Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
ใจเจ๊ก บทที่ 1





นวนิยาย “ใจเจ๊ก”

โดย เดชา เวชชพิพัฒน์

บทที่ 1

“เจ๊กก็แบบนี้แหละ ขี้เหมือนหมูเหมือนหมา พอๆกับขากถุยแหละวะ”

ภูมิชัยพิมพ์ข้อความไปยิ้มไปแสงจากจอคอมพิวเตอร์ทำให้ยิ้มแบบสะใจของเขาดูราวกับฆาตกรในภาพยนตร์เพียงครู่เดียวเขาก็หยุดยิ้มแล้วยกสองมือขึ้นจากแป้นพิมพ์สอดนิ้วทั้งสิบเข้าง่ามของกันและกันจนสุดโคนแล้วกดเข้าหาตัวพักไว้จนเกือบอึดใจจึงดึงออกแล้วปล่อยสองแขนห้อยลงข้างตัวเขาเม้มปากเพียงครู่เดียวก็พยักหน้าช้าๆให้ตนเองเมื่อสามารถนึกนามแฝงของผู้แสดงความเห็นได้จึงลดมือลงวางบนแป้นแล้วพิมพ์อย่างรวดเร็ว

“เจ๊กจ๊กมก”

เขาพิมพ์ลงในช่องสี่เหลี่ยมแล้วกดปุ่มป้อนข้อมูลจากนั้นรีบกดปุ่มปิดหน้าข่าวนั้นด้วยรู้ดีว่าตนสามารถถูกผู้อื่นแสดงความเห็นด่าว่าอย่างเจ็บแสบและหยาบคายภายในไม่ถึงสิบวินาทีเพราะเว็บไซต์นี้มีคนอ่านเป็นแสนต่อวัน แต่ละข่าวล้วนมีผู้อ่านอยู่ตลอดเวลาข่าวที่เขาเพิ่งแสดงความเห็นก็มีผู้อ่านกว่าหมื่นรายทันทีที่มีผู้แสดงความคิดเห็นอย่างไม่สมควร ก็จะมีผู้โต้ตอบอย่างแสบสันเขาเคยถูกด่าถึงบุพการีภายในไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังแสดงความคิดเห็น

เรื่องอะไรข้าจะอ่านให้โง่ ... ภูมิชัยคิดแล้วกดปุ่มปิดหน้าข่าวที่พาดหัวว่า

“สุดเอือม นักท่องเที่ยวจีนอึลงคูเมืองเชียงใหม่หน้าตาเฉย”

ตามด้วยการปิดหน้าเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ชื่อดังก่อนลุกออกจากโต๊ะไปจ่ายเงินค่าอินเทอร์เน็ตผลักประตูก้าวออกจากร้านไปด้วยท่าทางสบายอารมณ์ดูราวกับหนุ่มฉกรรจ์ผู้ก้าวออกจากสถานบริการทางเพศ เสร็จสิ้นการปลดปล่อยความต้องการตามธรรมชาติไปอย่างสุขสม

ภูมิชัยทำเช่นนี้มาหลายปีแล้ว เป็นการทำตามผู้อื่นเริ่มจากอ่านความคิดเห็นด่าว่าคนไทยเชื้อสายจีนในข่าวที่เกี่ยวกับประเทศจีน เช่นเมื่อมีข่าวจีนเลียนแบบสินค้าฝรั่ง ก็จะมีคนแสดงความคิดเห็นว่า

“เจ๊กก็แบบนี้ ไม่เคยคิดอะไรเป็น ลอกเขาอย่างเดียว”

เมื่อมีข่าวนมผงเลี้ยงทารกของจีนปนเปื้อนสารเคมีก็มีคนแสดงความคิดเห็น

“พวกเจ๊กมันเห็นแก่ตัวและเห็นแก่เงิน ใครจะเป็นจะตายเจ๊กไม่สนแม้กระทั่งเจ๊กด้วยกัน”

กระทั่งข่าวแผ่นดินไหวในจีนมีผู้เสียชีวิตมากมายก็ยังมีผู้แสดงความคิดเห็นซ้ำเติม

“สมน้ำหน้าพวกเจ๊ก”

ข่าวการฉ้อราษฎร์บังหลวงของรัฐมนตรีแห่งประเทศจีนก็มีผู้แสดงความเห็นเกี่ยวกับคนไทยเชื้อสายจีน

“เจ๊กอยู่ที่ไหนก็โกง เมืองไทยก็มีเยอะรมต.ลูกเจ๊กกินหินกินทรายอร่อยกว่าที่ใดในโลก เพราะตามพวกมันไม่ทัน”

