|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ 22 Welcome to Mexico
ถ้าใครได้รับเมล์ฉบับนี้ก็คงพอจะรู้หละสินะว่าช่วงนี้เริ่มว่างละ เพราะส่งห่างจากตอนก่อนไม่กี่วันเอง แต่จริงๆคือมีเรื่องหนุกๆมาเล่าให้ฟัง แล้วอารมณ์ดีอยู่ก็เลยมานั่งเขียนซะ
เท่าที่จำความได้นอกจากเรื่องตัวเอง ป้าเจ้าของบ้าน โยเพื่อนเลิฟแล้ว เราก็ไม่ได้เล่าถึงคนอื่นมากนัก วันนี้เลยว่าจะเพิ่มตัวละครเข้ามาอีกซักหน่อย คือจะเล่าถึง Classmate ที่ Pre-MBA ให้ฟังบ้างดีกว่า กลุ่มที่สนิทๆกันก็มีหลายชาติหลายภาษาทีเดียว มีเกาหลี ญี่ปุ่น อินโด เม็กซิกัน และก็แน่นอนพี่ไทยของเรา จะว่าไปก็สนิทกันแบบไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ มันเป็นแบบเจอกันเพราะเรื่องเรียนมากกว่า มีนัด Study Group กันเพราะต่างคนต่างมาเพื่อจะเข้า MBA ถ้าเป็นเด็กที่เรียนภาษาก็จะปาร์ตี้กันบ่อยหน่อย แต่เพื่อนกลุ่มนี้จะไม่ค่อย บางทีถ้าตอนรู้สึกเหงามันก็เหงามากๆจริงๆ เพราะกิจกรรมที่ทำมันช่างต่างกับเพื่อนๆที่เมืองไทยโดยสิ้นเชิงจริงๆ แต่ช่วงนี้เรารู้สึกดีขึ้นมากเพราะช่วง 2 เดือนแรกที่มานอกจากเจอกันในห้องเรียนแล้วก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนกันเลย รวมทั้งเราที่ต้องสอบทั้ง TOEFL และ GMAT ด้วย ด้วยความที่เซ็งสุดขีด มีอยู่อาทิตย์นึงก็เลยนึกสนุกชวนพวกเพื่อนๆออกไปกินข้าวกันเย็นวันศุกร์ แต่ไปๆมาๆ ยังไงไม่รู้ให้เราเป็นคนเลือกร้านเราก็เลยเลือกร้านอาหารไทย แล้วจับพลัดจับผลูก็โดนบังคับเลี้ยงมันซะหยั่งงั้น มื้อนั้นก็เลยเป็นโต้โผใหญ่ถึงแม้จะไม่ได้จ่ายทั้งหมดก็ล่อไป $30 แต่ก็ Ok เพราะทุกคน Happy กับอาหารและคืนวันนั้นก็ไปต่อ Bowling กัน แต้มก็เยอะสุดในประวัติศาสตร์เลยกู 78 หรือเท่าไหร่ซักอย่างที่ไม่ถึง 80 เนียะ เออ ไม่ต้องมอง.....เออกูรู้!!!!กูขอโทษละกันที่เอาชื่อเสียงของคนไทยมาทิ้งที่นี่ทำดีที่สุดแล้วนะ อย่างน้อยก็ไม่บ๊วยเว้ย เกมต่อมากู้หน้าคืนได้เป็นที่หนึ่ง(อืมอย่าพิเรนคิดว่าเกมส์ 2 เราโยนคนเดียวนะเฟ้ย เล่นกัน 4 คนเท่าเดิม) ก็เลยบอกไปว่าเป็นธรรมดาที่เมืองไทยเค้าส่วนมากเกมแรกวอร์มกัน ไม่ค่อยเอาจริงกันเท่าไหร่ ยังไงก็เหอะก็เลยเป็นอย่างนี้เรื่อยมาสลับกันอาทิตย์ละชาติ เกาหลี ญี่ปุ่น จนมาถึงอาทิตย์นี้ Mexico Trip ที่ไปก็มีกัน 12 ชีวิต ไทย 3 อินโด 2 เกาหลี 2 ญี่ปุ่น 3 เม็กซิกัน 1 และไต้หวัน 1 ที่ไปเพราะ San Diego ติดกับชายแดน Mexico หนะถ้ารถไม่ติดใช้เวลาจริงๆแค่ 15 นาที(แบบ Sunthe เพื่อนเกาหลีขับ)ก็ถึงละ ข้ามไปข้ามมาก็ไม่ยากมากไม่ต้องใช้ Visa แค่ให้ที่รร.