<( ^0^ )> Easy and Enjoy Life in Every Day <( ^0^ )>

บางทีฟังแล้วก็งงและทึ่ง


อาตมามีส่วนเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ ชอบถามหรือพูดกับหลวงปู่แบบทีเล่นทีจริงอยู่เรื่อย


ทั้งนี้ก็เพราะหลวงปู่ไม่เคยถือ ท่านเป็นกันเองกับพระเณรผู้ใกล้ชิดอย่างสม่ำเสมอ


เช่น ถามท่านว่าในตำรากล่าวว่า มีเทวดามาชุมนุมฟังเทศน์


หรือมาเฝ้าพระพุทธเจ้าหลายสิบโกฏินั้น จะมีสถานที่บรรจุพอหรือ เสียงดังทั่วถึงกันหรือ


เมื่อได้ฟังหลวงปู่ตอบแล้วก็งวยงงและอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง


เพราะไม่เคยพบในตำราและไม่เคยได้ยินมาก่อน


และยิ่งกว่านั้นเพิ่งจะได้ฟังท่านพูดเมื่ออาพาธหนักแล้วใกล้จะมรณภาพด้วย


หลวงปู่ตอบว่า


“เทวดาจะมาชุมนุมกันจำนวนกี่ล้านโกฏิก็ไม่มีปัญหาอะไร


 เพราะในเนื้อที่หนึ่งปรมาณู เทวดาอยู่ได้ถึงแปดองค์”



 



จากหนังสือ “หลวงปู่ฝากไว้” บันทึกคติธรรมและธรรมเทศนา


ของพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)


รวบรวมบันทึกไว้โดย พระโพธินันทมุนี





 

Create Date : 22 ธันวาคม 2551
4 comments
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 18:45:21 น.
Counter : 550 Pageviews.

 

เนื้อที่ 1 ปรมาณูคืออะไรคะ

อยากทราบจริงๆค่ะ

 

โดย: นู๋นิด (happypig@nk ) 22 ธันวาคม 2551 20:03:32 น.  

 

จริงครับ

 

โดย: อัสติสะ 23 ธันวาคม 2551 8:14:15 น.  

 

ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณนู๋นิด (happypig@nk)
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล กล่าวถึง “ปรมาณู” ไว้ในหนังสือ จิตคือพุทธะ ขอนำมาบางส่วนต่อไปนี้
...ความจริง รูปนามจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตมันก็เคลื่อนไหวได้ เพราะมันมีรูปกับนาม เป็นเหตุเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาอยู่ในตัว ให้เคลื่อนไหวตลอดกาล และ(เกิด) การเปลี่ยนแปลง บางอย่างเรามองด้วยตาเนื้อไม่เห็น จึงเรียกกันว่าเป็นสิ่งไม่มีชีวิต
เมื่อรูปนามของพืชเปลี่ยนมาเป็นรูปนามของสัตว์ เป็นจุดตั้งต้นชีวิตของสัตว์ และเป็น เหตุให้เกิด จิต วิญญาณ การแสดง การเคลื่อนไหว เป็นเหตุให้เกิดกรรม
สัตว์ชาติแรกมีแต่สร้างกรรมชั่ว สัตว์กินสัตว์ และ(มี)ความโกรธ โลภ หลง ตามเหตุปัจจัย ภายนอกภายในที่มากระทบ กรรมที่สัตว์แสดง มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ๕ อย่าง ไปกระทบกับ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ๕ อย่าง แล้วมาประทับ บรรจุ บันทึก ถ่ายภาพ ติดอยู่กับ รูปปรมาณู ซึ่งเป็น สุขุมรูป แฝงอยู่ในความว่าง เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาได้ ที่แฝงอยู่ในความว่างระวางคั่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย นั้นไว้ได้หมดสิ้น
เมื่อสัตว์ชาติแรกเกิดนี้ ได้ตายลง มี กรรมชั่ว อย่างเดียว เป็น เหตุให้สัตว์ต้องเกิดอีก เพื่อให้สัตว์ต้องใช้หนี้กรรมชั่วที่ได้ทำไว้ แต่สัตว์เกิดขึ้นมาแล้วหายอมใช้หนี้เกิด กันไม่มันกลับเพิ่มหนี้ ให้เป็นเหตุเกิดทวีคูณ ด้วยเพศผู้เพศเมียเกิดเป็น สุขุมรูป ติดอยู่ใน ๕ กองนี้ เป็นทวีคูณจนปัจจุบันชาติ
ดังนั้น ด้วยอำนาจกรรมชั่วในสุขุมรูป ๕ กอง ก็เกิดหมุนรวมกันเข้าเป็น รูปปรมาณู กลม คงรูปอยู่ได้ด้วยการหมุนรอบตัวเอง มิหยุดนิ่ง เป็นคูหาให้จิตใจได้อาศัยอยู่ข้างใน เรียกว่า รูปวิญญาณ หรือจะเรียกว่า รูปถอด ก็ได้ เพราะถอดมาจากนามระวางคั่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย นั่นเอง ซึ่งเป็นสุขุมรูปแฝงอยู่ในความว่าง รูปวิญญาณ จึงมีชีวิตอยู่คงทนอยู่ ยืนนานกว่า รูปหยาบ มีกรรมชั่วคอยรักษาให้หมุนคงรูปอยู่ ไม่มีเทพเจ้าองค์ใดฆ่าให้ตายได้ นอกจาก นิพพาน เท่านั้น รูปวิญญาณจึงจะสลาย
...ชีวิตแท้-รูปถอดหรือวิญญาณหมุนรอบตัวเองนี้เอง เป็นเหตุให้จิตเกิดดับ สืบต่อ คอยรับเหตุการณ์ภายนอกภายในที่มากระทบ จะดีหรือชั่วก็สะสมเข้าไว้เป็นทุน เหตุเกิด เหตุดับ หรือปรุงแต่งต่อไป จนกว่ากรรมชั่ว-เหตุเกิดจะหมดไป ชีวิตแท้-รูปถอดหรือวิญญาณ ก็จะหยุดการหมุน รูปสุขุม-รูปวิญญาณ ซึ่งเกิดมาจากกรรมชั่ว สืบต่อมาแต่ชาติแรกเกิด ก็จะสลายแยกออกจากกันไป คงรูปอยู่ไม่ได้ มันก็กระจายไป ส่วนกิจกรรมดี ธรรมะที่ติดอยู่กับวิญญาณ มันก็จะกระจายไปกับ รูปปรมาณู คงเหลือแต่ความว่างที่คั่นช่องว่างของ รูปปรมาณู ทุกๆ ช่อง ฉะนั้น โดยปราศจาก รูปปรมาณู ความว่างนั้น จึงบริสุทธิ์และสว่าง รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิม เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน

