jimkong
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




jimkong อ่านว่า จิ้มก้อง
เป็นชื่อ [อดีต] ป้าหมาแก่ที่บ้าน
ไทยหลังอาน ใจโหด หน้าเหี้ยม
ฉลาด ดื้อ และน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
27 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add jimkong's blog to your web]
Links
 

 
R e v i e w : eyeliners

วันก่อนนู้นว่างค่ะ ที่บ้านไฟดับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เลยมารีวิวอายไลเนอร์กันเล่นๆ ดีกว่า อายไลเนอร์ (eyeliner) ก็คือที่เขียนขอบตาให้ดูชัดขึ้น กลมโต คมขึ้น มีหลาย texture และรูปแบบให้เลือกใช้กันตามถนัด ไม่ว่าจะเป็นแบบเบสิคสุดๆ คุ้นเคยกันที่สุดอย่างเป็นแท่งดินสอ (หรือปากกา) แบบหัวพู่กัน แบบครีมหรือมูสที่ต้องใช้แปรงเป็นตัวช่วย

มาดูอายไลเนอร์ที่เรามีกันดีกว่า มีไม่เยอะค่ะ แค่นี้ก็คงใช้ไปนานจนกว่าจะหมดอายุแล้วล่ะ นี่เป็นรูปรวมๆ รวมทั้งอุปกรณ์และตัวช่วยในการเขียนอายไลเนอร์ด้วย แนะนำอุปกรณ์กันก่อนดีไหม : ) อันแรกเป็นแปรงอายไลเนอร์ เบอร์ 212SE ของ MAC มากับชุดเซต ถัดไปเป็นกลุ่มพู่กันสีน้ำ ประกอบด้วย A) พู่กัน master art “premier” หัวกลม เบอร์ 2 B) ภู่กันของสง่า มะยุระ หัวกลม เบอร์ 0 ซึ่งเป็นด้ามที่ใช้บ่อยที่สุด c) พู่กัน Seikai หัวแบนเบอร์ 0 เดี๋ยวจะเทียบให้ดูต่อไปค่ะว่าแต่ละด้ามให้เส้นเป็นยังไง



เริ่มที่อายไลเนอร์แบบ cake liner มันจะเป็นหมึกที่ถูกอัดแห้งมาในตลับ
เวลาจะใช้ก็ต้องใช้พวกน้ำ หรือน้ำยาผสมหยดลงไป คนให้ละลายแล้วเขียนด้วยพู่กัน เรามีแบบนี้อยู่ 2 ตลับ


อันแรก
- ยี่ห้อ : MTI
- ปริมาณ : 2 สี x 2 กรัม
- ราคา : จำไม่ได้ละ รู้สึกจะซื้อมาประมาณร้อยบาทค่ะ
- สี : มี 2 สี สีน้ำตาลกับสีดำ สีน้ำตาลออกแดงนิดๆ ส่วนสีดำนั่นไม่ดำเยย (- -)” มันออกเทาๆ อะ
- ความติด : ทน อยู่ได้เช้าจรดเย็น
- ความยาก/ง่ายในการใช้ : ง่ายถ้าถนัดใช้พู่กันค่ะ
- ทำ inner liner ได้มั้ย : ได้ แต่เห็นไม่ค่อยชัดนะ
- แพคเกจจิ้ง : ใช้ง่ายดีค่ะ ฝาปิดมันเป็นแบบเลื่อนเสียบ
- ความพอใจ : ไม่ชอบค่ะ สีมันไม่ดำสนิท แต่เป็นสีออกเทาๆ เนื้อสีไม่เข้มข้นเลย หนำซ้ำเวลาใช้เนี่ย พอหยดน้ำยาผสมลงไป แป๊บเดียวแห้งซะแล้ว ยังไม่ทันจะวนพู่กันได้ทั่วถึงเลย เปลืองน้ำยาผสมค่ะ
- ซื้ออีกมั้ย : ไม่ซื้อ
เพิ่มเติม : อันนี้ไม่แนะนำอย่างแรงนะ อย่าเห็นแก่ของถูกค่ะ ถูกแต่ใช้ไม่ได้เรื่องมันก็เสียตังค์เปล่าอ่ะ เราว่าดีไม่ดีไปซื้ออายแชโดวสีดำของพวก 4u2 มาผสมกับน้ำยาผสม จะได้อายไลเนอร์สีดำที่คุณภาพดีกว่านี้อีก หรือไปใช้พวกดินสอเขียนขอบตาก็น่าจะได้สีที่ดีกว่านี้ค่ะ


