|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Plant human ตอน นิติพฤษศาสตร์
อรุณสวัสดิ์ เช้าวันพฤหัสนะคะ ส่วนมากเราชอบมาอัพบล็อคเวลานี้อ่าคะเพราะว่าว่างพอดีเพราะเราเริ่มเรียนตอน 9โมงเช้า แล้วเริ่ใข้เกียจอ่าน lab bio เมื่อวานเป็นวันแรกที่เราชอบเรียนวิชานี้ขนาดนี้นะเนี่ย คือวิชา plant human ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะลงวิชานี้หรอกคะ แต่ว่าสถานการณ์มันบังคับ ตอนแรกอยากเรียน food for heathใจจะขาดเพราะว่า เค้าว่ากันว่า วิชานี้ได้เอง่ายมาก แถมอาจารย์ที่ทันตะยังใจดีอีกด้วย แต่ทำไงได้มันเต็มไปแล้วอ่ะ เลยแบบว่า เรียนplant ก็ได้วะ ทั้งๆที่ไม่ค่อยชอบเรื่องพืชซักเท่าไร แบบว่าเรียนแล้วไม่มีอะไรตื่นเต้นซักนิดเลยไม่ค่อยชอบ
ครั้งแรกที่เรียนวิชานี้ คือเรียนเรื่อง พืชกับวรรณคดีไทยคะ ตอนแรกยอมรับว่าแอบน่าเบื่อเล็กน้อยเวลาเรียนก็หันไปเมาส์กับเพื่อนตลอด แต่ก็แอบสนุกบ้างตอนทายชื่อต้นไม้กับเพื่อน พอครั้งที่2 เรียนเกี่ยวกับ พืชที่เกียวข้องกับศาสนา ก็นะ........ฟังจากชื่อที่เรียนดูไม่น่าสนใจเลยใช่ป่ะ? แต่ก็โอเคนะ คาบนั้นเค้าจะเขียนชื่อต้นไม้ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนามาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราก็ขียนใหญ่เลย (เค้าให้ทำงานกันเป็นกลุ่มนะ) แต่พอเริ่มหมดความรู้ตัวเอง (ที่มีอยู่น้อยนิด) ก็ไปแอบลอกของกลุ่มข้างเคียงมา หึหึหึ ช่วยไม่ได้ก็มันพูดกันเสียงดังนิน่า แต่ที่ชอบเรียนที่สุดคือเมื่อวานเพราะเมื่อวานเรียนเรื่องเกี่ยวกับ นิติพฤษศาสตร์
ก่อนอื่นเรายอมรับเลยว่าเราเองไม่เคยมีความรู้ทางด้านนี้เลย แม้แต่นิติวิทยาศาสตร์ก็ตามเถอะ สนใจนะ แต่ยังไม่ได้ศึกษาอย่างจริงๆจังๆซะที อยากดูซีรี่เรื่อง CSI มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสวะทีขี้เกียจรอดูUBCอ่ะกะว่าอยากจะซื้อแผ่นมาดู จะได้ไม่ขาดตอน และม่มีโฆษณาอีกด้วย (ดูแผ่นซะเคยตัวซะแล้ว) วันนี้อาจารย์แอบโหด แบบว่า ห้ามนู้นห้ามนี่ ถ้ามีเสียงมือถือแม้แต่ครั้งเดียวเค้าจะเดินออก ห้ามคุย ห้ามเอาหูฟังมาเสียบหู ห้ามๆๆๆ จะบอกว่าความจริงมันก็เป็นกฏพื้นฐานของการเข้าห้องเรียนที่ดีอ่ะแหละ แต่เรารู้สึกว่า นิสิตสมัยนี้ดูเหมือนจะลืมมารยาทที่ดีเหล่านี้ไปซะแล้ว เข้า-ออกจากห้องโดยที่ไม่ขออนุญาติ ทำไมตอนพวกคุณอยู่มัธยม ดูแบบว่าทุกคนค่อนข้างให้ความเกรงใจอาจารย์ แต่พอขึ้นมาอยู่มหาลัย เรารู้สึกได้ว่ามารยาทเหล่านั้นเริ่มถดถอย ความเกรงใจเริ่มไม่มีให้เห็น เราว่าที่อาจารย์บ่นเป็นเรื่องที่สมควรแล้วล่ะ แต่เราสังเกตสีหน้าของหลายคน เค้ารู้สึกไม่พอใจเท่าที่ควร.....เฮ้อ.....คนเรา หรือว่าการมีมารยาทจะเข้าสู้ยุคมืดแล้วหรือไงกัน?
5 5 5 พล่ามมาซะเยอะยังไม่มีพูดเรื่องนิติพฤษศาสตร์เลยอ่ะ คือปกติเราคงเคยชินกับหลักฐาน ชิ้นใหญ่ๆ เช่น มีด รอยคราบเลือด ปืน บลาๆๆๆอีกมากมาย แต่เราหารู้ไหมว่า พืชเองนั้นก็สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพืช spore รอยหักของกิ่งไม้ cell wall สาหร่าย และอีกมากมาย ความจริงมันมีทฤษฎีของคนๆนึงที่กล่าวว่า
"คนร้ายจะต้องทิ้งอะไรบางอย่างไว้และนำบางอย่างติดตัวเป็นเช่นกัน ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่"
ทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่ถูกต้องเชียวแหละคะ เพราะบางทีเราจับคนร้ายได้เพราะว่า เมล็ดของต้น(อะไรซักอย่าง) ตกลงบนกระบะท้ายรถ แล้วเราสามารถตรวจสอบ เมล็ดนั้นกับต้นไม่ที่เกิดเหตุได้ ตอนที่ฟังอาจารย์สอนแล้วแบบว่า อู้ว์..... ว้าว....... มาก แบบว่าพืชมันสามารถทำอะไรได้มากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย..........
แล้วจะบอกว่าdiatomสามารถบ่งบอกได้ว่าเหยื่อนั้นเสียชีวิตก่อนจะตกลงไปในน้ำ หรือว่า เสียชีวิตในน้ำ เพราะว่าdiatom(เป็นสมชขนาดเล็กที่อยู่ในน้ำ เป็นพืช )นั้นจะอยู่ในน้ำ ถ้าเกิดว่าเหยื่อตายน้ำในหมายความว่า ก่อนตายนั้นเหยื่อจะสำลักน้ำเข้าไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดแรงอัด แล้วdiatomจะหนาแน่นมากที่เนื่อเยื่อปอด และตามบริเวณไขสันหลัง แต่ถ้าตายก่อนแล้วค่อยโยนลงน้ำ จำนวนdiatomจะน้อย แล้วเค้าวัดกันได้อย่างไรว่าต้องมากน้อยแค่ไหน? ก็ถ้าในต่างประเทศเค้าจะวัดแล้วมีค่าสิถิตเอาไว้ ซึ่งก็นะประเทศไทยไม่มีอะไรไฮเทคแบบนั้น ทุกอย่างในต่างประเทศจะเก็บข้อมูลไว้เป็นสถิติหมด ไม่ว่าจะเป็นsporeของพืชในบริเวณนี้มีค่าความหนาแน่นเท่าไร ถึงแม้ว่าสถานที่ทะง2นั้นจะมีพืชที่เหมือนกันเจอชนิดsporeขิงพืชที่เหมือนกันทุกประการ แต่.........ความหนาแน่นที่จะตรวจพบจะไม่เท่ากันเสมอ พอเราลองเอาเสื้อไปตรวจแล้วเทียบกับค่าสถิติเราก็สามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ในเหตุการณ์จริงหรือเปล่า
และมีอีกคดีนึงแบบว่าหลักฐานทุกอย่างไม่มีแล้ว......เหลือแค่บันไดที่ฆาตกรทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ก็มีนักวิทยาศาสตร์ เก็บตัวอย่างของบันไดไปศึกษา เชื่อไหมว่าเค้าเอาไปดูcell wallของพืชแล้วสามารถระบุได้ว่า ใช้กบไสมือ แล้วใบมีดบิ่น แถมใบมีดมีรอยคราบน้ำมัน จะสามารถสืบจนรู้ว่า มาจากบริษัทิไหนอะไรยังไง สรุปแล้ว ปรากฎว่าคนร้ายเคยทำงานอยู่บริษัทนั้นจริง
