แม่หมอPaMiMi ตอน :Becoming  Someone

       อันนี้ถ้าใครยังไม่เคยเคยดูหนังเรื่องBecoming Jane  ป้าแนะนำค่ะ  เป็นประวัติชีวิตของคุณJane Austen นักเขียนอังกฤษยุคบุกเบิกสมัยศตวรรษที่18 สมัยที่ผู้หญิงต้องแต่งงาน  และถ้าอยากสบายก็ต้องแต่งงานกับคนรวย เรื่องการเขียนหนังสือหาเงินเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลยโดยเฉพาะการเกิดมาเป็นผู้หญิง

          ที่ป้ามีมี่เอามาเกริ่นไม่ได้มีอะไรมาก  แค่อยากจะเล่าว่าสมัยนี้ก็เป็นอีกสมัยนึงที่คนดิ้นรนจะเป็นอะไรๆที่ยังไม่ได้เป็น ชีวิตสมัยนี้จึงยุ่งยาก ซับซ้อน งุนงง แม้แต่การตั้งชื่อนามสกุลตัวเองก็มีเคล็ดลับมากมาย  ใครๆก็อยากให้ชีวิตตัวเองดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  การออกแบบชื่อเสียงจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก  เป็นที่ฮอตฮิตมาเมื่อราวสิบปีมานี้เองที่คนเปลี่ยนชื่อนามสกุลกันเป็นล่ำเป็นสัน  ทำให้อาชีพหมอดูทำรายได้ดีมั่กๆ  หมอดูบางคนหัวใสกว่านั้น  มีความสามารถพิเศษทำให้เรื่องง่ายๆกลายเป็นเรื่องสำมะคัญ ยากกกก มีกฎกติกาล่อหลอกให้คนมาเรียนได้อย่างแนบเนียน  กลยุทธที่ได้ผลคือ เปลี่ยนชื่อแล้วรวย  สุดยอดที่ซู๊ด  ง่ายจริงๆที่คนเราจะเปลี่ยนชื่อแล้วรวย 

สิบปีที่แล้วกลยุทธ์มีดีแล้วบอกต่อได้เกิดที่อีสานจังหวัดนึง  คนแห่มาเรียนกันมากมายเพราะสมัยก่อนเรื่องหมอดู  การตั้งชื่อนี้จะจำกัดอยู่ในวงการแคบๆ  คนชั้นสูง(แบบไหนไม่ได้บอกแฮะ)  ทำให้เป็นโอกาสที่คนสมัยนี้จะได้เข้าถึง  การเรียนก็ไม่ยากเลย  เรียนกันแค่หนึ่งวันจบ  ปัจจุบันป้าก็ยังเห็นโฆษณาจัดสัมมนาเป็นเรื่องราว  เรื่องแบบนี้ก็จะมี Success Story ของคนที่เปลี่ยนแล้วรวยมาเล่าไม่รู้เบื่อ  ว้าว! ถ้าชีวิตมันสำเร็จรูปแบบมาม่าต้มยำก็จะดีไม่น้อย 555+

          ถามคห.ป้ามีมี่ว่าแล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะเรื่องชื่อ มันก็น่าจะมีไม่น้อยเลย  ใครอยากชื่อบุญทิ้ง  สมศรีบ้าง(แต่ครูสมศรีแกสอนจนรวยเลยนะเออ)  ชื่อมันสำคัญกับคนฟัง  ดูแต่เมื่อก่อนต้นไม้ชื่อลั่นทม  ไม่มีใครกล้าปลูก  หาว่าปลูกแล้วซวย  ต่อมามีแม่ค้าจตุจักรหัวใสรายนึง  แกจับจุดนี้ได้เปลี่ยนชื่อแซ่ใหม่ให้เพราะพริ้ง  แถมท้ายแอบอ้างเจ้านายว่าเปลี่ยนให้อีกต่างหาก(ประเภทเขาเล่าว่า)  ปัจจุบันคุณลั่นทมไม่มีอีกแล้ว  มีแต่คุณลีลาวดีแพงระยิบ  ทั้งๆที่เป็นต้นไม้เลี้ยงง่าย  ออกดอกก็ง่าย  ชื่อนั้นจึงสำคัญฉะนี้

