Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ใคร ๆ ก็บอกว่าคนไทยไปไหนก็ขอวีซ่ายาก รู้ไหมขอวีซ่าไทยก็ไม่ง่ายเลยนะ

จากกระทู้ที่ไปตั้งไว้ในห้องไกลบ้าน
//www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H9500879/H9500879.html


เบื่อมากค่ะ ต.ม.ไทย.. และระบบราชการไทย....


เวรกรรมอันใดของอิฉันไม่รู้ที่บังเอิญได้สามีต่างด้าวชาวอังกฤษ..


เราคบกันมานานนนนนแสนนานเกือบ 10 ปีก่อนแต่งงานจดทะเบียนกันในเมืองไทยถูกต้องตามกฎหมายทุกประการเมื่อ 6 ปีก่อน เราปลูกบ้านอยู่บนที่ดินของคุณแม่อิฉันในเมืองไทยนี่แหล่ะค่ะ อิฉันมีหน้าที่การงานดี การศึกษาดี ชาติตระกูลดี คิดว่าตัวเองเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ คุณสามีอิฉันก็การศึกษาดี มีความรู้ และไม่ใช่ฝรั่งถังแตกอันใด คิดว่าเราทั้งคู่เป็นประชากรที่มีคุณภาพไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหน ๆ

แต่เราทั้งคู่รู้สึกเหมือนโดนผลักดันให้การอยู่เมืองไทยมันยากลำบากอย่างไรไม่รู้..


หลังจากแต่งงานแล้ว คุณสามีอิฉันแกขอวีซ่าแบบครอบครัวค่ะ (Non Immigrant O) สรุปหลัก ๆ เลย คือต้องมีเงินในบัญชี 400,000 บาท การขอแบบนี้จะได้ระยะเวลา 1 ปี แต่ต้องไปรายงานตัวทุก 90 วัน ในการขอแต่ละครั้ง อิฉันจะต้องลางานไปแสดงตัวด้วย พร้อมกับเอกสารตั้งใหญ่ 2 ตั้งทุก ๆ ปี

เราขอวีซ่าแบบนี้มา 6 ปีแล้ว ครั้งแรก ๆ น่าเบื่อพอควร นั่งรอที่ ต.ม. 1-2 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสังเกตเห็นว่ามีคนมานั่งรอนะ อ้ะ.. พอเห็นเราแล้ว เราก็ยื่นเอกสาร 2 ตั้ง และโดนสัมภาษณ์เหมือน ๆ กันทุกปี "เจอกันที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม ยังไง บลา บลา บลา... " และสุดท้ายก็ "เราจะส่งคนไปตรวจที่บ้านนะ"


ภายใน 1 เดือนก็จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3-4 คน ดูน่ากลัว นั่งรถแบบรถจะมาต้อนพวกหลบหนีเข้าเมืองมาจอดที่บ้าน มาขอตรวจในบ้านอย่างทั่วถึง บุกตะลุยเข้าห้องนอน เปิดดูตู้เสื้อผ้า เพื่อมาดูให้แน่ใจ ว่ายังเป็นผัวเป็นเมียกันอยู่จริง ๆ


คุณแม่อิฉันตกใจค่ะ ถึงจะบอกเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ท่านไม่คิดว่าจะมากันเหี้ยมขนาดนี้ คุณแม่อิฉันเป็นข้าราชการบำนาญแก่ ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งชีวิตมีแต่คนให้เกียรติ คุณแม่อิฉันนุ่มนิ่มเรียบร้อย แต่มาเจอกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาเหมือนเราทำอะไรผิด สงสารแม่ค่ะ..
(อืม..การแต่งงานด้วยความรักกับชาวต่างชาติของอิฉัน มันทำร้ายแม่ด้วยนะ..)


สุดท้าย พวกเค้าก็ขอให้มีพยานเซ็นต์ชื่อรับรองว่ามีฝรั่งอยู่บ้านนี้จริง.. เอ่อ... อิฉันอยู่บ้านนี้มานานเกือบ 20 ปี อิฉันไม่รู้จักเพื่อนบ้านหรอกค่ะ อย่าว่าตัวสามีอิฉันเลย ตัวอิฉันเอง คนข้างบ้านก็ไม่รู้จัก บ้านในเมืองนะคะ ตอนกลางวันเค้าก็ปิดบ้านออกไปทำงานกันหมด กลับบ้านกัน 3-4 ทุ่ม ใครจะมาคอยเฝ้าอยู่เป็นพยานให้.. สุดท้ายก็สรุปให้เพื่อนอิฉันลางานมาเซ็นต์ให้...


