Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

ภูสอยดาว: เปียก แฉะ เดียวดาย ณ ปลายภู (จบ)



ผมคุดคู้อยู่ในถุงนอน เสียงมือถือที่ตั้งปลุกไว้ตอนตีห้าครึ่งส่งเสียงดังลั่นป่า ต้องรีบปิดเสียงก่อนที่จะถูกสองสาวเต้นท์ข้างๆ...ปารองเท้าใส่
แสงสีขาวจากไฟฉายคู่กายช่วยไล่ความง่วงและมึนงง เสื้อในกระเป๋าถูกรื้อออกมาสวมทับอีกชั้น อากาศยามเช้าหนาวกว่าตอนหัวค่ำ การทำร่างกายให้อบอุ่นไว้ก่อนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการสวมเสื้อยืดบางๆออกไปสู้รบปรบมือกับหมอกละอองแรกของวัน...
สิ่งแรกที่ผมมองเห็นทำให้ผมลังเลที่จะออกจากบริเวณที่พัก หลังอกหักจากพระอาทิตย์ตกดินเมื่อวาน ผมหมายมั่นปั้นมือไว้เต็มที่ว่าจะต้องเก็บภาพแสงแรกพ้นผ่านทิวเขาให้ได้ แต่ภาพที่เห็นทำให้ผมเข้าใจว่าตัวเองคงลืมพกโชคมาด้วย หรือไม่ก็เผลอทิ้งมันไว้ในจานกระเพราไก่ไข่ดาวก่อนขึ้นภู

เวลาเกือบหกโมงเช้า แต่ความมืดยังคงกลืนกินภูสอยดาวส่วนใหญ่ไว้...ทุ่งหญ้าบริเวณโดยรอบเปียกแฉะไปด้วยน้ำฝน ข้างทางเดินมีลำธารเล็กๆไหลตัดผ่าน เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้อย่างดีว่าราตรีที่ผ่านมาฝนได้โปรยลงมาหนักหน่วงเพียงใด (และผมหลับสนิทเพียงไร เพราะไม่รู้เรื่องรู้ราวสักนิดว่าฝนตก!!)



หมอก...ทั่วทุกทิศมีแต่หมอก หมอกลงหนาจนมองไม่เห็นอะไรตรงหน้า ทัศนียภาพถูกกลืนหายไปในละอองน้ำสีเทา และเงาตะคุ่มที่เห็นอยู่ลางๆนั้นก็ดูเหมือนสัตว์ร้ายหิวโหยซุ่มรอเหยื่ออยู่ในทุ่งหญ้า



ผมยกกล้องและขาตั้งกลับเข้าไปในเต้นท์ตามเดิมเพราะแน่ใจแล้วว่าวันนี้อย่างไรเสียพระอาทิตย์คงไม่สามารถผ่านด่านหมอกหนาทึบนั่นออกมาได้ ผมนั่งขัดสมาธิบนกราวน์ชีท หยิบทิชชู่ขึ้นมาซับหยดน้ำที่เกิดจากการกลั่นตัวของละอองหมอก ก่อนที่จะเปิดเตาแก๊สเพื่อเตรียมต้มข้าวต้มเป็นมื้อเช้า...

ข้าวต้มที่เดือดปุดๆอยู่ในหม้อสนามโชยกลิ่นหอมเตะจมูก ผมใช้ทัพพีคนข้าวที่เริ่มจับตัวเป็นก้อนไม่ให้ไหม้ติดก้นหม้อ แกะหมูหยองกับถั่วอบเกลือออกมาใส่จาน ละอองฝนบางๆเริ่มโปรยตัวลงมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นผมเริ่มกังวลแล้วว่าวันนี้หากฝนตกหนักทั้งวันจะเปลี่ยนแผนที่วางไว้อย่างไรดี การนอนเลื้อยไปเลื้อยมาอยู่ในเต้นท์นั่งนับเม็ดฝนคงไม่ใช่เรื่องสนุก



นับว่ายังโชคดีอยู่บ้าง หลังจากจัดการมื้อเช้าเสร็จ ฝนเริ่มซาเม็ดลงและจางหายไปในที่สุด ไม่มีรุ้งสีสวยพาดผ่านท้องฟ้า ไม่มีแสงสีทองลอดผ่านยอดไม้ มีเพียงหมอกก้อนยาวๆไหลเลื้อยไปมาบนยอดหญ้าซึ่งแค่นี้ก็โชคดีแล้ว ผมสวมรองเท้า ตระเตรียมเสบียง (น้ำดื่ม แซนด์วิช และช็อคโกแล็ต อีกนิดหน่อย) เพื่อออกเดินทางเสียที