ความคิดเห็นต่างๆเหล่านี้ตรงใจและถูกใจภูมิชัยเป็นอย่างยิ่งการด่าว่าคนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนเป็นสิ่งที่เขาทำมาตั้งแต่เด็กทั้งต่อหน้าและลับหลัง โดยทำต่อหน้าเฉพาะคนที่เห็นว่าอ่อนแอกว่าหากเป็นเพศเดียวกันก็ต้องตัวเล็กกว่า หากเป็นเพศตรงกันข้ามก็ต้องดูท่าทางปากไม่จัดถึงกระนั้นก็ทำได้ไม่เต็มที่เหมือนในเว็บไซต์ เพราะในโลกในสังคมทั่วไปการเรียกใครว่า “ไอ้ลูกเจ๊ก” “ไอ้ตี๋” หรือ “อีหมวย” อาจหมายถึงการปะทะทางวาจาหรือทางกายแต่ในโลกอินเทอร์เน็ต มันเป็นการด่าว่าได้อย่างเต็มที่แสดงความเกลียดคนไทยเชื้อสายจีนออกมาได้อย่างเต็มร้อย โดยที่เจ้าตัวไม่เดือดร้อนเพราะใช้นามแฝงและคงไม่มีใครเอาเรื่องถึงขนาดหาหมายเลข “ไอพี” ของผู้แสดงความคิดเห็นเพื่อสืบหาเจ้าตัว

อ่านความคิดเห็นประเภทนี้ได้ไม่กี่ครั้งภูมิชัยก็ยอมเป็นสาวกผู้ต่อต้านคนไทยเชื้อสายจีนอย่างเต็มใจการไปร้านอินเทอร์เน็ตของเขาจึงไม่ใช่ไปเพื่อเล่นเกมคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เพื่อรับข่าวสาร แต่ไปเพื่อระบายความเกลียดชังที่มีต่อคนไทยเชื้อสายจีน

ความคิดเห็นแรกที่เขาแสดงความเกลียดชังคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีนเริ่มตอนประเทศจีนเป็นเจ้าภาพจัดแข่งกีฬาโอลิมปิกตอนนั้นมีข่าวรัฐบาลจีนรณรงค์การถ่มน้ำลายในที่สาธารณะในกรุงปักกิ่งเขาแสดงความคิดเห็นไว้ว่า

“เจ๊กกับขากถุยเป็นของคู่กัน ไม่มีวันห้ามได้ เช่นเดียวกับเจ๊กที่ขี้ไม่ราด”

ครั้งนั้นเขาใช้ชื่อผู้แสดงความคิดเห็นว่า “เจ๊กขากถุย”

หากมีการประกวดนามแฝงที่แสดงความคิดเห็นเกลียดชังคนไทยเชื้อสายจีนแน่นอนว่าภูมิชัยได้ตำแหน่งชนะเลิศเพราะเขาสามารถคิดนามแฝงได้ไม่ซ้ำกันเป็นร้อยชื่อแต่ละชื่อล้วนทำให้คนไทยเชื้อสายจีนรู้สึกเจ็บแสบ เช่น

“เจ๊กในข้อ งอในกระดูก”

“เจ๊กเนรคุณ”

“โกงไม่ว่าแต่อย่าเจ๊ก”

“เจ๊กจอมงก”

“เค็มกว่าเกลือคือเจ๊ก” และ

“แกงจืดจึงรู้คุณเจ๊ก”

หากมีใครถามเขาว่าทำไมจงเกลียดจงชังคนไทยเชื้อสายจีนถึงขนาดนี้ภูมิชัยคงตอบได้เพียงว่า “พวกเจ๊กมันชอบเอาเปรียบ”

ลึกไปกว่านั้น เขาไม่อาจตอบได้ว่าเป็นเพราะถูกปลูกฝังความเกลียดนี้มาตั้งแต่รู้ความ

ภูมิชัยอยู่ในวัยยี่สิบปลายๆมีรูปร่างสันทัดแบบชายไทยรุ่นเก่า เพราะกินแต่นมแม่ จึงไม่สูงแบบเยาวชนรุ่นใหม่ที่กินนมผงสูตรพิเศษจนแขนขายาวแต่ก็ไม่ถึงกับเตี้ยล่ำ จัดอยู่ตรงกลางระหว่าง “มะขามข้อเดียว”กับ “นายแบบเอเชีย” โชคดีที่การช่วยพ่อแม่ทำงานได้แก่การยกข้าวสารถุงใหญ่อยู่บ่อยๆ ยกหม้อข้าวหม้อแกงขนาดใหญ่หลายครั้งในตอนเช้ายกถังแก๊ส ถังน้ำและถังใส่โน่นนี่สารพัด ทำให้เขามีกล้ามอกและแขนกำยำ จึงแลดูสมส่วนนอกจากนี้เขายังมีขาหนาใหญ่ที่เขาค่อนข้างภูมิใจเพราะนอกจากทำให้หลายคนทักว่าเป็นนักบอลหรือนักมวยแล้วเวลาจะมีเรื่องชกต่อยก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามลังเลทำนองว่าแม้ขาสั้นเตะไม่ถึงก้านคออย่างแน่นอน แต่ก็อาจทำให้กระดูกซี่โครงหักได้

