|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โดน tag มาสี่ดอก เลยรีบออกมาแฉแบบ"สุดใจ"คร๊าบ
หลังจากไม่ได้เข้ามาบล๊อคแก๊งค์ซะนานครับ มาอ่านตอน tag กำลังเบ่งบาน กว่าจะรู้ตัว ตอนนี้ผมก็โดน tag มาสี่ดอกแล้วครับ จากคุณแฟนพี่บีม , คุณmanatto , คุณcommencer และ วันนี้ผมน่ารัก
ได้เวลาดีผมก็รีบออกมาแฉ (ขนาดรีบนะเนี่ย ปาไปเกือบจะหมดเดือนแล้ว) ก็ไม่รู้ว่า tag ผมจะแซ่บถึงใจคนมา tag รึเปล่า ไงก็แฉตัวเองแบบสุดใจก็แล้วกันคร๊าบ
โปรดฟังเพลง "สุดใจ" ประกอบการแฉด้วยนะครับ เพลงนี้เคยร้องแล้ว 1 รอบ ในเวอร์ชั่นเปียโนของเบน ชลาทิศ ไปไม่รอด รอบนี้เอาออริจินอลของพงษ์สิทธิ์มาร้องอีกรอบ แต่ไงก็ไม่รอดตามเคย ทนๆฟังกันหน่อยก็แล้วกันนะครับ
1. ติดอ่าง
อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดว่าผมไปติดอ่างแถวรัชดานะครับ ผมไม่ใช่คนพรรค์นั้น (แฮ่ๆ ไม่มีตังไปเที่ยวตะหาก) คือตั้งแต่เด็ก ผมเป็นเด็กที่ขี้อาย พูดน้อย ไม่มั่นใจในตัวเองเลย (เอ่อ ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่นี่หว่า)
แถมโดนล้อ โดนแกล้งสารพัด มันเลยส่งผลให้ผมกลัวไปหมด เวลาที่จะต้องพูดอะไรกับใคร เวลาพูดออกมามันเลยติดอยู่ที่ริมฝีมาก กว่าจะออกมาเป็นคำพูดแต่ละคำ แล้วก็รู้สึกไปเองว่าเพื่อนๆกำลังจับผิดผมอยู่ มันก็เลยยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าต้องออกไปรายงานหน้าห้องทีไร ผมกังวลมากจนนอนไม่หลับทุกที แล้วมันก็ติดอ่างอย่างที่คิดไว้จริงๆ เพื่อนๆก็ล้อผมกันใหญ่ นั่นยิ่งทำให้ผมเป็นคนที่เก็บตัวมากขึ้น
เวลาพูดคุยกับเพื่อนปกติผมจะไม่ค่อยติดเท่าไร แต่พอรู้สึกว่าใครกำลังสนใจในสิ่งผมพูดหรือจ้องผมอยู่ ก็จะกลายเป็นพูดติดอ่างในทันที เพื่อนล้อทีไรผมก็เก็บมาน้อยใจซะทุกที
มาดีขึ้นก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่ละครับ ก็มานั่งคุยกับตัวเองว่าปัญหาก็คือ ความไม่มั่นใจ ความกลัวของผมเองนี่แหละ จากเดิมที่ผมได้แต่นั่งคนอื่นเค้าคุยกันแบบเงียบๆ ผมก็พยายามที่จะพูดมากขึ้น ได้ทำงานชมรมมีประชุมบ่อยๆ ผมก็พยายามเสนอความเห็นผมในที่ประชุมให้ได้มากที่สุด แรกๆมันก็ตะกุกตะกัก พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่หลังๆก็ดีขึ้นตามลำดับครับ
ปัจจุบันผมยังมีอาการติดอ่างอยู่บ้าง โดยเฉพาะเวลาตื่นเต้น หรืออยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ แต่ก็จะพยายามไม่ไปสนใจมันมากนัก ถ้าคนไม่สังเกตหรือคอยจ้องจับผิดจริงๆก็จะไม่รู้ครับว่าผม ก็ติดอ่างนะคร๊าบ
2. บ้าญี่ปุ่น
