ความสุขของเงิน "สองพันสาม"

หลานเสรีไทยเคยเขียนไว้ในหนังสือ "ข้างหลังโปสการ์ด" ว่า "ถ้ามีเงินสองบาท บาทแรกควรไปซื้อข้าว และบาทที่สองควรไปซื้อดอกไม้" ช่างเป็นประโยคคลาสสิคจับใจฉันเหลือเกิน ชีวิตคนเราไม่ควรอยู่ได้ด้วยการกินข้าวให้อิ่มอย่างเดียว เราควรมีเรื่องสุนทรีย์เริงรมย์ประโลมใจให้มีความสุขควบคู่ไปด้วย

ยามใดที่ฉันพอมีเงินเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามประสาฟรีแลนซ์ผู้แสนยากจน ฉันจะคิดแล้วคิดอีกว่าเงินจำนวนนี้ทำอย่างไรถึงจะก่อให้เกิดความสุขสูงสุด เมื่อสองเดือนก่อน หุ้นจุ๋มจิ๋มที่ฉันซื้อไว้ยามที่ผู้คนแตกตื่นเฮโลขายกันอย่างบ้าคลั่ง ได้ขยับสูงขึ้นอย่างพุ่งพรวด ราว 50 สตางค์ ^ ^ ถ้าเอาไปให้ขอทาน ขอทานคงจะโกรธ แต่ฉันไม่โกรธ ฉันดีใจราวถูกเลขท้าย เพราะรวม ๆ กันแล้ว ฉันจะไดกำไรประมาณ 2300 บาท หากรอต่อไปอาจได้มากกว่านี้ หรืออาจซวยจนไม่เหลืออะไรเลย

ฉันถือเงิน 2300 บาทไว้ในมือ คิดแล้วคิดอีกว่า ซื้ออะไรดีที่จะทำให้มีความสุขนานที่สุด ถ้าเป็นของกิน ไม่กี่วันก็หมด ไปเที่ยวไม่กี่วันก็ลืม ไปฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยมาก็ไม่พอค่าปลาทูแมว ในที่สุดฉันก็กำเงินไปซื้อ ukulele รุ่น soprano ตัวเล้กจิ๋วน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งเด็กวัยรุ่นกำลังฮิตสุดขีดในเวลานี้

ฉันพบว่า ukulele เล่นง่ายกว่ากีตาร์ร้อยเท่า เสียกรุ๋งกริ๋งทำให้หายเครียด ชวนให้คิดถึงทะเลแสนไกล โดยไม่ต้องเดินทางไปถึง เล่นแล้วสุขใจ ถือง่าย เบาสบาย ไม่ห่อตัว ซึมเปื้อนในใจ ถือแล้วแสนกระชับ

เงินเพียง 2300 บาท ซื้อความสุขกันได้แบบข้ามภพข้ามชาติกันเลยทีเดียว เล่นได้ทุกวันจนแก่เฒ่า เพราะเรายังถือ ukulele ไหวแน่นอน ฉันเห็นบรรดาลุง ๆ ใน youtube แก่กว่าพ่อฉันอีก เล่น ukulele ที่ชานบ้านได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งจริง ๆ

ถ้าคุณมีเงิน 2300 บาท คุณคิดว่าจะซื้ออะไรที่ทำให้คุณมีความสุขยาวนานที่สุด ? สำหรับฉันยามนี้ ฉันมี ukulele ข้างกาย แถมช่วยเสริมบารมีให้ดูเป็นคนน่ารักน่าเอ็นดูโดยไม่ได้ตั้งใจ

ความสวยรอไม่ได้ก็ช่างมัน..แต่ความสุขรอเราได้ทุกวัน..ขอเพียงหาสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขให้เจอ ^ ^

Create Date : 31 สิงหาคม 2554		6 comments
Last Update : 31 สิงหาคม 2554 16:21:00 น.
Counter : 1034 Pageviews.
Share Tweet