จากกะเหรี่ยงบ้านนาสู่กะเหรี่ยงโกอินเตอร์
Group Blog
LoveLy SanDiego
Hit Me..Hit Me!!!!
มกราคม 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
24 มกราคม 2549
ตอนที่ 16 อเมริกาจ๋า....รอป๊ะป๋าก่อน สอบ GMAT ผ่านแล้วโว้ยยยยยยยยย
ตอนที่ 14 เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของ TOEFL (เหมาะสำหรับคนที่ชีวิตพัวพันกับฝรั่งน้อยเท่านั้น)
All Blogs
ตอนที่ 24 อย่าเรียกผมว่า... บ๋อย
ตอนที่ 22 Welcome to Mexico
ตอนที่ 21 Happy Halloween หวะ..หะ..หะ...หะ....หะ
ตอนที่ 20 เด็กเปรต VS ยัยป้า
ตอนที่ 19 พ่อหนุ่ม Casanova ตะลุย Casino
ตอนที่ 18 BBQ on the Beach
ตอนที่ 16 อเมริกาจ๋า....รอป๊ะป๋าก่อน สอบ GMAT ผ่านแล้วโว้ยยยยยยยยย
ตอนที่ 14 เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของ TOEFL (เหมาะสำหรับคนที่ชีวิตพัวพันกับฝรั่งน้อยเท่านั้น)
ตอนที่ 13 จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าต้องทำกับข้าวกินเอง
ตอนที่ 12 วัฏจักรชีวิตของยุง กิน อิ๊ นอน อ่านหนังสือ
ตอนที่ 11 อาหารไทยมื้อแรกที่อเมริกา โอ้ว!!!!แซบ
ตอนที่ 10 เนียน VS โดน
ตอนที่ 9 ระบบมือถือในอเมริกา...ดัดหลังพวกนักยิง Missed Call
ตอนที่ 8 ความบันเทิงของคนอเมริกัน(บ้านนี้)
ตอนที่ 6 ถ้าคุณหลงทางใน USA คุณจะทำยังไง
ตอนที่ 14 เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของ TOEFL (เหมาะสำหรับคนที่ชีวิตพัวพันกับฝรั่งน้อยเท่านั้น)
เย้ เย้ โคตรดีใจเลยโว้ยยยยยยยยย ในที่สุดก็สอบ TOEFL ผ่านแล้วเฟ้ย ได้ช่วงคะแนนน่าจะอยู่ที่ 580-597 SDSU ต้องการ 570 เป็นขั้นต่ำก็หมดภาระไปเปราะนึง ที่ดีใจมากๆก็เพราะว่านี่ถือเป็นคะแนนที่เราคิดว่าสูงมากสำหรับคนที่ปล่อยให้ฝรั่งเข้ามาพัวพันกับชีวิตน้อยมากอย่างเรา รวมทั้งเอาตัวเองเข้าไปเกลือกกลั้วกับฝรั่งน้อยเช่นกัน สอบครั้งแรกที่เมืองไทยกดมา 530 เอง แล้วย้ายตูดมานี่ 2 อาทิตย์ก็ต้องโดนบังคับสอบเพราะ Deadline ในการสมัคร เรียกว่าเวระซ้ำกำละซัดสำหรับเด็กน้อยตาดำๆอย่างเราจิงๆ ฉะนั้นตอนนี้ยังไม่สายสำหรับบางคน ถ้าครูสั่งให้อ่าน Text ก็อ่านไปเต๊อะ อย่าหลีกเลี่ยงด้วยการเห็นเลคเชอร์เพื่อนดีกว่าโปรเฟสเซอร์ที่เขียน Text อย่างเรา เจอฝรั่งก็หน้าด้านพูดไปเต๊อะ(อย่างน้อยไม่รู้เรื่องมันคงแต๊งกิ้วแล้วเดินหนีไปเอง)
