Group Blog All Blog
|
พาหนูไปตรวจตา 2 เดือน 12 วัน จากที่แม่กังวลเรื่องตาของหนู ว่าจะเขรึป่าว วันที่ 31 ม.ค. 2554 ลิลลี่อายุ 2 เดือนกับ 12 วัน ก็ถึงวันนัดที่ต้องไปตรวจกัน ไปตรวจกับหมอวรากร ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า หมอเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคตาเด็กและโรคตาเข หมออยู่ช่วง 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม ตอนหมอมาถึงก็ 4 โมงเกือบครึ่งแล้ว ลิลลี่น้อยของแม่ก็กำลังกินนมอยู่.....((ไปไหนก็กินนมตลอดเลย)) หมอซักถามอาการ แม่ก็เล่าไป...สงสัยว่าหนูจะตาเข ก็เลยมาตรวจดู แล้วก็เรื่องท่อน้ำตาอุดตัน แม่ก็ลองนวดให้หมอดูว่าทำถูกมั๊ย หมอก็แนะนำว่าให้กดลงไปตรงหัวตาเลย เพราะถ้านวดแบบนั้นมันช้าสำหรับเด็ก จะหายช้า กดลงไปเพื่อให้เกิดแรงดัน ไปดันให้ท่อน้ำตาเปิดจ้ะ แล้วหมอก็เริ่มตรวจตาเข ตรวจหลายอย่างเหมือนกัน แม่ก็ไม่ได้ถามว่าตรวจอะไรบ้าง อีกอย่างมาถึงตอนนี้ก็เริ่มลืมแล้ว งั้นเอาแบบที่พอจำได้ละกันนะลูก อ้อ!!! ตอนแรกแม่ก็กลัวว่าหนูจะหลับเพราะเพิ่งกินนมเสร็จ แต่ไม่เลย หนูลืมตาแป๋ว ซึ่งก็ดีมาก เพราะว่าทำให้ตรวจได้ หมอก็บอกว่า ถ้าเด็กตื่นก็ตรวจดีสำหรับบางวิธี แต่บางวิธีเด็กหลับจะตรวจง่ายกว่า แต่ตรวจของหนูลืมตาตรวจง่ายกว่าจ้ะ ((โชคดีจริงๆที่หนูน้อยคนนี้ไม่หลับ)) หมอถามก่อนว่า มองตามสิ่งของได้รียัง ซึ่งหนูมองตามได้แล้ว :D หนูนั่งบนตักพ่อที่เก้าอี้ตรวจ แล้วหมอเอาก็ไฟฉายเล็กๆ ส่องตาหนู แล้วก็เลื่อนไปซ้าย แล้วก็ขวา ซ้าย แล้วก็ขวา แล้วก็เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ เป็นตุ๊กตาทิกเกอร์ มีไฟกระพริบด้วย เลื่อนซ้าย ขวา ซ้าย ขวา เพื่อดูว่าหนูมองตามรึป่าว หมอ : ดีมาก ดีมาก แม่ : ... (เงียบอย่างเดียว ) แล้วก็เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ เป็นอะไรไม่รู้ แม่ถามแต่ตอนนี้กลับลืมไปแล้ว !! หมอ : คุณแม่เห็นจุดแดงๆที่เป็นแสงสะท้อนจากไฟฉายมั๊ยครับ แม่ : ค่ะ เห็นค่ะ หมอ : แสงสะท้อนอยู่ตรงกลางลูกตาดำพอดีเลย แม่ : ค่ะ หมอ : แบบนี้ถือว่าปกตินะครับ ไม่มีอาการตาเข เพราะถ้าเข แสงสะท้อนจะไม่อยู่ตรงกลาง จะค่อนไปทางซ้ายหรือขวา แบบนี้เรียกว่าตาเขเทียมครับ ที่เห็นว่าเข เพราะว่าเด็กยังไม่มีดั้งครับ เลยทำให้เนื้อมาบังตาขาวไว้ เลยทำให้มองเหมือนตาเข แม่ :ค่ะ ((เหมือนที่แม่อ่านมาเลย)) พ่อ : แล้วจะมีโอกาสเป็นมั๊ยครับ หมอ : ต้องคอยดูพัฒนาการเด็กครับ ดูว่า 6 เดือนแล้วมองตามของได้รึยัง ดูพัฒนาการด้านอื่นๆด้วยครับ จะช้ากว่าเด็กคนอื่น บลา บลา บลา .... ตาเขเกิดขึ้นได้ทุกวัย ถ้าเกิดในเด็กก็มีโอกาสรักษาให้หายง่ายกว่า แต่ถ้ามาเป็นตอนโตนี่ยากหน่อย แล้วแม่ก็ถาม ถ้าเด็กเป็นจะรักษายังไง ((หมอก็บอกเหมือนที่แม่อ่านมา)) ฝึกโดยการปิดตาก่อน ถ้าไม่หายจริงๆก็ต้องดมยาสลบ แล้วผ่าตัด พอถามถึงความปลอดภัยในการผ่าตัด หมอก็ไม่คอนเฟิร์มว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็น เพราะว่าเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เฮ้อ !!! พ่อกับแม่โล่งใจมากๆ หมดกังวลไปปหนึ่งเรื่องแล้ว
|
หมาน้อย-หมูหวาน
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
Link |
||||||||||||
