( ตัดตอนบางส่วนจากคำเทศน์สอนของท่านพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส 22 พค 2555 )
เช้านี้เขียนบลอกแต่มืด เพื่อนำของฝากจากการไปทำบุญที่วัดมาฝากค่ะ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน วันคืนล่วงไปเราทำอะไรอยู่
วันที่ไปทำบุญนั้น ท่านพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส มีภารกิจสอนกลุ่มพิเศษที่ไปปฏิบัติที่วัดจึงเพียงกราบท่านและพูดคุยเล็กน้อย เราซาบซึ้งในเมตตาของท่านมาก ท่านสอนกลุ่มผู้ปฏิบัติเกือบตลอด ทั้งกลุ่มเปิดและกลุ่มพิเศษ ท่านชวนให้มาเข้าคอร์ส "ไม่มีคน" ช่วงปลายปี เรากราบเรียนท่านว่าเราเปิดฟังเทศน์ทางเนตอยู่ตลอด พระอาจารย์บอกจะนำเทศน์ที่สอน คอร์ส " ไม่มีคน"กลุ่มแรกมาลง และให้เปิดฟังได้ ถ้ามีเวลาว่างให้มาเข้าคอร์ส
ในปัจจุบัน เป็นยุคกึ่งพุทธกาลที่พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรือง มีผู้สนใจศาสนาพุทธมากขึ้น ตั้งแต่เด็กเล็กขึ้นไป ถ้าไปตามสถานที่ปฏิบัติธรรมจะพบว่าคนอายุน้อยไปวัดกันมากขึ้น การรู้ธรรมไม่ใช่สิ่งยาก แต่หนทางไปสู่การรู้ธรรมนั้นยากกว่า
สำหรับผู้แสวงหาหนทาง และไม่ยึดติดสำนักใด แนวคำสอน่ทางด้านปัญญาในขั้นท้ายๆของการปฏิบัติหาฟังไม่ได้ง่ายนัก ในสมัยก่อนครูบาอาจารย์มักสงวนคำสอนขั้นสูงกว่าที่สอนชาวบ้านนั้น ไว้สอนในวงแคบ หรือเลี่ยงโดยไม่สอน เพราะการสอนในวงกว้างนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย และยังต้องเสียสละตนเพื่อ ทานแรงเสียดทานจากสิ่งแวดล้อม วันนี้ท่านอาจารย์ได้นำเทศน์มาลงแล้ว ฟังง่าย ธรรมะ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด สิ่งที่ยากคือหนทางไปสู่ธรรมะต่างหาก (ขยายความ หมายถึง การที่ใครสักคนจะเริ่มสนใจในธรรมะ และมีอิทธิบาทสี่ในการศึกษาและลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจริงจัง ) เชิญเปิดฟังตามลิงก์ค่ะ
//www.phasornkaew.org/phra-amnart/148-nobody1