|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
กลับมาแล้วอย่าง wide awake (?)
เพิ่งกลับมาถึงเมกาเมื่อวันพุธที่แล้ว (14 Jan) ขากลับก็ขลุกขลักนิดหน่อย แต่ก็แก้ปัญหาไปได้ นั่นคือ เครื่องที่จะนั่งจากญี่ปุ่นไปชิคาโกเกิดอาการดีเลย์แบบไม่มีกำหนด นั่นคือพอไปถึงสนามบินนาริตะปุ๊บ ก็ต้องไปต่อแถวรอเจ้าหน้าที่สายการบินเลย พร้อมกับผู้โดยสารอื่นๆที่จะบินเครื่องนี้ โชคดีที่ออกมาจากเครื่องเร็ว จึงได้เป็นคิวแรกๆ (ประมาณคนทีสิบกว่าๆ) แต่กระนั้นก็ต้องรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็ re-route ให้ไปซีแอตเติล จากซีแอตเติลไปเดนเวอร์ จากเดนเวอร์มาฮิวสตัน เบ็ดเสร็จรวมเวลาแล้วกลับมาเร็วกว่าแผนเดิม ยี่สิบนาที (ต่างมั้ยเนี่ยะ)
ระหว่างรอแถวควักหนังสือมาอ่าน จำชื่อภาษาไทยไม่ได้ละ เป็นหนังสือแปลเขียนโดย Diana Winston แต่ชื่อภาษาอังกฤษคือ Wide Awake เป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธธรรมที่เขียนโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่นอเมริกัน ซื้อมาคืนก่อนบินจากร้านซีเอ็ดที่เมืองไทย เพราะเปิดๆดูเห็นว่าเขียนได้ดีทีเดียว มัน practical และตอบคำถามที่ผมมีเกี่ยวกับชีวิตได้...กว่าจะถึงคิวตัวเองอ่านไปได้ 70 หน้า!!!
สิ่งที่ประทับใจกับหนังสือเล่มนี้คือ เค้าบอกว่าความทุกข์ในชีิวิตคนเราน่ะ มันจะไม่ใช่ทุกข์ ถ้าเราแยก "ใจ" ออกมา เช่น ถ้ามีปัญหา มันแน่อยู่ว่าปัญหาได้เกิดขึ้นจริง แต่การเกิดของปัญหานั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว (แต่มีผลต่อมาในปัจจุบัน) แต่เราแก้อดีตไม่ได้ ดังนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งคิดว่า ทำไมปัญหานี้เกิดกับเรา ทำไมมันไม่เกิดกับคนอื่น ทำไมมันแย่อย่างนี้ ฯลฯ เพราะคิดอย่างนี้ไปปัญหาก็ไม่ได้หายไป และเรากำลังสูญเสียสิ่งที่มีค่ามากที่สุด นั่นคือ เวลาในปัจจุบันขณะ ซึ่งเป็นจริง และเป็นส่ิงเดียวที่เราจะทำได้เพื่อแก้ปัญหาออกไป...
หลังจากอ่าน ผมเอาหลักนี้ไปใช้ทันที เริ่มจากการยืนต่อแถวรอเจ้าหน้าที่สายการบิน ผมคิดว่าคนอื่นๆก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน และมันก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะผมก็ยังยืนอ่านหนังสือไปได้ และในเมื่อเครื่องมันก็ต้องดีเลย์อยู่แล้ว มันไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากคอยให้ถึงคิวเราและระหว่างนั้นก็ทำจิตใจให้สบายดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็สบายใจขึ้น บางคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ผมทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าผมเป็นคนที่หงุดหงิดง่ายกับเรื่องแบบนี้ ไม่ชอบรอ ไม่ชอบเสียเวลา อยู่เฉยๆไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นทุกข์ได้บ่อยๆกับเรื่องที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยสำหรับคนอื่นๆ
เรื่องความรักก็เหมือนกัน หนังสือเล่มนี้แนะนำว่า ถ้าจะรักใคร ให้รักด้วยจิตที่เป็นอิสระ นั่นคือ มีรักน่ะมีได้ แต่ความสุขของเราไม่ควรจะขึ้นอยู่กับคนๆนั้น แต่ควรขึ้นกับใจของเราเอง อันนี้ผมว่าเป็นคำสอนที่ดีนะ นั่นคือ เราไม่ควรจะ "แปรตาม" คนๆหนึ่งหรือสิ่งที่เค้าทำ (ในเชิงเช่นว่า ถ้าเค้าไม่โทรมา ก็เฝ้ารอ ก็งอน ก็ระแวง ฯลฯ) หรือบีบให้เค้าแปรตามความต้องการของเรา แต่เราควรจะเป็น "ค่าคงที่" และมีความสุขที่ใจเราเอง มีความสุขที่ได้รัก ถ้ารักได้ดังนี้ เราจะไม่มีความทุกข์ที่เกิดเพราะรักเลย...
แน่นอนว่า คำสอนเกี่ยวกับความรักข้างต้นมันไม่ง่าย แต่ผมคิดว่าถ้าทำไปทีละนิดๆ มันไม่น่าจะยากเกินไป
ตอนนี้เรื่องความรักของผมก็ดีในระดับหนึ่ง คือ รู้สึกดีที่ได้รักเค้า เค้าทำให้มีกำลังใจในการทำงาน อยากจะรอไปเจอ...ถึงแม้ว่าในใจลึกๆก็หวังว่าเค้าจะรักเราตอบ (ยังต้องฝึกรักให้เป็นต่อไป...)
เร็วๆนี้ผมก็จะได้เจอกับเค้าอีกแล้วแหละ...ตื่นเต้น...มีความหวัง...มีกำลังใจ...อยากได้เจอเร็วๆ
แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ทำปัจจุบันให้ดี ทำหน้าที่ตรงหน้าให้ดี until then...รอผมนะ...อย่าลืมผมนะ...
Create Date : 19 มกราคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2552 6:47:37 น. |
Counter : 983 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: sony23 19 มกราคม 2552 8:51:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: Annie/Fl. IP: 71.99.78.86 19 มกราคม 2552 9:39:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: BKK IP: 124.120.135.151 24 มกราคม 2552 16:04:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nymphadora IP: 58.9.80.208 29 มกราคม 2552 16:54:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|