          ถามต่อไปแล้วจริงไหมที่เปลี่ยนแล้วจะรวย  ชีวิตดีขึ้นในพริบตา  เออ! อันนี้ไม่จริงเลยอ่ะ  ดูอย่างครูสมศรี(ขออนุญาตอ้างชื่อหน่อยค่ะ) เมื่อลูกป้าบอกจะไปเรียนพิเศษกับครูสมศรี  สไตล์ป้ามีมี่ก็ต้องไปดูให้เห็นกะตาว่าลูกเรียนกะใคร ที่ไหน อย่างไร (ประมาณว่าขอเรื่องมาก)  ดูไปสงสัยไปทำมั้ยกะแค่เรียนไวยากรณ์ คำศัพท์ต้องไปเรียนพิเศษกัน  สถานที่ก็ไม่ดึงดูดให้อยากเรียนเลย  ที่นั่งให้ผู้ปกครองก็ไม่ต้องพูดถึง(หลายๆที่ก็เป็น  ประมาณว่าก็คุณให้ลูกคุณมาเรียนเองอ่ะนะ)  ไม่นานเมื่อสอบถามลูกๆบอกว่าครูสอนดีค่ะ  อันนี้สิของจริงแท้  ในเมื่อครูสอนดีเด็กก็บอกต่อ  ไม่ต้องโฆษณา  ครูก็รวยไปตามๆกัน

          จริงๆแล้วเรื่องนี้อยู่ที่กายวาจาใจของเราต่างหาก  ทำให้ดี  ขยัน หมั่นสังเกต ไอ้รวยเร็วๆน่ะไม่มีร๊อก ป้าว่าเปลี่ยนชื่อเอาฤกษ์เอาชัยก็พอแล้ว  แบบว่าเจ้าตัวเขาชอบ  ฟังแล้วมีความสุข  ไม่ใช่ฟังแล้วตรูไม่ชอบเล้ย ชื่อนี้ เป็นต้น  บางท่านปรึกษาป้ามีมี่เพื่อตั้งชื่อบริษัทว่าเราควรจะใช้เลขอะไรดี 24 36 45 54  555+ สุดท้ายได้เลขดีดีไปถ้าทำไม่ดีมันก็ไม่ใช่น่ะ  อยากบอกทุกท่านว่าอย่าเอาอุปาทานพวกนี้มาทำให้ชีวิตคุณอึดอัดไปมากกว่านี้เลยนะ  ทุกวันนี้ชีวิตคุณก็ไม่ง่ายเท่าไรอยู่แล้ว  เราน่าจะทำให้เราใช้ชีวิตสบายๆเป็นอิสระบ้าง  ผ่อนคลายลงไปบ้าง

          ท้ายนี้คนอาจถามว่าป้ามีมี่เปลี่ยนชื่อแซ่ไปเท่าไรแล้ว  อันนี้ขอเล่าเพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเองเล็กน้อยว่า  หลายๆท่านให้เกียรติให้ป้ามีมี่ตั้งชื่อมากพอควร  มีทั้งเด็กอุแว๊อุแว๊  ผู้ใหญ่ ชาย หญิง  แต่การตั้งชื่อให้เป็นศาสตร์และศิลป์นั้นยากพอควร  ทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อเท่ห์ๆ  ไม่เป็นลิเก  ไม่โหล  อันนี้ยากกว่ากันเยอะ  แถมยังต้องถูกตำราบีบอี๊ก โน๋ว!!(ต้องผูกดวง  ดูมันให้ละเอียด  จุดอ่อนคืออะไร ตำราชื่อแซ่อีกแน่ะ) มันเหนื่อยสมองนะฮ้า  อย่าได้คิดว่าแค่ตั้งชื่อเชียว  สไตล์ป้ามีมี่นั้นไม่ชอบของทำซ้ำค่า  เวลาคนที่เปลี่ยนชื่อกลับมาเล่าให้ฟังแบบชมเชยว่าชื่อที่เธอตั้งนี้มีคนชม  ป้าจะดีใจมั่กๆ (สุดท้ายแอบมีอัตตา555+)

ปล. งานนี้ใครใคร่เปลี่ยนก็เปลี่ยน ใครไม่อยากเปลี่ยนก็ไม่ต้องเปลี่ยน  ขอให้ทำแล้วสบายใจ ชอบ ชอบ ก็พอแล้วค่ะ

Create Date : 27 มิถุนายน 2553
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 20:26:08 น.		3 comments
Counter : 886 Pageviews.
Share Tweet