22 ก.ค. 2009 : วันหนึ่งที่รอคอย
ห่างหายไปจาก Blog นานมาก แต่สุดท้ายพอเริ่มจะกลับมาเขียนอะไรอีก เป็นต้องเริ่มต้นที่เรื่อง "ฟุตบอล" ทุกทีซิน่า ก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้วนี่ ทุกวันต้องขอให้ได้อ่านข่าวคราวในวงการฟุตบอล ซักนิดซักหน่อยก็ยังดี ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงปิดฤดูกาล มีแต่ข่าวซื้อ-ขายนักเตะ ซึ่งมันอึมครึมทุก Summer จริงๆ ยิ่งปีนี้ ลิเวอร์พูลยังอยู่ระหว่างทรงๆทรุดๆ ไม่รู้ว่าจะสามารถรั้งนักเตะมิดฟิลด์แกนหลักของทีมอย่างมอนสเตอร์มาสค์ และคุณชาย ชาบี อลอนโซ่ได้หรือไม่ หวังจริงๆว่าจะไม่ต้องเสียใครซักคนไป ยิ่งถ้าเลวร้ายขั้นเสียทั้งสองคนล่ะก็ ขอบอกศาลากับการลุ้นแชมป์ลีกกันไปเลยดีกว่า อาจจะเหมือนมองโลกในแง่ร้ายที่พูดแบบนี้ แต่ตอนนี้ทีมเรากำลังลงตัว ทุกคนเล่นเข้าขากัน มีแบบแผน มีระบบที่ชัดเจน ถ้าจะเปลี่ยน เราไม่รู้จะเปลี่ยนสิ่งที่มันดีอยู่แล้วไปทำไม แต่ควรแก้ไขในจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ต่างหาก ซึ่งไม่ใช่แผงมิดฟิลด์เลย ให้ตาย แต่คงเพราะแผงมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมของเรานี่แหละ ทั้งบาซ่าทั้งมาดริดถึงได้จ้องจะดูดตัวนักเตะนัก -*- คิดแล้วมันน่าเหนื่อยใจจริงๆกับการต้องต่อสู้กับกระแสอำนาจเงินของทีมรวยๆ หวังแค่ว่าราฟาจะสามารถรั้งทั้งสองคนไว้ได้ และถึงจะไม่ได้ใครเพิ่มแล้วนอกจาก เกล็น จอห์นสัน ก็ช่างมันเถอะ ในเวลานี้ไม่อยากจะเสียนักเตะดีๆ มากกว่าที่จะอยากได้นักเตะดีๆเสียอีก แต่ที่แฟนหงส์ทุกคนในเมืองไทยกำลังรอคอยอย่างใจจดจ่อก็คือ เกมนัดกระชับมิตรระหว่างทีมชาติไทยและทีมลิเวอร์พูลชุดใหญ่ พระเจ้า!!!!! ถึงตอนนี้ที่ซื้อบัตรมาเรียบร้อยแล้ว ก็ยังงงอยู่ว่า ลิเวอร์พูลจะมาเตะกระชับมิตรกับทีมชาติไทยจริงๆหรือเนี่ยยยย ไม่ต้องถาม ใครๆก็ต้องเดาได้ว่า 1 ในความฝันของเหล่าแฟนบอลหงส์แดงในเมืองไทย นอกจากการได้แชมป์ลีกแล้วก้คือ การได้ไปดูเกมการแข่งขันของทีมรักถึงขอบสนามนี่แหละ ถ้าจะให้สมบูรณ์ที่สุด ก็ต้องที่แอนฟิลด์ สนามเหย้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังของทีม แต่การจะทำแบบนั้นได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าคุณไม่ได้มีภารกิจการศึกษาต่อในอังกฤษ ไม่มีเงินอย่างน้อยๆ 1 แสนบาทไทย หรือไม่ได้ทำงานในลักษณะที่เอื้ออำนวยให้มีโอกาสไปดู และถึงจะมีเงินก็ตาม ก็ยังยากมากที่จะได้ตั๋วที่แอนฟิลด์ คุณอาจจะต้องซื้อตั๋วล่วงหน้ากันนานหลายเดือน และไม่รู้ว่าจะมีความหวังแค่ไหนที่จะได้นั่งที่ The kop Stand แต่กระนั้นก็มี The kop คนไทยหลายคนมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศการเชียร์ทีมรักติดขอบสนามมาแล้ว และกลับมาเล่าให้คนที่ยังไม่เคยไปฟังให้อิจฉาตาร้อนกันเป็นแถวๆ เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกอิจฉาเพื่อนๆที่โชคดีได้มีโอกาสไปดูทีมรัก ได้เห็นนักเตะกันตัวเป็นๆ ได้ตะโกนร้องเพลงเชียร์ ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ทำแบบนั้นเหมือนกัน แม้จะเป็นในราชมังคลากีฬาสถาน ไม่ใช่แอนฟิลด์ แม้จะเป็นการเตะกับทีมชาติไทยอันเป็นที่รักยิ่ง ไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือเอฟเวอร์ตัน ซึ่งมันสร้างความสับสนให้จิตใจจริงๆ เพราะเราไม่อาจจะเลือกเชียร์ทีมได้ทีมหนึ่งได้เพียงทีมเดียวแน่นอน และไม่อาจร้องเพลง You'll never walk alone. ให้ดังไปกว่าเพลงชาติไทย และประโยค "ไทยแลนด์ สู้ สู้" ได้ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะมีโอกาสได้ไปดูทีมรักทั้งสองทีม มีโอกาสได้เห็นนักเตะที่เราชื่นชม ทั้งในทีมชาติไทย และลิเวอร์พูล มีโอกาสชูผ้าพันคอ ร้องเพลงเชียร์ลิเวอร์พูล มีโอกาสตะโกนคำว่า "ไทยแลนด์ สู้ สู้" มีโอกาสเล่น wave (เชื่อว่าต้องมีแน่ๆ) ในสนามฟุตบอลที่ไม่เคยเห็นประเทศไหนเค้าทำกันให้นักเตะหงส์ได้เห็นวัฒนธรรมการเชียร์ของเรา แทบอดใจรอไม่ไหวแล้ว และแม้จะอยากเห็นการทำประตูงามๆจากนักเตะหงส์ แต่ถ้าทีมชาติไทยยิงประตูหงส์ได้ เราคงต้องดีใจมากกว่าแน่ๆเลย ใช่ว่าไม่รักหงส์นะ แต่จะเพราะอะไรซะอีก ถ้าไม่ใช่เพราะ "บอลนอกมันแค่สะใจ แต่บอลไทยมันอยู่ในสายเลือด" ลิเวอร์พูลน่ะ รักโคตรๆ แต่กับทีมชาติอ่ะ มันคือจิตวิญญาณ
Free TextEditor
Create Date : 24 มิถุนายน 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 24 มิถุนายน 2552 17:00:33 น. |
Counter : 608 Pageviews. |
|
|
|