Bloggang.com : biGbOySalaDbAr : [ TravelHolic TBA 2014-2015 ] สิงหมนตรา ลานนาบูติคสไตล์ เชียงใหม่

[ TravelHolic TBA 2014-2015 ] สิงหมนตรา ลานนาบูติคสไตล์ เชียงใหม่

สวัสดีครับ มาพบกับรีวิวตอนพิเศษของ TravelHolic กันฮะ

เนื่องจากผมมีโอกาสได้ตอบรับคำเชิญให้ร่วมเป็นหนึ่งในบล็อกเกอร์ในโครงการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติค Thailand Boutique Awards Season 3 (2014-2015) ซึ่งจัดขึ้นโดยบัตรเครดิต KTC และนี่เป็น 1 ใน 6 โรงแรมที่ผมมีรับผิดชอบไปเยือน จากโรงแรมที่เข้าร่วมประกวดในโครงการฯทั้งหมดเกือบๆร้อยโรงแรมซึ่งน่าจะมีโอกาสได้เห็นกันไปบ้างแล้วรวมถึงที่จะมีรีวิวตามๆกันมาอีกในไม่ช้า

โรงแรมแรกที่ผมได้มีโอกาสไปเยือนนี้ชื่อว่า " สิงหมนตรา ลานนาบูติคสไตล์ " เป็นโรงแรมสไตล์ล้านนาขนาด 20 ห้อง อยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่ไกลจากสนามบินและคูเมืองมากนัก ความโดดเด่นของที่นี่คือการเป็นโรงแรมสไตล์ล้านนาจ๋าที่มองไปทางไหนก็จะรู้สึกเหมือนได้เข้ามาพักผ่อนในบ้านที่เป็นสไตล์ล้านนาจริงๆ แต่ก็แอบแฝงไว้ด้วยความสะดวกสบายในสไตล์บูติค ซึ่งผมว่าน่าจะหาโรงแรมในสไตล์แบบนี้ในเมืองเชียงใหม่ได้ยาก ไปตามชมกันดีกว่าครับว่าโรงแรมนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง

นี่เป็นโอกาสที่มีไม่บ่อยสำหรับผมที่จะได้ขึ้นไปเที่ยวถ่ายรูปทำรีวิวโรงแรมทางภาคเหนือครับ เพราะฉะนั้น 3 ใน 6 โรงแรมในลิสที่ผมได้รับจะเป็นโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด

การเดินทางครั้งนี้ผมใช้บริการของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ครับ เช้าวันเดินทางเคาเตอร์เช็คอินค่อนข้างว่างเลยไม่ต้องเช็ตอินผ่านตู้เหมือนทริปที่ผ่านมา

เมื่อได้ตั๋วโดยสารเรียบร้อย สิ่งที่ผมต้องทำทุกครั้งที่ใช้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ก็คือเล้าจน์ครับ ซึ่งช่วงนี้เล้าจน์ปกติเที่ยวบินในประเทศของ PG กำลังอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุงและจะเปิดให้บริการอีกครั้งในต้นเดือนสิงหาคม แต่ก็จะมีของว่างให้บริการที่ Gate A3 A4 และ A7 แทนครับ

สำหรับผมจะใช้บริการของ Blue Ribbon Club lounge ตลอดเวลาบินกับ PG ครับซึ่งส่วนนี้จะเปิดบริการปกติไม่ได้ปิดปรับปรุงนะครับ (ใช้สิทธิ์เซเรเนดของเอไอเอสกดหมายเลขใช้สิทธิ์ได้ที่หน้าแผนกต้อนรับของ Blue Ribbon Club lounge ครับ)

ยื่นบัตรโดยสารเพื่อเข้าใช้บริการ เราก็จะได้รหัสอินเตอร์เน็ตมาใช้ฮะ

ภายใน Blue Ribbon Club lounge

สิ่งที่ Blue Ribbon Club lounge มีไม่เหมือนเล้าจน์ปกติก็คือมีการเสิร์ฟเมนูอาหารตามสั่งด้วยครับ

โดยจะมีพนักงานบริการอาหารสั่งได้ตามเมนูที่มีเลยครับ ส่วนอาหารว่างมีให้ครบครันโดยเฉพาะเมนูที่ขาดไม่ได้อย่างข้าวต้มมัด

ส่วนอาหารที่เป็น a la carte ไม่นานก็มาเสิร์ฟครับ วันนี้ทานข้าวต้มบะกุ๊ดเต๋กับเกี๊ยวน้ำกุ้ง

