Best Dance/Electronic 2005
แล้วผมก็กลับมาส่งเสียงหนวกหูอีกครั้งกับ Best Dance/Electronic เรื่องของเรื่องก็อย่างที่บอกนั้นแหละครับ ผมเน้นเสียงซินธ์เป็นหลัก ถึงจะจัด Best Trance ไปแล้ว แต่สาขานี้ผมมีตัวเลือกเพียบครับ อันนี้คิกหนักเพราะรักพี่เสียดายน้อง กว่าจะเลือกมาให้เหลือแค่ 5 อันดับนี่แหละครับ แต่สี่อันดับ ใครที่แวะมาบล็อกผมบ่อยๆคงคุ้นเคยกับสี่แผ่น เพราะผมเคยแปะไปแล้ว เพราะชอบไงครับ ถึงต้องแปะ แหะ แหะ
Revolution of the Heart / Howard Jones
ปลื้มครับ บอกได้อย่างเดียวว่าปลื้ม แค่เห็นคนคุ้นเคย หายหน้าหายตาไปนาน ไม่ได้ไปแล้วไปลับแต่มีผลงานออกมาให้ชื่นชม แค่นี้ก็นับถือแล้ว จริงๆผมก็ไม่ได้ตามงานชุดหลังๆของน้า Howard Jones แก แถมชุดหลังสุดนี่ (มันกี่ปีมาแล้วหว่า) เป็นดนตรีแบบโฟล์คอคูสติกที่ผมฟังแล้วเฉยๆ กลับมาใหม่คราวนี้แค่เห็นหน้าปกซีดีก็ โห น้าแกเอาจริง ย้อมผมซะบลอนด์เปรี้ยวขนาดนั้น ในใจก็ภาวนาขอให้น้าแกกลับมาทำดนตรีอิเล็คโทรนิคอีก แต่ ฮึ่ม แรกๆมีแต่แผ่น import และไม่มีให้ลองฟัง จนกระทั่งน้าแกตัดอัลบั้มใน US ถึงได้ฟัง ฟังแล้วน้ำตาจะไหลเอา (เวอร์ไปป่าวพี่) น้าแกกลับมาแล้วจริงๆ ทำดนตรีอิเล็คโทรนิคอีกครั้ง บางแทรกซ์นี่ เสียงเบสแบบนี้ บีทแบบนี้ ให้ความรู้สึกแบบฟังดนตรียุค 80 จริงๆ อย่างเพลงที่ผมเปิดให้ฟังนี่แหละครับ track 3. Just Look At You Now ผมครั้งแรกแล้วน้ำตาจะไหลเอา 5555555 ยังครับ ยังไม่หมดแค่นั้น ผมก็เลยต้องซื้อแผ่น import อยู่ดีเพราะเป็นแผ่น limited edition ที่มีสองแผ่น แผ่นสองเป็นแบบ remix หะแรกที่ฟังรีมิกซ์นี่ (ยืมอีตาคูต้าวมาใช้ซะหน่อย อิ อิ) ผมต้องเบียดให้อัลบั้มนี้ของน้าแกมาอยู่ใน Best Dance/Electronic เลย 555555 รีมิกซ์ของน้าแกผมว่าทำได้ดีกว่าศิลปินเด็กๆรุ่นใหม่หลายคนหลายวงเลยครับ เปรี้ยวได้ขนาดนี้ เด็กๆ หลีกไปของทางให้แกหน่อย ถึงแม้ว่างานของน้าแกคงไม่ดังเปรี้ยงปร้าง แต่สำหรับแฟนๆแล้ว บอกได้คำเดียว (อีกที) ว่านับถือจริงๆครับ ผมเปิดแบบ Album version ก่อนน้ะครับ แล้วจะกลับมาแปะแบบเต็มๆอัลบั้มทีหลัง รวมทั้งรีมิกซ์อีกแปดเก้าเพลงนั้น หุ หุ
George Is On / Deep Dish