อันที่สอง
- ยี่ห้อ : Luara Mercier รุ่น cake liner สี Black Ebony
- ปริมาณ : 1.4 กรัม
- ราคา : ราคาเต็มในดิวตี้ฟรี 740 บาท
- สี : สีดำสนิท ดำเป็นถ่านเลยแหละ
- ความติดทน : ทน อยู่ได้เช้าจรดเย็น
- ความยาก/ง่ายในการใช้ : ง่ายถ้าถนัดใช้พู่กันค่ะ
- ทำ inner liner ได้มั้ย : สบายมั่กฮ่ะ
- แพคเกจจิ้ง : แข็งแรงทนทานดี เป็นฝาแบบเปิดขึ้น มีกระจกให้ด้วย
- ความพอใจ : ชอบมาก สีดำสนิท เนื้อสีเข้มข้นทาทีเดียวอยู่ ไม่ต้องซ้ำรอบสอง แล้วตัวเนื้อหมึกก็อัดมาแน่น ไม่กินน้ำยาผสมค่ะ ถ้าหยดน้ำยาผสมลงไปจะมีเวลาให้วนพู่กันได้อย่างสบายๆ หยดเดียวนี่ทาได้สองตาแบบเหลือๆ เลย
- ซื้ออีกมั้ย : คิดว่าคงซื้อแหละ
เพิ่มเติม : ของ LM นี่มีอายไลเนอร์แบบนี้อยู่ 2 รุ่นนะคะ อันนึงคือเจ้าเค้กไลเนอร์นี่ อีกอันคือคาเวียร์อายไลเนอร์ที่ฮิตสุดๆ นั่นแหละ เคยเขียนไว้บ้างแล้ว แต่อีกรอบละกัน จะได้รวมไว้ในนี้ทีเดียว คือว่าสองตัวนี้เขาออกแบบมาเพื่อผลที่ต่างกัน cake liner(รุ่นนี้มี 4 สี สีสุดฮิตคือ black ebony อีกสามสีที่เหลือเป็นสีน้ำตาล เขียว น้ำเงินเข้ม) เอาไว้สำหรับเขียนอายไลเนอร์เพื่อให้เส้นตาคมชัด มีโอกาสเป็นแพนด้าน้อยกว่า ส่วน Caviar นั่นเขาออกแบบมาไว้สำหรับทำ smokey eye เนื้อจะนิ่มกว่า ฟุ้งๆ กว่า เบลนด์เป็น smokey eye ได้ง่าย เอามาเขียนอายไลเนอร์เส้นคมๆ ก็ได้เหมือนกัน เพียงแต่มีโอกาสจะแพนด้ามากกว่าเท่านั้นเอง ถ้าใครไม่เน้นทำ smokey eye เราแนะนำเจ้า cake liner นี่แหละ : )
เวลาทาอายไลเนอร์ไม่ให้แพนด้า พอทาแล้ว รอให้มันแห้งนิดนึงค่ะ อย่าใจร้อน ถ้าเลอะก็ใช้สำลีพันปลายไม้ชุบ eye-remover ค่อยๆ เช็ดแต่งไป รับรองอยู่ได้ทั้งวัน


