|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความเป็นธรรมในลมปาก"สมานฉันท์"
กว่า 4 เดือนแล้วที่ชายหนุ่มต้องใช้เวลาอยู่บนเตียงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากขาด้านขวาถูกตัดทิ้ง ขณะที่แขนทั้ง 2 มีอาการชาจนบังคับใช้งานไม่ได้ นานๆ ครั้งถึงจะมีคนช่วยประคับประคองพาเขาออกมานั่งหน้าบ้านดูรถที่วิ่งผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน
"มะรีกรี ดอเลาะ" ต้องกลายเป็นคนพิการซ้ำซ้อน และตกอยู่ในห้วงทุกข์อย่างแสนสาหัสจากเหตุการณ์สังหารหมู่ และการจับกุมผู้ชุมนุมประท้วงหน้า สภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
เขาเป็นหนึ่งในคนกว่า 1,000 คน ที่ถูกจับกุมและยัดตัวขึ้นไปอัดแน่นอยู่บนรถยีเอ็มซี เพื่อนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 150 กิโลเมตร
โชคดีประการเดียวของเขาคือ มีชีวิตเหลือรอดมาได้ ผิดกับชายหนุ่มอีกหลายสิบคนที่ต้องจบชีวิตลงบนรถทหาร โชคร้ายคือเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง พบว่าตัวเองไม่สามารถรักษาขาและแขนไว้ได้ดุจเดิม
"ผมนอนอยู่โรงพยาบาล 6 วันจึงรู้สึกตัว รักษาตัวที่นั่นอีก 1 เดือนกว่า เท้ามันเปื่อยเลยต้องตัดทิ้ง แขนทั้ง 2 ข้างมันชาไปหมดเลยใช้การไม่ได้ ผมสลบตั้งแต่อยู่บนรถ มันแน่นไปหมดจนหายใจแทบไม่ออก" ชายหนุ่มเล่าถึงความทรงจำอันกระท่อนกระแท่นในคืนโหดร้าย
สภาพของเขาเมื่อตอนอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่คือ แขน 2 ข้างถูกห้อยไว้ด้วยสายระโยงระยาง เพื่อให้เลือดยังคงไหลเวียน เมื่อกลับมาอยู่บ้านที่ อ.เมืองนราธิวาส จึงต้องใช้ผ้าโยงกับคานบ้านเพื่อห้อยแขนเหมือนที่อยู่โรงพยาบาล
"หมอโรงพยาบาลหาดใหญ่นัดให้ไปดูอาการอีก แต่ผมไม่ได้ไปเลยตั้งแต่ออกมาเพราะมันไกล และเดินทางลำบาก แขนก็ยังใช้ไม่ได้ทั้ง 2 ข้าง ขาเทียมก็ยังไม่มี"
ชีวิตที่ผ่านมา 26 ปี ของเขาคล้ายกับเพื่อนๆ ในชุมชนมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ พยายามเรียนให้สูงสุด ออกมาหางานทำแถวบ้าน สลับกับการช่วยครอบครัวกรีดยาง และเดินเข้าเดินออกระหว่างบ้านกับมัสยิด
พ่อของมะรีกรีอายุ 74 ปี ทำงานไม่ไหวแล้ว ส่วนแม่อายุ 58 ปี เป็นกำลังหลักให้ครอบครัวอยู่คนเดียว
"ความรู้สึกตอนนี้มันบอกไม่ถูก เคยถอดใจอยู่เหมือนกัน มันทุกข์ไปหมด แต่เรานับถือพระเจ้าจึงทำให้อยู่ได้" เขาอธิบายถึงวิธีทำใจให้มีชีวิตต่อไป "ตั้งแต่ออกมาก็ไม่มีใครช่วยเหลือ บัตรทอง 30 บาท หายไปตั้งแต่คราวเกิดเรื่อง ตอนนี้ผมอยากได้ขาเทียม"
เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชะตากรรมในเหตุการณ์ตากใบส่วนใหญ่ ผู้บาดเจ็บและพิการถูกปล่อยทิ้งจากรัฐบาลไทย เหมือนกับเขาไม่ใช่พลเมืองของราชอาณาจักรแห่งนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ รัฐบาลไม่มีสิทธิเลือกปฏิบัติ
ที่แปลกประหลาดคือ รัฐบาลรีบจ่ายเงินให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้รายละ 100,000 คน แต่คนบาดเจ็บและพิการเช่นเดียวกับมะรีกรีกลับไม่ได้รับเงินชดเชยหรือช่วยเหลือใดๆ เลย
