พอได้ทราบอย่างนี้แล้ว หมอคิดว่า ทุกคนคงมีอารมณ์คล้อยตามไปกับหมอด้วย คือรู้สึกเศร้าไปกับเธอ คิดดูสิครับ ลูกคนนี้เป็นลูกคนแรกซึ่งเธออุ้มท้องมานานถึง 8 เดือนกว่า และอีกไม่นานลูกน้อยของเธอ ก็จะลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว แต่ยังไม่ทันไรเลยครับความหวังก็พังทลาย เมื่อคุณหมอบอกเธอว่า ลูกในท้องที่เธอเฝ้าฟูมฟักนับวันนับคืนที่จะเห็นหน้านั้นอยู่ๆ ก็จากไปซะเฉยๆ เป็นใครก็คงทำใจไม่ได้
หมอได้ฟังแล้วก็นั่งอึ้งไปพักใหญ่แต่พอสติเริ่มกลับมา ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็ถามคำถามคุณแม่ต่อว่า เกิดอะไรขึ้น คุณแม่เลยค่อยๆ เล่าไปร้องไห้ไปว่า เธอฝากท้องมาด้วยดีตลอด จนกระทั่งก่อนที่จะมาโรงพยาบาลสักสองวันเธอรู้สึกว่าลูกเธอดิ้นน้อยลง แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แถมตอนนั้นงานก็ยุ่งและยังไม่ถึงกำหนดเวลาที่คุณหมอนัด จึงคิดว่าคงไม่มีอะไร เอาไว้ค่อยมาบอกคุณหมอเมื่อถึงวันนัดก็ได้
พอวันรุ่งขึ้นคุณแม่ก็ยังไม่แน่ใจคิดว่าจะรอต่อ เพราะอีกสองวันจะถึงวันที่คุณหมอนัดแล้ว แต่อยู่ๆ ลูกก็หยุดดิ้นไปเลย รอจนทั้งคืนลูกก็ไม่ดิ้น รุ่งเช้าเลยบอกแฟนให้รีบพามาโรงพยาบาลแต่ก็สายไปเสียแล้ว
เมื่อพูดถึงตอนนี้ก็เห็นแฟนของเธอเดินคอตกเข้ามา นัยต์ตายังแดงก่ำเหมือนกับคนเพิ่งร้องไห้หมอได้แต่ปลอบใจ อยากจะช่วยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังจะตั้งครรภ์ทุกคนนะครับ สิ่งหนึ่งที่หมอมักจะพูดกับคุณแม่ทั้งหลายก็คือ เวลาที่มาฝากครรภ์นั้นคุณหมอใช้เวลาตรวจเพียงไม่กี่นาที แต่ลูกในท้องนั้นอยู่กับเราตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราเองจะต้องมีความรู้และคอยดูแลตัวเองอยู่เสมอ ว่าลูกในท้องของเรายังปลอดภัยอยู่หรือไม่ อย่างไร ฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องลูกดิ้นว่า มีความสำคัญอย่างไรครับ "
แม่ท้อง ท้องแรก ท้องยาก ตั้งครรภ์ คลอด