Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
ใจเจ๊ก บทที่ 4







นวนิยาย “ใจเจ๊ก”

โดย เดชา เวชชพิพัฒน์

บทที่ 4

เมื่อถึงวันที่รับปากขับรถให้ลำดวน ภูมิชัยจึงตื่นเช้ากว่าเคยอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาชั้นล่างเพื่อเตรียมของให้แม่ทำอาหารขายบัวทองตื่นลงมาเห็นลูกชายหั่นเนื้อหมูอยู่จึงกล่าว

“ออกไปหาน้าลำดวนได้แล้ว ที่เหลือแม่ทำต่อเอง ขับรถดีๆนะอย่าลืมละว่ามีแต่คนแก่ ไม่ใช่หนุ่มๆสาวๆอย่างเพื่อนเอ็ง”

บัวทองกล่าวอย่างรู้รายละเอียดเมื่อวานเธอเพิ่งคุยกับลำดวนเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงรู้ว่ามีแต่คนรุ่นน้องเธอไม่กี่ปีไปทำบุญที่วัดชื่อดัง ตัวเธอเองก็อยากไปด้วยแต่ติดว่าต้องเปิดร้าน ไม่อยากหยุดให้เสียลูกค้าเธอเคยถูกลูกค้าขาประจำต่อว่าเมื่อตั้งใจมากินแล้วพบว่าปิดให้บริการ

“ครับแม่”

ภูมิชัยกล่าวแล้ววางมีดลงข้างเขียงเขาเดินไปหยุดยืนที่อ่างจานชาม ล้างมือด้วยน้ำยาล้างจานดมจนแน่ใจว่าปราศจากกลิ่นคาวจึงเช็ดมือกับต้นขาที่อยู่ใต้กางเกงยีนเนื้อหนาหันไปกล่าวกับมารดา

“ไปแล้วครับแม่”

“อย่าลืมผลไม้ในตู้เย็นล่ะ” บัวทองหมายถึงลองกองคัดสองกิโลกรัมราคาเกือบสองร้อยบาทที่เธอซื้อเมื่อวานเพื่อให้ลูกชายนำไปถวายพระพร้อมจังหันอื่นๆที่ลำดวนและญาติของเธอเตรียมไป

“ครับ” ภูมิชัยกล่าวแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบถุงผลไม้ออกมา จากนั้นจึงเดินตรงไปที่หน้าบ้าน ล้วงกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกงไขประตูแล้วเดินออกไป ปล่อยให้ประตูเหล็กยืดค้างอยู่เช่นนั้นรู้ว่าอีกไม่นานมารดาก็เปิดร้าน เรื่องโจรผู้ร้ายไม่ต้องเป็นห่วงแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมี

หากเป็นเวลาปกติออกจากร้านแล้วเขาจะเลี้ยวขวาเพื่อผ่านหน้าตลาดแล้วไปไหนต่อไหน เช่น ไปหาเพื่อนไปร้านอินเทอร์เน็ต แต่เช้านี้เขาเลี้ยวซ้ายไปอีกทางที่ห่างตลาดภูมิชัยมองตรงไปข้างหน้าก่อนก้มหน้าก้าวเดิน เขาเห็นภาพที่นานๆจะเห็นสักครั้งถนนและทางเท้าตรงหน้าว่างเปล่าฟ้าครามเข้มเห็นดาวรางๆตัดกับผิวถนนที่สะท้อนแสงไฟฟ้าตลาดประจำอำเภอยังอยู่ในสภาพหลับใหล อีกไม่นานพระอาทิตย์ก็จะขึ้น ตลาดก็จะตื่นผู้ซื้อและผู้ขายเดินกันขวักไขว่ เสียงและกลิ่นจากสารพัดแหล่งกำเนิดอื้ออึงคละคลุ้ง