ทีนี้มาดูพู่กันแต่ละอัน ว่าให้เส้นยังไง…แถวบนคือสีที่ได้จาก MTI ส่วนแถวล่างเป็น LM เห็นมะ ว่าสีต่างกันเห็นๆ เลย จากซ้าย A) สง่า มะยุระ เส้นกลม ค่อนข้างโตนิดนึง แต่เวลาทาบนขอบตาเอียงข้อมือแล้วได้เส้นเล็กกว่านี้ครึ่งนึงค่ะ จะโตกว่า C) นิดเดียว อันนี้เป็นอันที่ใช้ประจำ ไม่กินสี จับถนัดมือ แล้วเส้นขนแปรงก็เกาะกลุ่มกันดีค่ะ B) master art ขนแปรงกลุ่มใหญ่กว่าและยาวกว่า อมสีมากกว่า เวลาเขียนได้เส้นใหญ่กว่าด้วยค่ะ เขียนจริงก็ได้เส้นประมาณนี้แหละ คุณภาพขนแปรงไม่ค่อยดี มันคอยจะบาน ไม่ค่อยจับตัวเป็นทรง ทำให้ได้เส้นที่ไม่ค่อยเสถียร เขียนๆ ไปมีขนแปรงแตกแถวออกมา เส้นเสียหายหมดค่ะ ไม่หนับหนุนให้ใช้ยี่ห้อนี่นะ C) Seikai พู่กันหัวแบน ขนแปรงค่อนข้างยาว แต่อุ้มสีไม่ค่อยดี เวลาเขียนใช้ลากไปตามด้านยาว ได้เส้นบางกริบ แต่ความที่ขนแปรงอุ้มสีไม่ค่อยดี ขนแปรงเลยอาจแห้งเด้งออกมานอกแถวขณะกำลังเขียนได้ D) MAC หัวแปรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวและเนื้อแน่นเหมือนยี่ห้ออื่นๆ นั่นแหละค่ะ เราใช้แปรงแบบนี้ไม่เป็นอ่ะ ใช้แล้วได้เส้นเบ้อเริ่ม ไม่ถนัดมือเท่าไหร่ แล้วมันไม่ค่อยอุ้มสี เส้นมันออกแหว่งๆ ขอบอกว่าเทียบกับของ LM ที่เป็นแปรงหัวแบบนี้ (Flat Liner) ที่คุณ BA เคยลองให้แล้ว เราว่า LM ดีกว่านะ ได้เส้นที่ smooth กว่าอ่ะ ใช้ง่ายกว่ามาก อุ้มสีเต็มที่ เวลาใช้แค่ปั๊มๆ ไปตามแนวขอบตาหรือ inner แค่ 3-4 ทีก็สวยงาม แต่เราไม่สามารถใช้วิธีนั้นกับเจ้าแปรงนี้ได้


