ดอยอินทนนท์ในวันที่ฟ้าใส

วันที่ 1 มีนาคม 2553

7.00 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ เมื่อคืนนอนพักที่ Le Meridien ที่ซื้อvocherมาในราคาไม่แพง (กินหรู อยู่สบาย ราคาถูก อิ อิิ ) ตื่นนอนตอนเช้ามาเปิดผ้าม่านเห็นวิวดอยสุเทพอยู่ข้างหน้าแล้วก็มีหมอกจางๆ มี เย้ความสุขจังหลับสบ๊าย สบายมากๆ แหมโรงแรมห้าดาวนี่ช๊อบ ชอบ หมอนก็หนุนสบาย ผ้าห่มก็ออุ๊นอุ่น เช้านี้เราเปลี่ยนโปรแกรมกันกระทันหันตอนแรกกะว่าจะไม่ไปไหนเดี๋ยวก็ไปเดินเที่ยววัดเกตุ และก็ชิลๆอยู่แต่ในเมืองกัน คุณแฟนคงจะเบื่อวัดแล้วเลยบอกจะพาไปดอยอินทนนน์



9.00 อาหารเช้าต้องดีอยู่แล้วค่ะชอบไลน์ขนมปังเยอะมากมีมัฟฟินด้วยหยิบมาหนึ่งอันแต่ก็ไม่ได้กิน(ขอโทษนะคะ) ก็กินสลัดไปสองจานแล้ว เสร็จเรียบร้อยก็เช็คออกเลยเพราะว่าคงไม่แวะกลับมาแล้วเดี๋ยวเวลาไม่ทัน

10.00ออกจากที่พักก็ำแวะซื้อของฝากก่อนที่เดิมเจ้าเิดิมตลาดวโรรสค่ะแต่ว่าต้องรีบทำเวลาหน่อยระหว่างให้คุณแฟนเอารถไปจอด เราชอบที่จอดรถที่นี่ค่ะมีที่นิดเดียวแต่จอดได้เยอะเชียวคิดค่าจอดสามสิบบาท ถ้าให้พนักงานที่นี่เล่นเกม พารค์กิ้ง ลอท คงจะเซียนไม่เบา คุณแฟนก็เอารถไปจอดส่วนเราก็โดดลงจากรถไปซื้อไส้อั่วดำรงค์ก่อนพราะรู้ว่าคิวยาวจะได้ไม่เสียเวลา(ครั้งที่แล้วแทบจะตบตีกันซื้อไส้อั่ว คำเปรียบเทียบนะคะช่วงเทศกาลคิวยาวมาก)ครั้งนี้ซื้อซี่โครงหมูทอดและก็ข้าวเหนียวร้อนๆด้วย แล้วก็ให้คุณแฟนไปซื้อแค๊บหมูป้าแขกที่อยู่กาดต้นพยอมฝั่งตรงข้ามเลย(แค๊บหมูป้าแขกทอดใหม่ๆค่ะ) แล้วก็อย่าลืมซื้อ
ชิฟฟ่อนเจ้าเดิมที่ฝากวางขายอยู่หน้ากาดต้นพยอมด้วยนะอร่อยเชียว นุ๊ม นุ่ม ไม่หวานมา ซื้อของแพ็คลงกล่องเรียบร้อยก็มุ่งหน้าออกทางอ.หางดง จะไปดอยอินทนนท์เพราะว่าไปครั้งที่แล้ว(สามปีแล้วมั๊ง)ไม่เห็นอะไรเลยมีแต่หมอกแถมยังเจอฝนด้วย อยากลองไปใหม่อีกครั้งแต่ว่าก็ต้องรีบทำเวลานะเพราะต้องมาถึงสนามบินทุ่มหนึ่ง

12.30โดยประมาณก็ขึ้นมาถึงดอยอินทนนท์ฟ้าใสมาก ข้างล่างอากาศร้อนตีนดอยงี้ต้นไม้แห้ง กรัง มิน่าล่ะถึงเกิดไฟป่าบ่อยๆ แต่พอขึ้นมาอยู่บนนี้อากาศเย็นสบายดีแฮะแล้วก็ตอนนี้กำลังหิวกันเลยล่ะ



13.00เดินถ่ายรูปกันพักหนึ่งเราก็เอาซี่โครงหมูทอดที่ซื้อมาจากร้านดำรงค์เมื่อเช้ากับข้างเหนียวถุงเ้บ้อเร่อมานั่งกินกันแถวๆนั้นแหละใครเดินไปมา มองมาก็ไม่สนใจแล้วหิวมั่ก มาก คุณแฟนยิ่งท่าทางหิวจัดกินเอา กินเอาใหญ่เลย ข้าวเหนียวถุงใหญ่ที่ไม่คิดว่าจะกินหมดก็เกลี้ยงไปในพริบตา (นึกถึงหน้าคุณแฟนที่กินข้าวเหนียวกับหมูตอนนั้นแล้วยังแอบขำอยู่เลย ท่าทางแบบหิวมากๆ)

13.30หลังจากซัดอาหารเที่ยงกันตรงสนามหญ้าหน้าป้ายจุดถ่ายรูปที่ใครๆมาก็ต้องมาถ่ายรูปตรงจุดนี้แล้ว คุณแฟนก็สนใจที่จะไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง แต่พออ่านในไกด์บุคว่าต้องเดินอีก3กิโลและใช้เวลา ประมาณ3ชั่วโมงก็เลยต้องยกเลิกและไปเที่ยวที่พระธาตุนภเมธีดล ซึ่งครั้งที่มาครั้งที่แล้วไม่เห็นอะไรเลยรอบๆพระธาตุมีแต่หมอกอย่างหนามากในวันนั้น
แต่วันนี้ฟ้าใสแดดสวย(อย่างแรง) ดีที่ว่าอากศเย็นก็เลยไม่ร้อน เป็นแสบๆ แดดแทน





