|
พระจันทร์ร้อยเล่ห์ - 6 - ศึกสะท้านไร่ ๑
ว่ายังไงนะปั้นหยา ตานนท์พาผู้หญิงเข้าบ้านจริงๆ น่ะเหรอ เป็นไปได้ยังไง ตานนท์ไม่เคยสนใจใคร?
เสียงคุณจิตตราร้องลั่นจนปั้นหยาต้องนิ่วหน้า ยกหูโทรศัพท์ออกห่างใบหูเล็กน้อย ก่อนจะแนบเข้าไปใหม่เพื่อฟังอีกร้อยแปดคำถามที่ตามมาแบบถี่ยิบจนแทบฟังไม่ทัน
แต่กระนั้นคนส่งข่าวยังอมยิ้มระรื่นเมื่อปลุกระดมความวุ่นวายใจให้เจ้านายใหญ่ได้สำเร็จ รีบใส่สีตีไข่ข้อมูลให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นเพื่อนำเสนอเป็นรายงานประจำเดือนที่สมบูรณ์แบบและคุ้มค่ากับราคาจ้างวานมากที่สุด
จริงค่ะคุณจิต เห็นว่าชื่อวันจันทร์ คนอะไรชื่อแปลก แต่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้นะคะ เห็นว่าเพิ่งรู้จักคุณนนท์ได้ไม่นาน ปั้นหยาละห๊วงห่วงคุณนนท์ค่ะ กลัวว่าจะโดนหลอก จะว่าไปแล้วเธอก็สวยใช้ได้ทีเดียวนะคะ แต่ท่าทางไม่เบาเลยค่ะ เล่นหูเล่นตากับคุณนนท์จนออกนอกหน้า นี่ถึงขนาดอุ้มกันขึ้นห้องเลยนะคะคุณจิตขา ทำท่ายังกะว่าจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่งั้นแหละ ปั้นหยาละหมั่นไส้นักเชียว อยากให้คุณจิตมาเห็นเองจริงๆ ค่ะ แล้วจะรู้ว่าปั้นหยาไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่คำเดียวเลยนะคะ
ตายแล้ว! ถึงขนาดอุ้มกันขึ้นห้องเลยเหรอปั้นหยา ปลายสายยิงคำถามด้วยน้ำเสียงคล้ายจะเป็นลม
ปั้นหยายิ้มกริ่ม ใช่ค่ะ อุ้มกันขึ้นห้องกลางวันแสกๆ เลยนะคะคุณจิตขา ปั้นหยาว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา คุณจิตต้องรีบมาจัดการนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณนนท์คงเสร็จผู้หญิงคนนี้แน่ๆ ค่ะ
จับตาดูผู้หญิงคนนี้ไว้ให้ดีนะปั้นหยา ท่าทางไม่น่าไว้ใจ ช่วยดูแลตานนท์ด้วย อย่าให้ผู้หญิงคนไหนมาจับหลานฉันได้ ต้องกันท่าทุกวิถีทางเข้าใจมั้ย ฉันเชื่อใจนนท์แต่ไม่เชื่อใจผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น แล้วฉันจะรีบไปตรวจสอบสถานการณ์ จับตาไว้อย่าให้พลาดนะปั้นหยาแล้วรายงานฉันทุกระยะด้วย
คนที่อยู่ไกลครึ่งค่อนโลกในขณะนี้กำชับด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดมาดมั่น
ได้เลยค่ะคุณจิตขา ปั้นหยารับรองว่าจะดูแลความปลอดภัยของคุณนนท์ด้วยชีวิต จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายคุณนนท์ได้ค่ะ ต่อให้คุณนนท์จะเข้าใจปั้นหยาผิดด้วยคำยุยงส่งเสริมของผู้ไม่ประสงค์ดี ปั้นหยาก็จะอดทน ยอมเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณนนท์เพื่อคุณนนท์กับคุณจิตค่ะ สอพลอแล้วก็ลอบยิ้มสมใจ เมื่อได้ไฟเขียวให้กันท่าผู้มาใหม่แบบเต็มสตีม
ดีมากปั้นหยา ไม่ต้องห่วงนะ ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อไป ฉันรับรองว่าจะปกป้องเธอ ไม่ให้ใครมารังแกได้เด็ดขาด
คำยืนยันหนักแน่นของคุณจิตตราทำให้ปั้นหยาสบายอกสบายใจ กรอกเสียงหวานหยดลงไปในคำอำลา ได้ค่ะคุณจิต ปั้นหยาจะทำให้เต็มที่ ขอบคุณคุณจิตมากเลยนะคะที่ไว้ใจปั้นหยามาตลอด ปั้นหยาจะไม่ทำให้คุณจิตต้องผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ
หลังวางสายจากผู้สนับสนุนชั้นเยี่ยมแล้วปั้นหยาก็ระบายยิ้มเจ้าเล่ห์ทั่วใบหน้า นึกถึงวิธีกันท่าสารพัดรูปแบบที่จะนำมาใช้กับแขกสาวสวย เหลือบมองนาฬิกาติดผนังแล้วพบว่าเป็นเวลาใกล้เที่ยงเต็มที แผนกันท่าลำดับที่หนึ่งจึงผุดวาบขึ้นในหัวแบบใสกิ๊ก