ตรงกันข้ามกับตอนนี้เวลาที่ภูมิชัยก้าวห่างตลาดไปอย่างเร่งรีบ สองข้างทางปราศจากผู้คนเงียบสงัดราวเป็นเมืองร้าง ยิ่งห่างตลาด จำนวนร้านค้าและตึกแถวก็ยิ่งน้อยลงแทนที่ด้วยบ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้นและบ้านใต้ถุนสูงเปิดโอกาสให้สายลมเย็นพัดผ่านสู่ถนน กลิ่นหอมของดอกไม้โชยมาภูมิชัยสูดหายใจเต็มปอดด้วยความสดชื่น

เดินจนเหงื่อซึมเขาก็ไปหยุดยืนที่หน้าบ้านน้าลำดวนประตูใหญ่เปิดอยู่จึงเดินเข้าไป ผ่านคูนต้นใหญ่ได้ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวบ้านแสงไฟฟ้าสว่างจ้าจับอยู่ที่โต๊ะหินตั้งอยู่ใต้ถุนบ้าน ภูมิชัยเห็นน้าลำดวน ลูกสาวชายและหญิงวัยอาวุโสที่เขาไม่คุ้นหน้านั่งล้อมวงกันอยู่ผู้หญิงรูปร่างหน้าตาราวกับเป็นฝาแฝดน้าลำดวนส่วนผู้ชายดูวัยเดียวกับพ่อเขาหรือไม่ก็แก่กว่า แต่ผิวขาวกว่า ผมสีดอกเลาหน้าตาแบบคนธรรมะธัมโม แถมนั่งตัวตรงไหล่ตั้ง ดูมีสง่าราศีราวกับเป็นอดีตนายทหาร

“มาแล้วๆ โชเฟอร์รูปหล่อมาแล้ว” ลำดวนร้องราวกับเห็นพระเอกหนังความเป็นคนขี้กังวลทำให้เธอกลัวว่าชายหนุ่มจะนอนเพลินจนตื่นสายทำให้ไปไม่ทันถวายจังหันให้แก่พระภิกษุสงฆ์ ถึงขนาดจะโทรไปปลุกหรือเร่ง เพียงแต่ลูกสาวห้ามไว้

“ไม่ต้องหรอกแม่ พี่ภูมิเขาไว้ใจได้ เขาทำตามที่รับปากทุกครั้งไม่ใช่หรือ”

กระแตลูกสาวคนเล็กวัยสิบสี่ปีของลำดวนห้ามไว้ด้วยรู้นิสัยพี่ที่เป็นลูกของเพื่อนแม่แม้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดชอบนินทาว่าเขาเป็นลูกแหง่อยู่มาจนใกล้สามสิบแล้วยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ได้แต่ช่วยแม่ขายข้าวแกงไปวันๆท่าทางปราศจากความเจริญก้าวหน้า แต่เธอเห็นว่าพี่คนนี้มีดีไม่น้อย เรียนจบ ปวช.แล้วยังขยันช่วยพ่อแม่ทำมาค้าขาย กินเหล้าสูบบุหรี่บ้างเฉพาะโอกาสพิเศษ เช่นงานเลี้ยงวันเกิด ฉลองปีใหม่ ไม่จัดเป็นคนขี้เหล้าขี้ยา ที่สำคัญคือมีน้ำใจขับรถไปรับของส่งของให้แม่เธอหลายครั้ง ค่าเหนื่อยบาทเดียวก็ไม่เคยขอ

ภูมิชัยเดินเข้าไปจนใกล้กลุ่มลำดวนเขารับไหว้ลูกสาวลำดวนก่อน จากนั้นจึงไหว้ลำดวนและผู้อาวุโสอีกสองคน

ลำดวนรับไหว้แล้วกล่าวแนะนำ“คนนี้น้านวล น้องสาวของป้าเอง ส่วนคนนี้อายุมากกว่าน้าแต่มีศักดิ์เป็นน้องเขยเรียกลุงพจน์ก็แล้วกัน”

ผู้อาวุโสทั้งสองรับไหว้พร้อมกันอีกครั้งฝ่ายหญิงกล่าวยิ้มๆ “ไหว้พระเถอะจ๊ะพ่อหนุ่ม ขอบใจมากนะที่มีน้ำใจขับรถพาคนแก่ไปทำบุญ”