เซ็นรับรองใน I-20 ให้ก็ไปได้ละ เจ้าภาพก็แน่นอน มริสราเพื่อน Mexico ของเรา พูดถึงชื่อเค้าเหมือนคนไทยมากเลย เคยบอกเค้าๆก็ไม่รู้ว่าชื่อเค้ามาจากไหน ถ้าให้เดาบรรพบุรุษคงเป็นคนไทย ย่าคงชื่อมาลัย ปู่คงชื่อตาสา แต่พอหลานเกิดที่ Mexico เลยUpgrade มาเป็น Marisara ดูไฮโซขี้นมา 20% ก่อนข้ามไปมีเหตุการณ์ให้นึกถึงเมืองไทยขึ้นมาทันที ตรงที่ด่านข้ามเราเจอ....รถติด!!!!! โอ้ว คนขับรถจี้คันหน้า โอ้วโอ้ว!!! รถมาขอแทรกคิวที่ต่อกันมายาวเหยียด โอ้วโอ้วโอ้ว!!! เสียงแตร คนหงุดหงิด รถแทรกกันจนไม่มีเลนส์ โอ้วเยส!!!!สวัสดีไทยแลนด์ อืมใช่เราเผลออุทานออกไปทีนึงในรถซุนเถมัน ก่อนข้ามไปเราก็ได้กลิ่นเมืองไทยมาประมาณนึงละ ข้ามไปได้กลิ่นเมืองไทยหนัก พูดถึงการขับรถเราว่าเลวร้ายกว่าเมืองไทยอีกหวะ บางถนนก็ไม่มีเลนส์ไม่มีไฟจราจร แล้วก็ซิ่งๆกัน มริสราตอนอยู่ฝั่ง USA ขับรถเรียบร้อยมาก พอข้ามปั๊บแปลงร่างทันที เหมือนวิญญาณสิบล้อเข้าสิง เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตาย ใช่ครับ...เธอหยิบสติ๊กเกอร์อันนั้นขึ้นมาติดที่หลังรถทันทีที่เข้าชายแดน Mexicoเพื่อเพิ่ม Degree ความ Hard Core ให้ตัวเอง ไอ้ซุนเถปล่อยผัก ผลไม้ออกมาเต็มรถเลย ฟัก-ชิด-แดม ตลอดทางเพราะขับตามรถเจ้แกไม่ค่อยทัน พอรถติดเจออะไรรู้มั้ย คนขายดอกไม้ !! โอ้วเยส!!!!ผมคิดถึงพวกพี่อย่างสุดซึ้งจิงๆ บางทีประเทศกำลังพัฒนาเค้าก็มีอะไรบางอย่างเหมือนกันโดยบังเอิญ แม้จะอยู่คนละซีกโลกกันเลย จิงมะ แต่ที่นี่แปลกอย่างป้ายถนนเป็นภาษาสเปนหมด(ที่นี่พูดสเปน) แม้จะเป็นเมืองที่ติดกับ USA ก็ตาม เราก็นั่งอ่านภาษาสเปนกันไปตลอดทางปล่อยให้ไอ้ซุนเถมันจี้ตูดมริสราเวอร์ชันตีนผีไปอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าหลงคงไม่มีใครช่วยได้จริงๆ อ่านไปอ่านมาก็สังเกตอะไรได้อย่าง ภาษาสเปนเค้าชอบอะไรเอียๆหนะ Mcdonaldia(เป็นส่วนเครื่องเล่นของเด็กหนะ ชื่อร้านก็อ่านแม็คโดนัลตามปกติแหละ), Independencia, Differencia มันก็ดูโอเค แต่ท่าชื่อเรากลายเป็นภาษาสเปน Chairathia ซวยเลยห้ามอ่านขึ้นเสียงสูงในพยางค์สุดท้ายเด็ดขาด ขอย้ำ !!!
