เข้ารับการอบรมที่ บสก.(BAM) มาค่ะ





"บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด หรือ บสก. ได้ริเริ่มโครงการ พออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. มาตั้งแต่ปี 2552 โดยน้อมนำแนวพระราชดำริ “เกษตรทฤษฎีใหม่” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง ต่อมาในปี 2553 บสก. ได้เปิดโครงการศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียงที่แปลงสาธิต ถนนรามคำแหง โดยได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตรจัดเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้ ให้ให้คำแนะนำด้านวิชาการตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งสามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้จริง ปัจจุบันมีประชาชนทั่วไปทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักเรียนนักศึกษาเข้ามาเยี่ยมชมแปลงสาธิตดังกล่าว ซึ่งได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการทำเกษตรทฤษฎีใหม่อีกแห่งหนึ่ง รวมทั้งเข้ารับการอบรมที่ศูนย์เรียนรู้ซึ่งจัดเป็นประจำทุกเดือน โดยบสก.ไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

ในปี 2554 บสก. ได้นำแนวคิด "ทำกิน 1 ไร่ ทำได้ 1 แสน" เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นการสานต่อโครงการพออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก. ให้มีการพัฒนาสู่รูปแบบที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้มีการจัดทำแปลงสาธิตเกษตรประณีต เพื่อให้ความรู้กับผู้สนใจซื้อที่ดินเปล่ากับ บสก. ทั่วประเทศ โดยแบ่งลักษณะการใช้ประโยชน์ การทำเกษตรภายในพื้นที่ 1 ไร่ ด้วยการจัดสรรที่ดินออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย 1.ทำคันบ่อ หรือ คันนา สำหรับปลูกพืชผักสวนครัว 2.ขุดบ่อปลา หรือทำร่องน้ำ สำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลา , กบ 3.ทำแปลงนาเพื่อปลูกข้าว 4.จัดพื้นที่สำหรับเลี้ยงเป็ด หรือไก่ ซึ่งเกษตรกรสามารถหมุนเวียนเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เกิดจากพื้นที่ 1 ไร่ ไว้บริโภคเอง หรือเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ตลอดทั้งปี และหากปฏิบัติได้ถูกต้องตามหลักทฤษฎีแล้ว จะสามารถสร้างรายได้ต่อปีมากกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป"

(คัดลอกจากเวปของกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)



ความเดิมจากบล็อก เริ่มปลูกต้นไม้ในใจเรา บ้านเรียน(โฮมสคูล)ของเรา ได้บอกคความตั้งใจในการรวบรวมความรู้ทางการเกษตรแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่ขัดกับวิถีชีวิตของเรา เราจึงได้หาโอกาสไปเข้ารับการอบรมกับ บสก. มาค่ะ(อยู่ใกล้บ้านเรานิดเดียวค่ะ อยู่บนถนนรามคำแหง ตรงข้ามกับการประปามีนบุรี ถ้ามาจากต้นถนนรามคำแหง ตรงอย่างเดียวขึ้นทุกสะพานลอยข้ามแยก จนถึงก่อนที่จะเลี้ยวเข้าถนนสุวินทวงศ์ ก็ยูเทรินแล้วชิดซ้ายค่ะ)





รถไม่ได้เคลื่อนหรอกค่ะ








พาเด็ก ๆ ไปเดินเล่นสำรวจก่อนเข้ารับการอบรมค่ะ










จัดสรรที่ดินออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย
1.ทำคันบ่อ สำหรับปลูกพืชผักสวนครัว
2.ขุดบ่อปลา สำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลา , กบ
3.ทำแปลงนาเพื่อปลูกข้าว
4.จัดพื้นที่สำหรับเลี้ยงเป็ด









ได้ไข่เป็ดสด ๆ มาทำไข่เค็มสมุนไพรขมิ้นชัน กันอีกรอบค่ะ และได้เก็บใยบวบกันครั้งแรกค่ะ