“ครับผม” ภูมิชัยกล่าวพร้อมรอยยิ้มสดใส

“ตื่นแต่เช้าเลย กาแฟสักแก้วนะ เดี๋ยวลุงชงให้” พจน์กล่าวแล้วลุกยืนภูมิชัยรีบกล่าว

“ผมทานมาแล้วครับ ขอบคุณคุณลุงครับ”

“ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย เดี๋ยวไม่ทันถวายจังหัน” ป้าลำดวนกล่าวแล้วลุกยืนก้าวออกจากม้าหิน เดินตรงไปที่รถกระบะคันงาม ทุกคนจึงเดินตาม

“ฉันขอนั่งเบาะหลังกับน้องสาวนะ พี่พจน์นั่งหน้าคู่กับภูมิแล้วกันจะได้เห็นทิวทัศน์สองข้างทางอย่างเต็มตา” ลำดวนกล่าวขณะเปิดประตูรถแล้วก้าวเข้าไปอีกสองคนที่เหลือจึงเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งประจำที่

กระแตเดินเข้าใกล้ภูมิชัยแล้วยื่นกุญแจรถให้ภูมิชัยรับมาแล้วเดินไปเปิดประตูขึ้นนั่งที่ตำแหน่งคนขับ จัดที่นั่งให้เหมาะกับร่างกายแล้วติดเครื่องรถขณะค่อยๆถอยรถออกจากบ้าน ลำดวนเลื่อนกระจกลงแล้วกล่าวกับลูกสาว

“เฝ้าร้านดีๆนะลูก อย่าใจอ่อนล่ะ ใครต่อราคามากก็อย่าลดของร้านเราน่ะดีๆทั้งนั้น เดี๋ยวเขาก็กลับมาซื้อใหม่เองแหละ”

“จ้ะแม่ เอาบุญมาฝากหนูด้วยนะแม่นะ”

ลำดวนยิ้มให้ลูกสาวแทนคำตอบก่อนเลื่อนกระจกขึ้นปิด

ออกจากบ้านลำดวนแล้วสมาชิกผู้อาวุโสก็พร้อมใจกันหลับต่อบรรยากาศในรถจึงเงียบราวกับมีภูมิชัยเพียงคนเดียวตลอดทางเขาจึงมีสมาธิอย่างเต็มที่ประกอบกับทิวทัศน์ที่เป็นทุ่งนายามพระอาทิตย์กำลังขึ้นทำให้ใจของภูมิชัยสุขสงบอย่างเต็มที่ เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งหนุ่มวัยฉกรรจ์อย่างเขามองเห็นความงามของแสงแห่งชีวิตที่ค่อยๆเปล่งประกายจากขอบฟ้าเริ่มจากจุดเล็กเท่ารูเข็ม แล้วขยายขึ้นจนทำให้ฟ้าสว่างโลกรอบตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

หลังดวงตะวันปรากฏโฉมเต็มดวงได้ไม่นานภูมิชัยขับรถถึงวัดซึ่งตั้งอยู่บนเนินหินขนาดภูเขาย่อมๆแสงแดดยามเช้าทำให้เห็นว่าหน้าวัดมีธรรมจักรทำด้วยหินสลักขนาดสูงเท่าประตูบ้านส่วนฝั่งขวามือมีเจดีย์หินขนาดย่อมสร้างอยู่บนหินขนาดใหญ่ผู้ที่มาวัดนี้เป็นครั้งแรกมักจะรู้สึกอึดอัดเมื่อผ่านประตูวัดเข้าไปเพราะทั้งซ้ายขวาเป็นเนินหิน มีที่ราบเพียงเล็กน้อยพอให้จอดรถได้อุโบสถก็ตั้งอยู่บนยอดเนินหินฝั่งขวามือ ส่วนศาลาการเปรียญและกุฏิก็เช่นกันตั้งกระจายอยู่บนเนินหินด้านในที่เป็นป่า ลักษณะเช่นนี้ทำให้ญาติโยมเรียกว่าวัดป่า

