เหนือฟ้า พาไป@FlywithMoM

เรือพระราชพิธี มิสยิดหลวง : ท่องเที่ยววิถีถิ่น ครั้งที่ 21 "เที่ยวตลาด ชิมขนม ชมอดีต"

เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มี.ค. 56  ....พี่เอ๊ะ พี่สาวใจดีมาชวนไปชมห้องสมุดเรือ Logos hope ที่ท่าเรือคลองเตย แต่แล้วก็ติดพันกับการฟังบรรยายเรื่องดาวหางแพนสตาร์ส ที่กำลังวิ่งมาให้เราชม (นิวซีแลนด์ ถ่ายภาพดาวหางได้แล้ว ของไทยเราก็เริ่มมองเห็นตั้งแต่วันที่ 3 - 15 มี.ค. 56 ) ของสมาคมดาราศาสตร์ไทย ที่ท้องฟ้าจำลอง และก็ตั้งกล้องให้เราส่องดาวพฤหัส เพลินจนสามทุ่มครึ่ง ....อดไปขึ้นเรือ ไว้คราวหน้าล่ะกัน 


ตอนนี้เรามาเดินเที่ยวชมคลองบางกอกน้อย กันต่อดีกว่า ...จากวัดอมรินทราวราราม ก็เดินวกมาขึ้นสะพานอรุณอัมรินทร์ เพื่อข้ามไปชมเรือพระราชพิธี ที่กรมขนส่งทหารเรือ 







พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อยตรงข้ามสถานีรถไฟธนบุรี เป็นอู่เก็บเรือที่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆ ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์ 




เรือพระราชพิธีที่อยู่ในโรงเก็บตอนนี้จะเป็นเรือที่ไม่มีลวดลาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพเรือ ส่วนเรือที่มีลวดลาย กรมศิลปากรจะดูแล  



ท่านผู้นี้คือตัวจริง เสียงจริง ผู้ขับขานบทเห่เรือ นาวาโท ณัฐวัฏ อร่ามเกลื้อ มีประสบการณ์กับการเห่เรือพระราชพิธีกว่า 30 ปี และก็มีหน้าที่ควบคุมการฝึกซ้อมของเหล่าฝีพายเรือด้วย แต่ก่อนเคยเป็นฝีพายประจำเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เมื่อครั้งฉลองกรุงเทพมหานคร 200 ปี ในปี 2525  และมีความสนใจในการเห่เรือ ก็เลยได้ฝึกกับ เรือโท สุจินต์ สุวรรณ ครูสอนเห่เรือ และ พลเรือตรี มงคล แสงสว่าง ศิลปินแห่งชาติ จนได้มาเป็นพนักงานเห่เรือในปัจจุบัน

วันนี้วันหยุด แล้วก็ไม่ได้แจ้งมาล่วงหน้า ก็เลยไม่มีฝีพายเรือมาสาธิตการพายเรือ 





ที่นั่งฝีพายสำหรับฝึก ที่เรียกว่าเขียงฝึก เพราะที่ต้องโดนฝึกหนักมาก เพื่อที่จะได้พร้อมเพรียงกัน เลยให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเขียงที่ใช้หั่นหมู หั่นผัก สับๆๆๆ ...โอ้ว 































ไม้พายทำจากไม้สักหนัก 1 กก. ไม้ขัดท้ายหนัก 8-9 กก.  เรือพระราชพิธีในแต่ละครั้งจะมีทั้งหมด 52 ลำ เฉพาะฝีพาย 1,614 คน ถ้ารวมคนถือท้าย และหน้าที่อื่นๆ ในขบวนจะมีทั้งหมด 2,312 คน 





ส่วนไม้ที่ใช้มาต่อเรือ ถ้าเป็น เรือขุดจะใช้ไม้ตะเคียน แล้วเรือต่อจะใช้ไม้สัก แล้ววิธีการนำเรือออกจากโรงเก็บ ก็จะปล่อยน้ำมาให้เต็ม แล้วก็โซ่โยงกับขื่อด้านบน แล้วก็เกี่ยวเรือ ค่อยโยงเรือลงไป 






มีเสียงเรียกร้องขอให้ นาวาโท ณัฐวัฏ เห่บทเรือชมเครื่องคาวหวาน (พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ) ให้ได้ยินสดๆ  ... นาวาโท ณัฐวัฏ ก็บอกว่า ถ้าผมทำมือแบบนี้ ให้ทุกคนร้องรับนะ ...ถ้าทำมือแบบนี้ ร้องส่งนะ ...