มาถึงวันที่ 24 กค. ที่ผ่านมา 9-12 น. ก็ถึงวันเข้ารับการอบรมค่ะ เนื้อหาอัดแน่น กระชับถึง 4 เรื่องด้วยกันค่ะคือ เทคนิคเกษตรพื้นปูนและพื้นดิน การทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ และฮอร์โมน(จุลินทรีย์หน่อกล้วย หัวเชื้อตาสับปะรด ฮอร์โมนถั่วเหลือง และฮอร์โมนไข่ค่ะ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นต่างกัน คือบางตัวเร่งใบ บางตัวเร่งผลค่ะ) เทคนิคการเพาะปลูก และการทำน้ำยาเอนกประสงค์ โดยมีการสาธิตประกอบการบรรยายให้ดูเข้าใจง่าย จากเจ้าหน้าที่ของเขตหลักสี่คนดัง คุณเพ็ญศรี โตสะอาด(คุณแหม่ม) และผู้ช่วยอีกสองท่านค่ะ บล็อกนี้ดิฉันขอเล่าคร่าว ๆ นะคะ เพราะจะเข้ารับอบรมกับเขตหลักสี่อีกครั้งในปลายเดือนสิงหาคมนี้ค่ะ หลังจากนั้นจึงจะนำรายละเอียดมาลงบล็อกในลำดับต่อไปค่ะ
ขอขอบคุณวิทยากร ผู้ช่วย และเจ้าหน้าที่ของ บสก. ทุกท่าน มา ณ ที่นี้ค่ะ








การสาธิต ประกอบการบรรยายการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์และฮอร์โมนค่ะ





สาธิตขั้นตอนการเพาะถั่วงอกไร้สารค่ะ







1. นำถังที่สูงไม่เกิน 60 ซม. มาเจาะรูเล็ก ๆ ให้น้ำระบาย(อย่าใหญ่เกินไปแมลงสาบจะเข้าไปค่ะ) ทั้งด้านล่างและด้านข้าง
2. นำฟิวเจอร์บอร์ด กระสอบป่าน และ ตะแกรงพลาสติก มาตัดเป็นวงกลมไซส์เท่าก้นถัง โดยวางฟิวเจอร์บอร์ดไว้ชั้นล่าง ตามด้วยกระสอบป่าน และตะแกรงพลาสติก









3. ล้างถั่วเขียว แล้วแช่ไว้ 1 คืน
4. นำเมล็ดถั่วเขียวแผ่ลงไปบนตะแกรง ปูทับด้วยกระสอบป่านสองชั้น
5. ใส่ลงในถัง(อาจทำได้หลายชั้น) ปิดฝากันแสง(ถั่วเขียว 1 กก. ได้ถั่วงอก 5 กก.)



รดน้ำ

รดน้ำวันละ 5 ครั้งทุก 2 ชั่วโมง

วันที่ 1 รดน้ำธรรมดา
วันที่ 2 รดน้ำผสมกลูโคส 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร
วันที่ 3 รดน้ำผสมกลูโคส 3 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร
(คัดลอกวิธีรดน้ำจากเวปบ้านสวนพอเพียง ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)







วันที่ 4 ตัดรากได้โดยง่ายเพราะรากจะอยู่อีกด้านของกระสอบป่าน





การดูแลรักษาอุปกรณ์


ควรขัดล้างทำความสะอาด ตะแกรงพลาสติกและกระสอบให้สะอาดแล้วให้นำไปตากแดด เมื่อใช้ไปได้ 2 ครั้ง แล้วควรนำมาต้มเพื่อฆ่าเชื้อ




สาธิตการเพาะปลูกผักบุ้งค่ะ

ให้นำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำ 1 คืน แล้วห่อด้วยผ้าขนหนูอีก 1 คืน


เพาะเมล็ดพันธุ์






1. นำดินร่อนละเอียดใส่ในตะกร้าครึ่งหนึ่ง แล้วใส่กากมะพร้าวครึ่งหนึ่ง เกลี่ยให้เรียบ
2. เกลี่ยให้เป็นร่องกว้างประมาณ 1 ซม. ยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัด
3. เลือกเมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่ไว้ใจได้ และดูวันหมดอายุด้วยค่ะ