ต่อไปเป็นอายไลเนอร์แบบแท่ง


ยี่ห้อ : Stell รุ่น Pro-make up เป็นยี่ห้อที่ขายในร้าน cosmeda น่ะค่ะ แต่เราซื้อจากตลาดนัด
- ราคา : สีน้ำตาลเบอร์ 22 ราคา 69 บาท และสีน้ำเงินเบอร์ 15 ราคา 50 บาท คือว่า... ซื้อครั้งแรกน่ะ พลาดไงคะ ไม่เคยรู้ราคามาก่อน แม่ค้าบอก 69 บาทก็นึกว่าโอเคแล้วอ่ะ มาเห็นทีหลังถึงรู้ว่าแพง เพราะในคอสเมด้าก็ขายอันละ 59 บาท ถูกกว่าอีก (- -)”
- สี : อันสีน้ำเงินฟ้า สีสวยแจ่ม มีประกายสีเงิน ดูสดใสดี ถ้าใช้กับอายแชโดวสีออกน้ำตาลทอง หรือบรอนซ์ ได้อารมณ์ทะเลๆ คล้ายๆ พาเล็ต Sand & Sun ของ BB หรือ Beige Cool ของ lunasol ดีเหมือนกัน ส่วนอันสีน้ำตาลนั่นสามัญมากค่ะ เหมือนสีน้ำตาลพื้นๆ ของยี่ห้ออื่นๆ นั่นแหละ
- ความติดทน : ไม่ค่อยทนหรอก ครึ่งวันก็เลือนๆ หมดละ
- ความยาก/ง่ายในการใช้ : อายไลเนอร์คู่นี้เขียนง่าย เนื้อนิ่ม แต่คุมขนาดยาก เพราะมันคอยจะได้เส้นใหญ่ตามขนาดหัว เล็กกว่านี้ไม่ได้อ่ะ สุดท้ายเราก็ใช้พู่กันเขียน ก็โอเคนะ ที่ต้องระวังคือเพราะความเนื้อนิ่มนี่แหละ มันละลายง่ายสุดๆ เจออากาศร้อนจัดๆ หน่อยย้วยได้เลย ห้ามเผลอลืมไว้ในรถเด็ดขาด
- แพคเกจจิ้ง : ไม่ค่อยแข็งแรงทนมือทนเท้าสำหรับคนไม่ค่อยระวังอย่างเราน่ะ อย่างเจ้าเบอร์ 15 นั่นถูกนั่งทับ หักเหลือแต่หัว หมุนขึ้นลงไม่ได้แล้ว
- ความพอใจ : ก็โอเค พอสมกับราคา ซื้อเล่นซื้อลองได้โดยไม่ช้ำใจนัก
- ซื้ออีกมั้ย : ก็อาจจะลองสีอื่นอีกนะ ถ้าราคาถูกกว่าห้าสิบ (^^) เราว่ามันน่าจะมีแหละน่า


ต่อไปเนื้อเป็นมูสค่ะ


- ยี่ห้อ : M.A.C. รุ่น fluidlineสี Macroviolet มันชื่อ fluidline แต่เนื้อมันออกเป็นนุ่มๆ เบาๆ แบบมูสแฮะ
- ปริมาณ : 3 กรัม
- ราคา : 750 บาท
- สี : สีม่วงเจือน้ำตาล มีประกายสีทองละเอียดแฝงอยู่นิดๆ เราว่าใช้ได้ทุกโอกาสนะ สีมันไม่โดดหรือเตะตามาก แต่จะแต่งให้เปรี้ยวก็ได้ จะแอ๊บเรียบร้อยก็ยังไหว ชอบค่ะ
- ความติดทน : ทน อยู่ได้เช้าจรดเย็น
- ความยาก/ง่ายในการใช้ : ง่ายถ้าถนัดใช้พู่กันค่ะ แรกๆ ที่ได้มา ใช้ยังไม่ค่อยถนัด คิดว่ามันใช้ยากแล้วสีก็ไม่ค่อยออก พอคุ้นๆ กันแล้วก็พบว่าไม่ยากนิ เวลาใช้นี่เอาคัตตันบัดป้ายออกมาแปะไว้บนหลังมือก่อนก็ได้ค่ะ แล้วปิดกระปุกซะ มันจะได้สัมผัสอากาศไม่นาน ยืดอายุไปได้หน่อย ไม่แห้งเร็วเกินเหตุ แล้วก็เอาพู่กันไปคลุกๆ ให้เนื้อมูสมันเคลือบขนพู่กันจนทั่ว ก็เอาไปลากเส้นขอบตาได้เลย
- ทำ inner liner ได้มั้ย : ได้ค่ะ
- แพคเกจจิ้ง : แข็งแรงทนทาน เป็นขวดแก้วหนาเชียว ตกพื้นไม่เป็นไรอ่ะ
- ความพอใจ : ชอบค่ะ แต่เราอยากให้แมคทำเป็นพาเล็ตมั่ง มันจะได้ปริมาณน้อยๆ แต่ได้หลายๆ สี กระปุกนึงนี่ใช้กันจนลืมเลยเชียว
- ซื้ออีกมั้ย : คงไม่ซื้อสีนี้อีกละมั้ง กว่าจะหมดกระปุกนี่ก็คงเบื่อแล้วล่ะ ถ้าสีอื่นขอดูสีก่อนจ้ะ