เดินชมสวนดอกไม้อย่างเพลิดเพลิน ก็ไฮไลท์ ของที่นี่เค้าก็คือการได้มาไหว้พระธาตุกับชมดอกไม้นานพรรณน้อ







ครั้งที่แล้วมาไม่สามารถเห็นอะไรเกินระยะห้าเมตร ครั้งนี้แจ่มกระจ่างเห็นของจริงด้วยตาตัวเองแล้ว



ถึงแม้ว่าแดดจะร้อนแต่อากาศก็เย็นและดอกไม้ก็ สวยมากๆ คงจะได้ปุ๋ยดี เพราะว่ากลิ่นแปลกๆ (หุ หุ )



15.30 เรามาถึงน้ำตกสิริภูมิกันมีเด็กชาวเขากลุ่มหนึ่งรอขายดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวการขายเค้าดีมากเชียว "น้ำใจ ให้ฟรี ไม่คิดตัง"แต่เราก็ไม่รับไม่เอาไม่เชื่อของฟรีไม่มีในโลก บอกพี่ไม่เอาขี้เกียจหิ้ว น้องๆก็พยายามตื๊อจังเราเลยบอกเดี๋ยวไปน้ำตกก่อน คนขายตั๋วบอกเดินไปประมาณสี่ร้อยเมตร ฟังดูไม่ไกลนะ
แต่แค่ร้อยเมตรแรกคุณแฟน ก็ขอพักแล้วเพราะเป็นทางขึ้น ทางชันสูงเรื่อยๆ ด้วยความที่เราฟิตกว่า(คิดเอาเอง)เราเลยขออาสาไปสำรวจนำทางก่อน ระหว่างทางเจอนักดูนกกลุ่มหนึ่ง เดินไปได้อีกสักห้าสิบเมตรทางก็สูงและลำบากขึ้นดูท่าทางไม่ใช่ของง่ายซะแล้วและที่สำคัญเวลาก็มีจำกัด เลยเดินกลับมาบอกคุณแฟนว่าสงสัยไปไม่ถึงแน่ทางสูงและชันขึ้นเวลาก็มีน้อยเรากลับกันเถอะ



กลับมาก็ยังคงเด็กกลุ่มเดิมมาตื๊อขาย ก็อยากช่วยซื้อนะแต่ทั้งหมดเลยคงไม่ไหวครั้นจะซื้อคนหนึ่ง แล้วที่เหลือล่ะก็เลยไม่ซื้อ ให้ขนมชิฟฟ่อนไปสองแพ้คไปแบ่งกันนะ ทีนี้เด็กๆก็ดีใจกันใหญ่เลย เราก็ดีใจด้วย



16.30แวะนมัสการพระธาตุศรีจอมทองก่อนกลับครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วแต่ไม่ได้เข้าไปข้างในโบสถ์เพราะว่าปิดแล้ว เสียดายจังไม่เป็นไรคุกเข่าไหว้อยู่ด้านนอกก็ได้



18.00ถึงร้าน "เพชรดอยงาม"กินข้าวที่นี่เป็นมื้อสุดท้ายก่อนกลับ ไวน์ก็ยังเหลืออีกครึ่งขวด(ไวน์ขวดนี้เปิดตั้งแต่วันแรกที่มา หิ้วไปมาหลายที่) เคยอ่านเจอมีหลายคนเค้าแนะนำว่าอาหารอร่อยเช่นกัน เมนูเด็ดต้องสั่ง ยำสมุนไพร แล้วทีีเหลือเราก็สั่งไก่บ้านทอดเกลือ กับเนื้อย่าง แกงฮังเล คุณแฟนสั่งเหมือนเดิม ออเดิรพ์เมือง ผลการทดสอบก็ชอบยำสมุนไพรค่ะอร่อยสมกับที่เคยได้รางวัล เลยสั่งใส่กล่องกลับมาฝากแม่ที่บ้านกล่องหนึ่ง

หน้าร้านเค้ามีฟักทองที่เจ้าของร้านประมูลมาจากโครงการหลวงไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปข้างหลังคือมะเขือการ์ตูน ไปไหว้พระบางที่เห็นคนนำไปไหว้ก็มี



หลังจากนั้นแปลกใจฝั่งตรงข้ามก็มีร้านชื่อ เพชรดอยงาม เหมือนกัน เอ เราไปกินถูกร้านหรือเปล่าหว่า เจ้าของเดียวกันหรือเปล่า ก็ยัง งง งง เอานะร้านเมื่อกี๊ก็ใช้ได้น่า



18.40ถึงสนามบินเวลาเหลือเฟือยังพอมีเวลอีกสามสิบนาทีหลังจากซื้อของฝากที่ช้อบในสนามบินเลยแวะไปใช้บริการเลาจน์ของ บางกอกแอร์เวย์ ครั้งนี้ไม่มีที่นั่งเลยค่ะผู้คนล้นหลามเยอะมากจริงๆ หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่องกลับถึงกรุงเทพราวสี่ทุ่มกว่าๆ จบสิ้นไปอีกหนึ่งทริปการเดินทางค่ะ

Create Date : 30 มีนาคม 2553 Last Update : 8 เมษายน 2553 1:26:17 น. Counter : 1667 Pageviews.		2 comments
Share Tweet