พอเขี่ยทุกคนกระเด็นแล้ว ทีนี้ก็จะไม่มีใครมาแย่งบทบาทและความสำคัญของนังปั้นหยาได้ หึๆ
ศศธรกำลังพยายามหาวิธีลงจากเตียงด้วยตัวเองอย่างหงุดหงิดในตอนที่ปั้นหยาเคาะประตูแล้วผลักเข้ามาพร้อมถาดอาหารมื้อเที่ยงที่ยกมาวางบนโต๊ะสี่เหลี่ยมข้างเตียง
อาหารเที่ยงของคุณค่ะ ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว อาหารง่ายๆ หวังว่าคุณคงทานได้นะคะ
หญิงสาวมองหน้าตาอาหารมื้อเที่ยงด้วยสีหน้าหวาดหวั่น อาหารจานนี้รสชาติคงจัดจ้านพอๆ กับสีสันและนั่นทำให้เธอเป็นกังวล เงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วบอกเสียงเรียบ ไม่มีอารมณ์ใดปะปนทั้งในสีหน้าและแววตา ด้วยรู้ดีว่าปั้นหยาไม่ชอบหน้าเธอสักเท่าไร ตัวต่อตัวเธอไม่เคยกลัวอยู่แล้ว แต่ตอนนี้สภาพร่างกายไม่อำนวยให้แผลงฤทธิ์นักก็จำต้องทำตัวดีๆ ไปก่อน
ฉันไม่ชอบทานกะเพราไก่ไข่ดาว มีอย่างอื่นไหม เรื่องอะไรจะบอกว่ากินรสจัดไม่ได้ แบบนั้นเท่ากับเธอบอกจุดอ่อนให้ศัตรูรู้น่ะสิ
คนส่งอาหารชักสีหน้าไม่พอใจเมื่อสาวสวยไม่ยอมเล่นตามเกม บ่นเสียงขุ่น เป็นแค่คนอาศัย เรื่องมาก
สาวสวยฉุนกึกขึ้นมาในทันที
เรื่องมากใช่มั้ย ได้...จัดให้ตามที่ขอ!
ใบหน้าสะสวยเชิดรั้น สองแขนยกขึ้นกอดอกอย่างถือตัว ไปเปลี่ยนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้
ปั้นหยาเม้มปาก กัดฟันกรอด ยกถาดอาหารกลับออกไปด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียด เทข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวที่ตัวเองบรรจงละเลงเครื่องปรุงอย่างตั้งใจให้รสชาติออกมาแปลกหลุดโลกที่สุดลงไปในถังขยะอย่างเจ็บใจ
ถือว่าดวงดีที่รอดอาหารจานนี้ไปได้ แต่วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอก จานที่สองต้องพิสดารกว่า รับรองว่ากินเข้าไปคำแรกแล้วจะไม่อยากกินอะไรอีกเลย หึๆ
ว่าแล้วก็ละเลงปรุงอาหารจานที่สองแบบสุดฝีมือ เรียกว่าทุ่มเทสุดชีวิตเพียงเพื่อจะพบว่า...
ไม่เอา ฉันทานไม่ได้ ไปเปลี่ยนมาใหม่!
ไม่ไหวแล้วนะคุณวันจันทร์ ไอ้นั่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่เอา แล้วตกลงคุณจะกินอะไร เรื่องมากเกินไปแล้วนะ
ปั้นหยาลุกพรวดขึ้น เม้มปาก จิกตา จ้องหน้าแขกสาวของเจ้านายด้วยความไม่พอใจสุดระงับ
หญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ตอบเสียงอ่อนเสียงหวานทั้งที่อีกฝ่ายโมโหจนหน้าดำหน้าแดง ก็ปั้นหยาไม่ถามก่อนนี่ว่าฉันทานอะไรได้บ้าง เดินขึ้นเดินลงหลายรอบแบบนี้เหนื่อยแย่เลยเนอะ คราวหน้าคราวหลังก็หัดถามก่อนสิจ๊ะ จะได้ไม่เหนื่อยเปล่าอีก
สาวใช้วัยยี่สิบต้นกัดฟันกรอด จ้องคนไม่สมประกอบอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เหลือบมองถาดอาหารแล้วเกิดปิ๊งไอเดียสุดเจ๋งขึ้นมาทันทีทันใด
ปั้นหยาหมดปัญญาแค่นี้แหละ วางไว้ตรงนี้นะคะ ถ้าหิวจนทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็เชิญตามสะดวก แต่ถ้าทนได้จะมองเฉยๆ ปั้นหยาก็ไม่รังเกียจที่จะทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าค่ะ
สาวสวยกัดฟัน ข่มใจสะกดกลั้นความโมโหเอาไว้ ฉีกยิ้มร่าเริงตอบโต้ ถ้าปั้นหยาคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะเป็นผลดีต่อตัวเองก็ตามใจแล้วกันนะจ๊ะ ฉันน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่คุณนนท์สิ ถ้ารู้เรื่องนี้แล้วเขาจะว่ายังไงบ้างน้า...