4. โรยเมล็ดพันธุ์ลงในร่อง กดดินด้วยหัวแม่โป้ง เอาดินกลบ แล้วเอากระดาษหนังสือพิมพ์ปิด
5. เอาตะกร้าคว่ำปิด แล้วรดน้ำบนตะกร้าเช้าเย็น 3 วัน





เพาะกล้า








1. เลือกต้นที่ตั้งตรง รากแข็งแรง เพื่อจะใส่ในถาดเพาะกล้า







2. ใส่ในถาดเพาะกล้า แล้วใช้นิ้วโป้งกดดิน
3. โรยดินเพิ่ม

(7 วันแรก หลังสี่โมงเช้า จะต้องคลุมแสลนสีฟ้า และมีพลาสติกสำหรับคลุมหากฝนตก)








ปลูกลงกระถางที่สูงกว่า 20 ซม. หรือปลูกลงแปลง(ใส่ปุ๋ยตั้งแต่ 7-20 วัน)
ได้นำกล้าที่บสก. แจกมาปลูกลงแปลงที่บ้านเรียบร้อยค่ะ








จากวันที่สองถึงวันนี้วันที่ 4 หายไปเหลือแค่นี้ค่ะ
ตอนแรกคิดว่าแมว แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะเป็นนก เห็นบินอยู่แถวนั้น
ต้องเรียนรู้และขยันกว่านี้อีกเยอะค่ะ
ปุ๋ยก็ไม่ได้ใส่ สมุนไพรไล่แมลงก็ไม่ได้ใส่ค่ะ






ความรู้ที่ได้ในวันนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น จขบ. จะทำความเข้าใจเพิ่มเติมในลำดับต่อไป และตั้งใจอยากจะปลูกผักที่เรากิน และกินผักที่เราปลูกค่ะ อยากจะเริ่มที่เครื่องต้มยำก่อนท่าจะเหมาะค่ะ


ขอบคุณ BG สวย ๆ จากคุณ Hawaii Havii ค่ะ




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2554
4 comments
Last Update : 1 สิงหาคม 2554 10:18:50 น.
Counter : 3847 Pageviews.

 

แวะมาแล้วได้ความรู้แบบเต็ม ๆ ทุกทีเลยค่ะ เกษตรทฤษฎีใหม่เหมาะกับคนไทยที่สุด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงที่ทรงคิดสิ่งดี ๆ เพื่อคนไทยมาตลอด ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 

โดย: haiku 28 กรกฎาคม 2554 16:21:25 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะคุณ haiku ที่ชมชอบค่ะ

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 

โดย: chinging 28 กรกฎาคม 2554 19:48:59 น.  

 

อยากใช้ชีวิตแบบเกษตรพอเพียงคับ ไม่อยากอยู่ในเมือง ถ้าอยากไปดูเข้าไปใด้เลยหรือคับ

 

โดย: สัญญา IP: 171.99.2.85 5 ธันวาคม 2555 15:30:30 น.  

 

คุณสัญญาคะ ของบสก. เขาไม่ได้มีองค์ความรู้แบบวิถีชีวิตจริง เพียงแต่เชิญวิทยากรมาเป็นครั้งคราวเท่านั้นค่ะ อยากแนะนำให้ไปที่มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง ของอ. ยักษ์มากกว่าค่ะ ยังไงลองเสริชดูในกูเกิ้ลนะคะ

 

โดย: chinging 5 ธันวาคม 2555 20:58:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


chinging
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]








INVITING THE BELL TO SOUND


Body, speech, and mind in perfect oneness-
I send my heart along with the sound of the bell,
May the hearers awaken from forgetfulness
and transcend all anxiety and sorrow.


HEARING THE BELL


Listen, listen,
this wonderful sound
bring me back
to my true self.


THICH NHAT HANH






9 Latest Blogs
ขอขอบคุณ คุณSevenDaffodils
ในคำแนะนำวิธีการทำ Latest Blogs ค่ะ



New Comments
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chinging's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.