เสื้อคลุมตัวหนาถูกถอดออกมาแขวนคอไว้หลังจากออกเดินทางได้สักพัก แม้ว่าอากาศจะกำลังสบายๆแต่ระยะทางข้างบนประกอบกับหนทางที่ชันเป็นบางช่วงสามารถเรียกเหงื่อได้ไม่ยาก ยิ่งเดินไปไกลเท่าไหร่ทางยิ่งแคบลง กอหญ้าข้างทางที่เคยต่ำเตี้ยเรี่ยดินก็สูงขึ้นจนถึงหัวเข่า หยดน้ำที่เกาะอยู่ตามดอกหญ้าสีม่วงร่วงพรูเมื่อผมแทรกตัวเข้าไปในช่องว่างแคบๆระหว่างกอ



ผมอยากแหกปากตะโกนให้ดังลั่นป่าแข่งกับจักจั่นที่ตั้งหน้าตั้งตาร้องระงมอยู่บนปลายสน แต่การกระทำแบบนั้นดูไร้สติและรบกวนความสงบเงียบของสรรพชีวิตบนนั้นจนเกินไป (อีกอย่างหนึ่งผมกลัวเจ้าหน้าที่ข้างบนจะเข้าใจผิด) ผมจึงทำได้แค่สูดหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วปล่อยลมหายใจอุ่นๆของตัวเองออกมาปะปนกับมวลอากาศข้างนอก

ทุกครั้งที่เดินคนเดียวในป่าใหญ่...ไม่เคยมีครั้งใดที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่น...ป่ากว้างบีบให้ผมตัวเล็กลง...หยดน้ำฝนช่วยย้ำเตือนให้รู้ว่าเราช่างอ่อนแอ...และต้นสนอายุเกือบร้อยปีบนนั้นให้ความรู้สึกราวกับมีดวงตานับร้อยคอยจ้องมองผู้รุกล้ำที่แสนกระจ้อยร่อย

ปลายทางผมจบลงที่เชิงผา ที่ๆหมอกลงจัดและเคลื่อนไหวรวดเร็วตามกระแสลมแรง ดอกหญ้าสีม่วงหายไปแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวอ่อนกว้างสุดสายตาที่กำลังชูก้านดอกสีน้ำตาลหยอกล้ออยู่กับสายหมอกและกระแสลมหนาวเหน็บ...

ผมหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น มองภาพตรงหน้าอยู่หลายนาที ก่อนที่จะเดินฝ่าเข้าไปตรงกลางทุ่งหญ้าแล้วทรุดตัวลงนั่ง รู้สึกเหมือนตัวเองค่อยๆจมหายลงไปในทะเลดอกหญ้า ผมมองไม่เห็นสิ่งใดอีกเลยนอกจากดอกหญ้ากลิ่นหอมที่สูงท่วมหัว...

ผมนึกอยากให้เวลาหยุดเดิน หรือไม่ก็ขอให้ตัวเองหายไปตรงนั้น หายสาบสูญไปตลอดกาล ไม่มีใครได้พบเจอผมอีก การได้หายไปในสถานที่สงบๆ ไม่มีใครรับรู้ ไม่มีใครสนใจ อาจจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมก็ได้...



.
.
.

คืนนั้นยังคงไม่มีแสงดาว แต่หมอกไม่ทำให้ผมหงุดหงิดอีกแล้ว มันอาจจะทำให้เรามองเห็นสิ่งรอบๆตัวไม่ชัด แต่ก็นั่นแหละ บางทีการได้อยู่ท่ามกลางหมอกที่บดบังสายตาก็ช่วยเราหลายๆอย่าง ช่วยอำพรางเราจากสิ่งที่เราไม่อยากเห็นและสิ่งที่เราไม่อยากให้ใครเห็น...