เริ่มประมาณม.3 นะครับ ผมติดนิตยสารอยู่ฉบับนึง จำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะคัรบ เป็นหนังสือที่หน้าปกเหมือนพาดหัวข่าวอ่ะครับ แต่เป็นข่าวล้อเลียนเน้นไปในทางเฮอฮาและตลกสุดๆ
แต่ที่ทำให้ผมกลายเป็นคนบ้าญี่ปุ่นก็มาจากคอลัมน์ในตอน4-5 หน้าท้ายของเล่มและปกหลัง ที่เป็นเรื่องของดารานักร้องญี่ปุ่นล้วนๆ มีรายงานชาร์ตเพลงญี่ปุ่นประจำสัปดาห์แถมมีเทปขายด้วย ผมเลยสั่งซื้อของทางไปรษณีย์เป็นครั้งแรกก็ตอนนั้นละครับ เลยทำให้ผมชอบดูหนังและละครญี่ปุ่นซึ่งตอนนั้นมีฉายทางทีวีเยอะมาก แล้วก็กลายเป็นคลั่งใคล้ดารานักร้องญี่ปุ่น เข้าขั้นลิซึ่มครับ
โดยเฉพาะ โยโกะ มินามิโนะ สิงห์สาวนักสืบนี่ขวัญใจคนโปรดผมเลย มีเทปเพลงของเธอทุกชุดครับ แล้วก็ยังสะสมเทปของไอดอลญี่ปุ่นในช่วงนั้นอีกหลายคน ที่นึกออกก็ อากินะ นากาโมริ , เซโกะ มัตซึดะ , ยูอิ อาซากะ ,โนริโกะ ซากาอิ , มิกิ อิมาอิ , ชิซึกะ คุโด้ , โชเนนไต , โชโจไต , โอโตโกะ กูมิ ,ฮิเดอากิ โทกุนางะ โอ๊ยอีกเยอะ นึกชื่อไม่ออกแล้วครับ
เอาเป็นว่าตอนนั้นใครจะว่าผมยังไง ผมก็ไม่สน ผมมีความสุขที่ได้ดูและได้ฟังเพลงญี่ปุ่นครับ ก็คงเป็นไปตามวัย ตอนนี้ผมก็"ม่ได้คลั่งไคล้เหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ
3. ตัดไฝ
ผมมีไฝตรงริมฝีปากด้านบนข้างขวา ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แล้วก็ดูเหมือนมันจะยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆตามอายุครับ ด้วยความที่ผมเป็นคนรักความหล่อมาตั้งแต่เด็กๆ ก็จะรู้สึกไม่ชอบเจ้าไฝข้างปากเม็ดนี้เอามากๆ ดูแล้วเหมือนคนปากจัด ทั้งๆที่ผมเป็นเด็กที่พูดน้อยมันขัดกะบุคลิกผมน่ะครับ ต้องเอามันออกไปสถานเดียว
ผมพยามยามหาทางกำจัดมันออกไปจากริมฝีปากของผมหลายวิธีเลยครับ เริ่มจากเอาเข็มมาเขี่ยๆคิดว่ามันจะออก แต่ที่ออกมาคือเลือดครับ เจ็บด้วย แต่ผมก็ไม่ยอม เอามันออกจนหมด แต่ไฝมันไม่ได้มีแค่ผิวนี่ครับมันอยู่ลึกเข้าไปอีก วันต่อมามันก็กลับมาเป็นไฝเม็ดเดิมอีกครั้ง
ต่อมาก็เอายาที่เค้าบอกว่าทาแล้วมันจะกัดไฝให้หายไปมาทา มันก็เหมือนเดิมครับ มันหายไปวันสองวันมันก็กลับมาอีก จนถึงวิธีสุดท้าย ผมเก็บเงินไปให้หมอที่คลีนิคจี้ออกให้ครับ ไม่ปรึกษาใครเลยครับ ดุ่ยๆไปคนเดียวเลยครับ หมอบอกว่ามันอยู่ลึก นอกจากจี้แล้วยังต้องแซะรากมันออกอีกด้วย
ผมเลยมีรอยแผลเป็นเล็กๆเหนือริมฝีปากเป็นที่ระลึกจากการตัดใฝในครั้งนั้น แต่มันก็คุ้มนะครับ ผมว่าผมดูหล่อขึ้นน่ะ
4. เสียจิ้น
ความจริงเรื่องนี้ผมเขียนไปแล้วตั้งแต่เขียนบล๊อคครั้งแรกเมื่อกลางปีที่แล้ว ใครอยากรู้รายละเอียดก็ไปตามอ่านย้อนหลังดูนะครับ ของไผ่(แฟนพี่บีม) บอกว่าเสียจิ้นตอน ม.1 นั่นเด็กๆครับ เพราะของผมน่ะ ป.1 เด็กกว่าเยอะคร๊าบ แล้วเรื่องมันก็ไม่ได้โรแมนติกน่าจดจำซักเท่าไร เพราะผมตกเป็นเด็กผู้ถูกกระทำทางเพศจาก วัยรุ่นผู้ชายข้างบ้านน่ะครับ
