บันทึกเที่ยวอียิปต์,ข้อมูลการทำมัมมี่
 Quizas Quizas Quizas เสียงร้องของ Laura Fygi อภินันทนาการโดย คุณ homand
สืบเนื่องจากการเดินทางไปเที่ยวอียิปต์ เมื่อ วันที่ 2-11 ธันวาคม 2547 ว่าจะจดบันทึกไว้จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้ทำเสียที ขอนำเอาสคริปต์การเดินทางคร่าวๆมาลงไว้เพื่อกันการสุญหายของเอกสารที่เก็บไว้ และคิดว่าอาจจะมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ จึงนำมาลงไว้ ณ ที่นี้
วันที่ 2-11 ธันวาคม 2547 (version หมอ วัณณศรี)
วันนัดพบ 1 ธันวาคม 2547 กรุงเทพฯ
22.30
พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง เคาน์เตอร์7 อาคาร 1 ของสายการบินอียิปต์(MS)
วันแรก 2 ธันวาคม 2547
กรุงเทพฯ-ไคโร
0.45 น.
เหินฟ้าสู่เมืองไคโร โดยเที่ยวบินที่ MS 861
6.30 น.
ถึงเมืองไคโร ประเทศอียิปต์ หลังจากผ่าน Custom แล้วพบกับผู้แทนของ Egythai ซึ่งจะนำไปยังโรงแรม(สี่ดาว)
12.00 น.
อาหารกลางวัน-Complimentary จาก Egythai tours & travels หลังอาหารเดินทางสู่เมืองกิซ่า(Giza) ชมหมู่มหา ปิรามิดทั้ง 3 องค์ ได้แก่ คีออฟ(Cheops)
เคเฟรน(Chephren) และ มิคาเรนอส(Mycerinus, Menkaure) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
แล้วชม "Sphinx" ซึ่งเป็นเสมือนยามเฝ้าดินแดนของ Pharaoh โดยส่วนตัวของ Sphinx เป็น สิงโต ส่วนหัวเป็นหน้ากากของ Chephre
บ่าย
ไปดูโรงงานกระดาษ "Papirus เป็นกระดาษที่มีในโลกเป็นครั้งแรกทำจากหญ้าที่เรียกว่า"Kok" หลังจากนั้นไปโรงงานผลิตน้ำหอม ซึ่งทำจากหัวน้ำหอมของพระนางคลีโอพัตรา
เย็น
รับประทานอาหารเย็นบน Cruise และชม Oriental show&Bellydance show พักค้างคืนที่ โรงแรม Husa Pyramids
|
วันที่ 2 3 ธันวาคม 2547 Cairo
เช้า
รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม หลังอาหารเดินทางไปชม พิพิธภัณฑ์กรุงไคโร (EgyptianMuseum) ซึ่งเก็บรวบรวมสิ่งของกว่า 250,000 ชิ้น ซึ่งเป็นศิลปะเมื่อ 5,000 ปีก่อน เช่น แผ่นศิลาจารึก(จำลอง) โรเซตตา ซึ่ง เป็นกุญแจไขปริศนาประวัติศาสตร์อียิปต์โบราณ ชมรูปปั้นดินแสดงถึงชีวิตประจำวันของชาวอียิปต์ ชมรูปอาลักษณ์ ซึ่งเมื่อเอาไปฉายส่องลูกนัยน์ตาเห็นเป็นเส้นเลือดฝอยมากมาย ชม
พระเศียรของพระนางเนเฟอติตี หนึ่งในสองชิ้น
ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก (อีกชิ้นหนึ่งอยู่ที่เบอร์ลิน) ชมรูปของฟาโรห์อัคนาเตน ฟาโรห์นักปฎิวัติ ชมพระพุทธรูป ของพระนาง"ฮัตเซบสุต"(ฟาโรห์หญิงคนเดียวของอียิปต์) และสุดยอดของ สุดยอด คือ ทรัพย์สมบัติของพระเจ้า ตุตันคาเมน ซึ่งมีทั้งเครื่องเล่นของใช้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ (ถุงมือ, เสื้อตัวใน,กล่องเครื่องเขียน,หมวก,กระดาน)
ชมรูปจำหลักขนาดเล็กของพระองค์ ชมเก้าอี้ทำจากไม้ งา ทอง และหินที่มีค่าหลายชนิด ชมสร้อยพระศอทับทรวง ชมหีบบรรจุโลงพระศพหลายชนิด ชมโลงพระศพที่ทำจากทองคำ และ หน้ากากพระศพทองคำที่มีชื่อเสียงลั่นสะท้านโลก นอกจากนั้นชมห้อง มัมมี่ของฟาโรห์และขุนนางที่สมบูรณ์แบบที่สุด
บ่าย
หลังอาหารกลางวัน นำชมป้อมปราการ (Citadel) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขากลางกรุงไคโร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ของกรุงไคโรไกลไปถึงปิระมิด ที่เมืองกิซ่า แล้วชมสุเหร่าโมฮัมเม็ดอาลี(Mohammedali) เป็นสุเหร่าใหญ่และสูงที่สุดในไคโร ออกแบบโดยสถาปนิก
ชาวกรีก โดยต้องการให้มีรูปแบบเหมือน Blue mosque ที่ฮิสตันบูล แต่ทำได้ไม่เหมือน
สุเหร่าสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตรงกลางมีขนาดใหญ่ สูง 52 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เมตร มีโดมขนาดเล็กรองรับอีก 4 มุม ตัวอาคารสร้างด้วยหิน Alabaster ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลาม ลานหน้าสุเหร่า มีหอนาฬิกาฝรั่งเศส ที่พระเจ้าหลุยพิลิปป์แห่งฝรั่งเศส มอบให้รัฐบาลอียิปต์เป็นของขวัญ แลกกับเสาโอเบลิสค์ของอียิปต์ ที่ตั้งอยู่ที่ Place De La Concorde ที่กรุงปารีส
หลังจากนั้นนำคณะไปชมตลาด Khan el Kalili ซึ่งเป็นตลาดที่มีสินค้านานาชนิด เช่น เครื่องแก้ว คริสตัล น้ำหอมพื้นเมืองขวดน้ำหอม กระดาษปาปิรุส ชุดทองเหลืองฯลฯ
เย็น
รับประทานอาหาร และชม Pyramids Sound & light show
|
วันที่ 3 4 ธันวาคม 2547 Luxor, Thebes
เช้า
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
5.00 น.
