กันยายน 2556

1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
มาทำขนมปังธัญญพืชกัน น่าสนม้้ย...เอ่ย??







เม็ดธัญพืชไม่ขัดสีดีต่อร่างกายอย่างไร?? เป็นคำถามหนึ่งที่จำได้ว่า

ตอนไปเรียนอบรมเกี่ยวกับโภชนาการ ครูตั้งคำถามนี้...ใส่เรา

ไอ่รู้คำตอบ....อะพอจะรู้แต่...ให้ตอบเป็นภาษาเดนมาร์กนี่สิ

กลัวพูดผิด สุดท้ายก็ต้องตอบเพราะครูบอกให้พูดออกมา

จะได้รู้ว่าที่ครูสอนมาเรารู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน

เราก็ล่ายมนต์ใส่ครูด้วยการบรรยายว่า

ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีที่รวมเรียกว่า Fuldkorns

อุดมไปด้วยกากใย เมื่อผ่านการย่อยจากปาก

ลงสู่กระเพาะ ลำไส้ จะกลายเป็นกากอาหารที่รอการขับถ่าย

ในขณะที่แป้งสาลีซึ่งถูกขัดสีจนขาว

เป็นเพียงแป้งที่ช่วยเพิ่มพูนเนื้อหนังให้อ้วนพีเท่านั้นเอง

บลาๆ พอแระ ร่ายมนต์ไปมากเดี๋ยวครูจะสะกดจิตแก้ใส่เราบ้าง

คราวนี้ได้อยู่เรียนกันยาวนานขึ้น หลักสูตรชวนง่วง ฮ่า ๆ



ว่าไปแล้วแป้งสาลีไม่ขัดสีถ้าจะเปรียบไปก็คงเหมือนๆ

ข้าวกล้องบ้านเรามั้งเนาะ ที่หลังๆมานี้บ้านเมืองเรา

รณรงค์หันมากินข้าวกล้องกันมากขึ้น


เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่ชักจะเริ่มหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น

ฉะนั้นแล้ว มาทำขนมปังธัญญพืชกินเองเหอะ

ฮ่าๆ รวบรัดตัดตอนดีมะเรา พูดมากไปเดี๋ยวกลายเป็น

เอามะพร้าวไปขายสวนเสียปล่าว ๆๆ


สูตรนี้เราได้มาจากแคตาล๊อคส่งเสริมการขาย

ของร้านค้าแห่งหนึ่ง......มาดูกันค่ะ

ส่วนผสมก็มีไม่เยอะ น่าลองทำดีไม่น้อย




ส่วนผสมมีดังนี้


2 dl นมสด
1 dl มาการีน
1 ก้อน ยีสต์สด ถ้ายีสต์แห้งก็ 1 ซองเล็กๆ
1 ชช. เกลือ
50 กรัม น้ำตาลทราย
500 กรัม แป้งสาลีไม่ขัดสี
1 ลูก ไข่ไก่ เบอร์ 2


ของแต่งหน้า:

เมล็ดฟักทอง
เมล็ดงาขาว งาดำ
เมล็ดทานตะวัน



วิธีทำ
เริ่มจากนำมาการีนใส่หม้อแล้วนำไปละลายบนเตา
ตามด้วยนมสดกะเอาด้วยการเอานิ้วจุ่มลงไปรู้สึกว่าอุ่นๆ
อย่าให้ร้อนเกิน 37 องศานาเดี๋ยวยีสต์ตาย จบเห่เลยนาขอบอก

จากนั้นก็บี้ๆยีสต์ให้กระจายแล้วก็เอาใส่ลงไปในหม้อนมที่เราอุ่นไว้
ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปคนให้เข้ากันดี
พักไว้สักครู่จะเห็นยีสต์ทำงานด้วยการเป็นฟองฝุดๆๆ
จากนั้นเทไข่ลงไปผสมคนให้ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอ
ขั้นตอนนี้เราขอเรียกว่าส่วนผสมเปียกละกัน ม่ายรุ้จะเรียกอ่ะไรอ่า


ใครจะถ่ายส่วนผสมเปียกไปใส่โถตีแป้งก็ถ่ายใส่เสียตอนนี้เลย
แล้วก็ทำตามขั้นตอนเดียวกันกับนวดด้วยมือนี่แหละจ้า
ใครจะนวดมือก็ ทำขั้นตอนนี้ต่อได้เลย
เทหม้อนม(ส่วนผสมเปียก)ลงในชามอ่าง
แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน เทส่วนแรกลงไปก็นวดส่วนผสมให้เข้ากัน
แบ่งแป้งเทใส่ลงไปอีกส่วนหนึ่ง แล้วก็นวดผสมให้เข้ากัน
ครั้งสุดท้ายก็ใส่แป้งจนหมดนวดให้เข้ากันดี
หรือใครจะเทแป้งออกมานวดต่อบนโต๊ะ นวดนานแค่ไหน....?
สำหรับเราก็กะเอาว่านวดจนแป้งนิ่มชนิดที่ว่า
ลองกางๆดูเห็นความบางของแป้งก็ใช้ได้แล้ว







โผล่มาก็เป็นรูปจบด้วยการใช้เครื่องนวดแป้งเลยนะเรา

ขัันตอนแรกซึ่งเป็นเรื่องการผสมแป้งลืมถ่าย แหะๆๆ





นี่แหละกางออกมาจะเห็นเป็นแผ่นฟิมล์บางๆได้


จัดการรวบแป้งให้เป็นก้อนกลมๆใส่อ่าง

พักแป้งไว้ในที่ร้อนสักประมาณ 1 ชม




แป้งจะขยายตัวขึ้นเป็นสองเท่า(มั้ง)