รึว่าผมต้องไปขอบคุณผู้ชายคนนั้นดีครับ ที่ทำให้ผมได้ลิ้มรสความเป็นชายตั้งแต่เด็ก ผมเลยมาติดใจในตอนโต อืม ไม่เล่าต่อแล้วครับ ไปหาอ่านกันเอาเองดีกว่า เดี๋ยวจะติดเรตไปมากกว่านี้ เข้าไปอ่านรายละเอียดการเสียจิ้นได้ที่นี่ครับ วันแรก ครั้งแรกสำหรับการเขียน blog ของตัวเอง
5. ว่ายน้ำไม่เป็น
บอกไปก็จะเสียชื่อหนุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อดีตชายชาติทหารล่ำบึ๊กเป็นที่สุดเลยว่า "ผมว่ายน้ำไม่เป็นครับ" ก็บ้านผมไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำลำคลองนี่นา แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปว่ายน้ำล่ะครับ
แต่ผมก็พยายามจะฝึกนะครับ ลงสระว่ายน้ำกับเพื่อนๆครั้งแรกตอน ม.2 กลัวจะตายครับ ก็เล่นว่ายเอาตรงที่ตื้นๆนะละ ไม่กล้าไปตรงน้ำลึก แต่มันก็ไม่ทำให้ผมว่ายน้ำเป็นหรอกครับ เพราะว่านานๆจะไปที่สระซักที ปีละครั้งยังไม่ถึงเลยมั๊งครับ
จากความพยายามอย่างหนัก (ตรงไหนวะ) ผมก็สามารถว่ายน้ำแบบไม่เงยหน้าได้สำเร็จ คือว่าว่ายจากขอบสระด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง (ทางขวางนะครับ) ก้มหน้าก้มตาว่ายรวดเดียวจบ ถ้าหมดแรงลมหมดเมื่อไรก็คงตายอยู่กลางสระนั่นละครับ
การว่ายน้ำไม่เป็นนี่ มันก็ทำให้การเที่ยวทะเลของผมสนุกไม่เต็มที่เลยครับ แม้จะใส่เสื้อชูชีพแต่ใจมันก็ยังกลัวอยู่ดี แต่ผมก็ชอบเที่ยวทะเลนะครับ (แอบจิ๊กรูปมาจากบล๊อคคุณดาวทะเลนะครับ ขอบคุณมากครับ)
6. ปริญญาโท
จบป.ตรีแล้ว หลายๆคนก็คงคิดที่จะเรียนต่อ ป.โทกัน ผมเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ แต่จะเรียนอะไรนี่สิถึงจะดี ไหนๆก็จะส่งเสียตัวเองเรียนแล้ว ทำตามใจตัวเองดีกว่า ผมเลยเลือกที่จะสอบ ป.โท ในสาขาปรัชญา ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ
เหตุผลแรกเลยก็คือผมชอบ มช.ครับ ไฝ่ฝันตั้งแต่ตอนเรียนม.ปลายแล้วครับ ว่าจะต้องเข้า มช.ให้ได้ แต่ผมสอบโควต้าเข้า มช. ไม่ติดครับ ตอนเอ็นเลยไม่เลือก มช.เลย เลือกแต่ มหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ เพราะคิดว่ายังไงกรูก็เอ็นไม่ติดหรอก สรุปแล้วผมก็เอ็นติดที่ มก.แทนครับ ตอนนั้นนึกเสียดายเหมือนกัน ว่าทำไมกรูไม่เลือกมช.ว้า ไม่งั้นได้ไปเรียนสมใจแล้ว
มาเข้าเรื่อง ป.โทกันต่อ แทนที่ผมจะเลือกเรียน MBA เหมือนคนอื่นๆ ผมเลือกที่จะเรียนปรัชญาครับ เพราะผมมักจะตั้งคำถามกับชีวิตตัวเองเสมอครับว่า เราเกิดมาทำไม แล้วไอ้วิชาปรัชญานี่มันเปิดกว้างทางความคิดมากน่ะครับ แม้ผมจะไม่รู้ว่าจบไปแล้วจะทำอะไรได้ แต่ผมก็เชื่อตามความรู้สึกของผมครับ ว่าปรัชญานี่แหละเหมาะสมกับผมแล้ว