ก่อนจะลากลับกัน นาวาโท ณัฐวัฏ ยังบอกว่าใครสนใจการเห่เรือ ต้องการนำไปศึกษา ก็ติดต่อขอแผ่นได้โดยตรง ...ขอบคุณนะค่ะ ได้ความรู้เยอะแยะเกี่ยวกับเรือพระราชพิธี  โอกาสหน้าแวะมาชมอีกแน่นอน...ส่งท้าย 



จากนั้นเราก็ข้ามถนน ขอผ่านทางพิเศษของกรมขนส่งทหารเรือ เพื่อไปมัสยิดหลวง ชุมชนชาวมุสลิม ริมคลองบางกอกน้อย 





ในสมัยกรุงศรีอยุธยาสมัย พระเจ้าเอกทัศน์เป็นกษัตริย์องค์สุดท้าย พม่าได้ยกทัพเข้ามาโจมตีกรุงศรีอยุธยา ได้เผาบ้านเรือน วัดวาอารามพินาศสิ้น ในการยกกองทัพไปต่อสู้ข้าศึกครั้งนั้น พระภักดีเสนา ได้เสียชีวิตในสนามรบ บรรดาราษฎรต่างพากันอพยพหลบหนีการกวาดต้อนจับกุมของทหารพม่า ต่างก็ล่องเรือแพหนีทหารพม่ามาทางตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา ตามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อหาที่ปลอดภัยหลบซ่อนพม่า บรรดามุสลิมที่อาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ได้ลอยแพล่องเรือลงไปตามลำน้ำเจ้าพระยา มาตั้งหลักแหล่งอาศัยอยู่บริเวณตลาดแก้ว บางอ้อ บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางลำภูล่างโดยเฉพาะบรรพบุรุษของชาวบางกอกน้อยได้มาตั้งหลักแหล่งและสร้าง มัสยิดอยู่ที่บริเวณต้นมะกอก (ปากคลองบางกอกน้อย) ตรงพื้นที่ที่เป็นสถานีรถไฟธนบุรีในปัจจุบัน

ต่อมาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริจะสร้างทางรถไฟจากกรุงเทพ ไปยังจังหวัดเพชรบุรี ทรงมีพระราชประสงค์ว่าตรงปากคลองบางกอกน้อยเหมาะสมที่จะเป็นที่ตั้งสถานี รถไฟ ปรากฎว่าตำแหน่งที่ตั้งของสถานีรถไฟนั้นเป็นที่ตั้งของมัสยิดของพวกนับถือ ศาสนาอิสลาม พระองค์ทรงรับสั่งให้ที่ดินฝั่งตรงข้ามโรงเก็บเรือหลวงที่ชำรุด ให้เป็นที่ตั้งของมัสยิดแห่งใหม่ และพระราชทานที่ดินให้มากกว่าเดิม และได้พระราชทานทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมัสยิดอีกด้วย 

ต่อมาในสงครามมหาเอเชียบูรพา มัสยิด โรงเรียนและหมู่บ้านมุสลิมบางกอกน้อยทั้งหมด ถูกระเบิดทำลายเสียหายหมดสิ้นเหลือแต่เพียงสุสานของมัสยิดเท่านั้น บรรดาสัปปุรุษของมัสยิดบางกอกน้อยจึงได้ร่วมกับตระกูลศรีจรุญ และบริษัทเพชรทองคำบริจาคทรัพย์และ วัสดุก่อสร้าง ทำการก่อสร้างมัสยิดหลังใหม่ได้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2492 ตวนอับดุลเราะห์มาน หะซัน กรีมี อิหม่ามมัสยิดได้เสนอชื่อมัสยิดโดยได้ชื่อว่า "มัสยิดหลวงอันวาริสซุนนะห์"