สุดท้ายแล้วววว อายไลเนอร์เนื้อครีมค่ะ อันนี้มีตลับเดียวแต่ 10 สี


- ยี่ห้อ : Smashbox
- ปริมาณ : กี่กรัมไม่รู้ มันเลือนไปหมดแล้วง่ะ
- ราคา : ราคาเต็มเท่าไหร่ไม่รู้ ซื้อมือสองมา (สภาพประมาณ 90%) 700 บาท
- สี : มี 10 สี จากซ้ายไปขวา จากแถวบนลงล่าง ตามนี้ค่ะ
1) ในตลับดูเป็นสีแดงประกายละเอียดสีทอง แต่พอทาออกมาแล้วค่อนมาทางน้ำตาลแดงมากกว่าค่ะ สีนี้น่าจะใกล้เคียงกับ Rich Ground ของ MAC นะ
2) สีเหลืองทอง ทาเดี่ยวๆ ดูหน้าสว่างดี จับคู่ทากะสีอื่น...ได้ทุกสี...ก็สวยค่ะ
3) สีฟ้า สีนี้เปรี้ยวดี ทาสีเดียวอยู่ ใส่เสื้อสีพื้นๆ อย่างขาว ดำ เทา ไม่ต้องแต่งหน้ามาก เจ้านี่อันเดียวพอเลย
4) สีเขียวออกมาทางสังขยาหน่อย (คล้ายเขียว Pistachio) เวลาทาจริงสีอ่อนกว่าในตลับ ดูออกทางหวานมากกว่า แต่จะจับกับเสื้อผ้าเขียวไหนก็ได้อ่ะ เข้าได้หมด เป็นเขียวสารพัดประโยชน์
5) สีน้ำเงิน (Ultramarine) คล้ายๆ กับ Royal Blue ของ MAC นะเราว่า
6) สีน้ำตาลเข้มมากจนเกือบดำ
7) สีทองออกไปทางเขียวๆ หน่อย มีประกายละเอียดสีทอง
8) สีม่วงที่ในตลับดูเมทัลลิกเชียว ทาแล้วดูเปรี้ยวๆ ดี แต่สีนี้เราว่าเราใช้แล้วหน้าแก่ขึ้นอีกสามสเตปอ่ะ
9) สีน้ำตาลด้าน พื้นๆ สุภาพ ทั่วไป ใช้แล้วหน้าดูซอฟต์ลงหน่อย ไม่โหดเข้มเท่ากับเวลาใช้สีดำ
10) สีช็อกโกแล็ตเย็นสีชิมเมอร์สีเงินละเอียด สีนี้ทาแล้วไม่ค่อยเห็นค่ะ แต่จะรู้สึกได้ว่าขอบตาคมขึ้น เวลาไม่อยากให้เห็นชัดว่าเขียนขอบตา สีนี้ก็เวิร์กดี
