เนื่องมาจากได้อ่านบทความที่ปู่มะละกอมาลงไว้ ก็เลยได้ทีเอามาลงมั่งเพื่อจะหาเรื่องอัพบล็อคไป บทความนี้ได้มาจาก FWD Mail อ่านแล้วก็ได้คิดทบทวนตัวเอง มันสะท้อนความเป็นจริงได้อย่างถ่องแท้เลยล่ะ
ใครหลายๆ คน ยังคงไขว่ขว้าหา คนที่ใช่..
แต่หลายๆคนก็ เลือกที่จะรอ คนที่ใช่อยู่เช่นกัน โดยที่ไม่ต้อง เหนื่อยกับการไขว่ขว้าอีกเช่นกัน
คนที่ใช่กว่า...
...มีเรื่องของคู่รัก 2 คู่
ทั้ง 2 คู่ต่างก็เป็นคู่รักที่รักกันมาก
ดูแลเอาใจใส่และเข้าอกเข้าใจกันมานาน 7- 8 ปี
เป็นคู่รักที่คนรู้จักต่างก็แน่ใจว่า อีกไม่นานก็คงได้ยินข่าวดีจากคู่รัก 2 คู่นี้แน่ๆ
แต่แล้ววันนึงก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันขึ้นกับคู่รักทั้ง 2 คู่
.. เมื่อฝ่ายชายก็ได้พบใครใหม่ที่คิดว่า 'ใช่' มากกว่า
ผู้หญิงคนใหม่ที่สวยกว่าและมีเสน่ห์มากกว่า ฝ่ายชายตัดสินใจคบดูใจด้วย
โดยที่ยังไม่เลิกกับคู่รักเดิม ยิ่งคบเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่
ผู้หญิงคนใหม่ที่คบกันมา 2 - 3 เดือน กับคนรักคนเดิมใน 7- 8 ปีที่ผ่านมา
เริ่มถ่วงดุลน้ำหนักที่เท่ากันบนตาชั่งการตัดสินใจของเขา
ทายสิว่า ชายหนุ่มทั้งคู่เลือกใคร
เขาทั้งคู่เลือกผู้หญิงคนใหม่
.
สิ่งที่ผู้ชายทั้งคู่ต่างหยิบยกมากล่าวถึงก็คือ คนรักคนเดิมที่เคยคบด้วย
มีอะไรบางอย่างทีเขาไม่ค่อยชอบใจ อาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวบางประการ
แต่ในขณะที่คบกันมานั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
ที่เขาพอรับได้เมื่อเทียบกับความดีอื่นๆ ที่เธอทำให้เขา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรักอย่างหมดใจที่เธอมีให้เขา
แต่วันนึงที่พบผู้หญิงคนใหม่ อะไรที่เคยทนได้ก็กลับทนไม่ได้ขึ้นมา
โดยเฉพาะเมื่อผู้หญิงคนใหม่ไม่ได้มีข้อเสียในจุดนั้น เหมือนคนรักเก่า
แต่ข้อแตกต่างอยู่ที่
ผู้ชายคนที่ 1
ถูกคนรักของเขาจับได้เองว่าเขามีผู้หญิงคนใหม่
และเมื่อขาบอกว่าเขาเลือกผู้หญิงคนใหม่ เขาให้เหตุผลว่า
' เขาดีกว่าคุณทุกอย่าง เขาคอยดูแลผมเขาเข้าใจผม
(และที่สำคัญเขาสวยกว่า และใหม่กว่าคุณด้วย) '
ส่วนผู้ชายคนที่ 2
เลือกสารภาพกับคนรักว่า
'ผมเป็นคนผิดเองที่นอกใจคุณ แต่คนที่ผมเลือกก็เป็นเขา
ขอโทษนะ ผมผิดเอง ขอโทษจริงๆ'
ถามคุณว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างการปฏิบัติของผู้ชาย 2 คนนี้
. แบบไหนที่ดูเป็น ' ลูกผู้ชาย' มากกว่ากัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ถ้ามีทางเลือก
ผู้หญิงเราคงไม่เลือกสักทาง จริงไหม
เพราะถ้าเราเลือกได้จริงๆ เราก็ขอเลือกให้เขามีเราคนเดียวมากกว่า
เราเชื่อว่า สิ่งที่คนส่วนใหญ่ (อาจจะไม่ทุกคน
แต่ก็เชื่อว่าเป็นจำนวนมาก)
ต้องการมากที่สุดในการตัดสินใจที่จะรักและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับใครสักคนแล้ว
ก็คือความ 'จงรัก' และ'ภักดี'
คุณทมยันตี เคยกล่าวถึงคำทั้ง 2 คำไว้ และเราสรุปเป็นใจความได้ว่า
'จงรัก' อาจจะมากมายในวัยหนุ่มสาว อาจจะร้อนแรง อาจท่วมท้นในยามแรกรัก!
แต่วันนึงอาจจะจืดจางได้ตามกาลเวลา.. คนรักคู่ใดๆในโลกก็มักเริ่มชีวิตคู่ด้วยคำๆนี้
แต่ 'ภักดี' นั้นชั่วชีวิต..