แต่ช่วง 1- 2 ปีหลังนี่เค้าไม่มาดูบ้านค่ะ เข้าใจว่าคงมี record อยู่ ก็สบายขึ้นหน่อย แค่ไปรายงานตัวทุก ๆ เดือน 2-3 ครั้ง ก่อนที่ท่าน ๆ จะอนุมัติวีซ่าครอบครัวให้


มาปีนี้ ซวยค่ะ.. เราไปติดภูเขาไฟระเบิดกันที่อังกฤษช่วงที่ต้องต่อวีซ่า คุณสามีจึงไปต่อแบบ 90 วันที่อังกฤษมาก่อน พอกลับมาได้แล้ว เราจึงไปขอวีซ่าครอบครัวกันตามเดิม..


เริ่มที่โต๊ะตรวจเอกสาร.. ท่าน ๆ ตรวจเอกสาร ดูรูปถ่ายที่อิฉันปริ้นท์ไป 2 แผ่น รูปที่เค้าต้องการนี่มี รูปถ่ายเลขที่บ้าน รูปถ่ายห้องนอน รูปถ่ายที่มีรูปคู่ในบ้าน อิฉันถ่ายไปทั้งหมด 7-8 ภาพ ก็ปริ้นท์ใส่ A4 ไป 2 ใบ ท่าน ๆ ดูรูปหน้าแรกแล้วถามว่า “รูปที่มีคนล่ะ?” อิฉันชี้ให้ดูหน้าสอง ท่าน ๆ ขมวดคิ้ว “ทำไมอยู่คนละหน้าล่ะ”

เอ่อ...อิฉัน(แอบ)ขมวดคิ้วบ้าง รูปมันเยอะ.. จะให้บีบลงมาหน้าเดียวเนี่ยนะ..
ก็บอกไปว่าไม่งั้นรูปมันจะเล็กมาก


ท่าน ๆ บอกว่า “เอ้า..ก็ได้ แต่ผมไม่รับรองนะ ส่งเรื่องไป (สวนพลู) ถ้าเค้าไม่รับ ผมก็ไม่รู้นะ ถือว่าบอกแล้ว”


เอ่อ..อยากจะบอกว่า อันนี้เป็นรูปถ่าย set เดียวกะที่ส่งให้ท่าน ๆ เมื่อปีที่แล้วนั่นแหล่ะ.. (แต่ไม่ได้พูดค่ะ)


ต่อมา ท่าน ๆ บอกประโยคเด็ด “จะมีคนไปตรวจที่บ้านนะ จะไป 2 ครั้ง ถ้า “ไม่เจอ” จะไม่ให้วีซ่านะ”


หา.... ถ้าไม่เจอจะไม่ให้วีซ่า..


อิฉันถามกลับ.. “แล้วถ้าไม่อยู่.. ออกไปช็อปปิ้ง หรือออกไปกินข้าวล่ะคะ”

ท่าน ๆ ตอบ “คุณคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั๊ง”..

อิฉัน “ แล้วบอกประมาณวันที่จะมาได้ไหมล่ะคะ จะได้รออยู่”

ท่าน “ไม่ได้ ไม่งั้นก็เช็คไม่ได้น่ะสิ ว่าอยู่จริงไหม”

อิฉัน “ แต่นี่มันเหมือนติดคุกเลยนะคะ แล้วจะกล้าออกไปไหนได้ยังไงล่ะ”

ท่าน “คุณคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั๊ง”.. >> ประโยคนี้ฮิตมาก ..

อิฉัน “นี่กฎใหม่หรือเปล่าคะ คราวก่อนไม่เห็นมีใครบอกอย่างนี้”

ท่าน “กฏเก่าแล้ว นี่โชคดีแล้วนะ ผมให้คุณตั้ง 2 ครั้ง”

อิฉันเลิ่กลั่ก มองหน้าสามี บอกท่านไปว่า “คุณสามีจะไปเชียงใหม่ ช่วงวันนี้ ๆ ช่วยโน้ตบอกคนที่จะมาได้ไหมคะว่าอย่ามาวันนี้”

ท่าน “ไม่ได้หรอก .. คุณคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั๊ง”



เฮือกกกกก....


มันอะไรกันว๊อยยยย...