นำคณะออกเดินทางไปสนามบินเมืองไคโร domestic airport
5.30 น.
เดินทางไปเมืองลุกซอว์ โดยเที่ยวบินที่ MS 161
8.35 น.
ถึง ลุกซอว์ แอร์พอร์ท นำคณะ check-in ในเรือ 5 Stars Delux Nile cruis "L'aubedumile" ล่องเรือออกเดินทาง ไปชมทางฝั่งตะวันออกของ แม่น้ำไนล์ ชม "มหาวิหารคาร์นัค" (Temple of Karnak) เป็นมหาวิหารใหญ่ที่สุดในโลก
ประกอบด้วย กลุ่มวิหารอาคารต่างๆนับสิบแห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 12 ตร.กม. มีกำแพงที่หนาทึบสูงใหญ่มาก ประมาณ 1,000 ฟุต (ตึก 40 ชั้น) วิหารนี้ ได้รับการปฏิสังขรณ์และต่อเติมจาก ฟาโรห์หลายราชวงค์ ตั้งแต่ยุคอาณาจักรกลาง จนถึงสมัยโรมันเข้าครอบครอง นับเป็นเวลาติดต่อกันกว่า 2,000 ปี โดยเฉพาะในสมัยของ Seth ที่ 1 และ Ramese ที่ 2 ได้ใช้แรงงานกว่า 8 ล้านคนเพื่อสร้างต่อเติมวิหารแห่งนี้ ทางเข้าในวิหารทำเป็นถนนสพิงค์ (Avenue of Sphinxes ) รูปแพะหมอบเรียงรายตลอดสองข้างทาง วิหารนี้สร้างขึ้น เพื่อบูชาต่อเทพสูงสุดประจำเมือง ธีปส์ คือ "เทพเจ้าอามอน" (Amon) สิ่งที่น่าชมและมีชื่อเสียงมากที่สุด ของวิหารคาร์นัค ได้แก่ห้องโถงใหญ่ที่เรียกว่า "The great Hypostyle Hall" มีพื้นที่ถึง 6,000 ตรม. ภายในห้องมีเสาหินใหญ่ยักษ์ขนาด 12 คนโอบ สูง 21 เมตร จำนวน 134 ต้น หัวเสาทำเป็นรูปดอกบัว มองดูเหมือนป่าเสาหินที่ดูลึกลับ บริเวณนี้เคยใช้เป็นฉากภาพยนตร์ดังๆมาแล้วหลายเรื่อง นอกจากนั้นท่านจะได้ชม ภาพจำหลักการอัญเชิญเรือสุริยเทพ ชมเสา "โอเบลิสค์ ( Obelisk ) ของพระนางฮัตเซบสุต ที่แกะสลักลวดลายงดงาม เพื่อบูชาสุริยเทพ เสาโอเบลิสค์ นี้ทำมาจากหินแกรนิตสีชมพู
ทั้งแท่ง ท่านจะได้ชมสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ( Sacred lake) อยู่ด้านหลังของวิหารขนาดประมาณ 100 x 50 เมตร เป็นน้ำธรรมชาติที่ขึ้นมาจากใต้ดิน และมีอยู่ตลอดเวลา จนทุกวันนี้ แล้วพากันเดินอธิฐานรอบตัวสคารับ (Scarab) แมลงแห่งโชคลาภ ที่ชาวอียิปต์โบราณเคารพ จากนั้นนำชมวิหารคู่แฝด คือ วิหารลุคซอว์( Luxor Temple) ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ ของวิหารคาร์นัคไป 3 กม. วิหารทั้งสองแห่งนี้ในอดีตมีทางเชื่อมต่อกันโดยถนนสพิงค์ วิหารลุกซอว์ สร้างโดยกษัตริย์ รามเสสที่ 2 และ กษัตริย์ อเมนโฮเทปที่ 3(Amenhotep III) เป็นวิหารที่ประทับของเทพี "มัท" (Mut) และ เทพเจ้าคอนซู( Klonsu)ซึ่งเป็นมเหสี และราชโอรสของเทพเจ้าอามอน ที่วิหารนี้ท่านจะได้ชมเสาโอเบลิสค์(Obelisk) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอียิปต์ เพราะคู่แฝดของเสานี้ถูกชะลอไปตั้งที่ ปลาสเดอลาคองคอร์ด กรุงปารีส ภายในวิหารมีภาพจำหลัก ที่แสดแสนยานุภาพ
ของฟาร์โรห์รามเสส ที่ 2 และภาพอื่นๆ อีกมากมายล้วนแล้วแต่น่าชมทั้งสิ้น นอกจากนี้ท่านจะได้เห็นร่องรอยของโบสถ์สมัยโรมัน และสุเหร่าที่ยังใช้การอยู่ในปัจจุบัน ปรากฏอยู่ในวิหารโบราณนี้
ค่ำ
enjoy Galabia Party และ Oriental dinner พักค้างคืนบนเรือ
|
วันที่ 4 5 ธันวาคม 2547 ลุกซอว์
เช้า
อาหารเช้าบนเรือ
นำคณะชมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์โดยชมหุบผากษัตริย์ (Valley of the Kings) ซึ่งเป็นสุสานของฟาโรห์สมัยต่างๆมากมายตั้งแต่ Tuhtmose หลบซ่อนอยู่ในเทือกเขา Theban มีทั้งบรรพกษัตริย์ มหาราชินี พระราชวงศ์ ขุนนางทั้งหลาย ที่นี้เป็นโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของอียิปต์ ที่มีการขุดค้นทางโบราณคดีมานานนับศตวรรษ จนถึงปัจจุบัน สุสานแห่งนี้มีอายุมากกว่า 3,000 ปี แต่การตกแต่งภายในสุสานและวิหารยังเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมที่งดงามยิ่ง สีของภาพยังดูสดใส มีชีวิตชีวา เช่น สีฟ้าขี้นกการะเวก และ ที่ดูราวกับเพิ่งวาดเสร็จใหม่ๆ ท่านจะได้ชมสุสานที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก คือ สุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน ซึ่งสมบัติล้ำค่าทั้งหมดที่ขุดได้มากมาย จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ที่กรุงไคโร จากนั้นนำชม"แดร์ เอล บาฮารี" (Dier El Bahari) อนุสรณ์สถานของพระนางฮัตเซบสุต (Hatshepsut) ฟาโรห์หญิงที่ยิ่งใหญ่องค์เดียวของอียิปต์ เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า "ราชินีมีหนวด" อนุสรณ์แห่งนี้สร้างขนานไปกับแนวเทือกเขา เป็นสถาปัตยกรรมแบบอียิปต์โบราณ ที่ยิ่งใหญ่สง่างามสมศักดิ์ศรีของฟาโรห์หญิง ระหว่างทางท่านจะได้ชม "Collossi of Menon"
เป็นรูปสลักหินลอยตัวขนาดใหญ่ของพระเจ้า "อเมนโนฟิสที่ 3" (Amenophis 3) มีตำนานเล่าเรื่องประหลาดของรูปสลักหินนี้ไปไกลถึงกรีซ
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ
บ่าย
พักผ่อนบนเรือ โดยเรือจะล่องสู่เมืองเอ็ดฟู (Edfu) เมืองโบราณที่อยู่ฝั่งตะวันตกบนแม่น้ำไนล์ ไปทางทิศใต้ 115 กม. ชมสองฟากฝั่งของแม่น้ำ ถิ่นกำเหนิดอารยะธรรมอียิปต์โบราณที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด เป็นเวลาหลายพันปี ในบางช่วงจะเห็นหมู่บ้านชาวนูเบียนสลับกับเทวสถาน เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ของชาวอียิปต์ และเกษตรกรรมริมฝั่งแม่น้ำที่ยังคงสภาพเหมือนสมัยโบราณ
เย็น
รับประทานอาหารบนเรือ พักผ่อนตามอัธยาศัย
|
วันที่5 6 ธันวาคม 2547 Edfu-Kom-Ombo
เช้า
เรือถึงเมืองเอ็ดฟู ผ่าน "Esna rock"นำคณะขึ้นฝั่งชม "เทวสถานเอ็ดฟู" (Temple of Edfu) ซึ่งสร้างเพื่ออุทิศถวายการบูชาแด่ "เทพฮอรัส" (Horus) ซึ่งเป็นเทพประจำตัวของกษัตริย์รามเสส ที่ 2 เทพผู้มีตัวเป็นคน มีเศียรเป็นเหยี่ยว โบราณสถานแห่งนี้สร้างโดยราชวงศ์ Ptolemy เป็นวิหารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่คงอยู่ในสภาพดีที่สุดในอียิปต์ และเป็นวิหารที่สร้างอย่างถูกต้อง ตามแบบแผนของวิหารอียิปต์โบราณอย่างแท้จริง เป็นวิหารที่ใหญ่เป็นที่ 2 รองจาก วิหาร คาร์นัค
ท่านจะได้ชมภาพสลักเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งจารึกประวัติศาสตร์ ของการสร้างวิหารอย่างละเอียด และภาพพิธีกรรมทางศาสนา และฉากการต่อสู้ของ"เทพ ฮอรัส" กับ "เซท" (Seth) อยู่โดยรอบกำแพงวิหารทั้ง 4 ด้าน จัดเป็นสถาปัตยกรรมชั้นเยี่ยมอีกแห่งหนึ่งในลุ่มแม่น้ำไนล์ ( รับประทานอาหารเช้าขณะล่องเรือ)
ล่องจาก Edfu ไปเมืองคอมออมโบ (Kom Ombo) ซึ่งอยู่ห่างจาก Edfu ไปทางใต้ 65 กม. นำชมวิหาร"คอมออมโบ" วิหารของ"เทพซอเบค" เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีเศียรเป็นจรเข้ และเทพ ฮารอริส (Haroris) มีเศียรเป็นเหยี่ยว อยู่ทางซ้าย เป็นSolar god of war วิหารนี้มีศิลปะเป็นแบบ กรีก-โรมัน ที่งดงามที่สุดแห่งอียิปต์ ภายในมีภาพแกะสลักของพระนางคลีโอพัตรา ภาพเครื่องมือ เครื่องใช้ในการผ่าตัดของแพทย์อียิปต์โบราณ และภาพการคลอดลูก