โดยรวมแล้วเขามีรูปร่างที่สาวๆให้คะแนนเฉลี่ยไม่เกินเจ็ดเต็มสิบตรงข้ามกับหน้าตาที่สะดุดตาสาวๆไม่น้อยจุดเด่นบนใบหน้าเขาคือกรามที่ขึ้นเป็นสันเห็นได้แต่ไกลโชคดีที่เครื่องหน้าช่วยไม่ให้โดดเด่นจนเกินไปเขามีคิ้วเข้มยาวเลยหางตาที่น่ามองดุจตากวาง ซึ่งเป็นจุดเด่นสุดบนใบหน้าจมูกไม่โด่งเป็นสันแต่ก็ไม่แบน ปากอิ่มสีแดงซึ่งรับกับผิวหน้าขาวใส

ทั้งหมดนี้ทำให้ภูมิชัยใช้ความพยายามจีบผู้หญิงไม่มากนักเว้นแต่เจอคู่แข่งที่ตัวสูงกว่านอกจากนี้ยังมีข้อด้อยอีกประการหนึ่งคือความไม่รู้จักโตตั้งแต่เรียนจบประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านก่อสร้างจากวิทยาลัยในจังหวัดเขาก็ไม่เคยเป็นลูกจ้างใคร เคยช่วยพ่อแม่ขายข้าวแกงมาตั้งแต่เด็กก็ทำอยู่เช่นนั้นสาวหลายคนที่ถูกเขาจีบจึงไม่อาจทำใจรับคนรักอย่างเป็นเรื่องเป็นราวด้วยเห็นว่าเขาเป็นลูกแหง่ติดพ่อแม่หากตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันคงต้องทำหน้าที่ทั้งแม่และเมียดีไม่ดีอาจต้องช่วยแม่สามีทำกับข้าวขายอีกด้วย

ภูมิชัยเองก็พอใจเพียงแค่ “จีบติด” พอใจที่ตนมีเสน่ห์พอได้ “กินฟรี” บอกตนเองว่าเรื่องมีครอบครัวรออีกสิบปีก็ยังไม่สาย

ออกจาก “ร้านเน็ต” แล้วภูมิชัยในชุดเสื้อยืดคอกลมกางเกงยีนเดินโยกไหล่ผ่านตึกแถวสองชั้นในตลาดประจำอำเภอเมืองที่เป็นร้านค้าประเภทต่างๆ

“จะรีบไปไหนไอ้ภูมิ เดินไม่เห็นหัวน้าเลยนะ”

ลำดวนกำลังนั่งรอลูกค้าอยู่หน้าร้านเห็นลูกชายเพื่อนที่สูงวัยกว่าเดินผ่านมาจึงกล่าวเสียงดัง

ภูมิชัยชะงักเท้าแล้วหันไปส่งยิ้มเห็นฟันขาวสวยแบบเดียวกับที่เห็นบนกล่องยาสีฟัน

“ไปร้านเน็ตมาครับ ขายดีไหมน้า”

เขากล่าวพลางมองสินค้าที่วางอยู่บนแผงหน้าร้านผ้าซิ่นและผ้าพันคอที่ทำจากผ้าย้อมครามสีฟ้ากับสีน้ำเงินวางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบดูงามตา

“ยังขายไม่ได้สักผืน นักท่องเที่ยวไปไหนหมดก็ไม่รู้” เจ้าของร้านตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“เขาก็แห่ไปซื้อที่ร้านโอท็อปกันหมดสิน้า เรื่องอะไรจะมาซื้อร้านโนเนม”

ภูมิชัยจงใจแหย่ แถมเป็นการแหย่ที่ตรงจุดอย่างยิ่งเจ้าของร้านผ้าครามเจ้าแรกประจำจังหวัดเม้มปากทันที

“เห่อกันนักไอ้โอท็อปโอแท็บ ซื้อกันเข้าไปได้ผืนละเป็นพันเป็นหมื่นของซื้อไปใช้นะ ไม่ใช่ซื้อไปบูชา แค่หลักร้อยก็ได้ของดีแบบนี้ไปใช้แล้ว”

