เทศกาลสงกรานต์กำลังจะผ่านพ้นไป หลายคนคงกำลังเตรียมตัวมาทำงานตามปกติ แต่สิ่งที่ผิดปกติก็คือผิวที่ไหม้คล้ำและแสบเกินทนไหว ไทยรัฐออนไลน์มีวิธีง่ายๆ แก้ปัญหาผิวไหม้จากแดดแผดเผามาฝาก

ดื่มน้ำ - อย่างที่รู้กันดีว่าส่วนประกอบของผิวหนังต้องมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ดังนั้นการรักษาผิวไหม้จากแสงแดดต้องเริ่มต้นจากภายในด้วยการดื่มน้ำ ดื่มได้ไม่จำกัด และไม่เจาะจงว่าจะดื่มน้ำอะไร ขอแค่เป็นน้ำที่ให้ร่างกายสดชื่นจนเผื่อแผ่ไปถึงผิวหนังได้ชุ่มชื้น

โยเกิร์ต - เชื่อไหมว่าโยเกิร์ตรสธรรมชาติสามารถใช้เป็นยารักษารอยไหม้จากแดดได้ เพียงแค่ทาบริเวณที่แสบทิ้งไว้ตามต้องการ แล้วล้างออก

น้ำส้มสายชู - ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำในปริมาณเท่าๆ กัน จากนั้นชุบน้ำส้มสายชูเจือจางด้วยผ้าสะอาด บิดให้หมาด และนำมาวางบนผิวที่ไหม้

นม - ใช้ผ้าขนหนูชุบนมสดแล้วโปะลงบนรอยไหม้แดด ทำต่อเนื่องนาน 2 นาที และทำซ้ำอีกทุก 2 ชั่วโมง

ครีม - สาเหตุของผิวไหม้เกิดจากน้ำในผิวระเหยไปกับแสงแดดที่ร้อนแรง ดังนั้นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจึงเป็นเรื่องสำคัญ วิธีการก็ง่ายดาย เพียงแค่ทาครีมบำรุงผิวไร้ส่วนผสมจากแอลกอฮอล์ให้บ่อยเท่าที่จะบ่อยได้ เพื่อให้ผิวกลับมาเนียนนุ่มดังเดิม

ว่านหางจระเข้ - ต้นไม้มากคุณประโยชน์อย่างว่านหางจระเข้กลายเป็นพระเอกสำหรับผิวที่ไหม้เกรียมได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้เนื้อในที่เป็นวุ้นของว่านหางจระเข้ ทาลงบนรอยปวดแสบปวดร้อน เพราะว่านชนิดนี้จะช่วยให้ผิวเย็นลงและสมานผิวได้เร็วยิ่งขึ้น

อาบน้ำอุณหภูมิห้อง - แค่นั่งอยู่เฉยๆ ยังรู้สึกปวดแสบปวดร้อนผิวที่เพิ่งโดนแดดมาหมาดๆ แล้วนับประสาอะไรกับการอาบน้ำด้วยสบู่ ซึ่งข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่อยากซักแห้ง ก็คือห้ามอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป หรืออาบน้ำเย็นจัดจนเกินไป ปรับอุณหภูมิน้ำให้พอดีกับอากาศ ณ ขณะนั้น เลือกสบู่สูตรอ่อนโยนชำระล้างร่างกาย และเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูเนื้อนุ่มแบบทะนุถนอมผิวมากกว่าที่เคย

รีบรักษารอยไหม้ที่เกิดจากความเพลิดเพลินกลางแสงแดดให้หายเสียโดยเร็ว เพราะวันเริ่มต้นของการทำงานใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว...

ที่มา ไทยรัฐ