อิฉันยังคงเจือกไม่เลิก “แล้วอย่างงี้ ถ้าคนทำงานข้างนอกล่ะคะเค้าจะทำยังไง”
ท่าน “พวกนั้นเค้ามี work permit คุณไม่ต้องไปห่วงเค้าหรอก”



จริง ๆ คุณสามีอิฉันก็อยู่บ้านตลอดนั้นแหล่ะ คุณสามีอิฉันไม่ได้ทำงาน แต่เค้าเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น กองทุนต่าง ๆ ลงทุนในอสังหาที่ต่างประเทศมากมาย จึงไม่มี work permit

การขอวีซ่าอยู่ที่นี่ของคุณสามีอิฉันทำไมมันช่างยากเย็น อิฉันรักประเทศชาติ และคิดว่าตัวเองมีความรู้และศักยภาพที่จะเป็นบุคลากรที่ดีของประเทศ คุณสามีอิฉันมีเงิน มีทรัพย์สินที่จะใช้จ่ายในประเทศได้ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ แต่ระบบ ต.ม.ไทยนี่มันเหมือนอยากจะไล่พวกเราออกไป เหมือนที่ต้องการไล่พวกหลบหนีเข้าเมืองเลยจริง ๆ

ถ้ามันยากเย็นอย่างนี้ การจดทะเบียนกับคนไทยดูช่างไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย เราคุยกันว่าถ้าเป็นอย่างนี้ เราอาจจะบินออกนอกประเทศทุก 3 เดือนก็ได้ เพื่อจะได้วีซ่าแบบ 90 วัน

ทำไมคะ เราจดทะเบียนถูกต้อง.. ทำไมสามีอิฉันต้องโดนขังอยู่ในบ้านเป็นเดือนเพื่อที่จะรอ “ท่าน” เข้ามาทำความตระหนกตกใจให้กับคนในบ้าน (และอับอายคนรอบบ้าน) หรือ พวกเราต้องบินออกไปต่างประเทศทุก ๆ 3 เดือน สิทธิของคนที่แต่งงานกับหญิงไทยและต้องการดูแลภรรยา ทำไมต้องโดนเตะออกไปนอกประเทศทุก 3 เดือนคะ ประเทศไทยไม่ต้องการให้เราอยู่หรือ? อิฉันว่ามันไม่ยุติธรรมเลย

คนที่เค้าแต่งงานกับชาวต่างชาติติดตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ เค้าลำบากกันขนาดนี้ไหม? ต้องโดนขังอยู่ที่บ้านไหม? ต้องบินออกนอกประเทศทุก 3 เดือนไหม ? อิฉันได้ยินว่าคนไทยที่ติดตามสามีต่างชาติไปอาศัยอยู่ที่โน่น เค้าเตรียมเอกสารชุดใหญ่ลำบากกันครั้งเดียว แล้วจบเลย ไม่มีเรื่องงี่เง่าอย่างนี้ให้หงุดหงิดกันทุกปี มันจะเป็นอีกตลอดไปใช่ไหมคะ 10 ปี 20 ปี ตราบใดที่เรายังคงอยู่ที่นี่

เรื่องอย่างนี้ ต.ม. ไทยเรียนรู้และทำตามแบบประเทศอื่นบ้างไม่ได้หรือคะ

เบื่อและเหนื่อยกับระบบแบบนี้ค่ะ...




Create Date : 05 สิงหาคม 2553
Last Update : 5 สิงหาคม 2553 20:34:09 น. 2 comments
Counter : 1682 Pageviews.

 
**วันที่ 2 สค 2553**

วันนี้ อิฉันโทรไป 1178 ตามที่ได้รับทราบมาว่า "ตอนนี้เค้าเปิดเป็นศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์แบบบูรณการ" ก็โทรไปค่ะ คนรับเป็นผู้หญิงเสียงหวาน พูดจาสุภาพไพเราะอ่อนหวานดีค่ะ แต่อิฉันว่าการตอบคำถาม น่าจะยังสามารถพัฒนาปรับปรุงได้ดีกว่านี้นิดนึง (อิฉันเรื่องมากไปไหม?)

เพราะอิฉันสอบถามเค้าว่าสามารถเช็คได้ไหมว่าที่ยื่นเอกสารไปตั้งแต่วันนี้ ๆ ที่ ตม ที่ xx ขอวีซ่า Non O ไป เค้าจะส่งคนมาตรวจวันไหน เพราะตอนนี้ไม่กล้าออกไปไหนเลยค่ะ เธอบอกไม่สามารถเช็คได้ค่ะเพราะเป็นคนละหน่วยงานกัน ก็ OK ไม่เป็นไร เช็คไม่ได้ก็ไม่ได้ อิฉันเข้าใจ..