นี่เป้นเค่ตัวอย่างเล็กน้อยๆที่อาจารย์เอามาเล่าให้ฟังความจริงมันมีอีกมากมายเลยแหละคะ แต่เราไม่กล้าเล่าเพราะจำไม่ได้แม่นยำ กลัวเล่าแบบผิดๆ แบบว่าเดี๋ยวนี้หลักฐานไม่จำเป็นต้องเป้นสิ่งของ หรือว่าลายมือ หรือว่า DNA อีกต่อไป เราสามารถใช้พืชก็ได้ บางทีบางคดีมีการตรวจDNAพืชก็มีนะคะ จนบางทีเราเรียนไปวักพักแล้วรู้สึกว่า นี่อาจารย์สอนให้แบบว่า ฆ่าคนอย่างไรถึงจะไม่ได้โดนจับได้หรือป่าวเนี่ย จะบอกว่าsporeก็ทำให้จับคนค้ากัญชากับคนปลูกต้นกัญชาก็ได้นะคะ ............... เรียนวิชานี้แล้วได้เปิดโลกกว้างขึ้นจริงๆนะเนี่ย
อาทิตย์หน้าเค้าจะสอนเรื่อง พืชในสุสาน อู้ว์........อ้า.......น่าสนใจมากมาย ชอบมากเลยเนี่ยพวกแบบนี้ หึหึหึ เราเริ่มจะโรคจิตขึ้นทุกทีๆแล้วนะเนี่ย อาจารย์คนเดิมสอนแหละ ชอบอาจารย์คนนี้จังดูเค้าพูดถึงฆาตกร เลือด การฆ่าได้อย่างหน้าตาเฉย ดูเค้าคงจะชอบแบบเรา หึหึหึหึ
วันนี้เรามีlab bio วันนี้ได้ผ่ากบแล้ว หึหึหึหึ อยากมานาน และแล้ววันที่ใฝ่ฝันก็มีถึง ตอนแรกแบบว่าเค้าจะให้ฆ่ากบเองเลยไหมเนี่ย พูดกับpartnerว่า แกร~~~ชั้นอยากจะฆ่ากบเองอ่ะ ฆ่าด้วยมือเปล่าดีไหม? จับกบฟาดกับโต๊ะlabให้มันสลบไง เหมือนเค้าทุบหัวปลาดุกที่ตลาด เพื่อนเราแบบว่าเอ่อ...........แกรใจเย็น แกจะฆาตกรรมกบหรือไง 5 5 5 + ไว้วันนี้ทำแลปผ่ากบเสร็จแล้วมาเล่าให้ฟัง ปี2ผ่าหมาคงสนุกกว่านี้แน่ๆลย กบมันตัวเล็กไป แต่ก็เอาเถอะเราจะได้เห็นของจริงซะที
ปล.ถึงกบตัวที่โดนเราผ่า ไปสู่สุคติเถอะนะ แบบว่าเราทำเพื่อการศึกษา โปรดสละชีพให้เราด้วย....... อย่าจองเวรกันนะ สาธุ........... ว่างๆจะไปทำบุญให้นะจ๊ะกบน้อย
ภาพcell wall
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2549 9:00:11 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1037 Pageviews. |
|
|
|
โดย: บ้านโคกโจด (my_oom ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:49:04 น. |
|
|
|
โดย: KooCK!K...อิอิ IP: 58.9.111.67 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:05:06 น. |
|
|
|
โดย: i-amoil IP: 203.118.74.181 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:12:34 น. |
|
|
|
โดย: Gift IP: 202.57.175.29 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:25:30 น. |
|
|
|
โดย: mitsuki IP: 124.121.128.197 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:44:20 น. |
|
|
|
โดย: มิ้มบิ้ม IP: 124.121.38.117 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:18:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ก็แค่คนธรรมดาเดินดินที่มีชื่อว่าConch Conch อ่านว่า คอนช์ แต่บางคนว่ายาวเลยเรียกกันว่า ค้อน (ซึ่งผิดจากความหมายเดิมมาก) เพราะ Conchแปลว่าหอยสังข์ (ไม่รู้อ่ะดิ = =) แต่ห้ามเรียกว่านังหอย นะ น่าเกลียดชะมัด
|
|
|
|
|
|
|