อีกฝ่ายลอยหน้าลอยตาท้าทาย ก็คงไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ ถ้าคุณนนท์รู้ว่าปั้นหยาเดินขึ้นเดินลงเพื่อนำมื้อเที่ยงมาเสิร์ฟให้คุณที่เตียงตั้งหลายรอบแต่คุณไม่กินเอง แล้วปั้นหยาจะทำอะไรได้ล่ะคะ
รอยยิ้มหวานอาบยาพิษผุดพรายแต้มดวงหน้าสวย ปั้นหยาก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกจ้ะ แต่ฉันทำได้แน่ๆ อยากพิสูจน์มั้ยล่ะ
คนถูกขู่เชิดหน้า ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ด้วยรู้ดีว่าตัวเองมีผู้หนุนหลังชั้นเยี่ยมมากแค่ไหน เชิญค่ะ
ว่าแล้วก็เดินปึงปังออกไปจากห้องพักแขกอย่างไม่ยี่หระ
สาวสวยหรี่ตาลึก มองตามอุปสรรคชิ้นแรกของตนด้วยสายตาคาดโทษ
ได้เลยปั้นหยา ถ้าอยากจะมีเรื่องกับว่าที่นายหญิงละก็...แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!
แม้จะรู้สึกกังวลถึงแขกสาวอยู่ไม่น้อยแต่ชานนท์ตั้งใจที่จะไม่ทำตัวสนิทสนมกับเธอมากเกินควรจึงไม่กลับไปกินมื้อเที่ยงที่บ้าน อาศัยร้านอาหารที่เปิดไว้บริการนักท่องเที่ยวแทน เขาจงใจเว้นระยะห่างทางสังคมให้พอดิบพอดีกับระยะเวลาในการรู้จัก
และมากกว่าเหตุผลอื่นใดคือเขาไม่ปรารถนาจะผูกพันกับใครเป็นพิเศษ
ตอนบ่ายชายหนุ่มแวะเข้าไปในเมืองเพื่อดูเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้หญิงสาว เขารู้ว่าเธอมาแต่ตัวจริงๆ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องทำหน้าที่นี้ ของบางอย่างไม่ง่ายต่อการเลือกซื้อนัก แต่ก็พอเอาตัวรอดไปได้ด้วยการขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านนั่นแหละ
เขากลับเข้าบ้านอีกทีเมื่อตอนพลบค่ำ คุณอุ่นเรือนตั้งโต๊ะอาหารเย็นไว้รอท่าเช่นทุกวัน มื้อนี้เขาคงหลีกเลี่ยงการพบปะพูดคุยกับแขกสาวสวยไม่ได้จึงขอให้คุณอุ่นเรือนจัดเพิ่มอีกหนึ่งที่ แล้วขึ้นไปเชิญหญิงสาวมาร่วมมื้อเย็นด้วยตัวเองพร้อมถุงข้าวของที่ซื้อมาให้เธอล้นมือ
เมื่อเคาะประตูห้องพักของแขกสาวสวยสองสามครั้งก็ผลักเข้าไปโดยไม่รอคำอนุญาต ภาพที่เห็นทำให้เขาอดรู้สึกผิดไม่ได้ เธอเอนหลังอยู่บนเตียงกว้างในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ดวงตาหลับพริ้ม ใบหน้าเอนเอียงซบอยู่กับหมอนอิง ท่าทางไม่ค่อยสบายตัวนัก คงไม่ตั้งใจจะหลับในท่านี้
ร่างสูงแทรกผ่านเข้าไปด้านใน คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อเหลือบเห็นแจกันกระเบื้องเคลือบทรงกลมสูงกลิ้งอยู่บนพื้นห้อง น้ำหกกระจายเลอะเทอะเป็นวงกว้างยังไม่แห้งสนิท ใกล้กันนั้นมีดอกกุหลาบสีแดงสดซึ่งเคยปักอยู่ในแจกันถูกทิ้งไว้อย่างไม่แยแส เขาก้มลงเก็บทั้งแจกันและดอกไม้ขึ้นวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงพร้อมข้าวของในมือ
เจ้าของห้องชั่วคราวขยับเปลือกตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย พอเห็นว่าใครกำลังจ้องมองอยู่ก็รีบดีดตัวตรง อาการง่วงงุนหายไปทันตา ทักทายเขาด้วยสีหน้ายินดีจากใจจริง คุณกลับมาแล้ว
ผมเคาะประตูแล้วแต่คุณหลับเลยไม่ได้ยิน
เขาตอบแล้วมองเลยไปที่แจกันกับดอกไม้บนโต๊ะ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ
หญิงสาวมองตาม เมื่อเข้าใจในคำถามก็ปรับสีหน้าเสียใหม่ เปลี่ยนโหมดได้ไวราวกับมีรีโมตคอนโทรลประจำตัว บอกเขาเสียงเศร้า ฝีมือวันจันทร์เองค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ แต่วันจันทร์ลงไปเก็บมันขึ้นมาวางไว้ที่เดิมไม่ได้จริงๆ