อิฉันก็ถามเค้าต่อว่า เนี่ยแต่งงานมาหลายปีมากแล้วยังต้องมาตรวจบ้านอีกเหรอ

เธอก็ตอบแบบเพราะ ๆ หวาน ๆ ค่ะว่า "ก็ต้องสุ่มตรวจนะคะ"

อิฉัน "แต่ได้ยินมาว่าบางคนเค้าไม่เห็นโดนตรวจเลยนะคะ เค้าดูกันยังไงน่ะคะ ว่า Case ไหนต้องตรวจ ไม่ต้องตรวจ"

เธอ "ตรวจทุกรายน่ะค่ะ แต่บางครั้งก็แค่ไปดูรอบ ๆ บ้าน สอบถามเพื่อนบ้านเท่านั้น" >> อืม.. ฟังแปลก ๆ นิ แต่ไม่เป็นไร.. เธอเสียงหวานดี.. แต่เอ๊ะ..เมื่อกี๊เธอบอกว่าสุ่มตรวจหนิ ตกลงตรวจทุกรายหรือสุ่มตรวจ..

อิฉันก็บ่น ๆ ไปค่ะ ว่าอิฉันโดนเกือบทุกปีเลย แต่ทำไมบางคนไม่เห็นโดน เธอไม่ตอบแต่หัวเราะแบบสุภาพ ๆ เบาๆ ค่ะ..

อืม.. ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์แบบบูรณาการนะนี่ แต่อิฉันคงผิดเอง อิฉันไม่ได้แสดงให้เห็นว่าอิฉันมุ่งมั่นร้องทุกข์นี่นา แค่บ่นให้ฟังก็ได้แค่นี้ล่ะ

แต่หลังจากฟังคำตอบที่เธอว่าตรวจทุกรายแหล่ะค่ะนั่น ทำให้อิฉันไม่กล้าร้องทุกข์เรื่องการโดนปฏิบัติไม่เป็นธรรม เพราะถ้า ต.ม ยืนยันว่าตรวจทุกราย นั่นก็คงเป็นมาตรฐานตามกฎหมายของ ต.ม. แล้ว ดังนั้น หากอยากจะแก้ไขคงต้องมุ่งไปแก้ที่กฎหมายแล้วล่ะ ก็ ต.ม. ไม่ได้ปฏิบัติกับอิฉันแบบไม่เป็นธรรมเสียหน่อย.. หึ..



อิฉันก็เลยโทรมาที่ ๆ อิฉันยื่นเอกสาร..

อิฉัน "สอบถามค่ะ จะสามารถเช็คได้ไหมคะ ว่าที่ยื่นเอกสารไปวันนี้ ๆ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจบ้านวันไหน เพราะตอนนี้ไม่กล้าออกไปไหนเลยค่ะ"

ท่าน "บอกไม่ได้นะ ไม่งั้นก็ตรวจเช็คไม่ได้สิว่า คุณอยู่ที่นั่นจริงไหม" >> เออ.. จริง คำพูดนี้ ท่าน ๆ เคยพูดมาแล้ว

อิฉัน "เนี่ย อยากออกไปตัดผม ซื้อของแล้วค่ะ ไม่กล้าออกนอกบ้านเลยนะคะ"

ท่าน "คุณก็ใช้ชีวิตตามปกติไปสิ ถ้าไปแล้วบ้านปิด เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ก็สอบเพื่อนบ้าน ไม่ก็โทรหาคุณเองแหล่ะ"


อ้าววววววววววว....

แล้ว ไอ้ @#$%$% ที่ไหน ที่มันบอกว่า “จะมีคนไปตรวจที่บ้านนะ จะไป 2 ครั้ง ถ้า “ไม่เจอ” จะไม่ให้วีซ่านะ” >> ประโยคนี้ อิฉันได้ยินเต็มสองหู ไม่ได้ตัดทอนคำ หรือเพิ่มอะไรขึ้นมาเลย ประโยคนี้เลยค่ะ..