ของหญิงอียิปต์ ที่สำคัญวิหารนี้เป็นวิหารแห่งเดียวที่ตั้งอยู่บนเนินและด้านหน้าหันสู่แม่น้ำไนล์ ถ้าท่านนั่งในเรือแล้วมองขึ้นมา จะเห็นภาพวิหาร เป็นภาพที่สวยที่สุด แห่งหนึ่งของการเดินทางล่องแม่น้ำไนล์
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ แล้วพักผ่อนตา อัธยาศัย
เย็น
Continental buffet และค้างคืนบนเรือ
|
วันที่ 6 7 ธันวาคม 2547 Aswan
เช้า
หลังอาหารเช้านำชม "World famous High Dam" เขื่อนอัสวานสร้างในปี 1960 กั้นน้ำและผลิตไฟฟ้าใช้ทั่วทั้งอียิปต์ เมืองอัสวานอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ ห่างจากไคโร 886 กม. ได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมแม่น้ำที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดของอียิปต์และเป็นเมืองตากอากาศของชาวยุโรปในช่วงฤดูหนาว มาตั้งแต่สมัย ฟลอเรนต์ไนติเกล จนถึง อกาธาคริสตี้ ก็มาแต่งนิยายนักสืบปัวโรห์ ที่โด่งดังที่เมืองนี้เช่นกัน และอัสวานยังเป็นแหล่งหินแกรนิตที่สำคัญของอียิปต์ และมีโบราณสถานที่สำคัญหลายแห่ง
หลังจากนั้นนำชมวิหารของ "เทพไอซิส" (Isis) หรือ Temple of Philae สร้างเพื่อบูชาเทพเจ้าไอซิส ซึ่งเป็นพระมารดาของเทพ ฮอรัส เป็นวิหารแห่งสุดท้าย ที่มีการจารึกเรื่องราวของอียิปต์ในภาษา ฮิโรกลีฟิค เป็นเทวาลัยที่มีพิธิกรรมบูชาเทพแห่งสุดท้าย ก่อนที่อียิปต์จะถูกปกครองโดยชาวโรมัน เดิมวิหารนี้ ตั้งอยู่ที่เกาะ Philae แต่ถูกน้ำจากเขื่อนอัสวานท่วม องค์การยูเนสโก จึงได้ชะลอหนีน้ำไปไว้ที่สูงกว่าที่เกาะ "Agilika" วิหารฟิเลย์นี้เป็นหนึ่งในสามวิหารแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ที่สร้างโดยราชวงศ์ ปโตเลมี ที่ยังคงอยู่ในสภาพที่ดี ท่านจะได้ชมเสาวิหารที่มีการแกะสลักหลากหลายแบบ บางต้นหัวเสาเป็นรูปใบปาล์ม บ้างเป็นรูปดอกบัวคลี บ้างเป็นต้นปาปิรุส
และยังมีใบไม้ต่างๆอีกหลายชนิด เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบและตกแต่ง ที่แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานวัฒนธรรมของ 3 ชาติ คือ อียิปต์-กรีก-โรมัน ที่สมบูรณ์แบบและงดงามที่สุดแห่งหนึ่ง
วิหารฟิเลย์นี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นเพชรน้ำเอกแห่งลุมแม่น้ำไนล์ ถือว่าเป็น "ไข่มุกแห่งอียิปต์"
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ
บ่าย
นำท่านล่องเรือในแบบอียิปต์ ที่เรียกว่า"เฟลลุกะ" (Felucca) เป็นเรือใบที่แล่นโดยใช้แรงลมเท่านั้น ท่านจะได้ชมทิวทัศน์ เมืองอัสวานและเกาะแก่งต่างๆ เรือจะแล่นไปรอบ" เกาะช้าง" (Elephantine) นำท่านขึ้นชม สวนพฤษชาติ( Botanical garden) ที่ "เกาะคิชเน่อร์" (Kitchener's Island) เป็นสวนที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด จากอัฟริกา และ อินเดีย จากนั้นแวะชม Mausoleum of Agakhan ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มองลงมาเห็นทิวทัศน์อันงดงามบนแม่น้ำ
ไนล์อยู่เบื้องล่าง
เย็น
รับประทานอาหารค่ำและพักผ่อนค้างบนเรือ
|
วันที่ 7 8 ธันวาคม 2547 Aswan-Abu-Simbel
เช้า
breakfast Box
7.30 น. Check out ออกจากเรือสำราญ เดินทางสู่สนามบินเมืองอัสวานเพื่อบินไป Abu Simbel
9.05 น. โดยเที่ยวบิน MS 247 ออกจากสนามบิน ถึง Abu Simbel เวลา 9.50 น.