แล้วปั้นหยาไปไหนครับ คุณทำเองไม่ได้แต่ปั้นหยาทำได้แน่ๆ
เธอมองเขาด้วยท่าทีตระหนก เมื่อเขามองตอบก็รีบหลบประหนึ่งว่ามีเรื่องที่ไม่อยากบอกให้รู้เก็บงำซ่อนอยู่
ไม่เกี่ยวกับปั้นหยานะคะ วันจันทร์ผิดเอง อย่าตำหนิใครเลยค่ะ วันจันทร์แค่ไม่อยากเป็นภาระใคร อยากทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่า ไม่เกี่ยวกับปั้นหยาจริงๆ นะคะ
ย้ำบ่อยๆ ว่าไม่เกี่ยวกับปั้นหยา แค่นั้นเขาก็คงเข้าใจไปถึงไหนต่อไหน
นี่แปลว่าปั้นหยาไม่ได้ขึ้นมาดูแลคุณอย่างที่รับปากไว้เหรอครับ เขาถามเสียงเครียด
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่ใช่นะคะ ปั้นหยามาดูแลวันจันทร์ค่ะ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ
คุณไม่ต้องแก้ตัวแทนปั้นหยาหรอกครับ ผมรู้จักคนของผมดี เขาไม่สนใจฟังคำแก้ตัวแทนของเธอ นึกโมโหตัวเองที่ยอมให้ปั้นหยาอาสาดูแลหญิงสาวทั้งที่รู้ดีว่าเด็กคนนี้มาอยู่ที่ไร่เคียงดาวด้วยจุดประสงค์ใด
ในจังหวะนั้นปั้นหยาก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องพักแขกอย่างเหมาะเจาะพอดี เมื่อสบเข้ากับดวงตาคมดุของเจ้านายก็ถึงกับคอหดคอย่น หัวใจหล่นลงไปกองที่ตาตุ่มอย่างรวดเร็ว รั้งไว้ยังไงก็ไม่ทัน
คุณนนท์...
ทำแบบนี้ได้ยังไงปั้นหยา ชานนท์ถามเสียงเย็น สีหน้าบอกชัด คราวนี้เขาเอาเรื่องแน่
สาวใช้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เหลือบมองคู่กรณีที่นั่งกอดยก ยักคิ้ว สีหน้ากวนประสาทอยู่บนเตียงอย่างเจ็บใจ คิดว่าอีกฝ่ายฟ้องชานนท์เรื่องที่เธอไม่ยอมทำอาหารมื้อเที่ยงให้แน่ๆ
ดีละ ถ้าแฉกันแบบนี้ เธอก็จะแฉกลับเหมือนกัน!
ปั้นหยาเปล่านะคะคุณนนท์ ปั้นหยาไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน คุณวันจันทร์แกล้งให้ปั้นหยาเดินขึ้นเดินลงตั้งหลายรอบ อะไรๆ ก็กินไม่ได้ ปั้นหยาจนปัญญาที่จะทำอาหารมื้อเที่ยงให้เธอก็เลย...
ชานนท์ตาเหลือก จ้องหน้าปั้นหยาตาดุ ข้อหานั้นร้ายแรงเกินอภัย เป็นผลให้อีกฝ่ายแทบจะจมตัวลงไปในพื้นไม้ สักพักเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบไร้ความเห็นใจ แม้ไม่ได้พูดอะไรมากความ หากท่าทีบ่งชัดที่สุด
นี่แปลว่าคุณวันจันทร์ยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เที่ยง?
ปั้นหยาอ้าปากหวอ หน้าหดเหลือสองนิ้ว เบิกตาจ้องศศธรด้วยความตระหนก
เธอไม่ได้ถูกตำหนิเรื่องนี้หรอกหรือ?
สาวสวยอมยิ้มในหน้า แววตาเยาะเย้ยแกมเวทนา คนร้ายสารภาพเองหมดแล้วโดยที่เธอยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ช่วยไม่ได้ อยากลองของเอง ไม่รู้ซะแล้วว่าเจ้าแม่ดรามาตัวจริงอยู่นี่!
เขาถอนสายตาจากปั้นหยา เหลือบมองถาดอาหารที่ไม่ได้รับการแตะต้องสักนิด ก่อนจะหันมาส่งสายตาขอลุแก่โทษให้แขกสาวพร้อมคำมั่นสัญญาหนักแน่น
ขอโทษแทนปั้นหยาด้วยนะครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมที่สุด
เธอส่ายหน้า ทำตาเศร้า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่าตำหนิปั้นหยาเลย วันจันทร์ไม่ดีเองที่มาเป็นภาระของทุกคน เป็นความผิดของวันจันทร์เองค่ะ
บอกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ อย่างสำนึกผิดแล้วหันไปทำหน้าเห็นใจกับปั้นหยา หากนัยน์ตาเยาะเย้ยอย่างเปิดเผย
โธ่...ปั้นหยา วันจันทร์อุตส่าห์ไม่พูดเรื่องนี้แล้วนะ เฮ้อ...