ลำดวนกล่าวแล้วลูบสินค้าที่วางอยู่อย่างเบามือด้วยสีหน้าและท่าทางภูมิใจภูมิชัยมองตามด้วยแววตาเบื่อหน่าย เขารู้จักสินค้าพื้นเมืองชนิดนี้เป็นอย่างดีเห็นแม่ใส่มาตั้งแต่จำความได้ สถานที่ผลิตก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันทำนาเสร็จเมื่อไรแม่เขาก็ไปขลุกที่บ้านผ้าครามหลังนี้ตอนนั้นแม้ไม่ได้ทำขายเป็นสินค้าประจำตำบลอย่างในปัจจุบันแค่ทำใช้ใส่กันเองในหมู่บ้าน เขาก็รู้ขั้นตอนตั้งแต่การเลือกใบครามการหมักกับขี้เถ้าเพื่อทำน้ำคราม การย้อมเส้นด้าย จนถึงขั้นการถักทอเป็นผืนผ้าครั้นเป็นนักเรียนและนักศึกษา ครูหรืออาจารย์ก็พาไปดูงานย้อมครามเช่นเดียวกันแม้ต่างหมู่บ้านต่างอำเภอแต่ก็ไม่ต่างกรรมวิธี จนกระทั่งยกฐานะเป็นสินค้า “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” เขาก็ต้องไปเยี่ยมเยียนที่ผลิตผ้าย้อมครามอีกไปในฐานะคนนำเที่ยวจำเป็นบ้าง ไปเพื่อซื้อส่งให้เพื่อนๆที่อยู่จังหวัดอื่นบ้าง

ภูมิชัยเกาหัวดังแกรกๆก่อนกล่าว “น้าขายของน้าแบบนี้ใครเขาจะรู้ละว่าดีกว่าโอท็อปน้าต้องประชาสัมพันธ์ในหนังสือท่องเที่ยว”

ลำดวนตอบทันที “เคยแล้วตอนที่นิตยสารผู้หญิงมาสัมภาษณ์ไง ลงทีก็ขายดีที แต่พอไม่นานก็เหมือนเดิมโอท็อปแย่งลูกค้าไปกิน โอละพ่ออย่างน้าก็เลยเหงือกแห้ง”

ภูมิชัยหัวเราะชอบใจรู้ดีว่าเพื่อนรุ่นน้องของมารดาบ่นไปเช่นนั้นเอง เหมือนๆได้คืบจะเอาศอกรู้กันทั้งอำเภอว่าผ้าครามร้านนี้ขายดีเป็นที่หนึ่งเพียงแต่ไม่หวือหวาเหมือนร้านโอท็อปประจำจังหวัด คนเด่นคนดังมาซื้อทีก็เป็นข่าวทีประเด็นคือยอดซื้อเป็นหมื่นเป็นแสนน้าลำดวนผู้ขายได้แค่หลักร้อยหลักพันจึงหมั่นไส้ไหวหวั่น

“โอละพ่อหรือว่าโอมายก๊อดกันแน่ ขายหลักร้อยหลักพันแต่วันละหลายสิบครั้งเทียบกับขายหลักหมื่นแต่ปีละครั้ง น้าจะเอาแบบไหนล่ะ”

ลำดวนค้อนลูกชายของเพื่อนรุ่นพี่ก่อนเปลี่ยนเรื่องเพราะเจอคนรู้จริง“วันอาทิตย์นี้ว่างไหม”

“น้าอยากให้ว่างผมก็ว่าง” ภูมิชัยเล่นลิ้น

คู่สนทนาฟังอย่างงงๆ จับใจความได้ว่าว่างจึงกล่าวต่อ “ขับรถให้น้าหน่อย ญาติจะมาไหว้พระทำบุญ”

ลำดวนเอ่ยชื่อวัดที่อยู่อีกอำเภอ ไกลขนาดขับรถเกือบสองชั่วโมงเป็นวัดป่ากรรมฐานชื่อเสียงโด่งดังเพราะเจ้าอาวาสได้รับการยกย่องเป็นเสาหลักพระกรรมฐานในเขตนี้

“ได้เลยน้า”

