" Let's go South " หลงเสน่ห์ทะเลพังงา มาในแบบที่หลายคนไม่เคยเห็น

วันนี้ผมจะพาลงใต้ไปเที่ยวจังหวัดพังงากันฮะ พังงาเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักมานาน แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าพังงามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆนอกจากสิมิลัน ตาชัย เขาหลัก อ่าวพังงา

วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวในสถานที่อื่นๆกันบ้างเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้เพื่อนๆได้ตามไปเที่ยวกันต่อๆไปได้ฮะ



ปล.ทริปนี้เป็นแฟมฯทริปของททท.พังงาที่ไปกับบล็อกเกอร์อีก 3 ท่านซึ่งหลายๆคนคงเคยเห็นรีวิวผ่านตากันไปบ้างแล้ว ผมเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มที่จะปล่อยรีวิวในชุดนี้ครับ

ผมออกเดินทางจากกรุงเทพฯในเช้าวันหนึ่งกับเพื่อนร่วมทริปอีกหลายคนรวมทั้งคนข้างตัวของผมด้วย โดยทริปนี้เรากำหนดกันเอาไว้ 4 วันครับ เป็นการเที่ยวอีกครั้งที่ค่อนข้างแปลกแหวกแนวจากปกติของผมที่มักจะมารีวิวโรงแรมซะเป็นส่วนใหญ่

จุดหมายปลายทางอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตฮะ วันที่ไปถึงอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวทีเดียว เมื่อเราพบกับผู้นำทางแล้วทริปนี้ก็เริ่มต้นกันอย่างเป็นทางการครับ เราแวะทานอาหารกลางวันกันก่อนที่ร้านบางแปซีฟู้ด ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบินภูเก็ตมากนัก เป็นร้านที่อยู่ริมทะเลในบรรยากาศของป่าชายเลน อาหารที่ควรมาทานเป็นอาหารท้องถิ่นครับไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มจากแกงปูทานกับเส้นหมี่ขาว และกุ้งผัดซอสมะขาม



ตามมาด้วยปลาทรายทอด สะตอผัดกะปิกุ้ง แกงเหลือง และห่อหมกปลา



ตบท้ายด้วยยำตะไคร้ทานกับใบชะพลู เบือทอด และที่ขาดไม่ได้ ใบเหลียงผัดไข่



อาหารอร่อยจริงๆครับ แต่รสชาติอาจจะเผ็ดหน่อยสำหรับคนภาคกลางแบบผม ร้านนี้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มฮะ

ออกจากร้านบางแปซีฟู้ด พอมีเวลาแวะตรงน้ำตกบางแปแต่เราไม่ได้จะไปดูน้ำตกกันครับเพราะช่วงที่ไปน้ำไม่ค่อยมีแต่ที่น้ำตกบางแปยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างนั่นก็คือ ศูนย์ฟื้นฟูสภาพชะนี เป็นโครงการคืนชะนีสู่ป่าที่ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์เขาพระแทวครับ



ที่นี่เป็นศูนย์ช่วยเหลือและฟื้นฟูให้ชะนีที่ถูกมนุษย์ทำร้ายได้มาอาศัยและปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเมื่อพร้อมฮะ ชะนีที่นี่มีอยู่ประมาณ 50 ตัวแยกกันอยู่ตามกรงต่างๆรอบๆบริเวณ ทุกตัวจะมีประวัติติดอยู่ที่บอร์ดให้เราได้รู้เรื่องราวที่ชะนีเหล่านี้ถูกกระทำมา





บางตัวก็แขนขาดขาขาดจากการถูกทารุณจากเจ้าของ บางตัวดุร้ายเพราะมีความทรงจำที่ไม่ดีจากเจ้าของ บางตัวถูกทิ้งหากินเองไม่ได้เพราะถูกเอาไปเลี้ยงโดยมนุษย์ตั้งแต่เด็กๆ ที่นี่จะเลี้ยงดูจนกว่าชะนีพวกนี้จะพร้อมกลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นี่นานไม่ยอมไปไหนก็มี