แต่ถ้าใครคิดว่ามันสายไปแล้วสำหรับฉ้านจะทำยังไง มาลองเอาวิธีเราไปใช้ก็ได้นะไม่ว่ากัน แต่ไม่ใช่คำแนะนำทั้งหมดนะ เป็นเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่รวบรวมมา หลักๆก็อย่างที่รู้แหละ ก็ขยันสิ
Listening
ถ้าใครศึกษารากศัพท์ของคำนี้อย่างลึกซึ้งมันตรงกับคำสอนของพุทธศาสนาคำนึงว่า ปล่อยวาง หรือภาษาเป็นทางการว่า ปลง เพราะสำหรับหูไอ้คนที่มีอังกฤษผ่านเข้ามาในชีวิตน้อยๆ มันคงรับฟังได้ยากมาก เสียงของข้อสอบก็อู้อี้และห่วยกว่าแม้แต่ CD ที่ Write เพลงฟังเองที่บ้านมาก นอกจากนี้ครูที่นี่ยังบอกเลยว่าขอบคุณที่คนอเมริกันไม่ต้องสอบ TOEFL เพราะศัพท์บางคำหรือสแลงบางคำเค้าก็ไม่ได้ใช้มาชาติครึ่งแล้ว การฝึก Part นี้จึงไม่มีคำแนะนำอะไรมากนอกจากตะบี้ตะบันฟังมันเข้าไป ที่สำคัญคือฝึกสมาธิ ทำยังไงให้ตั้งใจอยู่กับคนที่พูดอยู่ให้นานที่สุด หรือแม้แต่ทำยังไงให้พอฟังไม่รู้เรื่องแล้วลืมมันไปแล้วตั้งใจฟังประโยคต่อไปได้ทันที อันนี้สำคัญเพราะคำถามเค้าถามเป็นห้วง ตอบท่อนนี้ไม่ได้ก็อาจตอบท่อนหน้าได้ ไม่ใช่แบบฟังไม่ได้แล้วหูดับอย่างเรา ฮะฮะ แต่จะว่าไปก็แนะนำอะไรมากไม่ได้หวะเพราะตอนซ้อมโคตรมั่นใจเลยสอบจริงได้ 21 เองหวะ แป๊กแป๊ก
Structure
เป็น Part ที่คนเอเชียชอบมากที่สุด(รวมถึงเรา) เพราะเป็น Part ที่คนที่ไม่เก่งจะใช้เวลาสั้นที่สุดพัฒนาได้เร็วที่สุด ฝรั่งแม่งเลยรู้ทาง มึงชอบนักมึงเอาไปเลยเต็ม 13 ทำให้เต็มยังไงก็ได้ 13 คะแนน ที่เหลืออีก 17 ไปเอาใน Writing แล้วมันก็เห็นแก่ตัวมากกว่านั้นอีก ไอ้ตอนเราเขียนเองประโยคก็ใช้แบบโคตรเบสิคละนะ มันยังหาที่ผิดได้ตรูม แต่พอมันออกข้อสอบทำไมแม่งขีดสี่ข้อเหมือนผิดหมดเลยฟะ ข้อแนะนำคือเวลาฝึกเขียนข้อที่ทำผิดออกมาว่าผิดยังไงจะพบว่าตัวเองผิดคล้ายๆเดิม เช่นของเรามักจะมองไม่ออกว่าเป็น Noun หรือ Verb เพราะฉะนั้นถ้าไม่รู้จะกาข้อไหนก็เอาไอ้ข้อนี้หละ เออแล้วอีกอย่างตรงที่ขีด 2 คำมักมีนัยสำคัญมันอาจสลับที่กันหรือลืมเติมอะไรตรงกลาง เพราะถ้าไม่ผิดมันจะขีดยาวๆทำไมฟะ แต่ก็แล้วแต่การฝึกฝนนะไม่ได้เป็นงี้ทุกข้อหรอก ผลการฝึกก็เป็นที่น่าพอใจนะได้ 11 เต็ม 13
Reading