จอดรถแล้วภูมิชัยช่วยลำดวนนวล และพจน์ ถือจังหันและของที่เป็นบริวารอื่นๆที่อยู่ในปิ่นโต ตะกร้าและถุงพลาสติกเพื่อให้ผู้อาวุโสทั้งสามเดินขึ้นเนินอย่างสะดวกสบายที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งนี้เป็นเพราะบริเวณนั้นปราศจากบันไดญาติโยมผู้มาทำบุญไหว้พระทุกคนต้องเดินผ่านเนินหินบางช่วงชันถึงขนาดต้องช่วยกันดันหลังหรือดึงมือดึงแขนกัน

ไม่นานนักทั้งคณะก็ถึงบริเวณถวายจังหันภูมิชัยปฏิบัติตัวราวเด็กวัดมืออาชีพเขาช่วยผู้อาวุโสทั้งสามในการจัดสำรับและการประเคนได้อย่างน่าชื่นชมอีกทั้งยังเป็นตัวแทนผู้อาวุโสทั้งสามคนในการกล่าวถวายจังหันจนกระทั่งกระบวนการเสร็จสิ้น ทั้งคณะจึงกราบลาพระสงฆ์แล้วเดินกลับลงมาที่บริเวณลานจอดรถ

“ภูมิรอตรงนี้ก่อนนะ น้าสองคนขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อย” ลำดวนกล่าวกับภูมิขณะเดินผ่านม้าหินข้างที่จอดรถ

“พี่ไปด้วย” พจน์กล่าวแล้วหันมาถามภูมิ “ไปด้วยไหมหลานชาย”

ภูมิชัยยิ้มอย่างเปิดเผย“ผมเรียบร้อยมาจากบ้านแล้วครับ”

“ภูมิเขาตื่นเช้ามาช่วยแม่ทำกับข้าวขายทุกเช้าค่ะพี่” ลำดวนกล่าวแล้วเดินนำออกไป นวลกับพจน์เดินตาม

ภูมิชัยทรุดตัวลงนั่งที่ม้าหินแม้เคยมาวัดนี้หลายครั้งแต่ยังอดชื่นชมทิวทัศน์รอบตัวไม่ได้เนินหินสีเข้มมีต้นไม้ใบเขียวขึ้นแซมอยู่ประปรายเป็นธรรมชาติที่แปลกตาไม่น้อยโดยเฉพาะในเวลานี้ที่แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องไปทั่วบริเวณก็ยิ่งทำให้ดูสดใสสบายใจ

ขณะหันมองไปทางประตูวัดเขาเห็นรถเก๋งญี่ปุ่นคันหนึ่งแล่นเข้ามาในวัดอย่างช้าๆตอนแรกทำท่าเหมือนจะจอดตรงที่ว่างข้างๆเขา แต่ดูเหมือนคนขับเปลี่ยนใจเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อย ก่อนขับเข้าไปจอดด้านในสุด

การกระทำเช่นนี้ทำให้ภูมิชัยบอกตัวเองว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเขาจึงหันไปมองที่รถอย่างตั้งใจเพราะอยากเห็นหน้าคนขับ

ทันทีที่รถจอดสนิทประตูรถฝั่งคนขับเปิดออกช้าๆ เท้าข้างขวาที่ใส่รองเท้าสานส้นเตี้ยยื่นออกมา จากนั้นจึงเห็นว่าคนขับนุ่งซิ่นที่เป็นผ้าย้อมครามจนกระทั่งเธอผู้นั้นก้าวออกมาเต็มตัวภูมิชัยจึงมองแล้วขมวดคิ้วบอกตัวเองว่าเขาคุ้นหน้าตาผู้หญิงคนนี้และนี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอไม่ยอมจอดรถใกล้เขา