“จะมีคนไปตรวจที่บ้านนะ จะไป 2 ครั้ง ถ้า “ไม่เจอ” จะไม่ให้วีซ่านะ”

“จะมีคนไปตรวจที่บ้านนะ จะไป 2 ครั้ง ถ้า “ไม่เจอ” จะไม่ให้วีซ่านะ”

“จะมีคนไปตรวจที่บ้านนะ จะไป 2 ครั้ง ถ้า “ไม่เจอ” จะไม่ให้วีซ่านะ”


ใครที่ไหนมันพูดกันคะ.. กล้าสาบานกันม๊ายยยยยยยยย

ทีตอนนี้ดันเหมือนจะมาบอกว่า หู้ย.. ง๊าย ง่าย แล้วไอ้ที่ "ทำให้มันดูยาก" อย่างวันนั้น มันอะไรกันคะ...


แล้วไอ้บทสนทนาที่คุยกันวันนั้น ยังกะคนละเรื่องกันเลยแฮะ ท่านทำเหมือนไม่ได้คุยกะอิฉันเอง



ขอย้อนความหลัง

..............................................
“จะมีคนไปตรวจที่บ้านนะ จะไป 2 ครั้ง ถ้า “ไม่เจอ” จะไม่ให้วีซ่านะ”

อิฉันถามกลับ.. “แล้วถ้าไม่อยู่.. ออกไปช็อปปิ้ง หรือออกไปกินข้าวล่ะคะ”

ท่าน ๆ ตอบ “คุณคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั๊ง”..

อิฉัน “ แล้วบอกประมาณวันที่จะมาได้ไหมล่ะคะ จะได้รออยู่”

ท่าน “ไม่ได้ ไม่งั้นก็เช็คไม่ได้น่ะสิ ว่าอยู่จริงไหม”

อิฉัน “ แต่นี่มันเหมือนติดคุกเลยนะคะ แล้วจะกล้าออกไปไหนได้ยังไงล่ะ”

ท่าน “คุณคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั๊ง”.. >> ประโยคนี้ฮิตมาก ..

อิฉัน “นี่กฎใหม่หรือเปล่าคะ คราวก่อนไม่เห็นมีใครบอกอย่างนี้”

ท่าน “กฏเก่าแล้ว นี่โชคดีแล้วนะ ผมให้คุณตั้ง 2 ครั้ง”

อิฉันเลิ่กลั่ก มองหน้าสามี บอกท่านไปว่า “คุณสามีจะไปเชียงใหม่ ช่วงวันนี้ ๆ ช่วยโน้ตบอกคนที่จะมาได้ไหมคะว่าอย่ามาวันนี้”

ท่าน “ไม่ได้หรอก .. คุณคงจะไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั๊ง”


..............................................................

อืม.. จะมีใครมาว่าอิฉันอคติกับราชการ เล่าความเท็จไหมเนี่ย อิฉันจำเสียงได้นะนั่น ที่ตอบมาเนี่ยมันคนเดียวกันเด๊ะ.. และอิฉันยืนยันว่าที่เขียนมานี่เป็นบทสนทนาจริง ๆ ไม่ได้แต่งเติม..

ฮ่วย...



แต่ยังไงซะ เหมือนจะฟังดูดีขึ้น สุดท้ายเราก็ยังคงต้องรอคอยรถต้อนพม่ามาหาเราที่บ้านอยู่ดี.. T^T


โดย: คนดีผีคุ้ม วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:20:38:21 น.  

 
เซ็งแทนเนอะ
ถ้ามันง่ายๆอย่างที่ "ท่าน"ว่าไว้ ทำไมท่านสร้างเงื่อนไข สร้างคำพูดข่มขู่ได้มากมายขนาดนั้น สมองจะไหลออกนอกประเทศกันหมดแล้ว เพราะไอ้พวกเป็ดพวกนี้







โดย: richly @ money วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:21:40:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คนดีผีคุ้ม
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




อิฉันทำรีวิวเพื่อที่จะเก็บบันทึกการเดินทางไว้เหมือนไดอารี่ เอาไว้มาดูอัลบั้มการท่องเที่ยวของตัวเองที่ผ่านมา ดังนั้น จึงมีรูปตัวเองและอาเฮียเยอะแยะ ไม่ได้เป็นรีวิวเพื่อแนะนำการท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครผ่านไปผ่านมาและอาจได้ประโยชน์จากบล็อกบ้าง ก็นับเป็นโชคดีของอิฉันที่ยังอุตส่าห์มีอะไรมาแบ่งปันนะคะ
Friends' blogs
[Add คนดีผีคุ้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.