ก่อนมาป้าผมขู่ต่างๆนานาไป Mexico ระวังนะ Passport เก็บไว้ดีๆ เวลาบ๋อยมาเสริฟเหล้าก็ให้ระวัง เค้าจะใส่น้ำอะไรลงไปบางอย่างให้เรามึน แล้วขโมยทรัพย์สินไป หรือบางทีเพื่อนคุณไว้ใจได้รึเปล่า เพื่อนคุณอาจส่งซิกให้บ๋อยมาเสริฟเครื่องดื่มตอนคุณเริ่มเมาพอดี แล้วร่วมมือกันปล้น โอย!!!!แบบ Mexicoกับมริสราเพื่อนเรานี่ เสียไปเลย แต่ร้านอาหารที่เค้าพาไปนี่เป็นร้านแบบภัตตาคารหรูๆหน่อย ที่ชอบมากคือเข้าไปแล้วมีดนตรีเล่น เป็นเครื่องดนตรี Mexican ล้อมเป็นวงกลมยืนแหกปากกันอยู่กลางร้าน สเน่ห์ของดนตรี Mexican คือจังหวะจะแบบเร็วเกือบตลอดประมาณแยกไม่ออกว่ามันกำลังเล่นเพลงโรแมนติก หรือเศร้าเหงาเซ็ง ถ้าฟังก็ฟังจากโทนของดนตรีเอา ไม่ได้ฟังจากจังหวะ แต่ก็ถือว่าทำให้ครึกครื้นและดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงตอนกินข้าวแม้จะฟังไม่รู้เรื่องซักคำก็ตาม(เนียะ...มีสลับบทโรแมนติกเหมือนกัน เก๋มะ) ที่แปลกอีกอย่างคือ ป้ายไม่มีภาษา Eng กูไม่ว่าแต่ป้ายห้องน้ำมันไม่มีแม้แต่สัญลักษณ์ แล้วกูจะรู้มั้ยเนียะ ห้องน้ำชายห้องน้ำหญิงเนียะ ฝั่งซ้าย Caballeros ฝั่งขวาDamas ด้วยสัญชาติญาณที่มีอยู่ในตัวเต็มเปี่ยมและสายน้ำอันเชี่ยวกราดมันมาจ่ออยู่ปากถ้ำแล้ว การเดินกลับไปถามมริสรามันคงไม่ทันการณ์แน่ๆ เราเปิดประตูพรวดไปทางฝั่งขวาอย่างไม่ลังเล เอ๊ะ!! ผู้ชาย Mexico เค้าไม่ฉี่โถฉี่กันหรอ แกล้งโง่เดินต่อเข้าไปอีกนิด อุ๊ยห้องน้ำมีถุงห่อวัตถุที่ใช้ป้องกันวันมามากของผู้หญิงด้วยหรือเรียกง่ายๆแบบน่ารักน่าชังว่า โกเต๊ะ ไม่ดีละ ต้องรีบแอบเอ๊ยรีบออกดีกว่า สรุปคือจำไว้ละกันว่า Damas หนะผู้หญิงนะ OK สำหรับอาหารก็ Mexican จ๋าเลยเหมือนกัน ต่างจากที่กินที่ San Diego เยอะเหมือนกัน แต่หลักๆก็คือหนักไปทางกลิ่น รสชาดเลี่ยนๆ ผักแปลกๆ แล้วก็การห่อด้วยแป้ง จะว่าไปนานๆกินทีก็พอไหว แต่ให้กินทุกวันรับรองว่าแย่แน่นอน ที่กินแปลกอีกอย่างก็เนื้อกระต่าย มันคล้ายๆเนื้อวัวผสมเนื้อหมูยังไงชอบกล แต่ก็อร่อยดี อีกจานมันเนื้ออะไรไม่รู้แฮะ แต่มันมีหางคล้ายๆหนูอยู่ถามมริสราแล้วยังคุยกันไม่รู้เรื่องเดี๋ยวต้องไปซักใหม่ แต่พอเห็นหางปุ๊บพอกินก็รู้สึกเหม็นขึ้นมาทันที แล้วก็มีลิ้นวัวห่อแป้งกินเหมือนกัน