ผู้จัดการสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์จังหวัดพัทลุง เผยมูลสุกร น้ำเสียจากบ่อบำบัดขายดี เจ้าของสวนยางรับซื้อเป็นปุ๋ยชีวภาพ ย้ำให้เกษตรกรเพิ่มทุนในการกำจัดภาวะมลพิษ เพื่อสร้างรายได้ในการเลี้ยง...
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายสมยศ เพชรา ผู้จัดการสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์จังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้เลี้ยงสุกรจะต้องมีความพร้อมในการเลี้ยงสุกรในทุกด้าน เนื่องจากในปี 2556 ทางกระทรวงสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ จะมีการใช้กฎหมายเพื่อดำเนินการกับผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย เพราะผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยไม่มีมาตรการกำจัดมลพิษจนก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เสียหาย สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งจากนี้ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยจะต้องเพิ่มทุนในการกำจัดภาวะมลพิษ ประมาณ 20,000 บาท/ฟาร์ม ในการสร้างบ่อบำบัดและจะต้องทำการพัฒนาลดต้นทุนการผลิตได้อีกจำนวนมาก จากการนำขี้หมู และเอาน้ำทิ้งจากบ่อบำบัดสุกรไปใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตร คือนำไปผลิตเป็นปุ๋ยชีวภาพเพื่อใช้ในการเกษตร
นายสมยศ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยใน จ.พัทลุง ได้เพิ่มทุนในการกำจัดภาวะมลพิษไปหลายรายแล้ว จนสามารถสร้างรายได้จากการเลี้ยงดีขึ้น โดยเฉพาะมูลสุกรสามารถขายได้ถึงกระสอบละ 50 บาท น้ำจากบ่อบำบัดที่นำไปแปรรูปขายได้ลิตรละ 100 บาท โดยเจ้าของสวนยางพารา สวนปาล์ม และเจ้าของไร่หญ้า เข้ามารับซื้อถึงในฟาร์ม ส่วนสถานการณ์ราคาสุกรที่ตกต่ำตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2554 จนถึงเดือนกุมภาพันธุ์ 2555 โดยในพื้นที่พัทลุงเหลือมาอยู่ที่ 38 และ 40 บาท/กก. ปรากฏว่าขณะนี้ราคาสุกรราคาได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 65 บาท/กก. ซึ่งสถานการณ์สุกรเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ดังนั้น ตนจึงขอเตือนผู้เลี้ยงสุกรให้มีความรอบคอบในการเลี้ยง และขอให้นำมูลสุกร น้ำจากบ่อบำบัดน้ำเสียมาสร้างางรายได้ในการเลี้ยงด้วย.
ที่มา ไทยรัฐ