ก็คล้ายๆ Structure คือถ้าฝึกเยอะๆจะทำได้เพราะหัวข้อมันซ้ำๆ วิทย์ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ อวกาศ อะไรเงียะ ที่สำคัญต้องท่องไว้ว่าคำถามไม่ยากๆ มันเป็นคำถามตรงไปตรงมา เราสามารถหาคำตอบได้จากใน Passage ซักที่ ถ้าไม่เจอแสดงว่าหลงทางอยู่ ศัพท์ที่ไม่รู้ก็จดไว้สิ เพราะส่วนตัวเป็นคนขี้เกียจท่องศัพท์ก็เลยท่องเอา 3-4 หน้าที่ List ออกมาจากแผ่น ETS ปรากฎออกมาประมาณ 3 ข้อ จาก 30 ซึ่งคิดว่าก็โคตรคุ้มละนะแล้ว Main Idea มาทำหลังสุดเพราะมันก็ต้องอ่านอยู่แล้วเวลาทำ Detail แต่อย่าลืมย้อนมาทำนะ ผลการฝึกเป็นที่น่าพอใจสุดๆ ได้ 26 เต็ม 30
Writing
Part นี้คะแนนยังไม่ออกแต่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 เพราะประมาณจากสอบครั้งแรกที่ได้ 4.5 ครั้งนี้เขียนเร็วกว่าเดิม และครบถ้วนกระบวนความ วิธีฝึกก็ให้ฝึกเขียนมันทุกวัน(แม้อยู่นี่จะไม่ได้ทำบ้างก็ตาม) แรกๆเปิดดิกฝรั่งไปเขียนไปจะได้รู้ว่าศัพท์คำนี้ใช้ยังไง ความเร็วประมาณครึ่งวันต่อ Passage เป็นงั้นจริงๆ หลังๆก็ลองไม่เปิดดิกใช้คำที่ง่ายๆแต่ใช้เวลาให้น้อยลง แล้วก็ลองจำกัดเวลา แล้วมาทำให้เติมแต่งให้หรูทีหลังด้วยการ Copy การใช้คำจากตัวอย่าง Essay คนอื่นหรือคำที่เห็นบ่อยๆ ในบทความมา ลองดูละกัน
วิชาการหมดไปละ อีกอันนึงก็คืออยากให้ลองหาอะไรงี่เง่าๆให้ชีวิตที่แสนจะมีสาระซะเหลือเกินดูบ้าง เช่นหาความเชื่อบ๊องๆที่ช่วยตอบสิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ดู อย่างวันนี้ก็ใส่เสื้อแดงไปสอบ เอาฤกษ์เอาชัยเหมือนพี่ภราดร(แม้ปีนี้ยังไม่เห็นใส่ซะที อิอิ) เพราะอย่างน้อยสีผิวเราก็ใกล้เคียงพี่เค้าขึ้นไปทุกวันแล้วหนิ (ที่นี่แดดโคตรแรงเลย) แล้วผลมันก็ออกมาดี นี่ว่าจะเก็บไว้ใส่อีกทีตอนสอบ GMAT ฮะฮะดูงี่เง่าดี ชอบหวะ
สุดท้ายคือการแข่งขันหวะ ไม่ใช่แข่งกับคนที่จะสมัครด้วยกันนะ แต่แข่งกับใจตัวเองหวะเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากที่สุดเลย ขอยกตัวอย่างการพ่ายแพ้ตัวเองเวลาอ่านหนังสือให้ฟัง ตอนก่อนอ่านหนังสือ นึกอยากจัดห้องขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล เล็บมือและเล็บเท้าไม่เคยปล่อยให้ยาวช่วงสอบ โปรแกรมทีวีขายสินค้าอาจสนุกเพิ่มขึ้น 20% คือนั่งดูมันซะหยั่งงั้นทั้งที่ปกติไม่เคยดู อืม!!!