ความจงรักหรือความรักนั้น เราเชื่อว่ามันไม่เข้มข้น ร้อนแรงตลอดไปก็จริง
แต่มันคงเหลืออวลไอเป็นใยบางๆ ไว้ตราตรึงใจบ้างกระมังในยามที่เราหวนนึกถึงมัน
แต่การที่คนสองคนอยู่กันมานานแสนนานขนาดนี้ ย่อมต้องมีความผูกพัน
ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจซึ่งกันและกันบ้างไม่มากก็ น้อย
สิ่งที่เราเห็นจากคู่รักทั้ง 2 คู่ก็คือ
ฝ่ายชายหมดความ 'จงรัก' ลงไป
แต่ความรู้สึกอื่นๆ ล่ะ ความผูกพันของคนสองคน ความเห็นอกเห็นใจ
ความเข้าอกเข้าใจที่เคยมี มันไม่เหลือพอที่จะผูกใจเขาให้อยู่กับเราแล้วหรือ
คู่รักทั้ง 2 คู่ เป็นคู่ที่เรารู้จักดีทั้ง 2 คู่ ตอนที่เขารักกัน
เขาก็รักกันมาก เขาดูแลกันเป็นอย่างดี ตอนนี้เมื่อถึงจุดแตกหัก
เราพอรู้ว่าฝ่ายหญิงจะเป็นอย่างไร
พอเข้าใจว่าผู้หญิงที่รักและภักดีต่อฝ่ายชายแต่เพียง ผู้เดียวจะรู้สึกอย่างไร
ผู้หญิง 1 ใน 2 คนนี้บอกกับฝ่ายชายตอนที่เขามาขอเลิกว่า
' ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่กับคุณก่อน จะอยู่ดูแลคุณอีกสักพักเพราะตอนนี้
คนรอบข้างคุณและ! เพื่อนๆ ของเราไม่ค่อยมีใครอยู่ข้างคุณแล้ว
พอเพื่อนๆ ของเรายอมรับผู้หญิงคนใหม่ของคุณได้แล้วฉันก็จะไป'
แต่ฝ่ายชาย เราไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะคิดอย่างไร
อาจจะกำลังมีความสุขกับผู้หญิงคนใหม่ ความรักอาจกำลังท่วมท้น
อาจกำลังวางแผนสร้างอนาคตที่สดใสกันอยู่
เขาอาจจะมีความรักที่รุ่งโรจน์กว่าที่ผ่านมาก็เป็นได้
เราก็หวังไว้แต่ว่าวันนึง เขาคงจะไม่เจอคนที่ 'ใช่มากกว่า' อีก
เพราะนั่นหมายถึง ผู้หญิงที่ต้องเสียใจจะเพิ่มขึ้นอีก 2 คน
*ถ้าเราคิดจะมองหาคนที่ถูกใจ คนที่ 'ใช่' คุณเชื่อไหมว่า เราหาได้เกือบชั่วชีวิต*
แต่คนที่จะตรงใจคุณจริงๆ 100% นั้น ไม่มีหรอก
นอกจากคุณจะหยุดความต้องการที่ไม่มีข้อสิ้นสุดของตัว คุณเองลง
เราเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา ไม่ได้ต้องการบอกว่าใครผิดใครถูก
แต่ต้องการให้คุณหยุดคิดสักนิดว่า อะไรในชีวิตที่คุณต้องการ
อะไรที่เป็นสิ่งที่ยั่งยืนกว่ากัน..
มนุษย์เราหากจะรักและคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับใคร
ก็คงจะต้องการเพียงแต่ ' เพื่อนคู่ชีวิต' สักคน
คนที่อยู่กับเราเสมอไม่ว่ายามทุกข์ยาก..ลำบาก..หรือผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน
คนที่มองเห็นข้อเสียและข้อผิดพลาดของคุณ แต่ก็ยังรักและยังอภัยให้คุณได้เสมอ..
คนที่พร้อมจะอยู่กับคุณแม้คุณจะกลายเป็นตาแก่หัวล้าน พุงยาน หนังเหี่ยว
เขาก็พร้อมที่จะแก่เฒ่าไปพร้อมกับคุณ
แต่คนที่ว่ามานี้ คุณมักลืมเขาในยามที่คุณยัง มีความสุขอยู่..
ในยามที่ชีวิตของคุณยังเป็น 'ผู้เลือก' ที่ถูกห้อมล้อมด้วยผู้ถูกเลือกได้อยู่
ในยามที่คุณยังมีหน้าตา มีเครื่องประกอบชีวิตที่เป็นที่สนใจจากคนเหล่านั้นอยู่
คุณอาจจะต้องนึกถึงเขาอีกทีในยามที่คุณไม่มีใครแล้ว
ในยามที่คนที่คุณคิดว่า 'ใช่' เขาก็ไปกับคนใหม่ที่เขาก็คิดว่า 'ใช่' มากกว่าคุณเหมือนกัน !!