9.50 น. ชมวิหารอาบูซิมเบล ซึ่งถูกจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่ก็เฉียดฉิวเต็มที่ วิหารใหญ่บูชาสุริยเทพ วิหารน้อยบูชา"เทพฮาธอร์" (หัววัว) ตั้งอยู่
บนหน้าผาขนาดใหญ่ ประดับด้วยรูปสลักของพระเจ้ารามเสสที่ 2 สี่องค์ แต่ละองค์สูงเท่ากับตึกแปดชั้น วิหารชั้นในตั้งพระรูปไว้ 4 องค์เช่นกัน เฉพาะใน วันที่ 20 ของเดือนกุมภาพันธ์ และ ตุลาคมแต่ละปีแสงอาทิตย์จะพุ่งตรงเข้าไปสัมผัสกับพระพุทธรูปองค์ขวาสุด แล้วเลื่อนไปทางซ้ายเรื่อยๆ แต่ไม่เคย
สัมผัสพระพุทธรูปองค์ซ้ายสุดเลย(ทำไม?)
วิหารองค์นี้ถูกชะลอขึ้นมาสูงจากตำแหน่งเดิมเพื่อหนีน้ำท่วมจากเขื่อนอัสวาน ในปี 1964 และสร้างเสร็จในปี 1968
จากนั้นนำชม King's wifes Temple or The Temple of Nefertari แล้วรีบเดินทางกลับสนามบิน
13.05 น. โดยเที่ยวบิน MS 250 ออกเดินทางจากอาบูซิมเบล ไปไคโร13050 น. ถึง สนามบินไคโร นำคณะเดินทางต่อไปเมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) พักค้างคืน
|
วันที่ 8 9 ธันวาคม 2547 Alexandria
เช้า
อาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำคณะเที่ยวชมเมือง ชมหลุมฝังศพสมัยโรมัน สันนิฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ศษวรรษที่ 1 ขุดลึกลงไปถึง100เมตร ในชั้นหิน และยังมีการแบ่งระดับ ออกมาเป็น 3 ชั้น มีการตกแต่งประดับประดาด้วยศิลปกรรมออกมาจากหินแกรนิต สูงกว่า 25 ม. แล้วนำชมพิพิธภัณฑ์เกรกโทรโรมัน ที่รวบรวมวัตถุโบราณตั้งแต่ก่อนคริสกาลจนถึงศตวรรษที่ 7แล้ว ชม "Qayetbay Castle" ซึ่งเป็นประสาทที่สวยงาม และเป็นมรดกโลก และเข้าชม Abu Al Abbas Mosque
เที่ยง
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารกลางวันนำคณะชม Montazah ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของบรรดาเชื้อพระวงศ์ รอบๆพระราชวังเป็นสวน ที่ใช้ปลูกต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ปัจจุบันนี้ได้ทำการปรับปรุงและเปลี่ยนเป็นโรงแรมที่หรูหราและสวยงาม
สมควรแก่เวลา นำคณะเดินทางกลับสู่เมืองไคโร
ค่ำ
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร พักค้างคืนที่ ไคโร Hotel Husa Pyramids
|
วันที่ 9 10 ธันวาคม 2547 Memphis-Cairo
เช้า
อาหารเช้าที่โรงแรม
นำคณะไปเมือง Memphis เมืองหลวงเก่าของอียิปต์ และเป็นศูนย์กลางการบริหารราชการตลอด 3,000ปี ชมรูปจำหลักพระเจ้ารามเลสที่ 2 ฟาโรห์ที่ ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งในอดีต แม้จะไม่ครบตลอดทั้ง ส่วนพระบาท แต่ก็มีขนาดใหญ่เท่ารถเมล์ทั้งคัน ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งจัดแสดงรูปแกะสลักของฟาโรห์และรุปแกะสลักอื่นๆที่น่าสนใจมากมาย จากนั้นนำคณะเดินทางสู่เมือง "ซัคคารา" (Sakkara) เพื่อชม ปิระมิดรุ่นแรก ซึ่งเป็นรูปขั้นบันได มีลานหน้าองค์ปิระมิด ซึ่งเคยเป็นที่ทดสอบว่าพระเจ้าฟาโรห์ ยังทรงมีพละกำลังยังพอที่จะปกครองต่อไปหรือไม่ จะเห็นพระรูปจำลองของพระเจ้า"ซอร์เซอร์" (Zosor) ยืนจ้องมองไปยังฟากฟ้าเพื่อแสวงหาดาวโอสิเรียน
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน (Thai restaurant)
บ่าย
นำคณะเดินทางกลับเมืองไคโร เพื่อ shopping ที่ตลาด Khan el Kalili
เย็น
รับประทานอาหารค่ำ
พักที่โรงแรม
|
วันที่ 10 11 ธันวาคม 2547 Cairo - Bangkok
เช้า
หลังอาหารเช้า ออกเดินทาง ไปสนามบินกรุงไคโร
9.00 น เหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ MS 860
23.00 น. ถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ (เย้ ๆๆ)
|
เพื่อนของย่าคนที่ 1
แวะมาค่ะ
โดย: uggie* วันที่: 24 สิงหาคม 2548 เวลา:17:24:10 น.