แต่วันนี้ผู้บริหารประเทศกลับเพรียกหาแต่คำว่า "สมานฉันท์"
ชีวิตที่ไม่ต่างกันของ "มาหะมะ มาโซ" หนุ่มตากใบที่มือข้างหนึ่งยังใช้การไม่ได้ ขณะที่ขายังต้องมีไม้เท้าค้ำยันอยู่ มันเป็นผลพวงจากปฏิบัติการตากใบของทางการไทย
"ขาข้างขวายังไม่มีแรง เลยต้องใช้ไม้เท้าช่วย มือยังใช้ไม่ได้ มันถูกทับนานตอนเขาจับขึ้นรถ" เขาเล่าถึงสภาพร่างกายในปัจจุบัน "ลำบากเหมือนกัน ก็อยู่ไปวันๆ ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร"
มาหะมะเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และเคยเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯในช่วงสั้นๆ แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด เมื่อได้ข่าวว่าจะมีการจ้างเข้าไปทำงานเกี่ยวกับกองทุนหมู่บ้าน แต่นั่นเป็นเพียงการจ้างงานชั่วคราว ในที่สุดเขาจึงยึดอาชีพรับจ้างเก็บค่าไฟฟ้า
"กินเปอร์เซ็นต์เอา ได้เดือนละ 1,000 บาท ก็อยู่ได้แล้ว อยู่บ้านเราเอง ไม่ต้องเสียค่าเช่า ค่ากิน" เขาเล่าถึงชีวิตในวันที่ยังปกติสุข แต่ทุกอย่างต้องผันเปลี่ยนไปหมดในวันที่ 25 ตุลาคม ระหว่างกำลังเก็บค่าไฟซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.อ.ตากใบ พอสมควร แต่โชคไม่ดีกลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งหนีมาทางเขา ทำให้เขาต้องถูกกวาดต้อนขึ้นรถยีเอ็มซีไปด้วย "ส่วนใหญ่มีแต่เพื่อนเท่านั้นที่มาเยี่ยม เคยคนมาสอบถามเหมือนกัน แต่ยังไม่เห็นมีความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการเลย" หนุ่มเคราะห์ร้ายเล่าถึงน้ำใจของคนในรัฐบาล
ทุกวันนี้ทั้งมะรีกรีและมาหะมะถูกโดดเดี่ยวจากรัฐบาลไทย และสังคมหัวเอียงขวากลุ่มใหญ่อย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับ 58 จำเลยในเหตุการณ์รุนแรงหน้า สภ.อ.ตากใบ ที่ถูกเกลี้ยกล่อมให้รับสารภาพเพื่อแลกกับความผิดที่รอลงอาญา ทั้งๆ ที่ศาลยังไม่พิพากษา
ห่างออกไปที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ชุมชนมุสลิมที่นี่ยังคงเจ็บช้ำน้ำใจและตั้งข้อกังขาที่นักฟุตบอลยกทีม ซึ่งเป็นลูกหลานของพวกเขา 19 ชีวิตถูกยิงตายพร้อมเหตุการณ์สังหารหมู่ที่มัสยิดกรือเซะ เพราะสภาพศพที่พวกเขาเห็นเหมือนเป็นการจ่อยิงมากกว่าการวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบของศาล
หลากหลายเรื่องราวในปักษ์ใต้ถิ่นนี้ที่ความเป็นธรรมยังเข้าไม่ถึง แม้ทำความจริงให้ปรากฏยังเป็นเรื่องยาก
แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับคำว่า "สมานฉันท์"
Create Date : 20 มีนาคม 2548 |
|
2 comments |
Last Update : 20 มีนาคม 2548 18:35:18 น. |
Counter : 863 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ไบเบิ้ล IP: 61.90.94.127 21 มีนาคม 2548 0:52:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: suparatta IP: 203.118.115.66 2 เมษายน 2548 19:24:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อ่านแล้วเศร้าใจจัง