ถ้ามีโอกาสแวะมาเที่ยวน้ำตกบางแปหรอือยากจะเข้ามาเยี่ยมชมก็เข้ามาได้ทุกวันนะครับ ที่นี่มีทั้งการรับบริจาคเงินและขายสินค้าที่ระลึกเพื่อด้วยด้านการเลี้ยงดู อาหาร ของพวกชะนีที่น่าสงสารพวกนี้ครับ

ได้เวลาไปยังจุดหมายต่อไปกันแล้วครับ วันนี้จุดหมายของเราอยู่ที่เกาะยาวน้อยฮะ

เราต้องไปขึ้นเรือกันที่ท่าเรือบางโรงซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกบางแปเท่าไหร่ เรือโดยสารจะมี 2 ชนิดครับ เป็นแบบเรือโดยสารธรรมดาและเรือเร็ว โดยราคาค่าโดยสารไปยังเกาะยาวน้อยอยู่ที่ 120 บาทสำหรับเรือธรรมดา และ 200 บาทสำหรับเรือเร็ว ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาทีสำหรับเรือเร็วครับส่วนเรือธรรมดาน่าจะอยู่ประมาณชั่วโมงนึง เรือจะออกทุกๆชั่วโมงครับแต่จะสลับกันระหว่างเรือทั้ง 2 ชนิดฮะ



วิวระหว่างการเดินทางครับ ความรู้สึกแรกที่เห็นเหมือนมัลดีฟส์อยู่นะ เอิ๊กๆๆ



เมื่อมาถึงเกาะยาวน้อย คณะของเรามีรถมารับเพื่อไปยังที่หมายต่างๆครับ รถก็คล้ายๆอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ



" เกาะยาวน้อย " เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา แต่ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะอยู่กลางทะเลที่ล้อมรอบด้วยแผ่นดินของ 3 จังหวัดคือ ด้นเหนือติดพังงา ตะวันออกติดกระบี่ ตะวันตกติดภูเก็ต และการโดยสารไปยังเกาะยาวน้อยสะดวกที่สุดคือจากฝั่งภูเก็ตเลยทำให้คนคิดว่าเป็นเกาะของจังหวัดภูเก็ตไปโดยปริยาย

คนบนเกาะส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามครับ อาชีพหลักที่คนที่นี่คือการทำประมง และอย่างนึงก็คือการทำกระชังปลาครับ



เพราะฉะนั้นจุดหมายแรกบนเกาะคือเราจะไปเรียนรู้วิถีประมงพื้นบ้านกันบนกระชังปลากันฮะ



กระชังปลานี้เป็นของบังเกษม เป็นกระชังที่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมการเลี้ยงได้ ซึ่งบนกระชังจะมีการเลี้ยงอยู่หลายชนิดทั้งเพื่อความสวยงามและเพื่อการค้าครับ



บนกระชังของบังเกษมส่วนใหญ่จะเป็นเลี้ยงโชว์มากกว่าฮะ มีสัตว์หลายๆชนิดให้เราดูเช่นปลาฉลามเสือดาว ปลาบักเป้า ปลาดาว ปูเสฉวน



ถ้าตัวไหนที่ไม่มีอันตรายเราก็สามารถจับขึ้นมาเล่นได้ แต่ก็ต้องอยู่ในความดูแลของบังเกษมนะครับ





สัตว์ที่เลี้ยงเพื่อการค้าก็มีพวกกุ้งมังกร ปลากะพงและปลาเก๋าอะไรพวกนั้นฮะ

มื้อเย็นของวันนี้เราจะไปทานอาหารทะเลกันครับ เกาะยาวน้อยเป็นเกาะที่เจริญกว่าเกาะยาวใหญ่นะครับ ร้านอาหารก็พอมีบ้าง 7-11 มีตั้ง 2 สาขาแนะ ถนนหนทางค่อนข้างดีทีเดียวครับ เราแวะทานข้าวกันที่โฮมสเตย์ บริเวณแหลมไทรไม่ไกลจากกระชังปลาที่เราไปดูกันเมื่อกี้ฮะ ที่นี่ชาวบ้านเค้าร่วมกลุ่มกันเป็นท่องเที่ยวชุมชนครับ เรามาทานอาหารกันที่นี่โดยคิดราคาต่อหัวครับ มีอาหารให้ทาน 5 อย่างแบบที่เห็น ที่สำคัญเติมได้ไม่อั้นยกเว้นเมนูปลา เราก็ซัดกุ้งกะปูม้านึ่งซะเต็มคราบมีอย่างที่ไหนราคาแค่หัวละ 300 บาทแถมอาหารก็สดมากๆด้วย