ภูมิชัยรับปากทันทีขับรถเที่ยวย่อมดีกว่าอยู่ร้านช่วยพ่อแม่ขายข้าวราดแกงแถมรถของน้าลำดวนก็โก้ไม่เบา เป็นรถกระบะรุ่นยอดนิยมที่เพิ่งซื้อได้สองปีซื้อตอนลูกชายสอบได้มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ น้าลำดวนตั้งใจให้ลูกชายใช้ขับในเมืองหลวงระหว่างหอพักกับสถานศึกษาแต่นำไปใช้งานได้ภาคการศึกษาเดียวลูกชายน้าก็ขับกลับมาจอดที่บ้านให้เหตุผลว่าเมืองหลวงรถเยอะเหมือนหนอนในเวจ น้ำมันก็แพงหูฉี่ใช้บริการรถประจำทางหรือรถไฟฟ้าสะดวกกายสบายใจกว่าหลายเท่า

ภูมิชัยมีโอกาสขับรถคันนี้บ้างนานๆครั้งที่ลูกจ้างน้าลำดวนลาป่วยหรือลาออกเพราะลูกคนเล็กที่เป็นผู้หญิงยังไม่ถึงวัยทำใบขับขี่แม่ม่ายผัวตายอย่างแกจึงอาศัยไหว้วานเขาให้ขับไปส่งของบ้าง รับของบ้างมีครั้งนี้แหละที่เปลี่ยนเป็นขับรถไปไหว้พระทำบุญ

“ให้มันได้อย่างนี้สิ ใช้ง่ายแบบนี้น้ามีค่าตอบแทนให้”

ภูมิชัยยิ้มแห้งๆอย่างรู้ทันค่าตอบแทนของน้าลำดวนแต่ละครั้งทำให้เขารู้ว่าโลกนี้มีหลายอย่างที่เค็มกว่าเกลือ

“รอเดี๋ยวนะ” น้าลำดวนกล่าวแล้วหันหลังเดินเข้าไปในบ้านเธอหายเข้าไปด้านในสุดของร้านหลายนาทีก็ถือถาดขนาดย่อมออกมา ด้านบนมีจานใส่ “ปังญวนปิ้ง” และกาแฟร้อนหนึ่งถ้วย

ภูมิชัยรอจนเจ้าของร้านเดินมาใกล้จึงยื่นมือไปหยิบของโปรดขึ้นมากัดคำเดียวครึ่งชิ้น

“เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก ค่อยๆกินก็ได้” ลำดวนกล่าวไปอย่างนั้นเองดีใจด้วยซ้ำที่เห็นลูกชายเพื่อนกินปังญวนปิ้งฝีมือเธออย่างเอร็ดอร่อย

“กินของใครก็ไม่อร่อยเท่าของน้านี่ครับ” ภูมิชัยกล่าวแล้วส่งอีกครึ่งที่เหลือเข้าปากเคี้ยวกินด้วยท่าทางที่ใครเห็นก็กลืนน้ำลาย

ลำดวนยิ้มบางๆอย่างภูมิใจปังปิ้งญวนของเธอใช้สูตรเดียวกับขนมปังฝรั่งเศสหรือ “บาแก็ต” แต่ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือผ่ากลางแล้วปิ้งเนื้อในจนกรอบ จากนั้นใส่ไส้ที่เป็นสูตรเฉพาะเธอเริ่มทำบาแก็ตให้ลูกชายลูกสาวกินจนโตจึงหยุดไป เมื่อเช้าตั้งใจทำกินเองไม่นึกว่าจะได้ตอบแทนน้ำใจลูกชายเพื่อนที่จะเป็นคนขับรถให้ในวันหยุดนี้

ภูมิชัยยืนกินปังปิ้งญวนสลับซดกาแฟร้อนจนหมดทั้งสองอย่างจึงลูบท้องแล้วกล่าวยิ้มๆ“กินอิ่มแล้ว เบี้ยวงานดีกว่า”

ลำดวนทำตาโต “กล้าดีก็ลองสิน้าจะบอกให้แม่ตีแกจนก้นลาย”




Create Date : 03 กรกฎาคม 2559
Last Update : 9 กรกฎาคม 2559 8:41:08 น. 3 comments
Counter : 714 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

เข้ามาอ่านโดยบังเอิญ
แต่พออ่านแล้วต้องขอชมเลยค่ะ เขียนได้ดัมาก
เป็นธรรมชาติมาก รวมทั้งมีเนื้อเรื่องที่สนุก น่าสนใจ
และแนวเรื่องไมซ้ำกับนิยายของใครเลยค่ะ เดี๋ยวจะตาม
ไปอ่านให้ครบที่อัพไว้นะคะ


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 26 สิงหาคม 2559 เวลา:17:43:59 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: เดชา (dejaboo44 ) วันที่: 3 กันยายน 2559 เวลา:8:47:42 น.  

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:36:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

dejaboo44
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dejaboo44's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.