกมา”

พี่สาวบอกกับน้องชายให้รับรู้ถึงการเสียชีวิตของฝ่ายชายที่ครั้งหนึ่งทั้งคู่เคยเรียกว่า “พ่อ” ในฐานะพ่อน้า เพราะ “พ่อ” ที่แท้จริงนั้นทิ้งแม่ไปนานแล้ว ทิ้งไปตั้งแต่ทั้งคู่ยังไม่เดียงสา

“อย่างที่เปิ้นเล่ากันแท้ หนานเหย ว่าป้อจายที่ติดโรคนี้ จะเสียก่อนแม่ญิง” พี่สาวออกความเห็นขณะเหลือบไปมองแม่ที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมเปรยแทบจะกระซิบว่า “แล้วเฮาต้องบอกแม่โตยก่อ”

“บอกเทอะปี้เหย ถ้าปี้บ่กล้าบอก เดวผมจะเป็นคนบอกแม่หื้อเน้อ”

น้องชายซึ่งดูเหมือนจะใจแข็ง และเข้าใจธรรมชาติของการใช้ชีวิต เข้าใจสัจธรรมได้ดีกว่า เหตุเพราะร่ำเรียนมามาก ครั้งบวชเป็นพระอยู่หลายพรรษา เอ่ยกับพี่สาว พร้อมกับเดินไปนั่งข้างเตียง จับมือผู้เป็นแม่มาวางไว้ที่ศีรษะของตัว

หนึ่งนั้นเพื่อดูว่าแม่ตื่นอยู่หรือไม่ สองเพื่อจะบอกเป็นนัยว่า ลูกเทิดทูนแม่ไว้เหนือเกล้าเสมอมา สามอานิสงส์แห่งการถือบวช ปฏิบัติกิจพระศาสนาที่แม่ได้เห็นลูกเณร ลูกพระ ได้เห็นชายผ้าเหลืองโบกสะบัดหลายปีผ่านพ้นนั้น ลูกปรารถนาให้เป็นปัตติทานมัยยกบุญกุศลให้แม่จนหมดสิ้น ให้ทุกข์แม่ผ่อนคลาย ให้เจ็บกายแม่ผ่อนเสี้ยงเน้อ...แม่เน้อ

“เออหนาน หันป้อบอกว่า จะมาเยี่ยมแม่วันพูกนี้นา เปิ้นโทรมาบอกปี้ตะเจ๊า ปี้ก่อลืมบอกหนานไป ก่อดีเหมือนกันเนาะ อย่างน้อยเปิ้นก่อท่าจะกึ๊ดเติงหากันอยู่พ่อง ปี้ว่า”

“พ่อ” ที่พี่สาวเอ่ยถึง หมายถึงพ่อที่แท้จริงของทั้งคู่ ซึ่งเมื่อทราบข่าวว่าแม่ได้รับโรคร้าย ก็ดูเหมือนจะโกรธมาก ไม่รู้ว่าโกรธผู้ชายคนนั้น หรือโกรธตัวเองที่ก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ และนั่นคงไม่มีใครจะรู้ได้ดีไปกว่าตัวของพ่อเอง

“ป้อ ! ฮือ ฮือ” เสียงตะโกนเรียกพ่อ และเสียงร่ำไห้ของพี่สาว ที่โผเข้ากอดพ่อด้วยความยินดี บวกกับความรู้สึกอัดอั้นที่ต้องการระบาย ขณะพ่อเดินมาถึงหน้าห้องคนไข้ ทำเอาผู้คนรอบข้างเบือนหน้า ด้วยไม่อาจสกัดกั้นก้อนสะอื้นที่จุกลำคอ ขณะน้องชายยังท่าทีเรียบเฉย แต่น้ำตาคลอหน่วย

“หื้อป้อได้เข้าไปหาแม่ก่อน แม่อยู่ข้างในแม่นก่อ”

ผู้เป็นพ่อพูดขึ้น ขณะเคลื่อนกายตามพี่สาวไป โดยมีน้องชายเดินตามไปข้างหลังไม่ห่าง

“แม่ ป้อมาหา” พี่สาวเอ่ยกับแม่ที่นอนอยู่บนเตียง เมื่อแม่เห็นหน้าพ่อ ไม่มีคำพูดจาใด มีแต่น้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากแววตาที่น้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งรักทั้งเกลียด ทั้งโกรธขึ้ง พ่อรีบจ้ำอ้าวไปกุมมือแม่ และน้ำตาจากแววตากร้านกรำงานมาค่อนชีวิตของผู้ชายร่างกำยำเส้นเอ็นปูดโปนก็ไหลหลั่ง ยินเสียงสะอื้นอั่กคล้ายปวดรวดร้าวทั้งหัวใจ มือกร้านหยาบที่กุมมือคนที่เคยเป็นภรรยาสั่นเทาประหนึ่งเจตนาสื่อให้รู้ว่า สำนึก และยินดีขอโทษเธอทั้งชีวิตที่เหลืออยู่...

ในภาวะนิ่งงัน ระคนเสียงร่ำไห้ นาทีนั้น เป็นนาทีของความเป็นครอบครัว เป็นนาทีแห่งการได้อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูกสาว และลูกชายเป็นครั้งแรกภายหลังต้องพรากจากกันเป็นเวลากว่า 20 ปี และที่สำคัญมันคงเป็นครั้งสุดท้ายด้วย

ปราศจากถ้อยคำใดใด ทั้งสี่ชีวิตอยู่ในอาการโศกสลด ทั้งตื้นตันตีบแน่นในอก ช่างเป็นละครแห่งชีวิตที่สวรรค์ขีดเส้นเกณฑ์ชะตาให้เป็นไปอย่างน่ารันทดยิ่ง เถอะแม้กระนั้น ถึงจะเป็นช่วงท้ายของชีวิตใครบางคน และแม้ทุกอย่างจะยังคงต้องเป็นไปก็ตาม อย่างน้อยสิ่งที่เบื้องลึกแห่งหัวใจปรารถนาก็ยังได้กรุ่นสัมผัส ในลมหายใจสุดท้าย หากสิ่งที่เพรียกหามาตลอดชีวิตยังเติมเต็มหัวใจได้ แม้ไร้ร่างแต่ความรักความอบอุ่นก็ยังกรุ่นอยู่อย่างนั้นตลอดไป...



Create Date : 01 เมษายน 2551
Last Update : 2 เมษายน 2551 14:28:47 น. 0 comments
Counter : 347 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

proctorray
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Verb to be classic, not born to be!

ถ้าคอเดียวกัน นี่เลย http://classicbikelover.hi5.com
Friends' blogs
[Add proctorray's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.