โฮมสเตย์ที่นี่ก็ราคาไม่แพงนะฮะ ถามมาได้ความว่าราคา 2 วัน 1 คืน 2500 บาท 3 วัน 2 คืน 3500 บาทพร้อมอาหารทุกมื้อ

แถมเย็นๆตรงนี้มีสิทธิ์ได้นั่งกินข้าวพร้อมชมพระอาทิตย์ตกสวยอีกด้วย





นั่งทานและชมวิวพระอาทิตย์ตกกันจนค่ำ ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว   

ที่พักของผมในคืนแรกนี้คือ พาราไดซ์ เกาะยาว บูติค รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวเพียงไม่กี่แห่งบนเกาะยาวน้อย การเดินทางไปยังรีสอร์ทนี้ต้องนั่งเรืออ้อมเกาะไปอีกฝั่งของเกาะครับ



เช้าวันรุ่งขึ้นผมรีบตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพราะรู้ดีว่าบริเวณรอบๆเกาะรวมไปถึงหน้ารีสอร์ทมีอะไรดีๆให้ดู ซึ่งก็ไม่ผิดหวังที่ตื่นมาแต้เช้า









หน้ารีสอร์ทเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดอีกจุดนึงของเกาะยาวน้อยครับ

รอบๆเกาะยาวน้อยขึ้นชื่อเรื่องของวิวทิวทัศน์ฮะ เราสามารถมองเห็นเกาะแก่งต่างๆที่อยู่ในทะเลได้มากมายจนหลายๆคนเรียกมันว่าป่าเกาะ มองเห็นชายฝั่งจังหวัดกระบี่ได้ไกลๆในวันที่อากาศดีๆ





มองดีๆรูปด้านบนมันยิ่งกว่าหินตาอีกนะ น่าจะเรียกว่าเป็นหินปู่ทวดได้เลย เอิ๊กๆๆๆ

อีกอย่างที่โดดเด่นของเกาะยาวน้อยคือความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สังเกตได้จากที่เกาะยาวน้อยเรามักจะพบเห็นนกเงือกได้บ่อยๆ ซึ่งนกเงือกเป็นนกที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นสัตว์แห่งรักแท้ เพราะนิสัยความเป็นอยู่ที่ใช้ชีวิตคู่แบบผัวเดียวเมียเดียว เมื่ออยู่กินกันแล้วและมีลูกตัวเมียจะเฝ้าลูกอยู่แต่ในโพรงต้นไม้ให้ตัวผู้ออกหาอาหาร ถ้าเกิดตัวผู้เป็นอะไรไปตัวเมียก็มักจะตายตามไปด้วยเสมอ และนกเงือกก็เป็นสัตว์ที่รักความสงบชอบอยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งผมก็ได้พบนกเงือกนี้ด้วย แถมเป็นการพบในบริเวณรีสอร์ทเลยด้วยครับ



เดินขึ้นไปดูห้องที่แพงที่สุดของรีสอร์ทกันบ้าง เป็นมุมที่สูงที่สุดของรีสอร์ทเลยครับ







เป็นห้องที่วิวสวยมากๆ ถ้าได้เล่นน้ำมองวิวสวยๆแบบนี้ทั้งวันคงดี ฮ่าๆๆ

ลงไปทานอาหารเช้ากันครับ



มีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าของรีสอร์ทครับ นั่นคือการเดินป่างศึกษาธรรมชาติและดูนกครับซึ่งกิจกรรมนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทเป็นผู้นำทางและใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินครับ



ซึ่งแน่นอนว่ากิจกรรมแบบนี้กับบิ๊กบอยค่อนข้างสวนทางกันเลยปล่อยให้เพื่อนๆคนอื่นๆได้เดินกันไปครับ ส่วนผมขอนั่งเรือไปรอยังจุดหมายปลายทางดีกว่า

เส้นทางการเดินเพื่อนที่ไปบอกว่าไม่ลำบากมากนักครับ มีทางชันบ้างเล็กน้อยพอได้เหงื่อ เส้นทางก็เดินผ่านตามไหล่เขาที่เห็นไปนี่ล่ะฮะ



ส่วนผมกับคนข้างตัวก็สวยๆหล่อๆถ่ายรูปอัพเฟสกันไปบนเรือ ฮ่าๆๆ



เค้าเดินกันร่วมๆ 2 ชั่วโมง แต่ผมนั่งเรือ 15 นาทีก็ถึงปลายทางที่จะได้เจอกันครับ



ตรงที่เรือจอดเรียกว่าอ่าวเคียนครับ ตรงนี้ผมลงจากเรือเพื่อเดินเท้าเข้าป่าไปซัก 200 ร้อยเมตรเพื่อไปยัง Unseen อีกแห่งบนเกาะยาวน้อยครับ



Unseen ที่ว่าคือต้นไม้ใหญ่ขนาด 20 คนโอบฮะ ว๊าววววว ใหญ่มากกก



เมื่อเจอเพื่อนๆที่ไปเดินป่ามาพร้อมกันที่ต้นไม้ใหญ่เราก็จะนั่งเรือไปเที่ยวกันต่อครับ

จุดหมายต่อไปคือเกาะโรยครับ เกาะนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชอบกิจกรรมปีนผาครับ



เกาะนี้มีลักษณะเป็นช่องเขาอยู่ด้านใน มีทางเดินลอดเข้าไปด้านในได้ในช่วงที่น้ำลด หรือถ้าเป็นช่วงน้ำขึ้นก็สามารถพายเรือคายัคเข้าไปได้เช่นกัน



ด้านในก็จะเป็นป่าโกงกางครับ



เข้ามาด้านในนี้เราจะได้ยินเสียงร้องของสัตว์ชนิดนึงดังก้องอยู่ เมื่อเงยหน้ามองดูเราถึงจะรู้ครับว่ามันคือค้างคาวแม่ไก่หลายพันตัวที่ห้อยหัวพักผ่อนอยู่บนต้นไม้





ไปยังที่หมายต่อไปกันต่อ ทะเลพังงาดูจะเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาตินะครับ เห็นได้จากเรือยอร์ชที่วิ่งไปวิ่งมาเยอะแยะไปหมด



หลังจากนั้นเรามาแวะกันที่เกาะกูดูกันครับ เกาะนี้เป็นเกาะที่เคยจัดงานเทศกาลภาพยนต์บนเกาะยาวน้อย (Film on the Rocks) หรือโรงหนังลอยน้ำที่โด่งดังไปทั่วโลกมาแล้วด้วยฮะ

หินสามพี่น้อง





นั่งเรือชมวิวกันซักพักเราก็ได้เวลาออกจากเกาะยาวน้อยเพื่อไปยังสถานที่ต่อไปกันแล้วครับ

จุดหมายต่อไปคือการนั่งเรือกลับไปที่เกาะยาวใหญ่ครับ ระหว่าง 2 เกาะนี้อยู่ไม่ไกลกันมากฮะ การเดินทางจะมีเรือโดยสารเล็กๆให้บริการอยู่



รถโดยสารก็เหมือนๆกับที่เกาะยาวน้อยครับ แต่ที่เกาะยาวใหญ่นี่ชาวบ้านเค้าบอกความเจริญจะน้อยกว่าเกาะยาวน้อย เจอแม่ลูก 3 คนบนเรือที่จะมาเกาะยาวใหญ่เค้าบอกพาลูกมาเที่ยว เที่ยว 7-11 บนเกาะยาวน้อย ฟังแล้วก็นั่งอมยิ้ม คนบนเกาะน่าจะนิสัยน่ารักเหมือนพี่ที่คุยด้วย ดูเป็นกันเองและจิตใจดี

