ดาวลิขิตรัก / อุธิยา  จำนวน 528 หน้า

สนพ.พิมพ์คำ  ราคา 320 บาท

โปรยปกหลัง...

ทุกย่างก้าวของชีวิตคนหนึ่งคน ถูกกำหนดจากอะไร 
 ด้วยสองมือหรือโชคชะตา

ชาย ชาติทหารอย่าง ธนุส จำต้องลดเกียรติและศักดิ์ศรีเหลือเพียงคนขับรถ เพื่อดูแลสองสิ่งที่เหลือในชีวิต คือน้องชายพิการกับแม่นมผู้มีพระคุณ เก็บกดทุกความชอกช้ำ ยอมให้อีกฝ่ายกำหนดชีวิต

สิ่งเดียวที่ทำให้การตื่นเช้ามามีความหมายคือ 'เธอ'  หญิงสาวตัวเล็กๆ ที่เป็นเหมือนดาวทอแสงในใจ แม้เขาจะไร้ความหมาย แต่เธอก็มอบความสำคัญให้และไม่เคยมองข้าม เธอพยายามจะลิขิตดวงใจและชีวิตของตนเอง ไม่ให้อยู่ในกรอบของผู้เป็นพ่อด้วยการมอบหัวใจรักให้เขา เขาควรจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อ เธอ...วลีรักษ์ เป็นลูกสาว  ของคนที่ทำให้ครอบครัวเขาล่มสลาย

เขาควรจะตอบแทนความรักของเธอ

หรือใช้เธอเป็นเครื่องมือในการปลดบ่วงพันธนาการ...

  ความรู้สึกหลังอ่าน... (อาจมีสปอยล์!!)

เนื้อเรื่องย่อๆตามโปรยปกหลังเลยค่ะ จริงๆเราอ่านบุพเพกำนัลรักก่อนเรื่องนี้นะคะ (คุณอุธิยาเขียนเรื่องนี้ก่อน แต่หนังสือออกทีหลัง เลยขอหยิบเรื่องนี้มารีวิวตามเหตุการณ์ที่เกิดก่อน) นางเอกเรื่องนี้กับนางเอกเรื่องบุพเพกำนัลรักจะเป็นเพื่อนซี้กันในแก๊ง 4 สาว (วลีรักษ์ รุจี อรดา ไพรวรินทร์ ) ซึ่งพระนางคู่นี้ก็เรียกร้องความสนใจเราได้มากเลยเพราะพระเอกเรื่องนี้เป็นคนขับรถ   พออ่านบุพเพกำนัลรักจบเราก็รีบหยิบเรื่องนี้มาอ่านต่อทันทีเลย

ธนุส นี่เป็นพระเอกที่เป็นคนขับรถจริงๆ ขอดับฝันคนชอบมโนทั้งหลายเลยว่าไม่ต้องคิดว่าธนุสจะเป็นมหาเศรษฐีที่ไหนปลอมตัวมาแกล้งทำเป็นคนขับรถจนๆ  คือประมาณว่า เวลาอ่านนิยายเรามักจะเจอพระเอกที่ทั้งหล่อและรวย ชาติตระกูลดี ไม่ก็พอมีอันจะกิน แต่พออ่านเรื่องนี้ มันจะไม่มีโมเม้นท์อย่างว่าเลยค่ะ  แต่จะบอกว่าเราชอบมาก เพราะผู้เขียนเอาอยู่นะคะ แม้พระเอกจะเป็นคนขับรถแต่ขอบอกว่าเกิดในตระกูลที่ดีและถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี เป็นชายชาติทหารโดยแท้  ส่วนนางเอก วลีรักษ์ หรือวาว อายุน้อยกว่าพระเอก 15 ปี!! ในช่วงแรกนางเอกเจอกับพระเอกตอนยังเด็กๆ ตอนนั้นพระเอกก็เป็นคนขับรถบ้านนางเอกแล้ว นางเอกก็จะมีความสนใจ  ชอบคุยเล่นกับพระเอกตั้งแต่ยังเด็กๆ แม้จะห่างกันไปพอโตมาคล้ายก็ยังไม่ลืมความรู้สึกนั้น กลับพัฒนาความผูกพันธ์ เป็นความห่วง หวง และตามด้วยความรัก ลักษณะจึงเป็นแบบรักฝังใจ  ดังนั้นเรื่องนี้เราจะเห็นนางเอกจีบพระเอกก่อนตลอด 5555

เนื้อเรื่องเป็นแนวคุณหนูผู้สูงศักดิ์ แถมพระเอกทั้งแก่และเป็นแค่คนขับรถ (เขียนแบบนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมธนุสเล้ย  จริงๆในเรื่องนางเอกยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ธนุสเลยไม่แก่มาก 5555)  ผู้เขียนเน้นในการเล่นอารมณ์ความกดดันชีวิตของพระเอก ความขัดแย้งในฐานะ แต่หากเติมเต็มด้วยกลิ่นไอรักของวลีรักษ์ที่มีต่อธนุส แนวนี้ทำให้ชอบเลย เพราะอารมณ์จะออกหนึบๆ อึนๆ แต่พอตอนนางเอกจีบพระเอก ก็หวานๆน่ารักแต่ก็ไม่หวานเวอร์เพราะคู่นี้มีความขัดแย้งในกันและกัน เนื่องจากนางเอกจะชอบใช้สิทธิความเป็นเจ้านาย ทำให้บางครั้งพระเอกจะรู้สึกโดนกดให้ต่ำ ซึ่งตรงนี้พระเอกไม่ชอบเพราะเป็นคนรักศักดิ์ศรีมาก แถมพ่อนางเอกยังเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของธนุสพลิกจากฟ้าเป็นเหว เลยทำให้ตอนอ่านลุ้นว่าพระเอกจะรักนางเอกหรือเปล่า จะแก้แค้นนางเอกไม๊ และบทบาทของธนุสเองก็นิ่งมากกก เงียบ พูดน้อย วลีรักษ์จะเป็นคนที่แสดงออกว่ารักมากกว่า เลยพลอยทำให้เดายากว่าพระเอกคิดอย่างไรกับนางเอก