คงมีแต่ชานนท์เท่านั้นที่คิดว่าสาวสวยพูดออกมาด้วยความเห็นใจสุดซึ้ง เพราะตอนนี้ปั้นหยาโมโหจนควันออกหู มองคู่กรณีตาเขียว กัดฟันข่มใจ พยายามสุดชีวิตไม่ให้ตัวเองกรีดร้องออกมา
ชานนท์มองคนของตัวเองด้วยสายตาคาดโทษร้ายแรง ต่อไปให้ข้าวจี่ขึ้นมาดูแลคุณวันจันทร์แทน ฉันไม่ไว้ใจให้ปั้นหยาทำหน้าที่นี้อีกแล้ว
คุณนนท์... ปั้นหยาครางเสียงแห้ง น้ำตาตกใน ความสำคัญของเธอถูกลดระดับลงฮวบฮาบ
หากวันหน้าแขกสาวสวยได้เป็นนายหญิงของไร่เคียงดาว อนาคตของเธอดับวูบแน่ แล้วถ้าไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเจ้าหล่อนอีกก็จะหาทางเล่นงานได้ลำบาก และนั่นหมายความว่าโอกาสที่หญิงสาวจะได้เป็นนายหญิงของไร่เคียงดาวย่อมมีมากขึ้น เพียงเท่านี้ก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองโดนลงทัณฑ์ด้วยโทษประหารชีวิต แค่คิดก็ชี้ช้ำ!
ชานนท์มองสีหน้าจ๋อยสนิทของปั้นหยาด้วยแววตาหมางเมิน เขาเห็นใจศศธรและคิดว่านี่เป็นความผิดของตัวเองด้วยจึงอยากจะชดเชยความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจด้วยการเอาใจใส่หญิงสาวให้มากขึ้น
ยกนี้ปั้นหยาจึงแพ้ราบคาบ เสียหายยับเยิน!
ฮือๆ คุณแม่บ้านต้องช่วยปั้นหยานะคะ ปั้นหยาโดนรังแก คุณนนท์ไม่ไว้ใจปั้นหยาแล้ว เห็นคนอื่นดีกว่า เชื่อคำพูดคนอื่นมากกว่า ผู้หญิงคนนี้อันตรายจริงๆ คุณแม่บ้านต้องหาทางเตือนคุณนนท์นะคะ ไม่อย่างนั้นถ้าไร่เคียงดาวไปตกอยู่ในกำมือของผู้หญิงคนนี้ เราทุกคนจะเดือดร้อนค่ะ
ปั้นหยาใส่สีตีไข่ให้ร้ายแขกสาวเกินจริงเล็กน้อย
ฮ่าๆ สมน้ำหน้าแล้วนังปั้นหยา อยากเบ่งดีนัก แต่คุณวันจันทร์นี่สุดยอดไปเลยเนาะ ข้อยชักสิมักเพิ่นแล้วละ ฮ่าๆ
ข้าวจี่เยาะเย้ยถากถางอย่างอารมณ์ดี หลังจากนั่งฟังปั้นหยาร้องไห้กระซิกๆ กอดขาคุณอุ่นเรือนร้องขอความเป็นธรรมให้ตัวเองอย่างหมั่นไส้
ปั้นหยาเงยหน้าขึ้นทำตาขวาง ไม่ต้องมาซ้ำเติมเลยนะนังข้าวจี่ แกเห็นคนอื่นดีกว่าคนบ้านเดียวกันได้ยังไง นังคนทรยศ
ข้าวจี่หันขวับ ดวงตาวาววับ ริมฝีปากเตรียมขยับตอบโต้ แต่คุณอุ่นเรือนส่งเสียงดุปรามเสียก่อน
พอแล้ว ทั้งสองคนเลย ฉันละปวดหัว ทะเลาะกันมาตั้งหลายปียังไม่เบื่ออีกเรอะ เดี๋ยวจะผูกให้ตัวติดกันทั้งวันทั้งคืน คอยดูซิจะทะเลาะกันได้ถึงไหน
ฉากเก่าๆ แบบนี้คุณอุ่นเรือนเห็นมานานจนชินตาแต่ยังไม่หายรำคาญใจ
ก็นังข้าวจี่มันซ้ำเติมปั้นหยานี่คะคุณแม่บ้าน แทนที่มันจะเห็นใจปั้นหยา แต่มันกลับเห็นคนแปลกหน้าดีกว่า
ปั้นหยาทำหน้างอ สูดน้ำมูกฟืดฟาด
ข้าวจี่ถลึงตา คันปากยิบๆ อยากสวนกลับใจจะขาด แต่เห็นสายตาคุณอุ่นเรือนแล้วจึงได้แต่ทำท่าทีฮึดฮัดขัดใจไปตามเรื่อง
หยุดเลยปั้นหยา ข้าวจี่ด้วย ไม่ต้องต่อล้อต่อเถียงกัน ฉันปวดหัว ข้าวจี่ขึ้นไปดูแลคุณวันจันทร์แล้วอย่าไปก่อเรื่องให้โดนคุณนนท์ตำหนิเอาอีกล่ะ เธอต้องการอะไรก็หาให้ อย่าให้เธอมาว่าเอาได้ว่าเราต้อนรับแขกไม่ดี เข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่า