----------
เพื่อนของย่าคนที่ 2
โอววว วันนี้ย่าดาเปลี่ยน bg ใหม่
ระยิบระยับสวยดีจัง
ดูแล้วเหมือนภาพวาด Starry Night
ของ Van Gogh เลยนะคะ
แต่ตัวหนังสือในบันทึกตัวเล็กไปหน่อย
อ่านไม่ค่อยเห็นเลยค่ะ
-----------
โดย: ป้าติ๋ว IP: 61.91.98.196 วันที่: 24 สิงหาคม 2548 เวลา:19:52:25 น.
----------------
เพื่อนของย่าคนที่ 3
สวัสดีค่าคุณอัคกี้ ย่าไปฟังเพลงมาแล้วค่ะเพราะจัง bg ก็สวย
ป้าติ๋วย่าแก้ให้ตัวใหญ่แล้วนะคะหวังว่าคงอ่านง่ายขึ้น แต่เวบเบี้ยวนี่ย่าแก้ม่ายเป็นอิอิ
โดย: ดา ดา วันที่: 24 สิงหาคม 2548 เวลา:22:03:05 น.
------------
เพื่อนของย่าคนที่ 4
ย่าเล่น box มันเลยเบี้ยวค่ะ ป้ามดยังทดลองอยู่เลย ย่าไปเอามาเล่นเยอะไปหน่อยค่ะ
โดย: ป้ามด วันที่: 25 สิงหาคม 2548 เวลา:9:34:27 น.
-------------
เพื่อนของย่าคนที่ 5
แวะเข้ามารับทราบค่ะ ย่าดา
โดย: uggie* วันที่: 25 สิงหาคม 2548 เวลา:11:41:28 น.
-------------------
เพื่อนของย่าคนที่ 6
Blog ทางด้านขวา ทำไมไปอยู่ด้านล่างซะล่ะ
โดย: Noumy วันที่: 25 สิงหาคม 2548 เวลา:12:51:46 น.
----------------
เพื่อนของย่าคนที่ 7
น่านแหละที่ว่ามันเบี้ยว อิอิ
โดย: ดา ดา วันที่: 25 สิงหาคม 2548 เวลา:14:41:30 น.
---------------
เพื่อนของย่าคนที่ 8
ย่าต๋า ๆๆๆๆๆๆ
แหม๋ ดาวยุบยับไปหมดเรยค่ะ
แล้วดาวในใจย่าดวงไหนเนี่ย
คิคิ
โดย: น IP: 203.156.51.7 วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:1:16:28 น.
--------------
เพื่อนของย่าคนที่ 9
ย่าขรา คห.ข้างบนของนู๋อ้อมเองนะเจ้าค่ะ คลิกส่งเร็วไปหน่อย พิมพ์ชื่อยังมะจบเลย หุหุ
โดย: นู๋อ้อม IP: 203.156.51.7 วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:1:17:34 น.
---------------
เพื่อนของย่าคนที่ 10
อิอิหนูอ้อมทำไม้ต้องรีบร้อนนักหล่ะคะ สร้างเวบไปถึงไหนแล้วเดี๋ยวย่าตามไปดูที่เวบหนูนะว่า มีไรเพิ่มเติมมาบ้าง อิอิ
โดย: ดา ดา วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:4:03:19 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 11
เช้านี้เจอแต่เพลงคึกคักๆ เมื่อกี่เยี่ยมบ้านป้ามดก้เจอ นิวหยอก นิวยอก
ย่าดาไม่เอาหลักฐานรูปภาพมาโชว์หน่อยเหรอคับ
โดย: 5150_b วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:8:25:03 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 12
หลักฐานอารายหรอค้าหลานห้า วันนี้อัพยา เอ้ยม่ายช่าย อับเพลงหรอยางค้า....
โดย: ดา ดา วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:9:37:52 น.
--------------
เพื่อนของย่าคนที่ 13
ตามย่าไปเที่ยวเมืองแห่งเทพเจ้าและปิรามิด ท่ามกลางแสงดาวระยิบระยับค่ะ
โดย: ป้าแจ๋วค่ะ IP: 61.91.136.89 วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:18:18:26 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 14
อยากไปมากเลยค่ะ เอารูปมาให้ดูหน่อยสิค่ะ
โดย: ไม่ได้ตั้งใจโสด วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:18:28:31 น.