เราแวะถ่ายรูปนิดหน่อยกันระหว่างการเดินทาง ถนนบนเกาะดีเหมือนเกาะยาวน้อย แต่ดูเหมือนคนที่อยู่อาศัยจะมากกว่า





จุดหมายแรกบนเกาะยาวอยู่ที่อ่าวปากคลอง แหลมล้านครับ

ที่นี่เป็นเหมือนที่จอดเรือของชาวบ้านที่มีอาชีพทำการประมง แต่ก็มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน กิจกรรมแรกคือการนั่งเรือออกไปปากอ่าว



ที่นี่มีอีกหนึ่ง Unseen ที่ไม่มีใครเหมือนนั่นคือการไปดูปลาดาวบนสันดอนปากอ่าวเวลาน้ำลง รูปที่เห็นเป็นปากอ่าวถ้าเวลาน้ำลดเราจะสามารถเดินไปดูพวกปลาดาวมากมายอยู่บริเวณน้ำตื้นรอบๆสันดอน เสียดายช่วงที่ไปเค้าเรียกว่าช่วงน้ำตาย คือจะขึ้นก็ขึ้นไม่สุด ลงก็ลงไม่สุดทำให้สันดอนไม่โผล่ครับ ถ้าจะไปตวรเช็คข้อมูลให้ดีๆว่าช่วงที่เราไปสามารถที่จะไปดูปลาดาวได้มั้ย



ส่วนอีกกิจกรรมที่เราสามารถทำได้คือการพายเรือคายัคเที่ยวชมป่าไม้โกงกางที่ยังสมบูรณ์ถึงแม้จะเคยถูกคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อ 10 ปีก่อน





ต่อไปเราจะไปยังชายหาดที่ยาวที่สุดและขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนเกาะยาวใหญ่ครับ



หาดแห่งนี้ชื่อว่า " หาดโล๊ะปาเหรด " ครับ เป็นชายหาดที่ดูเงียบสงบสามารถลงเล่นน้ำได้ และน่าจะเป็นอีกจุดที่เรานั่งชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามครับ









อาหารเย็นเราไปทานกันที่ร้านริมเลซีฟู้ดครับ ร้านตั้งอยู่บริเวณสะพานปลา เป็นร้านอาหารเล็กๆ แต่วิวสวยครับ ไปถึงพระอาทิตย์กำลังจะตกพอดีเลย







มาดูหน้าตาอาหารกันดีกว่า

ผัดผักเหลียง ปลากะพงทอดราดสมุนไพร ปลาหมึกผัดไข่เค็ม



ปูม้านึ่ง กะพงสามรส กุ้งราดซอส หอยชักตีน แกงส้มกุ้ง



อาหารอร่อยดีครับ

ทานเสร็จก็เข้าที่พักกันฮะ คืนนี้เราพักกันที่ เกาะยาวใหญ่ วิลเลจ ครับ เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดอันดับต้นๆของเกาะยาวใหญ่ แบ่งวิลล่าเป็นหลังๆห้องใหญ่มากเหมือนกันครับ





เช้ามารีบตื่นมาแต่เช้าอีกแล้วหลังจากที่ถามพนักงานว่าหน้าหาดเราจะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้มั้ย

บรรยากาศหน้าหาดของโรงแรมเงียบสงบ เห็นวิวป่าเกาะสวยๆ





ใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะขึ้น ก็ยังลุ้นว่าจะขึ้นตรงไหน จนพระอาทิตย์โผล่พ้นทิวเขาขึ้นมา





ชีวิตของคนเราก็เริ่มเดินตามพระอาทิตย์ด้วยเช่นกัน



สายๆเราก็ออกจากเกาะยาวใหญ่กันครับ ต้องมารอขึ้นเรือเร็วเหมือนเดิม จุดหมายต่อไปอยู่ที่น้ำตกโตนปริวรรตฮะ