ข้าวจี่พยักหน้ารับคำ เข้าใจค่ะคุณแม่บ้าน รับรองว่าข้อยสิบ่ทำให้คุณแม่บ้านผิดหวัง บ่ต้องมานั่งฟังข้อยฮ้องไฮ้กระซิกๆ จังซี่ดอกค่า
ข้าวจี่ทิ้งสายตาเยาะเย้ยให้คู่อริแล้ววิ่งเร็วเต็มฝีเท้าขึ้นไปดูแลแขกคนสวยตามที่ชานนท์มอบหมายหน้าที่ให้
คุณอุ่นเรือนมองตามหลังไปแล้วหันกลับมามองปั้นหยาที่ก้มหน้าร้องห่มร้องไห้อย่างหนักอกหนักใจ นึกถึงใบหน้าสะสวยของแขกสาวที่ปั้นหยากล่าวหาว่ามีมารยาร้อยเล่มเกวียนแล้ว เธอก็ชักจะเอนเอียงไปทางปั้นหยาเล็กน้อย
สาวสวยหัวสมัยใหม่ ท่าทางหยิบจับอะไรไม่ค่อยเป็น ไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย
คุณอุ่นเรือนเห็นว่าแขกสาวของเจ้านายมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบทุกข้อ พอได้ยินที่ปั้นหยาเล่าก็ยิ่งเข้าใจว่าอีกฝ่ายร้ายกาจและเป็นตัวอันตรายต่อผู้เป็นนาย
เธอคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ...
ความจริงคุณนนท์ไม่น่าดุปั้นหยาขนาดนั้นเลยนะคะ วันจันทร์เองก็ผิดเหมือนกัน วันจันทร์ทานอาหารรสจัดไม่ได้ ปั้นหยาเองก็คงไม่รู้ ถ้าวันจันทร์บอกตั้งแต่แรกเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เรื่องวุ่นวายไปหมด
ศศธรบอกเสียงอ่อย ปั้นสีหน้ารู้สึกผิดเต็มที่เมื่อตอนที่ชานนท์วางเธอลงบนเตียงภายในห้องนอนหลังกินมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว
ไม่ดุได้ยังไงครับ ปั้นหยาไม่ควรหยาบคายกับใครแบบนี้ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ผมต่างหากที่ควรขอโทษคุณมากกว่า เขาตอบเสียงเรียบ
ไม่มีเจตนาพูดเอาใจเธอเป็นพิเศษ แต่นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกอย่างแท้จริง ปั้นหยาถูกคุณจิตตราตามใจมากเกินไป ควรต้องดัดนิสัยทำโทษกันเสียบ้าง
แต่วันจันทร์ไม่สบายใจเลยค่ะ ถ้ายังไงคุณนนท์ให้ปั้นหยามาดูแลวันจันทร์เหมือนเดิมเถอะนะคะ ทำแบบนี้ปั้นหยาคงเสียใจแย่ วันจันทร์คิดว่าปั้นหยาไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วละคะ ถือซะว่าให้โอกาสปั้นหยาแก้ตัวซักครั้งนะคะ เพื่อความสบายใจของวันจันทร์ด้วยนะคะคุณนนท์
หญิงสาวขอร้องด้วยน้ำเสียงและแววตาอ้อนวอน
ชานนท์มองเธออย่างไม่เข้าใจ เขาไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีใครใจกว้างและยอมอภัยให้ได้กับทุกสิ่ง แต่เธอกำลังจะทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปจึงอดถามไม่ได้
คุณไม่โกรธปั้นหยาเลยเหรอครับ
เธอยิ้มหวาน ส่ายหน้าเล็กน้อย ไม่หรอกค่ะ วันจันทร์เข้าใจ ไม่ถือสาซักนิดเลยค่ะ บอกเขาไปแล้วก็ก้มหน้าหลบตาเพื่อซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์ให้มิดชิด
นางเอกแสนดีมีอยู่แค่ในละครเท่านั้นแหละ แต่ที่เธออ้อนวอนขอโอกาสให้ปั้นหยามีเจตนาอื่นแอบแฝงต่างหากล่ะ ต่อไปนี้ปั้นหยาจะไม่กล้าหือและต้องตกเป็นทาสรับใช้ของเธออย่างไม่มีทางเลี่ยง ไม่ว่าเธอจะใช้ให้ทำอะไรปั้นหยาก็ต้องทำ ฉลาดล้ำเลิศอีกแล้วนะวันจันทร์!