แล้วที่ขาดซะไม่ได้ก็คือข้าวเกรียบ Mexican ที่กินกับน้ำจิ้มคล้ายน้ำพริกเผาแต่ไม่ใช่ ก็สรุปว่ามันต่างกับบ้านเราโดยสิ้นเชิงละกัน แต่ที่ขาดซะไม่ได้คือมา Mexican แล้วต้องละเมียด Alcohol เพราะมันไม่แพงมาก ชุดแรกที่สั่งกันมาคือ Magarita(สะกดถูกป่าวไม่รู้นะ) สั่งมา 3 รส มะนาว สตอเบอร์รี่และมะขาม อ่าแปลกดีมั้ยหละ รสชาติก็ปะแล่มนะ ไอ้มะขามเนียะแต่มันก็ Ok ไม่ขี้เหร่มาก แล้วก็มีที่เพื่อนสั่งคือเป็นคล้ายๆชามะนาวแต่ใส่เหล้าด้วยซึ่งกลิ่นแรงสุดๆ ไม่ค่อยอร่อยหวะ ที่สั่งแก้วต่อมาคือ เตกิล่า ก็คล้ายๆเมืองไทยหละ ผสมโซดามะนาวเกลือ เออแต่ที่นี่เค้าใส่เกลือไว้ที่ปากแก้ว(หรือที่เมืองไทยก็ทำวะ ไม่รู้ไม่ค่อยกิน Cocktail) เวลาดื่มก็ดื่มเคล้าเกลือไป แต่กลิ่นมันชัดจนกว่าของไทยหวะเราว่า แล้วก็มีคนสั่งเบียร์มากิน ลองชิมดูก็รสชาติแตกต่างนะดูจะแรงกว่าเบียร์เมกา แต่มันคนละรสชาดกับสิง-หาของเราแฮะกลิ่นมันแม่งๆกว่า สรุปก็พี่ไทยชนะเลิศอีกนั่นแหละ ตบท้ายด้วยของหวานหลากชนิดพวกเค้ก คัสตาด พาย ไอติมอะไรเงียะ ก็สรุปว่าเป็นมื้อที่มีความสุขมากๆอีกมื้อนึง เพื่อน เสียงหัวเราะ อาหารดีๆ ดนตรีเพราะๆ แอลกอฮอล์ชั้นยอด อืม...แล้วยังต้องการอะไรอีกหละ
Golf ^o^ 7/11/2004 2.10 P.M.
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
5 comments |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2549 7:29:22 น. |
Counter : 503 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ซออู้ 4 กุมภาพันธ์ 2549 9:00:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: jaa_aey 4 กุมภาพันธ์ 2549 9:28:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: POL_US 5 กุมภาพันธ์ 2549 14:12:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซออู้ 9 กุมภาพันธ์ 2549 11:17:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต้น IP: 125.24.136.64 29 เมษายน 2551 18:55:01 น. |
|
|
|
| |
|
|
เขียนได้ละเอียดดีมากค่ะ ทำให้เห็นภาพของคนไทยในต่างแดนว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร
ชักติดใจบ้านนี้แล้ว วันหลังขออนุญาตเป็นเพื่อนประจำสักคนได้ไหมคะ