มาที่นี่เพื่อจะมาทำอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆกันนั่นก็คือการล่องแก่งซึ่งบนนถนนก่อนที่จะถึงน้ำตกจะมีเอกชนหลายเจ้าที่ให้บริการอยู่ครับ

ก่อนที่จะถึงรอบการเล่นซึ่งวันนึงน่าจะมีประมาณ 3 รอบเราก็จะได้รับการเทรนจากเจ้าหน้าที่ถึงความปลอดภัยในการเล่นกันก่อน



จะเห็นในรูปบนว่าน้ำในลำธารค่อนข้างแห้งแล้วจะเล่นได้ยังไง เค้ามีวิธีครับล่องแก่งที่นี่สามารถเล่นได้ทั้งปีโดยเอกชนแต่ละเจ้าจะมีบ่อกักเก็บน้ำเอาไว้ด้วย เมื่อถึงรอบการเล่นเค้าก็จะทยอยปล่อยน้ำที่เก็บไว้ออกมาในลำธารครับ



เท่านี้ก็จะมีน้ำในลำธารให้เล่นแล้ว เท่าที่เห็นจะมีแต่คนต่างชาติมาเล่นนะครับคงอยู่ในโปรแกรมทัวร์ อยากให้คนไทยได้รู้จักและมาเล่นกันเยอะๆครับ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรเท่าที่เห็นก็มีจุดที่สนุกๆอยู่หายจุดเลยทีเดียว







คนเล่นเยอะมากมีบางช่วงที่อาจจะมีการจราจรติดขัดหน่อยนะฮะ



ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ทริปนี้ยังไม่มีรูปเลยขอซักแชะ ทีมวิดีโอเพจของผมเองครับ ฮ่าๆๆๆ



หลังจากกิจกรรมทางน้ำแล้วก็ได้เวลามื้อเที่ยงครับ เราไปแวะทานอาหารเที่ยงกันที่ไอดิน บูติค รีสอร์ท ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นจากเรือมากนัก





นอกจากนี้ที่นี่ยังมีห้องพักราคาไม่แพงให้บริการอีกด้วยนะครับ





หลังจากนี้เราจะไปยังอำเภอทับปุดกันครับ จุดหมายอยู่ที่วัดบางเหรียง ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานพระมหาธาตุเจดีย์พุทธรรมบันลือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามอยู่บนยอดเขาฮะ











นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และพระพุทธรูปปางนาคปรกอยู่บนเนินเขา และบนนี้ยังสามารถชมวิวอันสวยงามของเทือกเขาสลับซับซ้อนของจังหวัดพังงา รวมไปถึงความเขียวขจีของพันธุ์ได้ต่างๆรวมไปถึงสวนปาล์มและสวนยางที่ชาวบ้านปลูกกันไว้ด้านล่างอีกด้วย



ใช้เวลาชมความสวยงามซักพักก็ได้เวลาเดินทางต่อครับ เรานั่งรถต่อไปซักพักเพื่อมาที่บ้านบางพัฒน์เพื่อชมวิถีชีวิตของชาวบ้านและทานอาหารค่ำกันครับ



สะพานซีเมนต์เล็กๆขนาดแค่รถมอเตอร์ไซค์วิ่งสวนกันได้นี้เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านบางพัฒน์กับโลกภายนอกเพราะฉะนั้น ... ถ่ายรูปไว้หน่อย (ออกแนวแวนซ์ไปนะ อิอิ)



แน่นอนว่าชาวบ้านบางพัฒน์เป็นชุมชนอิสลามที่อยู่บริเวณริมทะเล ลักษณะก็จะคล้ายๆเกาะปันหยีแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ชาวบ้านทั่วไปก็ทำประมงครับ



ที่บ้านบางพัฒน์นี้มีร้านอาหารหลายร้านฮะ วันนี้เราจะทานกันที่ร้านอารีย์-บังหมาดที่เห็นสุดนู่นล่ะครับ



ที่นี่เรามาทานอาหารแบบคิดเหมาเป็นหัวกันครับ ราคาหัวละ 250 บาทเอง มีอาหาร 6 อย่างแต่จะไม่สามารถเติมได้