ในปีพ.ศ. 2499 อิหม่ามและคณะกรรมการมัสยิดได้ทูลเกล้าฯ ขอที่ดินซึ่งเป็นอู่ซุงทหารเรือที่อยู่ติดกับมัสยิด เพื่อใช้เป็นที่สร้างโรงเรียน จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศพระบรมราชูทิศที่ดินเพิ่มเติมสำหรับสร้างโรงเรียน นับเป็นการสร้างโรงเรียนอิสลามหลังแรกในประเทศไทย ด้วยค่าใช้จ่าย 100 ชั่ง (แปดพันบาทในยุคนั้น) และตั้งชื่อโรงเรียนว่า มัดรอซะห์ฮามีดียะห์

ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย 



ก่อนจะเข้ามัสยิด ต้องทำความสะอาดมือ และเท้าก่อน 



จากนั้นก็ข้ามถนนไปชมงานของโรงเรียน จะมีอาหารมุสลิมมาให้ชิม ออกร้านเพื่อการกุศล 

เบื้องหลังความอร่อยของร้านมนต์นมสด เพราะเจ้าของมาเรียนรู้สูตรขนมปังจากชาวมุสลิมที่นี่ 







เรามากันเร็วไปหน่อย ร้านอาหารยังไม่ตั้ง ร้านชาน้ำร้อนยังไม่เดือด  เลยนั่งรอด้วยการชิมขนมปังไปก่อน ...รอ เนื้อสะเต๊ะ สลัดแขก ก๋วยเตี๋ยวแกง ซาโมซา ข้าวหมกไก่สามสี ...หิวแล้วจ้า





และด้วยความหิว อาหารอะไรตั้งร้านก็ไปรุมซื้อมากินจนเรียบ ...เลยไม่มีภาพมาประกอบคำสารภาพ  เฮ้ย บรรยายภาพ ขอบอกว่า ซาโมซาร้อนๆ อร่อยมากๆๆ  



จบด้วยภาพถุงของกิน กองไว้บนโต๊ะ เพื่อนำมาจัดให้เป็นระเบียบใหม่ ...คราวหน้าต้องไม่ลืมถุงผ้าไว้ใส่ของกลับบ้านแน่ๆ  




 

Create Date : 04 มีนาคม 2556
3 comments
Last Update : 4 มีนาคม 2556 13:02:41 น.
Counter : 3766 Pageviews.

 

ไม่เคยทราบเลยค่ะว่าเรามีมัสยิดหลวงด้วย

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันค่ะ

 

โดย: Bramasole 4 มีนาคม 2556 13:08:03 น.  

 

~ ขนมปังน่ากินค่ะ มากๆๆๆ ~

 

โดย: ~ ริมน้ำ_VoUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) 4 มีนาคม 2556 13:42:05 น.  

 

ชอบ ข้วหมกไก่ และอาหารมุสลิมทุกอย่างลยค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 6 มีนาคม 2556 15:26:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


เหนือฟ้า พาไป
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




เมื่อเธอยังอยู่... ทำไมไม่พูดคำว่ารัก
แต่เมื่อเธอจากไป... ทำไมอยากพูดคำว่ารัก
ทุกทุกวัน ทุกทุกชั่วโมง ทุกทุกนาที ทุกทุกวินาที
ณ เวลานี้ ฉันทำได้เพียงพาเธอไปกับฉันทุกทุกที่
เพราะฉันต้องการอยู่กับเธอ... ตลอดเวลา
...ณ ที่เหนือฟ้า ฉันจะพาเธอไปด้วยกัน...

Color Codes ป้ามด



Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เหนือฟ้า พาไป's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.