- ความติดทน : ทนพอประมาณ อยู่ได้เช้าถึงบ่ายแก่ๆ แต่มีโอกาสเป็นแพนด้าสูงทีเดียวล่ะ
- ความยาก/ง่ายในการใช้ : ง่ายถ้าถนัดใช้พู่กันค่ะ
- ทำ inner liner ได้มั้ย : ไม่เวิร์ก ไม่แนะนำ
- แพคเกจจิ้ง : แข็งแรงดี แต่กระจกห่วยมาก!!! คือไม่น่าเชื่อว่ายี่ห้อแบบนี้กระจกจะห่วยได้ขนาดนี้อ่ะ มันไม่เรียบ แล้วก็เป็นแบบภาพย้วยๆ ดูมึนๆ หน่อย ในตลับมีแปรงมาให้ด้วย ลักษณะขนแปรงแบบของแมคน่ะค่ะ แต่อันนี้ห่วยกว่าเพราะมันอมเนื้ออายแชโด้วอย่างแรง ป้ายเนื้อครีมไปตั้งเยอะ สีแทบไม่ออกเลย แล้วเส้นที่ได้ก็ไม่งามด้วย
- ความพอใจ : ชอบค่ะ ตลับเดียวคุ้มดี ตอนได้มาใหม่ๆ ใช้ยังไงก็ไม่เวิร์กอ่ะ คือใช้แปรงเขานั่นแหละ ขีดๆ ดูบนแขนบนหลังมือ สีก็ชัดดี แต่ไหงไปขีดบนขอบตาแล้วแทบไม่ออกสีฟะ แถมพอพยายามถมจนสีติด แป๊บๆ ก็เลือน บางคราวย้อยมาติดใต้ตาล่างเป็นแพนด้าซะอีก พอตอนหลังเปลี่ยนมาใช้พู่กัน สง่า มะยุระ แทนปรากฏว่า โอ้ว! ไม่น่าหลงไปใช้แปรงของมันอยู่ซะตั้งนาน อันนี้นี่แหละดีกว่าเห็นๆ ใช้เหมือนกับมูสของแมคนั่นแหละค่ะ หมุนพู่กันให้ติดสีพอเคลือบๆ แล้วก็ลากตามแนวขอบตาได้เลย สีติดดีแบบเห็นชัด แต่เรื่องสีตก เสี่ยงจะแพนด้านี่ยังเหมือนเดิม อาศัยว่าทาแล้วตบแป้งเบาๆ แล้วปัดออก โอกาสจะเป็นแพนด้าก็ลดลงค่ะ
- ซื้ออีกมั้ย : อาจจะ ต้องขอดูสีก่อน แต่ต้องราคาไม่เกินนี้นะ ถ้าเกินนี้ก็ไม่ซื้อหรอก แพงไปสำหรับเรา : )

