หอยแมงภู่นึ่งถึงส้มตำปู
ผมมีโอกาสไปช่วยงานปฐมนิเทศนักเรียนไทยที่จะไปร่วมโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านและเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองจะได้ไม่ห่วงลูกหลานมากมายยามไปไกลตา สถานที่ก็โรงแรมโลกใหม่ ตั้งอยู่แถวๆ ซอยสามเสน ๒ บางลำพู กรุงเทพฯ โดยมีน้องกัลป์ในฐานะผู้จัดการโครงการ ได้ดำเนินการปฐมนิเทศขึ้น และเป็นผลงานสุดท้ายของกัลป์จริงๆ ปีนี้ถนนหนทางแห้งผาก ตรงข้ามกับปี ๒๕๕๔ ที่น้องน้ำมาเยือนท่วมกันอ่วมอรทัยไปทั่วหน้า พอบรรยาย "ชีวิตความเป็นอยู่และคนญี่ปุ่นในปัจจุบัน" และเปิดโอกาสให้ทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครองได้สอบถามโน่น นี่ นั่น เสร็จ น้องๆก็แอบกระซิบว่า เพื่อนผู้บริหารโรงเรียนชาวญี่ปุ่นและครูชาวอเมริกันมายืนยิ้มเผล่รออยู่แล้ว เห็นว่าได้ตั๋วถูกเลยบินมาและอีกสองสามวันจะกลับ น่าอิฉาจัง อย่างผมจะบินไปไหนทียังต้องคิดหน้าคิดหลังตั้งนาน อ่ะนะ ค่าครองชีพและรายได้มันต่างกัน
พวกบอกว่าเรียก Takushi( Taxi ) จากโรงแรมแถวหัวลำโพงมาเดินย่าน Khaosan road( ถนนข้าวสาร ) จากนั้น ก็นั่ง Tukku Tukku มาหาผม ( ญี่ปุ่นออกเสียงตุ๊กตุ๊กไม่ได้ เพราะมีตัวอักษรตัวท้ายเป็น " K " ก็เลยเป็น ตุ๊กกุ ตุ๊กกุ เหมือนคำว่า " Bangkok " พี่ยุ่นจะออกเสียงว่า " บางกอกกุ ( Bangkokku ) ผมพาทั้งคู่เดินลัดเลาะไประหว่างซอยสามเสนสองกับสามเสนสี่ ละแวกนี้เป็นทำเลทองแบบแอบๆ มีทั้งคอฟฟี่ชอป พับ นวดแผนโบราณและร้านอาหารตามสั่ง ชาวต่างชาติมาใช้บริการเยอะมากๆ บรรยากาศก็ดูสบายๆ และสงบเงียบ คนละแบบกับย่าน Khaosan road เลย พวกเราเลือกนั่งร้านแบบ Sea food ฟังดูโก้ แต่ที่จริงเป็นรถเข็น มีทั้งปิ้ง ย่าง นึ่ง และรวก อาหารทะเลสดๆ ประเภท ปู หมึก ปลา และหอยต่างๆ มีให้เลือกกันตามใจชอบ หลังจากนั่งพิจารณาฟองโซดาในน้ำมังสาวิรัต และดูผู้คน ลูกค้าที่ทยอยกันมาไม่ขาดสาย ประเภทซื้อกลับบ้านก็เยอะอ่ะครับ คนขาย แม่ค้า ก็ แบบวันวัวมันโชว์( ทำอยู่คนเดียว ) แต่ทักษะในการหยิบๆ จับๆ จัดว่าคล่องมากๆ ของทะเลที่แสนจะสด และน้ำจิ้มทำเองรสชาติจี้ดจ้าดโดนใจลูกค้า เป็นเสน่ห์โดยรวมที่ทำให้ขายดีตลอด( ถ้าฝนไม่ตก ) ดูอยู่เพลินๆ ก็สะดุ้ง เพราะมีฝรั่งร่างสูง ผมยาว ผิวสีแทน เดินดุ่มๆ มาข้างๆ โต๊ะผม วางขวดเบียร์ไทยสีเขียวดังตึ้ง ทิ้งเป้โครม จัดโต๊ะ กุกๆกักๆ เองอย่างคุ้นเคย ไม่สนใจใคร แล้วนั่งดื่มเบียร์แกล้มหอยแมงภู่นึ่ง พี่แกเคี้ยวงึ่มงั่มๆ พอหมด ก็ลุกหายไปสักพัก เดินหน้ามึนกลับมา วางถุงอีกโครม มีผักสดและส้มตำปู เห็นพริกแดงแจ้ดเลย เค้าตักส้มตำใส่ปาก เคี้ยวกร้วมๆกลืนสลับกับผักสด ส่งเสียงซี้ดซ้าด หน้าตาเหยเก แต่ดูสะใจในรสชาติ แล้วเทเบียร์ล้างคอไปอีกหนึ่งขวด ท้ายสุดได้ยินเสียงเรอดังเอิ้ก ก่อนจะลุกเดินจากไป หลังจากนั้นสักพัก โต๊ะที่ผมนั่งก็ประกอบด้วยหอยแมงภู่นึ่งกับส้มตำปู แถมข้าวเหนียวอีกต่างหาก เนื่องจากเพื่อนสองคนอยากจะชิมกะเค้าบ้าง และพวกบอกว่า ทั้งอร่อย ทั้งเผ็ด กินกันจนน้ำหูน้ำตาไหลละครับ ขอบคุณ คุณต้อมที่เอื้อเฟื้อภาพส้มตำสีจี๊ดจ๊าด และคุณไพรอท ท็อร์ค สำหรับภาพหอยแมลงภู่ที่แสนอร่อย
Create Date : 22 มีนาคม 2556 |
|
3 comments |
Last Update : 9 กันยายน 2556 22:03:00 น. |
Counter : 2310 Pageviews. |
|
|
|