ภูมิชัยลุกแล้วเดินไปทันทีขณะเดียวกันผู้หญิงคนนั้นก็ปิดประตูรถแล้วเดินมาที่ด้านท้าย ยกฝากระโปรงขึ้นก้มหน้าลงทำท่าทางแบบจัดเตรียมอะไรสักอย่างผมสั้นเสมอคอที่ตรงและมีน้ำหนักตกมาปรกหน้าตา เธอจึงดึงยางวงจากถุงผลไม้ออกมา

เมื่อภูมิชัยเข้าไปใกล้เขาจึงเห็นเธอกำลังรวบผมสั้นแค่คอด้วยยางวง เธอใส่ชุดที่ตัดจากผ้าย้อมครามทั้งชุดท่อนบนเป็นเสื้อแขนสั้นคอกลมที่มิดชิดปิดเกือบถึงลูกกระเดือกท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวคลุมเข่า สีครามเข้มของผ้าขับผิวขาวที่แขน คอและใบหน้าของเธอผู้นี้ให้ผ่องราวกับเป็นวัสดุสะท้อนแสงดูเหมือนเธอรู้ตัวว่ามีคนจ้องมองจึงหันมา เมื่อเห็นหน้าชัดเจนภูมิชัยก็กล่าวเสียงดังอย่างยินดี

“หมวยนั่นเอง นึกว่าใคร”

สตรีผู้นั้นไม่ตอบแถมหันหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว

“ไม่เจอกันตั้งนาน สวยขึ้นเยอะเลย จำเกือบไม่ได้” ภูมิชัยกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเขารู้สึกเช่นที่พูด เขาเกือบจำเธอไม่ได้จริงๆเพื่อนร่วมชั้นเรียนตั้งแต่ประถมศึกษาที่หนึ่งถึงหกตอนนั้นเป็นเด็กหญิงผอมเก้งก้าง หน้าตาจืดชืดและแสนเชย แต่ตอนนี้หน้าจืดชืดนั้นแต่งแต้มอย่างเป็นธรรมชาติ รับกับผมที่ซอยอย่างประณีตบรรจงรูปร่างก็แสดงความเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจนทุกสัดส่วน แถมสูงกว่าเขาเล็กน้อยเรียกว่าหุ่นนางงามก็คงได้

เธอผู้นั้นยังคงเก็บปากเก็บคำ

“หมวยเห็นเราก่อนใช่ไหม จึงขับรถหนีมาจอดตรงนี้”

เธอยังคงนิ่งเงียบแต่ภูมิชัยไม่ถือสาเพราะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เจอเพื่อนสมัยเป็นนักเรียนหนำซ้ำยังทำให้เขาอยากยั่วอยากแหย่เหมือนสมัยเป็นเด็กเพียงแต่ครั้งนี้มีวาทศิลป์เพิ่มขึ้นมา ต่างจากสมัยเด็กที่หยาบคายเพราะเขาเคยเรียกเธอผู้นี้ว่าอีหมวยหน้าวอก

ด้วยเหตุนี้เขาจึงกล่าวเสียงสนุก“ยังไม่ชอบหน้าเราเหมือนตอนเป็นเด็กละสิ โธ่เอ๊ย โตขนาดนี้แล้วเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะหมวยเอ๊ย”

ได้ผลเธอยืดตัวตรงแล้วหันขวับมาทางเขา “ก็เพราะฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วนะสิจึงไม่อยากลดตัวไปเสวนากับเธอ”

ภูมิชัยยิ้มดีใจที่ทำให้เธอพูดได้“ยิ่งพูดแบบนี้ก็ยิ่งเข้าทางเรา แสดงว่ายังไม่โตจริงๆ”

เธอส่ายหน้าช้าๆอย่างระอาใจก่อนหันไปก้มหน้าก้มตาจัดของต่อ

ภูมิชัยก้าวเข้าไปใกล้ยื่นหน้ามองลงไปในท้ายรถ เห็นอาหารและผลไม้จึงถาม “มาถวายจังหันเหรอ”