แถมอุปกรณ์เสริมกันนิดนึง
อันแรก น้ำยาผสม - Magic Eye Changer ของ Missha (ดูรูปรวมละกันนะ ลืมถ่ายเดี่ยว) ราคาเต็มเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ฝากเขาซื้อมาจากเกาหลี รวมส่งแล้วประมาณสองร้อยบาท อันนี้ต้องขอบคุณป้านุ้งจีน หรือเจ๊แบน (Jeban) เลยที่ทำให้เราได้รู้จักเจ้านี่ เอามาใช้พลิกแพลงไปเรื่อยเปื่อยได้หลายอย่างดี นอกจากจะใช้กับอายไลเนอร์แล้ว เอาไปหยดในอายแชโด้ว หรือบลัชมาเขียนอายไลเนอร์ได้อีก เท่ากับว่าเพิ่มสีของอายแชดด้วได้มหาศาลมั่กๆ ขวดเท่ายาหยอดตา แต่คาดว่าคงอีกนานกว่าจะหมดเพราะใช้คราวละหยดเท่านั้นเอง นอกจาก Missha แล้ว น้ำยาผสมลักษณะนี้ เท่าที่เรารู้ก็มีของ MAC และ Smashbox ด้วยค่ะ

อันที่สอง น้ำยาเช็ดรอบดวงตา (eye make-up remover) ที่ใช้อยู่ตอนนี้คือของอีฟ โรเช่ (Yves Rocher) ซื้อตอนเขาเซลล์ ถูกและดีค่ะ เราใช้น้ำยาหยดลงบนผิว เอานิ้วลูบวนๆ แล้วเอาสำลีเช็ดออก แล้วล้างหน้าตาม ก็สะอาดหมดจดดีนะ ข้างล่างนี่คือตัวอย่าง น้ำยาก 1 เหยาะ ลูบวนๆ 2-3 ที แล้วเอาสำลีเช็ด หมดเร้ยยย เห็นมะคะ จะมีก็ smashbox แหละที่ยังเป็นคราบๆ อยู่ แต่ล้างหน้าตามก็เกลี้ยงค่ะ ถ้าไม่ใช้เจ้านี่ เราก็ใช้ออยล์เจลของ Fasio นวดๆ ไปพร้อมกับเม้คอัพอื่นๆ นั่นแหละ หมดเกลี้ยงอีกเหมือนกัน






Create Date : 27 มิถุนายน 2550
Last Update : 8 กรกฎาคม 2550 12:14:38 น. 8 comments
Counter : 1901 Pageviews.

 
แวะมาชมค่ะชอบกรีดไลเนอร์เหมือนกัน เพราะทำให้ดูเฉี่ยวดี
ของมู่มีแค่แมคกับetude แบบเจลเองง่า

แอบถูกใจของ smashbox นะคะ สีเยอะดี คุ้ม


โดย: มูมู่น้อย (sweet-and-sour ) วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:22:52:34 น.  

 
มาดูค่ะ ชอบบล๊อกนี้จัง รีวิวอะไรจาตามมาดูอีกนะคะ


โดย: หงุยหงุ่ย วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:0:47:49 น.  

 
ขอบคุณที่มารีวิวให้ดูค่ะ เป็นญ. หญิงคนนึงที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ถ้าไม่ปาดอายไลเนอร์

ที่คบกันตอนนี้ก็มีหลายแบรนด์อยู่ แต่เลิฟสุดก็ต้องยกให้ BB Gel ค่ะ


โดย: Pangjee (charming-p ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:9:27:32 น.  

 
เราเคยใช้ MAC เหมือนกันแต่มันเป็นสะเก็ดเข้าตาเลยเลิกใช้
ว่าจะให้โอกาสพี่แมคอีกซักครั้ง ทำเราน้ำตาร่วงอีก จะทิ้งจริงๆด้วย


โดย: สวิส (SWISS**JUKKY ) วันที่: 28 มิถุนายน 2550 เวลา:22:53:59 น.  

 
เราแต่งหน้าไม่เป็นสัปปะรดเลยล่ะ...ญาติต้องมานั่งจับเข้าคอร์สเมื่ออาทิตย์ก่อน
แต่ก็ยังไม่ได้เรื่องอยู่ดี

กลับมาแล้วจ้ะ


โดย: tistoo วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:20:04 น.  

 
สรุปตอนนี้ ที่นี่กลายเป็นบล็อกขายเครื่องสำอางไปแล้ว


โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:31:03 น.  

 
^
^
^
ท็อปเอ๊ย! แบบว่าทางหนังไม่รุ่งอ่ะ ไม่ได้ดูอะไรเลย ดีวีดีกองเต็มห้อง
ที่ดูแล้วเขียนๆ ไว้มันก็ง่อยๆ ให้ใครอ่านไม่ได้ >__<

พวกนี้ยังหยิบๆ จับๆ รายวัน...ฮ่า...


โดย: jimkong วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:50:10 น.  

 
เราไม่ปลืม smash box อย่างแรงเลยค่าเคยซือ้มาสี celeb มานเลือนง่ายมากเลย แพนด้าสุดๆ ไม่ทนแลย ก็เลยเอาไปทำอายแชโดว์แบบครีมแทน หนนีแจ่มมาก อิอิ

ส่วนตัวชอบแมคมากๆเลย ว่าแต่ liner ป้าลอล่าก็ดีนะคะ black ebony

ว่าแล้วก็เกาะขอบศึกษาต่อ อิอิ


โดย: ชฎาแหลม วันที่: 14 ตุลาคม 2550 เวลา:23:22:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.