คิดนอกกรอบ(อีกที)
คิดนอกกรอบ(อีกที)
เมื่อวานป้ามีมี่ได้ดูหนังประวัติคุณหมอนักวิจัยคนคิดค้นยารักษามะเร็งเต้านมสูตรใหม่เฮอร์เซ็ปติน กว่าคุณหมอจะฝ่าด่านอรหันต์หมอหัวโบราณที่มหาลัย UCLA บริษัทยาไบโอเทค และ FDA มาได้มันใช้เวลาร่วม 20 ปี เท่านั้นไม่พอหมอแทบเป็นบ้า ครอบครัวยากจน ภรรยาและลูกๆแทบไม่ได้อยู่กะสามี จริงๆเพื่อนที่ดูที่บ้านเค้าไม่อยากดูหนังประเภทนี้หรอกเพราะมันรันทดมาก แต่ป้าชอบดูมากเลย เพราะสงสัยว่าชีวิตคนดีดี ทำไมต้องถูกเอาเปรียบ กฎบ้าๆบอๆ เชื่อในทฤษฎีเก่าๆ(ฉายแสง ทำคีโม)ที่ทุกคนก็รู้ว่าไม่ได้ผล ทำไมคนดีดีต้องแพ้เป็นพระ (ต่อมาได้อ่านหนังสือท่านอาจารย์ชยสาโรเรื่องแพ้ไม่เป็นพระ 555+ สะใจโก๋มั่กๆ)
มานั่งพิจารณาดูคิดว่าพระเจ้า(ธรรมชาติ)คงต้องการพิสูจน์ว่าคุณหมอดีจริงมั้ย ฉลาดจริงมั้ย เป็นพระโพธิสัตว์ตัวจริงหรือเปล่า หรือหมอพาณิชย์กันแน่ (อยากรวย อยากดังแต่ทำเป็นเนียนประมาณนั้น) ในที่สุดหลังจากผ่านการพิสูจน์จากพระเจ้าแล้วหมอก็ดังจริงๆ แต่คนที่รวยคือบริษัทผู้ผลิตยาต่างหาก
ป้ามีมี่เกริ่นมาตั้งนานเล่าเป็นต่อยหอย อยากบอกพวกเราที่เข้ามาอ่านว่าคุณๆทั้งหลายยังจำตอนที่ตัวเองเป็นเด็กได้มั้ย จำความฝันของตัวเองได้มั้ยคะ หรือว่าชีวิตสมัยนี้มันพาไป จนพวกเราขาดจุดยืนกันหมดแล้ว บางคนบอกว่าเราจะเป็นคุณหมอที่ดี ไม่เป็นหมอเสริมสวย ไม่เป็นหมอหากิน บางคนบอกว่าดิชั้นชอบเป็นครูสอนเด็กๆจริงๆนะ แล้วบัดนี้คุณได้ทำอย่างที่บอกคนอื่นหรือเปล่า เพื่อนบางคนของป้ามีมี่เค้าบอกตอนสัมภาษณ์เลยว่าเค้าอยากเป็นหมอเพราะรวย เออ! อันนี้เค้าพูดความจริง เค้าว่าเค้าเกือบไม่ผ่านแน่ะ แต่เค้าพูดเรื่องจริงนะ ต่อมาเค้าก็รวยจริงๆตามฐานะแต่เค้าก็เป็นคุณหมอที่ดีเพราะฝีมือจริงๆ ไม่ต้องมาทำท่าเนียนแบบหมอหลายๆท่าน ป้ามีเพื่อนคนนึงซึ่งชื่นชมเค้ามากเฝ้าดูเค้ามานาน เค้าสามารถเป็นอย่างที่เค้าใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กที่จะช่วยเหลือผู้ด้อยสิทธิทั้งหลาย ทั้งที่เรียนกฎหมาย เค้าสามารถไปหากินได้ตังส์มากๆเพราะสมัยนี้ฟ้องกันออกบ่อยๆ(แต่กรณีเพื่อนคนนี้เค้าไม่ลำบากเพราะที่บ้านมีฐานะพอควร)
ที่บ้านป้ามีมี่จะแขวนรูปเด็กๆที่วาดรูประบายสีแปลกๆไว้หลายรูป เด็กๆวาดเมื่อพวกเค้าอายุประมาณ 5-6 ขวบเป็นส่วนใหญ่ บางคนอาจคิดว่าป้าเค้าก็จะอวดรูปลูกตัวเองน่ะสิ อันนี้จริงส่วนนึง แต่ส่วนใหญ่ป้าเอาไว้ดูว่าทำมั๊ย เด็กๆเค้าวาดรูปได้ประหลาดดีแท้ เช่นรูปนึงมีคอนเซ็ปว่าไปเที่ยวแค้มป์ เด็กน้อยวาดออกมาเป็นจระเข้ไล่งับช้าง ช้างต้องปีนขึ้นต้นไม้ ภาพมันดูแล้วน่าหัวเราะแบบไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนที่ภาพนี้ได้รางวัลใหม่ๆ ป้าขอดูจากจนท.เลย แต่พอเห็นภาพแล้วงงมากแถมอายด้วยเพราะไม่สวยเลยอ่ะ สงสัยกรรมการทันที (จริงๆสงสัยตั้งแต่เด็กๆแล้วว่าทำมั้ยชั้นวาดภาพตอนเด็กๆไม่เคยได้รางวัลเลยอ่ะ ภาพออกจะสุดสวย 555+) มาเมื่อแก่จึงได้คิดว่า เด็กๆเค้ายังไม่มีการปรุงแต่ง ยังไม่เจอสภาพสังคมต่างๆที่จะมาครอบงำความคิดเค้า เค้าเป็นอิสระจากความคิดทั้งหลาย เค้าถึงสามารถคิดอะไรนอกกรอบได้ (ที่สำคัญ เด็กๆมักจะแจ่มใสเป็นพิเศษ) ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่ต้องคิดตามก้นกันไป ใครว่าอันนี้เก๋ เราก็ว่าเก๋กะเค้าด้วย ใครใช้บีบี เราต้องใช้ด้วย ว่าแต่เราใช้ทำไมอ่ะ ถ้าเราใช้เพราะมันเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เราทำงานวงการนี้ วงการโฆษณา หรืออีกทีบริษัทออกให้เพราะจะได้ตามตัวเราทุ๊กเวลาก็ไม่ว่ากัน
บล็อกนี้ป้ามีมี่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังริเริ่มงานใหม่ๆ คนที่กำลังท้อใจ คนที่กำลังเบื่องานเบื่อชีวิต เราลองมาทำ(คิด)แบบเด็กๆมั้ย เด็กๆเค้า so simple ค่ะ ใครคิดไม่ออกว่าเด็กๆเป็นอย่างไรลองไปพูดคุยเล่นกะเด็กๆดู เผื่อคุณจะมีไอเดียบรรเจิด ที่แน่ๆคุณจะได้ความสดใสของเด็กๆติดตัวมาด้วย ส่วนกรรมวิธีคิดนอกกรอบข้อหนึ่งสองสาม ป้าว่าปรึกษาด็อกเตอร์กูเกิ้ล หรือแผงหนังสือทั่วไปก็ได้ค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 19 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 19 สิงหาคม 2553 16:22:25 น. |
|
4 comments
|
Counter : 620 Pageviews. |
|
|