เธอเม้มปากความไม่ชอบหน้าภูมิชัยทำให้อดไม่ได้ที่จะว่าเขาเจ็บๆ “มาขายข้าวแกงมั้ง เห็นอยู่ยังถามได้ โง่หรือบ้าละเนี่ย”

“ฮ่าๆๆ” ภูมิใจหัวเราะชอบใจ “เก่งขึ้นเยอะเลยนะหมวยไม่เหมือนสมัยก่อน ปล่อยให้เราว่าอยู่ฝ่ายเดียว”

เธอจัดของเสร็จแล้วจึงยกออกมาจากช่องท้ายรถแม้สามารถถือของได้ทั้งหมดแต่ก็ไม่สามารถปิดฝากระโปรงรถได้ภูมิชัยจึงยื่นมือไปปิดให้ พร้อมๆกับที่ผู้อาวุโสทั้งสามเดินกลับมา

“เจอคนรู้จักหรือภูมิ” ลำดวนถาม

“เพื่อนสมัยเรียนประถมครับ” ภูมิชัยตอบแล้วแนะนำ “เราพาผู้ใหญ่มาถวายจังหัน คนนี้น้าลำดวน คนนี้น้านวล ส่วนคนนี้ลุงพจน์”

พรเพ็ญรีบวางของลงบนท้ายรถแล้วไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสาม

“ไหว้พระเถิดจ้ะ มาถวายจังหันหรือ” กล่าวแล้วลำดวนมองของที่วางอยู่บนท้ายรถด้วยความช่างสังเกต เธอเห็นภาพถ่ายชายคนหนึ่งในกรอบขนาดเล็กกว่าฝ่ามือวางรวมอยู่จึงถามทันที

“เอ๊ะ ทำไมมีรูปถ่ายด้วย หรือว่ามาทำบุญร้อยวัน”

เธออึกอักก่อนตอบ“ทำบุญให้ผู้เสียชีวิตค่ะ วันนี้เป็นวันเกิดของเขาค่ะ”

ภูมิชัยก้าวไปใกล้ยื่นหน้าดูภาพในกรอบรูปแล้วกล่าวเสียงดัง “นี่มันไอ้ตี๋นี่หว่าไอ้ตี๋ตายแล้วเหรอ”

ลำดวนขมวดคิ้วก่อนหันไปถามลูกเพื่อน“ภูมิ แกรู้จักเขาด้วยเหรอ”

“รู้สิครับ น้องชายของหมวยเขา เรียนที่เดียวกับผมนั่นแหละ” กล่าวแล้วภูมิชัยหันไปถามพรเพ็ญ “ไอ้ตี๋เป็นอะไรตาย”

เธอตอบเรียบๆ “เขาฆ่าตัวตาย”

ลำดวนยกมือขวาทาบบอกตบเบาๆแล้วถามทันที “โถพ่อคุณ ยังหนุ่มยังแน่นทำไมฆ่าตัวตาย หรือว่าอกหัก”

ผู้เป็นพี่สาวได้ยินเช่นนั้นจึงเม้มปากก่อนกล่าว“เขาฆ่าตัวตายเพราะเครียดที่เพื่อนร่วมม็อบถูกตำรวจยิงตายค่ะ”

“ม็อบไหน” พจน์ถามทันทีแบบคนชอบติดตามข่าวการเมือง

เธอหันไปทางผู้อาวุโสชายแล้วกล่าวตอบ“ม็อบหน้ารัฐสภาค่ะ”

“ตอนปี 51 น่ะหรือ” พจน์ถามต่ออย่างคนรู้จริง

“ใช่ค่ะ” เธอกล่าวแล้วไหว้ผู้อาวุโสทั้งสาม “หนูขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวไม่ทันถวายจังหัน”

จากนั้นเธอหันไปรวบของบนท้ายรถมาถือแล้วเดินออกไป




Create Date : 22 กรกฎาคม 2559
Last Update : 22 กรกฎาคม 2559 18:14:34 น. 1 comments
Counter : 583 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:29:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dejaboo44
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dejaboo44's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.