เย็นนี้ทานปูม้านึ่ง ต้มยำรวมมิตร กั้งทอดกระเทียม หอยตลัดผัด



กะพงทอดน้ำปลา



แล้วก็กุ้งอบเกลือ



ทานไปชมวิวบ้านบางพัฒน์กับอ่าวพังงาไปได้บรรยากาศดีเหมือนกันนะ



ทานกันเสร็จก็เดินทางไปยังที่พักครับ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายในทริป เรามานอนกันที่ชายหาดอำเภอท้ายเหมือง ที่โรงแรมเปิดใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเลยครับที่นี่มีชื่อว่า " Le Coral Hideaway Beyond Phuket " ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวฮะ



เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่มีดีไซน์สวยและห้องพักดูหรูทีเดียวครับ มีโอกาสคงได้กลับไปทำรีวิวโรงแรมแบบเต็มๆอีกครั้ง









หน้าห้องที่ผมพักมี Pool Access น้ำอุ่นให้แช่ด้วยครับ จริงๆผมลงไปแช่กันตั้งกะเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว



โรงแรมตั้งอยู่ริมหาดโดยมีคำคลองเล็กๆกั้นอยู่ครับ ตัวโรงแรมไม่ใหญ่มาก ห้องพักมีแค่ 4 ชั้นแค่นั้นเอง







เราออกไปทานมื้อกลางวันกันที่ร้านไอทะเล เพื่อชิมเมนูสุขภาพนั่นก็คือ " สาหร่ายเม็ดพริกไทย " ซึ่งร้านนี้ถือเป็นต้นตำรับส้มตำสาหร่ายเม็ดพริกไทยเลยครับ





สาหร่ายเม็ดพริกไทย หรือ Green Caviar เป็นสาหร่ายสีเขียวลักษณะเป็นเม็ดอยู่ติดกันเป็นพวกขนาดเท่าเม็ดพริกไทย มีคุณค่าทางอาหารอย่างมากเช่น วิตามิน เอ บี ซี ดี อี และเค แคลเซียม เหล็ก ไอโอดีน ฯลฯ ที่นี่นิยมทำเป็นส้มตำ สลัด หรือทานเล่นๆก็ได้ โดยตัวของมันจะมีความกรุบกรอบและมีรสชาติเค็มเล็กน้อย

ทีนี้มาดูเมนูกันบ้าง

ส้มตำสาหร่ายเม็ดพริกไทย และสาหร่ายเม็ดพริกไทยทรงเครื่อง



หรือจะทานกับน้ำยำก็อร่อยนะครับ



นอกจากนี้นังมีอาหารอีกหลายอย่าง ที่แปลกๆก็มีจั๊กจั่นทะเลทอด แกงคั่วหอยชักตีน ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ กุ้งราดซอสมะขาม



กิจกรรมสุดท้ายของทริปที่เรามาทำกันคือการมาเยี่ยม " ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา " ซึ่งอยู่ที่อำเภอท้ายเหมืองนี่ล่ะครับ



ที่นี่เป็นเหมือนสถานอนุบาลเต่า มีเต่าที่อยู่ในการดูแลมีพ่อแม่พันธุ์ที่สามารถฟักไข่ในบ่อฟักเอง มีการเก็บไข่ที่เต่าขึ้นมาวางไข่เอามาดูแลและทำให้เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดเพิ่มขึ้น อนุบาลเต่าตั้งแต่แรกเกิดจนพร้อมที่จะปล่อยกลับสู่ท้องทะเลได้



นอกจากเต่าทะเลแล้วยังมีการเพาะพันธุ์หอยมือเสือ และปลาอีกหลายๆสายพันธุ์ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เที่ยวชมอีกด้วย







นอกจากนี้ยังมีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายเม็ดพริกไทยเพื่อเป็นต้นแบบให้กับชาวบ้านที่สนใจอีกด้วย

ทางศูนย์มีการสาธิตการนำสาหร่ายเม็ดพริกไทยมาทำเมนูส้มตำด้วยครับ





นอกจากนี้ยังมีสาหร่ายผมนางอบแห้ง ที่สามารถเอามาทำอาหารเช่นเมี่ยงสาหร่ายได้อีกด้วยครับ