เขาถอนใจเบาๆ ยืนขึ้นเต็มความสูงขณะก้มมองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มแต้มมุมปาก รู้สึกชื่นชมในความใจกว้างของเธอเงียบๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มสดใสให้ เขากลับเป็นฝ่ายเมินหลบเสียอย่างนั้น พอเห็นถุงข้าวของที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงจึงนึกได้ หยิบถุงทั้งหมดส่งให้เธอรับไปดู
ผมแวะซื้อของใช้มาให้ คิดว่าคุณคงจำเป็นต้องใช้นะครับ
คุณไปซื้อเองเลยเหรอคะ เธอเงยหน้าขึ้นถามด้วยความสงสัยแกมปลื้มใจ ขณะเอื้อมมือไปรับของจากเขา
ชายหนุ่มมองสบดวงตาคู่สวยแล้วถึงกับต้องเมินหลบอีกครั้ง พอดีผมเข้าไปทำธุระในตัวเมืองเลยถือโอกาสซื้อมาด้วย ยังไงวันนี้คุณก็ต้องอาบน้ำนี่ครับ
ขอบคุณมากนะคะ เธอบอกเสียงใส
ก้มดูข้าวของที่เขาซื้อมาฝากจนถึงถุงใบสุดท้ายแล้วพวงแก้มก็แดงจัดพร้อมอาการร้อนผ่าวลามเลียทั่วใบหน้า รีบรวบปากถุงปิดไว้แทบไม่ทันก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ชานนท์เองก็มองเธอสำรวจข้าวของเพลินตาจนมาถึงถุงใบสุดท้าย ตอนนี้ต่างคนเลยสบตากันโดยมิได้นัดหมายแล้วก็หลบตากันไปตามระเบียบ เกิดความเงียบงันขึ้นมาในบัดดล
ผมขอตัวก่อนนะครับ คุณจะได้พักผ่อน
เขาทำลายความเงียบลงด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ มือหนึ่งลูบท้ายทอยแก้เขิน ก่อนจะหันหลังให้หญิงสาวแล้วก้าวยาวๆ ไปที่ประตู
เดี๋ยวค่ะคุณนนท์ เธอรั้งไว้ด้วยน้ำเสียงร้อนรน กลัวว่าเขาจะเดินพ้นประตูไปก่อน
ชายหนุ่มชะงักเท้า หันกลับมาสบตาเธออีกครั้ง
ครับ?
หญิงสาวยิ้มเขินๆ กูดไนต์ค่ะ
เขาปิดประตูลงอย่างเบามือ ย่นคิ้วจนแทบชิดกัน ไม่เข้าใจความรู้สึกประหลาดที่เกิดขึ้นในใจเลยสักนิด เธอเป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายปีที่ทำให้เขารู้จักกับคำว่า เขิน อีกครั้ง
สาวสวยขมวดคิ้ว ก้มลงสำรวจถุงใบสุดท้ายอีกครั้งด้วยสีหน้าพิลึก จะยิ้มก็ไม่ใช่ จะบึ้งก็ไม่เชิง มันก้ำกึ่งกันอยู่และไม่สามารถฟันธงได้ ก่อนที่เสียงหัวเราะสดใสจะดังขึ้นอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนเขินได้น่ารักอย่างเขามาก่อนเลย
ข้าวจี่เคาะประตูห้องพักแขกก่อนจะผลักเข้าไปอย่างเกรงอกเกรงใจ ศศธรมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาฉงน อีกฝ่ายค่อยๆ ก้าวเข้ามาทรุดตัวลงข้างเตียงแล้วทักทายด้วยท่าทีขัดเขินพิลึก
สวัสดีค่ะคุณวันจันทร์ ข้อยชื่อข้าวจี่เด้อค่ะ คุณนนท์ให้ข้อยมาดูแลคุณวันจันทร์แทนนังปั้นหยาค่ะ
ภาษาของข้าวจี่ทำให้คนที่เติบโตมาในต่างประเทศย่นคิ้ว เธอไม่เคยได้ยินภาษาลูกครึ่งแบบนี้มาก่อน แต่ก็พอจะจับใจความได้ด้วยบางคำก็เป็นภาษาไทย แม้สำเนียงจะแปร่งหูไปบ้างก็เถอะ
สวัสดีจ้ะ ชื่ออะไรนะ ฉันฟังไม่ถนัด
อีกฝ่ายยิ้มกว้างจนแทบเห็นฟันครบทั้งสามสิบสองซี่ แม้จะมีปัญหาในการใช้ภาษาราชการของไทยให้แข็งแรง แต่เธอไม่มีปัญหาในการฟังเพราะชอบดูละครหลังข่าวเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่มีทีวีเครื่องแรกเป็นของตัวเองแล้ว
ข้าวจี่ค่า
ข้าวจี่? หญิงสาวทวนซ้ำ
แปลว่าอะไรจ๊ะ ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ข้าวเหนียวปั้นทาไข่แล้วเอาไปปิ้งในเตาถ่านค่ะ แซบอิหลีเด้อค่า เจ้าตัวบอกอย่างภาคภูมิใจ
หญิงสาวหัวเราะคิก รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างก็คุยกันไปตามประสาคนชาติเดียวกัน หากเธอขยันดูละครเสียหน่อยคงชินกับภาษาพื้นบ้านในหลายๆ ภาคของไทยมากกว่านี้ แต่เพราะเธอไม่ได้อยู่เมืองไทยมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่จึงดูรายการต่างประเทศและเลือกดูช่องที่ใช้ภาษาสากลตามความเคยชินมากกว่า