ได้เวลาเดินทางกันแล้วครับ

อาหารว่างบนเครื่องที่ทาง PG มีให้สำหรับผู้โดยสารทุกไฟล์ท

อิ่มแล้วก็หลับไปตื่นนึง ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงสัญญาณรัดเข็มขัดใกล้จะแลนดิ้งแล้ว

สำหรับการเดินทางมาที่โรงแรมง่ายมากครับ เพราะโรงแรมอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่เพียงขับรถแค่ 5 นาทีก็ถึงฮะ ออกจากสนามบินขับรถมาตามถนนมหิดลตรงมาเรื่อยๆจนเลยปั๊มน้ำมันปตท.มานิดนึงก็จะเห็นป้ายโรงแรม เลี้ยวเข้าถนนศรีปิงเมืองตามป้ายมาเรื่อยๆไม่นานก็ถึงแล้วครับ

โรงแรมสิงหมนตรา ลานนาบูติคสไตล์ เป็นอาคาร 7 ชั้นขนาดไม่ใหญ่มากหน้าโรงแรมมีสิงห์คู่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า

เข้าไปด้านในจะเจอกับแผนกต้อนรับอยู่ เครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำกระเจี๊ยบเย็นชื่นใจเสิร์ฟมาในขันน้ำเล็กๆน่ารัก มีกาละแมขนมพื้นเมืองทางเหนือให้ทานด้วยครับ

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจาก Tripadvisor อีกด้วย

ล็อบบี้ของโรงแรมไม่ใหญ่มากครับ เข้ามาก็จะรู้สึกถึงความเป็นล้านนาของโรงแรมได้ทันที

หลังจากเช็คอินเรียบร้อยก็ขึ้นไปที่ห้องพักกันก่อน ห้องพักของเราอยู่บนชั้น 5 ครับ แต่ละชั้นจะมีห้องพักประมาณ 4 ห้องและอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าโรงแรมนี้มีห้องพักทั้งสิ้นเพียง 20 ห้องเท่านั้น

ซึ่งห้องที่เราเข้าพักมีชื่อเรียกว่า Singha Montra Signature Suite 1 จาก 5 แบบห้องพักของโรงแรมฮะ ห้องแบบนี้มีขนาด 108 ตร.ม. ซึ่งถือว่ากว้างขวางพอสมควรเลยครับ

แน่นอนว่าการตกแต่งห้องพักจะเป็นแบบล้านนา วัสดุที่ทำจากไม้อุปกรณ์ต่างๆที่บ่งบอกถึงความเป็นล้านนาได้อย่างเด่นชัด

ห้องน้ำขนาดใหญ่อยู่ในห้องพัก ผมชอบตรงที่มีกระจกสีๆตกแต่ง มันให้ความรู้สึกถึงบ้านสไตล์เก่าๆสมัยก่อนที่ผมเคยเห็น

ส่วนของห้องอาบน้ำจะแยกออกไปอยู่ระเบียงด้านนอกอีกห้องนึงครับ

ระเบียงกว้างมีเตียงให้เอนหลังเล่น ที่สำคัญและถือเป็นไฮไลท์ที่ถูกจัดวางอย่างกลมกลืนไปกับสไตล์ล้านนาก็คืออ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่มากที่วางอยู่ที่ระเบียง ซึ่งทั้ง 20 ห้องของโรงแรมจะมีอ่างจากุซซี่แบบนี้อยู่ทุกห้องครับ

บางห้องเราสามารถนั่งแช่น้ำชมวิวสวยๆของดอยสุเทพได้เลยฮะ

ลงมาดูด้านล่างกันบ้างดีกว่า ..

โรงแรมนี้มีเจ้าของเป็นคนไทยครับ เป็นคนที่ชอบทำบุญทำทานและรักษ์ความเป็นลานนามากๆ โรงแรมแห่งนี้สร้างโดยมีต้นแบบมาจากวัดป่าดาราภิรมย์ วัดเก่าแก่ที่ตั้งชื่อตามเจ้าดารารัศมี เจ้าหญิงในราชวงศ์ทิพย์จักรของนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระราชชายาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งวัดตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริมของจังหวัดเชียงใหม่นั่นเอง

ทางโรงแรมพยายามอนุรักษ์และรักษาสไตล์ความเป็นลานนาเอาไว้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเราก็จะรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านเก่าของคนเหนือยังไงยังงั้น

ไม่ว่าจะเป็นบานประตู บานหน้าต่าง ของตกแต่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของทางโรงแรมที่อยากให้ผู้เข้าพักได้ซึมซับบรรยากาศของลานนาให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังผสมผสานความสะดวกสบายในสไตล์ปัจจุบันเข้าไปให้ดูไม่ขัดตาอย่างเช่นสระว่ายน้ำ หรือจากุซซี่อย่างที่ได้เห็นกันไปแล้ว