กลับมาอีกครั้งที่ Deep Dish งานก่อนๆของดูโอดีเจคู่นี้ผมไม่ถึงกับชอบมาก แต่มาชุดนี้นี่ถูกใจครับ รู้สึกว่าเขาจะปล่อย single แรก Flashdance ออกมาก่อน กว่าจะออกอัลบั้มเต็มก็เกือบปีให้หลัง single ที่สอง Say Hello นี่สุดๆครับ พอดีทั้งคู่เว็บมาโปรโมทอัลบั้มชุดนี้ที่ Virgin Record สาขา Union Square ผมเลยมีโอกาสได้ชม gig เล็กๆของคู่นี้ แล้วผมก็เพิ่งรู้ว่าเดียวนี้เค้า spin CD กันแล้ว ปรกติผมก็คุ้นเคยกับดีเจ spin record หรือ vinyl อะไรทำนองนั้น ฮิเทคจริงๆ (หรือผมเชยแบบหลังเขาเองหว่า 555555) ก็นี่แหละครับ Say Hello (Rock Mix) มันส์ดี ฟังกันแบบยาวๆครับ เพลงบางเพลงในอัลบั้มนี้อย่าง Sergio's theme ก็ออกเป็น Ambient ฟังแล้วก็ชิลด์ดีเหมือนกัน
The Understanding / Röyksopp
จะว่าไปก็ไม่รู้ว่าเป็นเทร็นด์หรือเปล่า ศิลปินแนว Electronic มักจะจับคู่มาแนวดูโอให้เห็นเยอะพอสมควร จะว่าไปก็น่าจะดีน้ะครับ อย่างน้อยดนตรีก็หลากหลายขึ้น แต่ไม่ถึงกับเปรอะเพราะมาเป็นกลุ่ม หรือไม่อย่างงั้นก็ไม่มีปัญหาดังแล้วแยกวง ตีกันเหมือนวงดนตรีหลายๆวง นี่เป็นอัลบั้มที่สองของ ดูโอชาวนอรเวย์ ชื่อวงเลยอ่านยากและเขียนยากได้อย่างงี้ ผมต้องก็อปปี้เพสต์ตลอดกับชื่อวงนี้ 555555 อัลบั้มแรก Melody A.M. ผมฟังผ่านๆ ไม่ถึงกับประทับใจมากมาย แต่อัลบั้มที่สองนี่ถูกใจครับ ยิ่งฟังยิ่งชอบ ใครชอบงานของ Air ก็ไม่ควรพลาดอัลบั้มนี้ของ Röyksopp single แรก Only This Moment นี่ โห ปลื้มครับ เลยต้องเปิดเพลงนี้ ผมมี single นี้ แบบมิกซ์ไม่ค่อยถูกใจเท่า album version แต่ก็ไม่เลวครับ เลยเปิด Only This Moment [Röyksopps Forsiktige Massasje] ชื่อมิกซ์ก็ประหลาดพอสมควร ไม่กล้าอ่านให้ใครได้ยิน single ที่สอง 49 Percent ผมก็ชอบเพลงนี้น้ะ เสียดานแผ่นที่ผมมีมันรีมิกซ์มิกซ์เดียว งกจัง single ที่สาม What Else Is There? ที่เสียงร้องเป็นผู้หญิง (คิดว่าน้ะ) ครั้งแรกที่ฟังผมคิดว่าเธอไม่ได้ร้องภาษาอังกฤษซะอีก ฟังไปเรื่อยๆ เออ มันภาษาอังกฤษนี่หว่า 555555 เสียงเธอแปลกดีครับ เพลงอื่นๆในอัลบั้มก็ไม่เลวครับ ผมชอบ Follow My Ruin ส่วน Alpha Male ก็มันส์ดีครับ
Tales from Turnpike House / Saint Etienne
จะขาดวงโปรดของผม Saint Etienne ไปได้ไง ดนตรีของ Saint Etienne หยิบมาฟังได้เรื่อยๆครับ ขนาดอัลบั้มเก่าๆ เอามาฟังผมก็ยังรู้สึกว่าเป็นอิเล็คโทรนิคที่ไม่ตกยุคจริงๆ ถึงจะไม่ได้เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แต่ดนตรีแบบนี้แหละครับที่ผมรู้สึกว่ามัน timeless จริงๆ และจะขาดเสียงร้องของ Sarah Cracknell นักร้องนำสาวเสียงใสไปไม่ได้จริงๆ คนอะไรจะเสียงใสได้ขนาดนั้น นอกจากนี้ยังเป็นวงที่ออกผลงานมาได้อย่างสม่ำเสมอ จะว่าไปอาจจะขยันเกินไปด้วยซ้ำ นอกจากผมงานของทางวงเองแล้ว ยังออกอัลบั้มแบบ compilation งานของศิลปินอื่นๆที่ทางวงรวบรวมและเลือกสรร อย่าง The Trip ปี 2004 ปีเดียวกันก็มีอีกอัลบั้มคือ Songs for Mario's Cafe หนักกว่านั้นมีบางอัลบั้มที่ออกในญี่ปุ่นเท่านั้นอย่าง Misadventures of Saint Etienne คิดว่าชาตินี้คงตามเก็บงานของวงนี้ได้ไม่หมด เพลงจากอัลบั้มนี้อาจจะไม่ได้คึกคักเท่ากับอัลบั้ม Finisterre แต่ผมคิดว่าก็เป็นแบบฟังสบายๆ หลังจากที่ปล่อย single แรก Side Streets ซึ่งมีเพลงแถม แต่ไม่ได้รีมิกซ์ ผมก็รอร้อรอว่า เมื่อไหร่จะตัด Stars Above Us เป็น single ซะที แอบหวังว่ารีมิกซ์หน่อยเหอะ แบบว่าอยากฟังอ่ะ ผมเลยต้องเปิดแบบ album version ไปก่อนน้ะครับ
Playing the Angel / Depeche Mode 5. Precious
รู้น้ะว่าคิดอะไรอยู่ คงคิดว่า มันมาอีกแล้วครับท่าน อะไรทำนองนั้นแน่เลย 555555 ช่วยไม่ได้จริงๆครับ DM เป็นเด็กเส้นของ จขบ เอง ออกอัลบั้มใหม่มา ทำดนตรีไม่ถึงกับขี้ริ้วขี้เหร่ผมก็จองที่ Best Dance/Electronic ไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว 555555 แถมผมได้มีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ดูคอนเสิร์ตของ DM (ขอโม้อีกรอบ 55555) ปลื้มข้ามปีมาจนบัดนี้ ถึงจะโมเมไปแบบนั้นแต่สองอัลบั้มหลังของ DM นี่ออกจะเป๋ๆยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยโดนใจผมเลย อัลบั้มใหม่นี้ยังดีว่ามีเพลง Precious มาช่วยชีวิตไว้ และที่ DM ควรจะขอบอกขอบใจเป็นพิเศษคือรีมิกซ์ที่ Sasha มิกซ์ให้ SashaS Spooky Mix Single Edit มิกซ์นี้โดนใจอย่างแรงครับ single ที่สอง Pain That I'm Used To มิกซ์ยังไม่โดนใจเท่าไหร่ ผมเลยเปิด Precious ฉบับ Sasha อีกรอบน้ะครับ
อย่างที่บอกครับว่าสาขานี้ผมรักพี่เสียดายน้องจริงๆ บางแผ่นก็ดีน้ะครับอย่างชุดล่าสุดของ New Order อัลบั้ม Waiting for the Sirens' Call หรืออัลบั้มใหม่ของเจ๊แม่ก็ไม่เลวครับ สรุปว่าดนตรีอิเล็คโทรนิคจงเจริญ!!!
Create Date : 13 มกราคม 2549 |
|
8 comments |
Last Update : 13 มกราคม 2549 6:12:14 น. |
Counter : 679 Pageviews. |
|
|
|
Cheers !!!
เอามาฝากค่ะ ขวัญใจ จขบ.ขึ้นหน้าปกหนังสือ Times
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4018136/A4018136.html