ขอนอนแป๊บละกัน พักสายตาเฉยๆบนเตียงพร้อมตื่นมาด้วยท่าทีที่ตกใจหลังจากนอนไปร่วมสองชั่วโมงเต็ม อะไรประมาณเนียะ มีใครเป็นบ้างมั้ยฟะหรือโรคจิตเป็นอยู่คนเดียว แต่ครั้งนี้ก็ต้องนับว่าชนะตัวเองละหละ บังคับให้ตัวเองอยู่ในบ้านทั้ง Weekend ได้ทั้งที่วันจันทร์หยุดและอยากไปเที่ยวใจจะขาด ก็หนูอยู่อเมริกานี่หน่า ก็อยากไปเที่ยวสิฟะ ครั้งนี้ก็เลยถือว่ายิงนำใจตัวเองไป 1-0 แต่เดี๋ยวก่อนมันพึ่งจบครึ่งแรก ทำไมหนะหรอ ก็อั๊วต้องสอบ GMAT ให้ผ่านภายใน 27 นี้สิฟะ 540 คะแนนรวม และ 25% สำหรับ Verbal โอ้ว!!!! อเมริกา
เพราะฉะนั้นหากคุณเจอความซวย อย่าพึ่งท้อใจ สูดหายใจลึกๆ เชิดหน้าไว้ มองตรงไปข้างหน้า ทำสายตาให้มีประกายความหวัง แล้วคุณก็จะรู้ว่า!!!.........มีสิ่งที่ซวยกว่ารอคุณอยู่ เฮ้อ !!!นี่หละชีวิตมนุษย์
สิ่งดีๆเล็กน้อยๆที่จะเข้ามาในชีวิตคือ GMAT ไม่มี Listening เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็กลับมาฟัง Hip-Hop ได้อีกครั้งหลังจากอาทิตย์ที่ผ่านมาฟังข่าวที่ไม่รู้เรื่องทั้งอาทิตย์ สู้ Hip-Hop ไม่ได้รู้เรื่องกว่ากันเยอะ อ้าว-ซี้ด ซี้ด- อ้า อ้า- โอ้ว โอ้ว
เปิดอ่านการ์ดที่บ้านอีกใบละ เปิดเมื่อสอบ เปิดอ่านม้าบอกว่า(ทำเสียงให้ดูอบอุ่นและมีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวสูงมากก่อน) จะพูดเหมือนทุกทีคือให้เตรียมตัวอ่านแต่เนิ่นๆ ตอนสอบจะได้ไม่ต้องเครียด เอ่อ...เอ่อ....เอ่อ คือเจ้ครับ เจ้บอกให้ผมเตรียมเนิ่นๆแต่ให้ผมเปิดอ่านการ์ดตอนก่อนสอบเนียะ มันไม่ทันแล้วครับ โถ่!!!!ถัง เครียดหนักกว่าเดิมอีก
คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่อั้วที่สุดเลย จุ๊บ จุ๊บ
Golf ^o^
12/9/04 1.05AM
Create Date : 24 มกราคม 2549
Last Update : 24 มกราคม 2549 1:28:01 น.
2 comments
Counter : 589 Pageviews.
Share
Tweet
ดีจังเลยคะ ไว้จะเข้ามาปรึกษาเรื่องสอบนะคะ
โดย:
imagineseed
วันที่: 25 มกราคม 2549 เวลา:1:50:24 น.
สู้ๆนะพี่
โดย: ข้าวโพดอบเนย (
ข้าวโพดอบเนย
) วันที่: 2 เมษายน 2549 เวลา:20:54:15 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
golfano
Location :
Illinois United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ห้าม!!!! เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีอ่านแต่เพียงลำพัง ควรมีผู้ปกครองมานั่งอ่านให้ฟังข้างๆ
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add golfano's blog to your web]
Links
SDSU's Photos
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.