ก่อนเข้านอน ผมชวนสองสาวเต้นท์ข้างๆนั่งคุยกันรอบกองไฟ ไม่ลืมที่จะหยิบใบชาและกาแฟไปเผื่อ แม้ที่สุดจะต้องถูกปฏิเสธเพราะสองสาวกังวลเรื่องการเข้าห้องน้ำ เราพูดจาไต่ถามกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่ก่อนที่เทียนเล่มสุดท้ายจะดับลง เราสามคนต่างจมอยู่กับความเงียบ ดูเหมือนต่างคนต่างจมอยู่กับเรื่องราวของตัวเอง เรื่องราวที่ไม่ได้ออกจากริมฝีปาก หากแต่เลือนลางเหมือนภาพของป่าที่ถูกหมอกกัดกิน

กว่าจะเข้านอนก็เกือบที่ยงคืน เทียนเล่มสุดท้ายดับไปนานแล้ว เต้นท์นักท่องเที่ยวที่มาใหม่อีกสองสามเต้นท์ก็เงียบลงแล้วเช่นกัน พรุ่งนี้พวกเขาคงพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวบนนี้ ในขณะที่ผมจะต้องเก็บของแบกเป้เดินทางกลับตั้งแต่เช้าตรู่


ผมหยิบไฟฉายออกมา เปิดสวิทซ์และโยนมันไปที่ปลายเท้า แสงสีขาวทำให้ภายในเต้นท์สว่างขึ้นมาอีกครั้ง...ก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดลงผมคงนอนหลับไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมรู้สึกว่าไม่อยากจมอยู่ในความมืด...ลำพัง.




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
14 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 11:27:40 น.
Counter : 3756 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

คิดถึงภูสอยดาว ที่เปียกชื้นแต่สวยงามจังเลยค่ะ

 

โดย: mamminnie 23 พฤศจิกายน 2552 11:35:32 น.  

 

อยากไปมั่งง่า

 

โดย: kwan_3023 23 พฤศจิกายน 2552 12:16:47 น.  

 

ภาพสวยค่ะ บรรยากาศเหงาๆ
เมื่อปลายเดือนที่แล้วได้มีโอกาสไปกางเต็นท์นอนบนดอยที่ดอยภูคากับดอยเสมอดาวมาเหมือนกันค่ะ
ตกหลุมรักการเที่ยวแบบนี้ซะแล้ว

 

โดย: raseemeen 23 พฤศจิกายน 2552 12:45:53 น.  

 

อยากสะพายเป้ขึ้นบ่า แล้วออกเดินทางอย่างคุณมั่งจัง เดียวดายในอารมณ์จริงๆ รู้สึกได้เลย

 

โดย: ปูเป้ IP: 172.21.15.54, 210.246.156.72 23 พฤศจิกายน 2552 13:09:56 น.  

 

บรรยากาศเหงาดีจังครับ ผมล่ะชอบ ๆ

 

โดย: นายหัว (nindhua ) 23 พฤศจิกายน 2552 18:01:43 น.  

 

อยากไปนอนเปียก ๆ แฉะ ๆ ยังงั้นมั่งจังเลย..

ชอบบรรยากาศแบบรูปแรกมากเลยค่ะ.. อย๊าก.. อยาก

 

โดย: poongie 23 พฤศจิกายน 2552 21:34:28 น.  

 

ตามมาเที่ยวและชมภาพสวยๆด้วยคนน่ะครับ

 

โดย: wheel we go 24 พฤศจิกายน 2552 4:20:14 น.  

 

สวยจัง เราเองจะเดินไหวมั้ยน้อ

 

โดย: แม่ปู (myroom_pu ) 27 พฤศจิกายน 2552 14:46:03 น.  

 

มาอ่านตอนจบ

นึกว่าจะมีเรื่องโรแมนกะติ๊กเกิดขึ้นเสียอีก

 

โดย: แอบฯ IP: 192.168.1.125, 125.25.135.107 29 พฤศจิกายน 2552 6:17:29 น.  

 

โอ้ว ต้องเปิด how to disappear completely ของ radiohead เป็นซาวด์แทร็กประกอบการอ่าน

 

โดย: pick IP: 61.90.167.124 30 พฤศจิกายน 2552 15:59:05 น.  

 

ตามมาเหงาอีก1ตอน ^^

 

โดย: ผ่านมา IP: 203.170.234.7 12 ธันวาคม 2552 20:04:21 น.  

 

สวัสดีปีใหม่นะ

 

โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง 6 มกราคม 2553 13:37:09 น.  

 

ไว้มีเวลา จะกลับมาอ่านครับ

คร่าวๆ ถ่ายทอดได้อารมณ์มาก

 

โดย: ขึ้นเป้ 26 มกราคม 2553 2:17:54 น.  

 

ตามอ่านต่อจนจบ ยังคงประทับใจในปลายปากกา อ้อ ปลายคีบอร์ดซีนะ เยี่ยมครับ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 30 มกราคม 2553 16:26:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


yatiko
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add yatiko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.