เนื้อที่ ๑ ปรมาณู คืออะไร?
ในทางพระพุทธศาสนา ๑ ปรมาณู คือหน่วยที่เล็กที่สุด การศึกษาปรมาณู ก็เพื่อให้เห็นว่า รูปทั้งหลายล้วนเป็นธาตุ ในหนึ่งปรมาณู ประกอบด้วยธาตุ ๘ อย่างรวมกัน คือธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ สี กลิ่น รส โอชะ เรียกว่า “อวินิพโภครูป”
พุทธศาสนาได้สอนถึงการแยกรูปออกให้เล็กลงๆ ไปเป็นลำดับจนถึงอณู ปรมาณู

ปรมาณูในพระพุทธศาสนานั้น แยกจากเม็ดข้าวเปลือกให้เล็กลงๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงปรมาณู
ดังคาถาจาปลินิคัณฑุ (อภิธานนัปปทีปิกา) คาถาที่ ๑๙๔ และคาถาที่ ๑๙๕ ในภูมิกัณฑ์ว่า
ฉตฺตึส ปรมาณูน เมโก ณุจ ฉตึ เต
ตชฺชรี ตาปี ฉตฺตึส รถเรณูจฺ ฉตึส เต
ลิกฺขา ตา สตฺต อูกา ตา ธญฺญมาโสติ สตฺเต
๓๖ ปรมาณู เป็น ๑ อณู
๓๖ อณูเหล่านั้น เป็น ๑ ตัชชารี
๓๖ ตัชชารีเหล่านั้น เป็น ๑ รถเรณู
๓๖ รถเรณูเหล่านั้น เป็น ๑ ลิกขา
๗ ลิกขา เป็น ๑ อูกา
๗ อูกาเหล่านั้น เรียกว่า ธัญญามาส

ถ้าจะกลับเสียก็ได้ดังนี้
๑ เม็ดข้าวเปลือก = ๗ อูกา
๑ อูกา = ๗ ลิกขา
๑ ลิกขา = ๓๖ รถเรณู
๑ รถเรณู = ๓๖ ตัชชารี
๑ ตัชชารี = ๓๖ อณู
๑ อณู = ๓๖ ปรมาณู
(อ้างอิงมาจาก ลานธรรมเสวนา > ชีวิตกับธรรมะ กระทู้ 30439 เรื่องปรมาณูในพระพุทธศาสนา)

ท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร อธิบายว่า ๑ ปรมาณู คือ เมล็ดข้าวเปลือกแบ่งออกเป็น ๘๒ ล้านส่วน (อ้างอิงจาก สสารและพลังงานในพระพุทธศาสนา (๑)(รูปสังคหวิภาค พระอภิธรรมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๖) //www.abhidhamonline.org/Ajan/BM/energy.doc)

หากมีขาดตกบกพร่อง ผิดถูกประการใดเชิญผู้รู้ช่วยอรรถาธิบาย เพื่อเป็นธรรมทานด้วยค่ะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณอัสติสะ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยค่ะ (รู้นะ...ว่าอธิบายได้อยู่แล้ว อิอิ ขอบคุณมากค่ะ )

 

โดย: palin 24 ธันวาคม 2551 21:08:54 น.  

 

อ่านตรงที่หลวงปู่กล่าวแล้วงง
พอได้อ่านคำอธิบายแล้วทึ่งค่ะ


ขอบคุณคุณ palin เป็นอย่างสูง
สำหรับคำอธิบายเรื่องปรมาณูนะคะ
ได้ประโยชน์อย่างมากค่ะ

 

โดย: discipula 28 มกราคม 2552 22:20:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


palin
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จะรู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่...ก็ต่อเมื่อ “เราได้ออกเดินทาง”
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add palin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.