ที่สระว่ายน้ำหลักของทางโรงแรมก็ยังไม่ทิ้งกลิ่นไอของลานนาไปเลยซะทีเดียว สระว่ายน้ำยังทำเหมือนเป็นสระน้ำของพญานาคด้วยการมีปูนปั้นเป็นเศียรและหางของพญานาคอีกด้วย

มาทานอาหารกลางวันรองท้องเบาๆกันก่อนดีกว่า

ห้องอาหารของโรงแรมมีห้องอาหารเดียวและอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมนี่ล่ะครับ ห้องอาหารนี้ชื่อว่า " มุจลินทร์ " ชื่อก็มีความหมายว่าสระน้ำของพญานาคนั่นเองล่ะครับ ห้องอาหารแห่งนี้จะเสิร์ฟอาหารเช้า กลางวันและเย็น บ่ายนี้ทานเบาๆกับราดหน้าเส้นกรอบ และถุงทองครับ

ช่วงเย็นๆสำหรับห้องที่สามารถมองเห็นวิวดอยสุเทพถือเป็นอีกไฮไลท์เลยครับ วันไหนที่ท้องฟ้าเป็นใจบอกเลยว่ามันจะเป็นการแช่จากุซซี่ที่ได้มองวิวสวยที่สุดไม่แพ้ที่ไหนเลยทีเดียว

ทีนี้ผมจะพาไปชมห้องพักอีก 2 แบบครับ

ห้องพักแบบแรกอยู่ที่ชั้น 3 เป็นห้องแบบ Singha Montra Family Suite ห้องแบบ 2 ห้องนอนมีเตียงเดี่ยวอยู่ในห้องนอนหลัก และด้านหลังเป็นห้องนอนเล็กแบบเตียงคู่ มีตั่งเตี้ยๆพร้อมหมอนสามเหลี่ยมอยู่ปลายเตียงเห็นแบบนี้นั่งสบายเหมือนกันนะครับ

ห้องแบบนี้กว้าง 100 ตร.ม.ครับ ห้องน้ำแยกออกมาจากห้องนอน ที่เห็นเป็นห้องเล็กๆคือห้องอาบน้ำ และริมระเบียงมีอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่

ห้องแบบที่สองเป็นห้องบนชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นสูงที่สุดของโรงแรมและเป็นห้องแบบที่ดีที่สุดของโรงแรมด้วยครับ ห้องแบบนี้ชื่อว่า Montra Sky Roof Masterpiece ห้องขนาดใหญ่ 110 ตร.ม.

โรงแรมอยู่ในซอยเล็กๆครับไม่ค่อยมีรถผ่านพลุกพล่าน ที่สำคัญคือคืนวันเสาร์ที่มีถนนคนเดินวัวลาย เราสามารถเดินไปได้เลยเพราะโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากถนนวัวลายสามารถเดินไปในระยะเวลาไม่ถึง 10 นาที

แค่เห็นตัวอาคารก็รู้แล้วครับว่าที่นี่ลานนาขนาดไหน

การตกแต่งแสดงถึงความใส่ใจในการออกแบบ โดยเฉพาะภาพเขียนที่เห็นสวยๆทั้งนั้นเลยครับ

ทางโรงแรมยังมีบริการ Private Dinner ที่ริมสระน้ำเป็นแบบลานนาอีกด้วย อาหารที่ให้บริการก็เป็นอาหารทางเหนือแบบขันโตก

หรือจะทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารมุจรินทร์ก็ได้เหมือนกันครับ ที่นี่บริการอาหารไทยและอาหารพื้นเมือง เช่น

แกงฮังเล

มัสมั่นไก่

หมูคำหวาน

ยำทูน่า

ตบท้ายด้วยน้ำส้มและน้ำลิ้นจี่ปั่น

ทานอาหารที่นี่มาสองมื้อบอกเลยว่าอาหารอร่อยมากครับ มากกว่าที่คาดเอาไว้เยอะเลยทีเดียว

ขึ้นมาบนห้องที่เรานอนกันอีกที ผมว่าจาก 3 ห้องที่ให้ชมกันไปผมชอบห้องแบบที่ผมพักที่สุดแล้ว

มีอีกอย่างที่ผมประทับใจกับโรงแรมนี้คือนอกจากผลไม้ต้อนรับในห้องแล้ว ทุกคืนจะมีขนมไทยมาเสิร์ฟให้ได้ทานแบบไม่ซ้ำชนิดกันเลย ซึ่งตรงนี้น่าจะได้ใจผู้เข้าพักต่างชาติไปกันพอสมควร