เพื่อนของย่าคนที่ 15
ป้าแจ๋วหาโอกาสไปเที่ยวนะคะ
คุณไม่ได้ตั้งใจโสด ดูลิงค์ข้างบนเลยค่ะ สะพากล้องท่องอียิปต์ 1-3
ส่วนภาคเจาะลึกไว้ว่างจะทำมาลงค่ะ
โดย: ดา ดา วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:20:28:46 น.
เพื่อนของย่าคนที่ 16
สะพายกล้องท่องอียิปต์ตอนแรก
สะพายกล้องท่องอียิปต์ ตอนสอง
สะพายกล้องท่องอียิปต์ตอนสาม
เอามาให้เลยดีกว่าอิอิ
(ไม่ใส่ลิงค์แระ กลัวข้อความสแปมตามมา ชั่วจริงๆ พวกนี้)
โดย: ดา ดา วันที่: 26 สิงหาคม 2548 เวลา:20:32:10 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 17
โดย: ตี๋น้อยคับ วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:1:56:26 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 18
หวัดดีค่ะย่าดา เพลงนี้ชอบจังค่ะ
โดย: พี่เจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:8:03:30 น.
--------------
เพื่อนของย่าคนที่ 19
เพลงครึกครื้นดีค่ะ
โดย: uggie* วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:13:39:09 น.
------------
เพื่อนของย่าคนที่ 20
น่าติดตาม(ไปด้วย)มากครับ...
อิอิ
โดย: namit วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:13:48:45 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 21
อยากไปบ้างจังค่ะ
ปล. เพลงหน้านี้เพราะอีกต่างหาก
โดย: ลำพูริมน้ำ วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:16:28:58 น.
--------------
เพื่อนของย่าคนที่ 22
มาลงชื่อไว้ก่อน เด๋วแวะมาใหม่ ใช้เน็ตตราเต่าอะค่ะ
โดย: หนูชล IP: 61.91.229.102 วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:16:51:49 น.
------------
เพื่อนของย่าคนที่ 23
BG สวยจังเลยค่ะ ระยิบระยับ
น้องขิงหลานคุณย่าก็น่ารักเหมือนเดิม... ฝากหอมแก้มหน่อยนะคะ ...รักเด็กค่ะ อิอิอิอิ
โดย: asita วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:21:04:52 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 24
จุ๊บๆๆ เด็กน้อยขิงในกล่องเมนท์
Blog เต็มไปด้วยความสวยในความมืดนะคะ
โดย: แตนต่อย วันที่: 28 สิงหาคม 2548 เวลา:7:20:42 น.
-------------
เพื่อนของย่าคนที่ 25
หวัดดีย่าดาและน้องขิงคับ
โดย: 5150_b วันที่: 28 สิงหาคม 2548 เวลา:10:15:41 น.
-------
เพื่อนของย่าคนที่ 26
~.~
ตามมาเที่ยวด้วยครับคราวนี่ห้องดูระยิบระยับจัง อิอิ
โดย: บ้านวังรุ้ง วันที่: 28 สิงหาคม 2548 เวลา:21:40:04 น.
----------
เพื่อนของย่าคนที่ 27
ป้ามดมองหา ET อยู่ค่ะ
โดย: ป้ามด วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:10:13:11 น.
----------
เพื่อนของย่าคนที่ 28
สวัสดีค่าทุกๆท่าน
ย่ากำลังมึนกับหัวบล๊อกที่หล่นหาย
พอโหลดไปครึ่งหนึ่งปุ๊บหายจ้อย
เพราะอะไรเอ่ย? ใครทราบบ้าง
----------
โดย: ดา ดา วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:12:34:17 น.
----------
เพื่อนของย่าคนที่ 29
เข้ามางงกะย่าด้วย แหะๆๆๆ นู๋ไม่รู้อะค่ะ
------------
โดย: หนูชล วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:16:07:56 น.
------------
เพื่อนของย่าคนที่ 30
แวะมาบอกย่าดาว่าเนื้อไทยพี่เจี้ยวแต่งเองค่ะชอบมั้ยค่ะ อิอิ ...ความจริงมีที่แต่งเองทั้งเนื้อร้องและทำนองค่ะ สามสี่ album ค่ะทั้งที่เคยบันทึกแผ่นเสียงแล้วเมื่อก่อนและยังไม่เคยบันทึกด้วยค่ะ ใน blog มีอีกเพลงนะค่ะ ชื่อ อยากพบ ค่ะอยู่ใน list ซ้ายมือนะค่ะ ย่าดาลองฟังได้นะค่ะ
-----------
โดย: พี่เจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:22:23:23 น.
-----------
เพื่อนของย่าคนที่ 31
แวะมาเยี่ย่มย่าค่ะ
โดย: ยายมา.... วันที่: 30 สิงหาคม 2548 เวลา:13:00:43 น.
------------
เพื่อนของย่าคนที่ 32
มาหาน้องขิงค่ะ
โดย: ป้ามด วันที่: 30 สิงหาคม 2548 เวลา:13:59:44 น.