เพิ่งจะมีช่วงที่มาอยู่เมืองไทยไม่กี่เดือนนี้ที่นั่งดูซีรีส์เกาหลีจนตาแฉะและซึมซับเอาคำพูดของตัวละครมาใช้บ้าง ดังนั้นเธอจึงแทบไม่ได้สัมผัสกับภาษาถิ่นของไทยเลย
หลังจากคุยกันไปจนรู้สึกคุ้นเคย สักพักศศธรก็ให้ข้าวจี่ช่วยเหลือในการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนคุยกันจนผล็อยหลับไปทั้งสองฝ่าย
รุ่งเช้าวันใหม่ก่อนออกไปที่ไร่ชานนท์ก็เข้ามาทักทายแขกสาวตามมารยาท หรือหากจะมีเหตุผลอื่นใดมากกว่านั้นเขาก็ยังไม่คิดจะสืบค้นในเวลานี้
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วันจันทร์อยู่ได้ คุณไปทำงานตามสบายนะคะ ไม่ต้องห่วงวันจันทร์ แล้วเรื่องที่วันจันทร์ขอร้อง คุณจะว่ายังไงคะ เธอบอกให้เขาสบายใจ แต่ไม่วายทวงถามถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อคืนนี้
เรื่องไหนครับ เขาจำไม่ได้จริงๆ ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร
หญิงสาวยิ้มแป้น ก็เรื่องที่วันจันทร์ขอให้ปั้นหยาเป็นคนดูแลวันจันทร์เหมือนเดิมไงคะ
เขาพยักหน้าเข้าใจ อ๋อ เรื่องนั้นเอง แต่คุณแน่ใจนะครับ ผมว่าให้ข้าวจี่ดูแลคุณจะดีกว่า หรือว่าข้าวจี่...
ไม่ใช่ค่ะ เธอรีบปฏิเสธร้อนรนแล้วให้เหตุผล
ข้าวจี่น่ารักมากค่ะ แต่วันจันทร์ไม่อยากให้คุณลงโทษปั้นหยาจนเกินกว่าเหตุนะคะ เอางี้ดีกว่าค่ะ ให้ข้าวจี่มาดูแลวันจันทร์ตอนกลางคืน ส่วนปั้นหยาก็ให้มาตอนกลางวัน แบบนี้ดีมั้ยคะ
เขานิ่งคิดอยู่สักพักก็พยักหน้า ตามใจคุณก็แล้วกัน แต่ถ้าปั้นหยาทำเรื่องอีก คราวนี้บอกผมตรงๆ นะครับ ผมจะได้ส่งกลับไปอยู่กับคุณจิตซะเลย
หญิงสาวขมวดคิ้ว จำได้ว่าปั้นหยาเอ่ยพาดพิงถึงบุคคลผู้นี้ผ่านหูแว่วๆ อยู่เหมือนกัน
คุณจิตเป็นใคร แล้วเป็นอะไรกับเขานะ?
ชายหนุ่มเห็นสีหน้างงงันของเธอจึงอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยแต่ไม่ได้ทำให้เรื่องราวกระจ่างมากนัก เขาคิดว่าอีกเดี๋ยวเธอก็คงจากไป ไม่จำเป็นต้องสาธยายเรื่องส่วนตัวให้เธอฟังทุกเรื่องก็ได้
คุณจิตเป็นคนส่งปั้นหยามาคอยดูแลผมน่ะครับ ยังไงผมจะบอกปั้นหยาให้มาดูแลคุณนะ ขอตัวไปทำงานนะครับ
พูดจบเขาก็จากไปโดยเร็ว ไม่เข้าใจตัวเองนัก เพียงแค่คิดว่าหญิงสาวตาสวยคนนี้ต้องจากไปในสักวันก็ทำให้เขาอยากถอยห่างจากเธอให้มากที่สุด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด...
ศศธรมองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยความแปลกใจ รู้สึกได้ทันทีว่าอีกฝ่ายยังไม่พร้อมจะเปิดใจกับเธอในทุกเรื่อง บางทีเขาก็ดูเป็นผู้ชายนิสัยดีน่ารักคนหนึ่ง แต่บางทีเขาก็ดูเป็นผู้ชายลึกลับ เข้าถึงยาก และค่อนข้างระวังตัวจนน่าสงสัย
ดวงตาคู่สวยมองจ้องไปยังช่อบูเก้สีขาวที่ข้าวจี่เอื้อเฟื้อแจกันขนาดพอเหมาะพอดีมาเป็นที่จัดวางให้บนโต๊ะเครื่องแป้ง
ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มเบิกบาน ความอิ่มเอมซาบซ่านในหัวใจเหมือนจะตราตรึงไม่เสื่อมคลาย เธอตั้งใจว่าจะต้องรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาให้ได้ ไม่ว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังความน่ารักนั้น เธอก็พร้อมจะเข้าใจทุกอย่าง
|
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2557 11:10:19 น. |
Counter : 482 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|