อีกหนึ่งอย่างที่พิเศษสำหรับโรงแรมนี้คือไม่ว่าลูกค้าจะรีเควสอะไรถ้าไม่มากมายเกินความสามารถทางโรงแรมก็จะยินดีทำให้เสมอ ยกตัวอย่างอาหารเช้าก่อนหน้านี้ทางโรงแรมโทรถามว่าอยากจะทานอาหารเช้าแบบส่วนตัวมั๊ย

อาหารเช้าวันรุ่งขึ้นก็เลยจัดบนห้องนอน เมื่อถึงเวลาที่นัดหมายไว้ทางโรงแรมก็จะให้พนักงานนำอาหารเช้ามาจัดให้บนห้องเลย มีอาหารหลายอย่างเลยฮะทั้ง ABF ทั้งข้าวต้ม สลัด ขนมไทย ผลไม้

หรือจะเลือกลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารมุจลินทร์ด้านล่างก็ได้เช่นกัน อาหารก็จะมีให้เลือกหลากหลายกว่าทั้งไทย จีน ฝรั่ง โดยสามารถสั่งแบบ a la carte ได้โดยมีอาหารให้เลือกหลายอย่าง และอาหารแบบบัฟเฟ่ห์อีกด้วย

บทสรุป ..

สำหรับโรงแรมสิงหมนตรา ลานนาบูติคสไตล์ถือเป็นโรงแรมแรกในโครงการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติค Thailand Boutique Awards Season 3 (2014-2015) ที่ผมได้ไปเยือนครับ ต้องบอกตามตรงว่าตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังกับโรงแรมนี้มากเท่าไหร่นัก เนื่องจากส่วนตัวก็เฉยๆกับโรงแรมในสไตล์ลานนาที่เคยเห็นมา

แต่สิ่งนึงที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจในโรงแรมนี้คือการบริการที่ดูเป็นกันเองและดูใส่ใจกับลูกค้าที่ไม่ว่าลูกค้าต้องการร้องขออะไรทางโรงแรมก็จะจัดให้ถ้าไม่มากเกินความสามารถ และหลายๆอย่างก็ไม่ได้มีการคิดค่าบริการเพิ่มอย่างเช่นการเสิร์ฟอาหารเช้าบนห้องพักรวมถึงการตีฟองในจากุซซี่ที่หลายๆโรงแรมมักจะมีการคิดค่าบริการเพิ่ม ราคาห้องพักที่สามารถจับต้องได้ ราคาไม่แพงจนเกินไปนัก อยู่ใกล้สนามบินและตัวเมืองเชียงใหม่ แถมยังใกล้ถนนคนเดินวัวลาย ที่ปลื้มที่สุดเลยคืออาหารอร่อยแทบจะทุกอย่างที่ทานอร่อยแบบเกินความคาดหมาย

แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีข้อเสียเลยนะครับ เนื่องจากตัวโรงแรมอยู่ในซอยลึกเข้ามาจากถนนใหญ่ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็ค่อนข้างจะออกไปไหนมาไหนลำบาก ช่วงที่ไปกำลังมีการปรับปรุงระบบน้ำประปาเลยทำให้บางช่วงเวลาไม่สามารถใช้น้ำได้(แต่กรณีนี้คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ) อินเตอร์เน็ตมีให้บริการฟรีแต่สัญญาณไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ ห้องอาบน้ำในห้องแบบที่ผมพักอยู่ด้านนอกระเบียงทำให้การใช้งานค่อนข้างลำบาก

แต่ยังไงก็ยังเป็นโรงแรมที่น่าพักมากครับสำหรับที่นี่ นับอีกหนึ่งลิสที่แนะนำสำหรับคนที่ชอบห้องพักในสไตล์ลานนาครับ

ขอบคุณสำหรับการรับชมและคอมเม้นท์ทุกๆความเห็นนะครับ รีวิวต่อๆไปผมจะพาไปชมโรงแรมที่เข้าประกวดในโครงการฯอีกแห่งซึ่งอยู่ในคูเมืองเชียงใหม่เลย เป็นอีกโรงแรมที่น่าสนใจมากๆจะเป็นที่ไหนติดตามได้ในรีวิวต่อไปเร็วๆนี้ครับ

ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ

Create Date : 04 กรกฎาคม 2557

Last Update : 16 ตุลาคม 2557 20:00:11 น.

3 comments

Counter : 6234 Pageviews.

สวยมากค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 4 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:35:11 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 5 กรกฎาคม 2557 เวลา:3:42:22 น.

ต้องไปให้ได้สักครั้งค่ะ

โดย: aortory IP: 1.20.164.35 วันที่: 18 เมษายน 2559 เวลา:14:08:20 น.