ไปขอยืมหนังสือเพื่อนมาอ่าน 1 เดือนก่อนสอบ วันประกาศผลนี่ตื่นเต้นสุดๆ พอเห็นชื่อตัวเองบนบอร์ดก็ดีใจสุดๆ ว่าเราทำตามความฝันเราสำเร็จแล้วโว๊ย รหัสผม 4321104 ครับเหลือก็แค่ไปลงทะเบียนเรียนเท่านั้นครับ ผมจะได้ไปเรียน มช.แล้ว ผมจะได้ไปนั่งเล่นที่อ่างแก้วได้บ่อยๆแล้ว ผมชอบไปทีอ่างแก้วตอนเย็นๆมากเลยครับ มันสวยดี และผมก็จะได้เรียนในสิ่งที่ชอบเสียที
แต่ สิ่งที่ทำให้ความฝันผมพังทลายลงไปก็เกิดขึ้น ติดตามต่อในข้อ 7 ครับ (ขอบคุณ รูปประกอบจากคุณ o_taro //www.taklong.com/sonylover/s-sl.php?No=79920)
7. ทหารเกณฑ์
ทายถูกป่าว ว่าคนไหนคือ เคน Y
นี่ละครับเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ได้เรียนโท สงสัยล่ะสิว่ามันเกี่ยวกันยังไง คือผมรู้ผลสอบโทตอนปลายๆเดือน มี.ค. และในเดือน เม.ย. ผมต้องไปคัดเลือกทหารครับ เนื่องจากหมดสิทธิ์ผ่อนผันแล้ว
ผมก็เหลือแค่จับให้ได้ใบดำเท่านั้นผมก็จะได้ไปเรียนสมใจแล้ว จากคนที่มาคัดทั้งหมดประมาณ 800 คน รอบเช้าตรวจร่างกายแยกประเภท ปรากฏว่าพวกไม่ถึงเกณฑ์โดนคัดออกไป ไม่ต้องจับใบดำใบแดงมีเกือบ 400 คน เอาละสิ รอบบ่ายก็เหลือ 400 คน ที่จะมาชิงใบแดง 100 ใบ ผมคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอกนะ
แต่แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น มันก็เกิดครับ ก่อนหน้าผมได้ใบดำกันเป็นสิบคน แล้วคนที่จับก่อนผมนี่มันได้ใบแดงครับ ผมก็เลยจับใบแดงตามมันไปติดๆ ตอนที่เขาประกาศว่า "ทบ.1 ส่งช่วยลพบุรี" ผมละอึ๊งไปหมด เหมือนโลกมันหยุดหมุน หูก็อื้อไม่ได้ยินอะไรอีกเลย ง่า ทำไมถึงเป็นยั่งงี้วะกรู
ไหนๆก็ต้องเป็นทหารแล้ว ผมก็พยายามติดต่อเรื่องเรียนว่าจะขอดร๊อปหรือทำอะไรเพื่อรักษาสิทธิ์ก่อนได้ไหม ปรากฏว่าไม่มีใครให้ทางออกผมเลยนอกจากผมต้องมาลงทะเบียนเองก่อน แล้วค่อยดร๊อปทีหลัง แต่ผมจะออกมาได้ยังไง ก็วันที่ลงทะเบียนผมต้องไปอยู่ในค่ายทหารที่ลพบุรีแล้วน่ะครับ ปรึกษาใครก็ไม่มีคำตอบให้เลย สรุปแล้วผมก็ต้องสละสิทธิการเรียนโทไป แล้วก็มาเป็นทหารเกณฑ์ผลัด 1/43 ที่กองพันทหารปืนใหญ่ ลพบุรี 1 ปีเต็ม
มองย้อนกลับไปมันก็เป็นประสบการณ์ชีวิตอีกช่วงหนึ่งที่น่าจดจำครับ ว่าแล้วก็คิดถึงเพื่อนๆทหารที่เคยลำบากมาด้วยกัน ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ไม่รู้ว่าพวกมันจะเป็นยังไงบ้าง ข้าคิดถึงพวกเองนะเฟร้ย เดี๋ยวจะระลึกชาติเขียนเรื่องในรั้วทหารให้อ่านคราวหน้าครับ
.................................................................