ภาพรวมพวกส่วนผสมเอามาให้ดูเล่นๆ







พอพักแป้งครบ 1 ชม.แล้วก็เอาแป้งออกมาเทลงบนโต๊ะ

จัดการนวดๆไล่ลมออกสักหน่อย แล้วก้แบ่งแป้งออก

เป็น 12 ก้อน แต่ละก้อนก็คลึงกลมๆๆพักแป้งไว้ให้ขึ้นอีกรอบ

พักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป แป้งจะโตพองขึ้นอีกรอบ






หลังจากพักแป้งรอบ 2 จบลง

ก็เอาน้ำมาทาบนแป้งให้ทั่วหน้าขนมปัง

แล้วก็จัดการโรยด้วยเม็ดฟักทอง ถั่วงา

เม็ดทานตะวัน โรยตามใจชอบได้เล้ยจัดหนักๆ

แล้วก็ส่งเข้าเตาอบด้วยไฟ 190 องศา

เปิดใบพัดช่วยด้วยนะคะ วางที่ตะแกรงด้านล่างสุดเลย

อบประมาณ 7-10 นาที เราอบ 10 นาทีออกมาหน้าตาเยี่ยงนี้แหละ










ทำออกมาได้ 12 ก้อน เราแบ่งเก็บเข้าใส่ช่องฟรีชไว้
เก็บไว้กินเป็นอาหารเช้าได้อีก 3 วัน
ช่วยสามีประหยัดค่าน้ำมันที่ต้องขับรถออกไปซื้อ
ขนมปังแค่ 2-3 ชิ้นต่อวันมากินกัน ได้ไม่น้อยเลย
แถมรสชาตินุ่มอร่อยไม่แตกต่างจาก
ร้านค้าที่สามีชอบไปซื้อมากินประจำทุกวันหยุดด้วย
ฮ่า ๆ เจอเมียพาประหยัดเงินซะแว้วนายกระจอก


สุดท้ายขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะค่ะ



Create Date : 03 กันยายน 2556
Last Update : 6 ตุลาคม 2556 3:45:56 น.
Counter : 1557 Pageviews.

1 comments
  
อยากจะลองหัดทำซักทีค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 กันยายน 2556 เวลา:17:04:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ยืนงงในดงครัว
Location :
กรุงเทพฯ  Denmark

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ชื่อ (ป้า)พรรณ หรือ เหน่ง นะค่ะ เริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่ในครั้งนี้ ด้วยวัย 40 กะรัต
กามเทพตั้งใจทำงานมากเลยอะ ป้าพรรณ แค่มาเที่ยวเดนมาร์กครั้งแรก โดยมาในฐานะแขกเชิญของน้า ให้มาเที่ยว เดนมาร์ก แต่....เอาเข้าจริงต้องกลาย เป็นเด็กเสริฟอาหารในร้านของน้าเราเอง มากว่าเที่ยว ฮ่าๆ นั่นแหละกามเทพทำงาน ตอนได้เป็นเด็กเสริฟ(จำเป็น)ที่โต๊ะสามี ปิ๊งๆๆ กัน สุดท้าย 2 ปีผ่านไป ได้แต่งงานกัน


มาอยู่เดนมาร์ก ก็เลยอยากจะบันทึกเรื่องราวชีวิตในต่างแดน เพื่อเก็บเอาไว้อ่านย้อนหลัง เมื่อเราแก่ตัวไป จะได้รู้ว่า ช่วงชีวิตหนึ่งที่ห่างหายจากครอบครัวอันเป็นที่รัก มีเรื่องราวอะไรน่าจดจำบ้าง แม่เป็นยังไง ลูกๆเป็นยังไง ใครเศร้า สุข ทุกข์ใจ เรื่องราวที่เข้ามาดี ร้าย อย่างไร? บันทึกไว้เพื่อจดจำกับเรื่องราว

พื้นที่ห้องน้อยๆแห่งนี้... เป็นเสมือนสมุดบันทึก เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆที่พบเจอ หรือแม้กระทั่งเพื่อเก็บบันทึก ถึงอาหารของแม่ที่พร่ำ(บ่น)สอนให้เราทำ ซึ่งก็พอจะทำเป็นอยู่บ้าง อาหารไทยได้จากแม่ อาหารจีนได้มาจากแม่สามีเก่า
แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยเอาใจใส่ หรือในรักการทำอาหารเหมือนแม่ ทำให้ต้องมาหัดเรียนรู้ อาหารบางอย่างจากเพื่อนบ้านชาวบล๊อคแก๊งค์ด้วยกัน ก็หลายท่าน ขอบคุณทุกท่านที่พากันทำฮาวทู ทีละขั้นตอน สอนอย่างจริงใจ และให้อย่างจริงใจ
ขอบคุณชาวบล๊อคแก๊งค์ ที่แบ่งปันสูตรอาหารต่างๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

และสุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่คอมเม้นท์ไว้ให้ค่ะ และขออภัยด้วยหากไม่ได้ไปเม้นกลับ เนื่องด้วยไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยๆเหมือนเก่า
images by free.in.th