แต่บางครั้ง ความสว่างก็เหมือนกับความมืดได้ เพราะมันทำให้เรา เห็น และ ไม่เห็น ได้เหมือนกัน
ยามสว่าง เราจะเห็นทุกอย่างกระจ่างแจ้งชัดเจน แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่เราไม่เห็นเลยนั่นก็คือ ความมืด
และไม่จำเป็นต้องมืดสนิท สิ่งใดก็ตามที่สว่างน้อยกว่าเราก็จะไม่สามารถเห็นได้
เหมือนที่เราไม่เห็นดวงดาวในตอนกลางวัน
ยามมืด เราจะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่อย่างหนึ่งที่เราจะเห็นแน่นอนก็คือ ความมืด
และไม่ใช่แค่ความมืดเท่านั้น เรายังจะเห็นแสงสว่างเล็กน้อย ที่ไม่สามารถเห็นได้เวลาสว่าง
เหมือนที่เราจะเห็นดวงดาวได้ในเวลากลางคืน
ตอนกลางวัน เราจะเห็นพื้นโลกชัดเจน แต่จะไม่เห็นดวงดาว
ตอนกลางคืนเราจะเห็นดวงดาว แต่ไม่เห็นพื้นโลก
สว่างอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีความมืด เราก็ไม่อาจนิยามถึงความสว่าง
ธรรมชาติมีความแตกต่างเพื่อให้เราได้สังเกต เปรียบเทียบ เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์และความสัมพัทธ์
ความคิดแล่นเข้ามาระหว่าง ยืนมองเงาตัวเองตอนตากแดด คิดไปคิดมามันน่าจะเป็นสิ่งที่ลัทธิเต๋าเรียกว่า หยิน-หยาง นั่นเอง