ความสัมพันธ์พระนางในเรื่องนี้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แม้วลีรักษ์จะดูเอาแต่ใจและเจ้าน้ำตายามที่อยู่กับธนุส แถมเป็นคุณหนูที่ทำอะไรก็ไม่เป็น (ซึ่งตรงจุดนี้เราแปร่งๆนิดๆเพราะนางเอกไปอยู่เมืองนอกมาแต่เด็กจริงๆน่าจะช่วยตัวเองได้มากกว่านี้)  แถมในกลุ่ม 4 สาวเราว่าวลีรักษ์แทบไม่เด่นเลย พูดไม่เก่ง ไม่ได้ฉลาดมาก และหน้าตาก็ไม่ได้สวยโดดเด่น (คนเขียนลำเอียงอะ) แต่พอตอนอ่านนี่ชอบนิสัยเลยค่ะ วลีรักษ์เป็นแนวแบบลูกทหาร คือไม่พูดมากแต่ทำจริง และเป็นคนมีหัวใจที่แข็งแรงออกแนวใจเด็ด ก็เลยไม่แปลกใจที่ผู้หญิงคนนี้จะเป็นผู้ช่วงชิงใจธนุสและฟันฝ่าอุปสรรคความรักด้วยสองมือเธอเอง

เรื่องนี้ชอบในแง่ความรู้สึกค่ะ จะไม่ใช่แนวทั้งคู่รักกันปานจะกลืนกิน เพราะในเรื่องคนที่แสดงออกว่ารักจะเป็นวลีรักษ์ เพราะพระเอกนี่จะเป็นแบบไม่ไขว่คว้านางเอกนะคะ อ่านแล้วแอบสยองว่าพระเอกจะแก้แค้นนางเอกรึเปล่า  ส่วนหนึ่งเพราะเขาโดนกดให้ต่ำกว่า ในใจธนุสนี่ต้องการแต่อิสรภาพจากพ่อของนางเอก แต่จะถามว่าธนุสไม่ดีต่อนางเอกเลยหรอ ก็ไม่ใช่นะคะ เพราะตอนที่ถึงจุดพีค ธนุสก็ช่วยนางเอกแม้จะรู้ว่าชะตากรรมตัวเองจะเป็นเช่นไร คือรู้ว่าจะไปไม่รอดจะเดือดร้อนแต่ก็ช่วย ทำให้ยิ่งอ่านยิ่งเอาใจช่วยคู่นี้ (แต่จะแก้แค้นนางเอกรึเปล่าอันนี้ไม่เล่าค่ะ แฮ่ๆๆๆ )

เมื่อถึงจุดที่ไม่สามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ วลีรักษ์ที่เหมือนหุ่นกระบอกที่โดนครอบครัวชักให้ไปตามใจที่ต้องการ แม้เธอจะออกนอกลู่นอกทางได้บ้างแต่ก็ไม่สามารถลิขิตชีวิตตัวเองได้ สุดท้ายวลีรักษ์จึงตัดสินใจเผาเชือกที่ผูกมือผูกขาตัวเอง แม้จะรู้ว่าเชือกนั้นผูกอยู่กับตัว และเธอเองก็จะโดนเผาจนวอดวายไปด้วยก็ตาม

ให้ลุ้นกันต่อเองนะคะว่าความรักของทั้งคู่จะลงเอยกันเช่นไร แม้ตอนจบจะจบแบบที่ธนุสก็ยังเป็นคนขับรถอยู่ (อ่านจากเรื่องบุพเพกำนัลรัก ซึ่งเป็นเรื่องต่อจากเรื่องนี้ ธนุสก็ยังคงเป็นคนขับรถ 5555 เป็นพระเอกที่น่าสงสารเสียจริง แต่ชอบโมเม้นท์แบบนี้มากกก)  ก็หวังว่า ในเรื่องที่เหลือของสองสาว ผู้เขียนจะเอาเรื่องของธนุสกับวลีรักษ์มาเล่าต่อให้เยอะๆกว่านี้หน่อยน๊า ก็จะขอขอบคุณมากๆเลยค่า ^^  

 เรื่องนี้อ่านจบจะถามว่าอึมครึม เศร้าสร้อยเลยไม๊ ก็ไม่ใช่น๊า เพราะมีตัวป่วนแบบรุจี นางเอกเรื่องบุพเพกำนัลรักมาป่วนหัวใจนางเอกด้วย เพราะรุจีดันมาจีบธนุสค่ะ 555 จุดนี้ช่วยสปาร์คเร่งนางเอกของเราให้รู้ความรู้สึกในใจตัวเองเร็วขึ้นด้วย ส่วนด้านธนุสเป็นพวกพูดน้อยต่อยหนักเหมือนกัน บทจะกรุ้มกริ่มนี่แทบกรี๊ดเลย โดยเฉพาะมุกหนาวมือซ้าย >///< อันนี้ต้องลองไปอ่านเองนะคะ ถ้าเทียบเรื่องนี้กับเรื่องบุพเพกำนัลรัก จขบ.ชอบเรื่องนี้มากกว่าค่ะ สงสัยเพราะเอาใจช่วยเยอะไปหน่อยเลยแอบเทคะแนนให้เยอะกว่านิดนึง ^^ ใครที่ชอบแนวนี้ลองอ่านกันดูค่า