สุดท้ายมีกิจกรรมพิเศษจากทางศูนย์ฯซึ่งส่วนใหญ่จะทำกันในโอกาสพิเศษหรือมีการติดต่อมาก่อนเท่านั้น นั่นคือการปล่อยเต่าซึ่งเป็นเต่าที่ทางศูนย์ฝังชิพเอาไว้เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของเต่าตัวนั้นๆไปตลอดชีวิต โดยจะมีการฝังชิพเอาไว้หลังขาหน้าของเต่าทุกตัวที่ปล่อย



เมื่อได้เวลาก็เดินกันมาที่ชายหาดท้ายเหมืองที่เงียบสงบด้านหน้าศูนย์ฯ เพื่อปล่อยเต่าฝังชิพ 2 ตัวของคณะของพวกเรากันฮะ ตอนนี้เต่าพวกนี้จะมีชื่อเรียกเรียบร้อยตามที่เราตั้งให้มัน พวกเราซึ่งเป็นผู้ปล่อยก็จะเปรียบเสมือนพ่อแม่ของเต่า 2 ตัวนี้ฮะ เราจะได้รับข้อมูลและความเคลื่อนไหวของเต่า 2 ตัวนี้ไปตลอดชีวิตเต่า นับเป็นหารช่วยอนุรักษ์เต่าทะเลและเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทยอีกด้วยครับ

ได้เวลาปล่อยกันแล้ว รูปทางซ้ายเป็นผอ.ศูนย์ฯที่กำลังอธิบายว่าเมื่อปล่อยเต่าแล้วเต่าจะเป็นยังไง ส่วนทางขวาดูหน้าคนปล่อย ฮ่าๆๆๆ



เมื่อเต่าถูกปล่อยลงไปจากมือมันจะไม่รีบเดินหนีลงทะเลไปนะครับ แต่มันจะค่อยๆเดิน ค่อยๆซึมซับบรรยากาศของชายหาดที่นี่ไว้ เพราะผอ.บอกว่าเต่าจะจำที่นี่ไว้แล้วเมื่อโตขึ้นจนวางไข่ได้มันจะกลับมาวางไข่ที่หาดท้ายเหมืองนี้ล่ะ แต่เมื่อมันลงน้ำไปแล้วมันก็จะว่ายออกไปแบบสุดชีวิตจนกว่ามันจะเหนื่อย ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ









เป็นการปิดทริปด้วยด้วยความประทับใจกับความน่ารักของเต่าทะเลที่เราปล่อยลงไป

ขอบคุณททท.พังงาที่จัดทริปเดินทางในครั้งนี้ ทำให้ผมได้พบกับความประทับใจในหลายๆที่ที่เดินทางไป หลายๆที่เคยอยากไปแต่ก็ยังไม่ได้โอกาสจะไปซักที และได้รู้ว่าจังหวัดพังงายังมีที่เที่ยวที่สวยๆอยู่อีกเยอะแยะที่ผมไม่รู้จัก และมั่นใจว่าเพื่อนๆอีกหลายๆคนก็ไม่รู้จักเช่นกัน อีกไม่กี่วันผมจะกลับไปเที่ยวพังงาอีกครั้ง คราวนี้เป็นการไปในรูปแบบของคู่รักไปกันสองคน หวังว่าจะได้เอาภาพสวยๆกลับมาแชร์กันอีกในโอกาสต่อไป


ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ




Create Date : 15 มิถุนายน 2557
Last Update : 16 ตุลาคม 2557 19:32:51 น. 3 comments
Counter : 8590 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:3:24:38 น.  

 
ภาพสวย น่าไปเที่ยวมากๆครับ



โดย: แซงค์ (ชายคาตะวัน ) วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:21:31:37 น.  

 
หิวกุ้งกับปูครัช 555


โดย: 2Madames.com IP: 49.228.98.137 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:15:24:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biGbOySalaDbAr
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Group Blog
 
 
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
15 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add biGbOySalaDbAr's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.