วงกลมมหัศจรรย์(Mandala and Labyrinth)
...คำว่า มันดาลา มาจากภาษาสันสกฤต มันดา (manda) แปลเป็นภาษาทิเบต ตรงกับคำว่า dkyil ซึ่งหมายถึง แก่นศูนย์กลาง หรือที่นั่ง โดยใช้ในความหมายควบคู่ไปกับคำว่า โพธิ หรือการตื่น การบรรลุธรรม ซึ่งชี้ถึงสถานที่นั่งภายใต้ต้นโพธิ์ ที่ซึ่งการตรัสรู้อย่างสมบูรณ์ได้เกิดขึ้น ส่วนคำว่าลา (la) หมายถึง วงล้อที่หลอมรวมแก่น ดังนั้น มันดาลา จึงแปลว่า ที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ต่างๆในขณะที่รู้แจ้ง และภาพเหล่านี้จะปรากฏในมโนทัศน์ของวัชราจารย์(ครูบาอาจารย์ในพุทธศาสนานิกายวัชรยาน) สำหรับคนไทยเราเรียกคำว่ามันดาลาเป็นสำเนียงไทยว่า มณฑล นั่นเอง ซึ่งก็มีความหมายสอดคล้องกัน
ในทางคัมภีร์แล้ว ทิเบตถือว่าทุกชีวิตก็คือมันดาลา มากกว่าจะเป็นเพียงแค่จุดของการ ตระหนักรู้ เพราะเราก็คือสิ่งแวดล้อมของเราเอง อาจกล่าวได้ว่า มันดาลาก็เปรียบเหมือน กับพิมพ์เขียวสำหรับการบรรลุธรรม ที่ไม่ใช่เพียงแต่เป็นการปลดปล่อยตนเองสู่อิสรภาพ ที่แท้จริงเท่านั้น แต่ยังเป็นการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสภาวะแวดล้อม
ปัจจุบันได้มีการประยุกต์การวาดมันดาลามาใช้ในการค้นหาตัวตน เพื่อการเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งนำมาเป็นเครื่องมือในการทำศิลปะบำบัด โดยให้ผู้รับการบำบัดวาดภาพมันดาลา ซึ่งเป็นการแสดงออกทางอารมณ์และจิตใต้สำนึกของตัวตนภายใน ทำให้นักบำบัดสามารถเข้าใจถึงปมปัญหาของผู้เข้ารับการบำบัดได้มากขึ้น มันดาลาในยุคปัจจุบันจึงมีรูปร่างและสีสันที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ละบุคคลจะสร้างออกมา (คัดลอกและดัดแปลงจากเวปพลังธรรม ท่านสามารถเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่'มันดาลา' มณฑลแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)
มันดาลาที่งดงามนี้เสร็จด้วยการภาวนาอย่างจดจ่อของท่านสามเณรีสี่รูปจากวัดโกปัน เนปาล ซึ่งได้ทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ ๑๑ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ เสถียรธรรมสถาน กรุงเทพมหานคร ในช่วงการประชุมนานาชาติศากยธิดาครั้งที่ ๑๒ และในประเพณีของพุทธทิเบตเนปาล เมื่อเสร็จการทำมันดาลาจำเป็นต้องมีพิธีพุทธาภิเษกซึ่งเป็นพิธีการอัญเชิญ พระโพธิสัตว์ เสด็จเข้าสู่ที่ประทับคือมันดาลา (มันดาลาเปรียบเสมือนวังหรือวัดซึ่งเป็นที่ประทับของพระโพธิสัตว์)
(คัดลอกรูปภาพและคำอธิบายจาก เสถียรธรรมสถาน ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)
"Light in the dark"
"Four seasons"
ขอให้คุณพ่อทำมันดาลาสักอัน
ของคุณพ่อ คุณแม่ แล้วก็ลูกสาวค่ะ
ได้โชว์ผลงานที่หอศิลป์วังหน้าด้วยค่ะ
(ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่าน ของโครงการฝึกอบรมศิลปะสำหรับบุคคลภายนอก วิทยาลัยช่างศิลป ลาดกระบังค่ะ)
"8 สาระนอกกะลา ของชิงกับอิง"
(ขอขอบคุณแม่ผึ้งในการจัดหากะลาค่ะ ส่วนรายละเอียดของสาระได้ะนำเสนอไว้ที่บล็อก ณ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ปี 2556 นะคะ)
เขาวงกต (Labyrinth) ต่างกับเขาวงกตทั่วไปตรงที่ไม่ต้องคิดว่าจะเลือกทางไหน จะมีทางเข้าทางเดียวที่คดเคี้ยวจนถึงศูนย์กลาง และมีทางออกทางเดียวกัน เปรียบได้กับการเดินทางสู่ด้านในของตัวเรา หรือเข้าสู่มณฑลศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้เราได้ทำสมาธิในการเดิน เขาวงกตที่นิยมทำกันนั้นมักจะเป็นเจ็ดชั้น
1. Saturn,empirical mind, Saturday
2. Jupiter, self-identity, Thursday
3. Mars, desire, Tuesday
4. Sun, vitality, Sunday
5. Venus, pure mind, Friday
6. Mercury, intuition, Wednesday
7. Moon, form, Monday
(คัดลอกรูปภาพและคำอธิบายจาก The State University of New York at Potsdam ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ)
"ยก ย่าง ก้าว"
จขบ. สนใจในวงกลมมหัศจรรย์หรือวงกลมศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นอย่างมาก จะพยายามศึกษาเพิ่มเติม และฝึกฝน เพื่อที่จะนำความมหัศจรรย์ของวงกลมสู่ตนเองและผู้อื่นในอนาคตค่ะ
ขอขอบคุณ bg สวย ๆ จากคุณยายกุ๊กไก่ และ line สวย ๆ จากคุณญามี่ค่ะ
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2556 |
Last Update : 10 มีนาคม 2556 9:14:45 น. |
|
9 comments
|
Counter : 16989 Pageviews. |
|
|