เอาเป็นอันว่าจบ tag ของผมไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ แล้วผมก็จะไม่ tag ใครต่อครับ เพราะว่าคนที่ผมรู้จักรู้สึกจะโดนtag กันไปหมดแล้ว
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ยังแวะมาเยี่ยมผมอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าผมจะไม่ค่อยได้เข้าไปเยี่ยมซักเท่าไร ซึ้งใจจริงๆครับ ไงจะหาโอกาสไปเยี่ยมให้มากขึ้นครับ
สุดท้ายของสุดท้าย รักหมึกน้อยมากนะครับ ตอนนี้อะไรๆก็น่าจะดีขึ้นแล้ว ขอบคุณนะครับที่อยู่เคียงข้างพี่ตลอดมา น่ารักซะขนาดนี้แล้วจะให้พี่รักใครได้อีกล่ะครับ ดูแลตัวเองนะครับ เป็นห่วงนะ วันข้างหน้าพี่คงได้มีโอกาสดูแลหมึกน้อยตอบแทนนะครับ รักหมึกน้อยที่สุดเลยคร๊าบ
Create Date : 28 มกราคม 2550 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 20:13:39 น. |
|
31 comments
|
Counter : 779 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แฟนพี่บีม น่ารักที่สุดในโลก IP: 58.8.89.66 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:4:34:13 น. |
|
|
|
โดย: กอมมงเซ่ (Commencer) IP: 58.9.79.127 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:5:25:21 น. |
|
|
|
โดย: T_Ang วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:12:54:33 น. |
|
|
|
โดย: ดาวทะเล วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:13:14:59 น. |
|
|
|
โดย: เรียกข้า... ซาดาโกะ! aka zardamon IP: 168.120.64.154 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:13:50:18 น. |
|
|
|
โดย: nagano IP: 203.147.0.42 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:19:13:08 น. |
|
|
|
โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:21:15:59 น. |
|
|
|
โดย: J-Nap วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:0:34:00 น. |
|
|
|
โดย: แฟนพี่บีม วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:1:25:33 น. |
|
|
|
โดย: หนูคิสของป๋าเคน (KissAhoLicGal ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:1:39:07 น. |
|
|
|
โดย: Namtarn IP: 128.2.141.22 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:2:53:28 น. |
|
|
|
โดย: Namtarn IP: 128.2.141.22 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:3:04:20 น. |
|
|
|
โดย: canx วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:4:56:14 น. |
|
|
|
โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:9:54:11 น. |
|
|
|
โดย: พอล (Jedi ใจดี ) วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:11:17:38 น. |
|
|
|
โดย: กะได วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:12:39:04 น. |
|
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:14:31:52 น. |
|
|
|
โดย: แร้ไฟ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:02:46 น. |
|
|
|
โดย: วอน IP: 202.91.23.1 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:04:44 น. |
|
|
|
โดย: haku (Haku_one ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:34:06 น. |
|
|
|
โดย: เคน Y ไม่ได้ล๊อกอิน IP: 58.8.143.43 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:22:05 น. |
|
|
|
โดย: lily IP: 124.120.176.21 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:03:58 น. |
|
|
|
โดย: มะดัน IP: 61.19.59.180 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:13:34 น. |
|
|
|
โดย: ชานไม้ชายเขา วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:06:47 น. |
|
|
|
โดย: man@ (manatto ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:31:43 น. |
|
|
|
โดย: Nagano วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:39:33 น. |
|
|
|
โดย: Boyne Byron วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:27:31 น. |
|
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:07:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Sydney Australia
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
ผู้ชายธรรมดา สายลม แสงแดด เรื่อยเปื่อย เฉื่อยแฉะ
ชอบฟังเพลงรัก ชอบฤดูหนาว ชอบร้องเพลง ชอบเดินทาง ชอบผู้คน ชอบทะเล ชอบภูเขา ชอบดวงดาว ชอบพระจันทร์ ชอบตอนเช้า ชอบกลางคืน ฯลฯ
ชอบไปซะหมดเล้ย !!!
|
|
|
|
|
|
|
ปล. ว่าแต่ tag มันมี 5 ข้อไม่ใช่เหยอ