----------------
เพื่อนของย่าคนที่ 33
สวัสดีค่าทุกท่าน ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมย่านะคะ พักน้หัวบานกับงานทุกวันเลยไม่ค่อยได้แวะเยี่ยมบล๊อกเพื่อนๆ
ได้เท่ากับเมื่อก่อน แต่ก็แว๊บๆไปเยี่ยมทุกท่านแล้วค่า
โดย: ดา ดา วันที่: 30 สิงหาคม 2548 เวลา:18:11:09 น.
------------
เพื่อนของย่าคนที่ 34
ตามมาแล้วค่ะ อิอิ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 10 ตุลาคม 2548 เวลา:6:53:06 น.
------------
เพื่อนของย่าคนที่ 35
โดย: REW IP: 203.147.33.2 วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:10:18:06 น.
--------------
มัมมี่ .
.
ณ ใกลโพ้นแม่น้ำไนล์ ชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อในเรื่องชีวิตหลังความตาย โดยเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง วิญญาณของคนตายจะสามารถกลับคืนสู่ร่างเดิมได้ คำว่า "มัมมี่" (Mummy) เชื่อกันว่ามาจากคำว่า มัมมียะ (Mummiya) คำในภาษาเปอร์เชียซึ่งหมายถึงร่างของศพที่ถูกทำให้มีสีดำ หลายพันปีมาแล้ว ชาวอียิปต์โบราณได้คิดค้นวิธีที่จะรักษาสภาพศพให้สมบูรณ์ เพื่อรอคอยการเกิดใหม่ของดวงวิญญาณ การทำมัมมี่จึงถือกำเนิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์นี้ 
วิธีการทำมัมมี่เริ่มจากการนำศพของผู้ตายมาทำความสะอาด ล้วงเอาอวัยวะภายในออกโดยการใช้ตะขอที่ทำด้วยสำริดเกี่ยวเอาสมองออกทางโพรงจมูก แล้วใช้มีดที่ทำจากหินเหล็กไฟซึ่งมีความคมมาก กรีดข้างลำตัว เพื่อล้วงเอาตับ ไต กระเพาะอาหาร ปอดและลำไส้ออกจากศพ โดยเหลือหัวใจไว้ สาเหตุที่ไม่เอาหัวใจออกจากร่างด้วยเพราะเชื่อกันว่าหัวใจเป็นศูนย์รวมแห่งจิต วิญญาณ อวัยวะภายในเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยวัสดุประเภทขี้เลื่อย เศษผ้าลินิน โคลน และเครื่องหอม จากนั้นอวัยวะทั้งหมดจะถูกนำไปล้างด้วยไวน์ปาล์ม เสร็จแล้วก็จะถูกนำลงบรรจุในภาชนะสี่เหลี่ยม มีฝาปิด ที่รู้จักกันในชื่อของคาโนบิค ส่วนร่างของผู้ตายจะถูกนำไปดองโดยใช้เกลือประมาณ 7-10 วัน เมื่อศพแห้งสนิทแล้ว ก็จะถูกนำมาเคลือบด้วยน้ำมันสน จากนั้นจะมีการตกแต่งและพันศพด้วยผ้าลินินสีขาวชุบเรซิน 
มัมมี่ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะถูกนำบรรจุลงในหีบศพ พร้อมกับเครื่องรางของขลังต่างๆ และมัมมี่บางตัวยังมีหน้ากากที่จำลองในหน้าของผู้ตายวางไว้ในหีบศพของมัมมี่อีกด้วย การทำมัมมี่มี 3 แบบ ให้เลือกตามสถานภาพและตามความต้องการ 1.คือการควักอวัยวะภายในออกมา 2.ทำโดยการฉีดน้ำมันซีดาร์เข้าไปในร่างแล้วนำไปตากให้แห้ง 3. ถูกที่สุดไม่มีกรรมวิธีใดๆเลย นอกจากนำร่างนั้นไปตากให้แห้งเท่านั้น แล้วนำมาพันผ้า แล้วบรรจุในหีบศพ หีบนั้นจะสวยงามและหรูหรา ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ตายและญาติผู้ทำศพ 
การทำมัมมี่นั้นจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและนักบวชโดยเฉพาะ ค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง นอกจากฟาโรห์แล้ว มีแต่ขุนนางและคนรวยจึงจะมีสิทธิ นอกจากมัมมี่ที่เป็นมนุษย์แล้ว ยังมีมัมมี่สัตว์เลี้ยงที่เจ้าของโปรดปราน รวมไปถึงมัมมี่ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ เช่น วัว แมว และ นกกระสาไอบิสอีกด้วย
ขอบคุณ คุณเจ.เจ.แห่งโอเค.เนชั่นสำหรับข้อมูลค่ะ
| Create Date : 07 มิถุนายน 2550 |
| Last Update : 1 พฤศจิกายน 2558 22:59:55 น. |
|
13 comments
|
| Counter : 3335 Pageviews. |
 |
|
Quizas Quizas Quizas เสียงร้องของ Laura Fygi อภินันทนาการโดย คุณ homand
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [